ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 364 โบราณสถานแห่งนี้ข้าเหมา
“เอื๊อก” อันหลินเผลอกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
หญิงสาวตรงหน้าสวมชุดกระโปรงสีขาว รูปร่างสูงระหง ผิวเรียบเนียนเกลี้ยงเกลา ดวงตากระจ่างใสกำลังจ้องมองอันหลิน ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มมีเลศนัย
“ฮาย ไป๋หลิง ไม่พบกันนานเลย”
ปากของอันหลินคลี่ออกเป็นรอยยิ้ม เป็นฝ่ายเอ่ยทักทาย
หญิงสาวคนนี้คือร่างจำแลงศูนย์กลางของสถาบันวิจัย และเป็นคนที่เตะพวกอันหลินออกจากสถาบันวิจัยอย่างหยาบคายเช่นกัน
“เจ้าทำอะไรหรือ” ไป๋หลิงถามด้วยรอยยิ้มหยัน
อันหลินเหงื่อแตกพลั่ก ใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว พูดอย่างเชื่องช้าว่า “ข้าได้วิธีดูแลสิ่งประดิษฐ์จักรกลพวกนี้ เลยอยากจะมาลองดูที่นี่…”
เรือนคิ้วงามของไป๋หลิงเลิกขึ้น “เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ”
“พี่ไป๋ ข้าอยากได้…”
อันหลินเลิกเฉไฉ เบิกตาโตสุกใสจดจ้องหญิงสาวตรงหน้า ใบหน้าจริงใจและอ้อนวอน
มุมปากของไป๋หลิงกระตุกยิกๆ ไม่พบกันสองปี ทำไมเจ้านี่ถึงได้เถรตรงขึ้นทุกที
“ข้าจะทำให้เทคโนโลยีขั้นสูงของดาวม่วงยิ่งใหญ่เกริกก้องแน่นอน เจ้าให้ข้าเถอะ…หรือไม่ก็พี่ไป๋ เจ้าเสนอเงื่อนไขดีไหม” อันหลินออดอ้อนต่อ
ไป๋หลิงนวดขมับ “หนี้ของสิ่งประดิษฐ์จักรกลสองตัวก่อนหน้านี้ ข้ายังไม่ได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย…”
อันหลินผงะถอยหลังสองก้าวทันที่ได้ยิน
“แต่เจ้ามาครั้งนี้ คงจะมาเพื่อการสืบทอดสินะ ข้าจะไม่หาเรื่องเจ้า หากเจ้าผ่านการทดสอบที่มีอัตราการรอดต่ำกว่าสิบสองเปอร์เซ็นต์ในโบราณสถานหนึ่งครั้ง สิ่งประดิษฐ์จักรกลกับข้อมูลการสืบทอดจะเป็นของเจ้าทั้งหมด!” ไป๋หลิงพูดขึ้นมาอีกครั้ง
อันหลินตาลุกวาว ลมหายใจถี่กระชั้นขึ้นมา “ได้ ตกลงตามนี้!”
สิ่งประดิษฐ์จักรกลล้วนเป็นพลังต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งนั้น! แต่ข้อมูลการสืบทอดไม่ใช่แค่ความรู้เท่านั้น ทว่ามันเป็นหินวิญญาณก่ายกองเลยนะ! ข้อมูลแค่ครึ่งเดียวก็ทำให้อันหลินรวยในพริบตาแล้ว เพิ่มมาอีกครึ่งหนึ่ง…หึๆ ๆ…
ในใจของไป๋หลิงก็มีความคิดเช่นกัน ตั้งแต่พวกอันหลินกลับไป สองปีนี้มีนักพรตอีกกลุ่มหนึ่งมาที่โบราณสถาน ปรากฏว่าเพิ่งผ่านการทดสอบเพียงด่านเดียวก็ตายยกกลุ่ม ทำให้นางผิดหวังเหลือเกิน
เป้าหมายการสืบทอดที่ดีเยี่ยมอย่างอันหลินพบเจอได้น้อยมากจริงๆ อีกหลายพันปีข้างหน้าก็อาจจะไม่มีให้เห็น ในเมื่อเป็นเช่นนี้สู้ให้โอกาสเขาสักครั้งดีกว่า ดูว่าเขามีวาสนากับสมบัติชิ้นใหญ่ชิ้นนี้หรือไม่
“ลำดับต่อไปข้าจะปรับตำแหน่งห้องลับแปดทิศหกสิบสี่ตำแหน่งของโบราณสถาน การทดสอบหลังเจ้าเข้าไปก็จะเปลี่ยนจากง่ายเป็นยาก มีแต่ต้องเดินหน้า ถอยหลังไม่ได้ แน่นอนว่า ยามเจ้าเข้าไปแล้วตกใจจนเดินไม่ไหว วิงวอนร้องขอให้ข้าปล่อยเจ้าออกไป เห็นแก่มิตรภาพในอดีตของเรา ข้าจะปล่อยเจ้าไปเป็นสิทธิพิเศษ เข้าใจไหม” ไป๋หลิงขยิบตาใส่อันหลินทีหนึ่ง กล่าวด้วยรอยยิ้มที่หยาดเยิ้ม
อันหลินยิ้มบางๆ “เหอะๆ ในพจนานุกรมของข้าไม่เคยมีคำว่าถอยและขอร้อง!”
นอกจากว่าสาหัสปางตายจริงๆ เขาพูดต่อในใจ
“งั้นก็ดี ขอให้เจ้าโชคดี” ไป๋หลิงกลายเป็นแสงสีขาวระยิบระยับ หายไปจากที่เดิม
อันหลินมองไป๋หลิงที่เลือนหายไปแล้วหันมองแผนผังค่ายกลที่สลักได้เพียงครึ่งเดียวตรงกันดั้ม แล้วกลืนน้ำลายเอื๊อก
เขายับยั้งความคิดที่อยากจะปล้นของตัวเองไว้ ก่อนจะมองต้าไป๋ “เราไปกันเถอะ ไปช่วยองค์หญิงโฉมงามกัน!”
ไป๋หลิงมองอันหลินอย่างเฉยชา พูดด้วยท่าทางเหมือนโดนหลอกว่า “องค์หญิงที่เจ้าว่า คือพี่ไป๋คนนั้นน่ะหรือ โฮ่ง!”
“เปล่า ใช่นางที่ไหน นางเป็นแม่มดที่กักขังองค์หญิงต่างหาก!” อันหลินตอบอย่างจริงจัง
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ต้าไป๋ถึงโล่งอกไปเปราะหนึ่ง แม้หญิงชุดขาวจะงดงาม แต่แข็งกร้าวไม่เหมือนคนที่ต้องการความช่วยเหลือ ไม่เพียงเท่านั้น หญิงคนนั้นยังทำให้มันรู้สึกถึงอันตรายอีกด้วย
หลังอันหลินพูดประโยคนี้เสร็จ ก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ อดสะดุ้งโหยงไม่ได้
เขาพาต้าไป๋เข้าไปในอุโมงค์ที่มืดสนิท ก้าวไปข้างหน้าไม่หยุด ปลายทางเป็นประตูเหล็กสีดำ
เขาออกแรงผลักประตูบานนั้นออก พบว่าข้างในเป็นห้องที่กว้างขวางอย่างยิ่ง มีบ่อน้ำสีเขียวตั้งอยู่ตรงกลาง มีฟองผุดปุดๆ ไม่หยุดหย่อน กลิ่นอายของสารเคมีอบอวลไปทั่วบริเวณ
“ยินดีต้อนรับสู่การทดสอบพิษ ตามสถิติของผู้ทดสอบที่ผ่านมา อัตราการรอดของการทดสอบนี้อยู่ที่สิบสองเปอร์เซ็นต์ หากผ่านการทดสอบจะได้รับมรดกการสืบทอด จะเริ่มการทดสอบตอนนี้เลยหรือไม่” เสียงที่ไม่เจืออารมณ์ ค่อนข้างแข็งทื่อของไป๋หลิงแว่วมา
“รับ” อันหลินเอ่ยนิ่งๆ หลังฟังคำแนะนำแล้ว
เมื่อสิ้นเสียง จู่ๆ บ่อน้ำสีเขียวก็เกิดริ้วคลื่นเป็นระลอกๆ
เห็นสัตว์ประหลาดร่างมนุษย์สีเขียวมรกตที่มีหนวดบนหัวค่อยๆ ผุดขึ้นมา มันอ้าปากเผยคมเขี้ยว พ่นไอเย็นเยือกที่มีฤทธิ์กัดกร่อนออกมาอย่างเชื่องช้า
“ตัวร้ายชัดๆ ท่าทางของราชาปีศาจ โฮ่ง!” ต้าไป๋หางตั้ง มือสวมกรงเล็บปราณทลายฟ้า พูดอย่างน่าเกรงขาม
“อืม ราชาปีศาจพิคโกโร่” อันหลินพยักหน้า “เสียดายเจ้าอัปลักษณ์ไม่อยู่”
“กรรซ์” สัตว์ประหลาดร่างเขียวกำมือ น้ำสีเขียวก็พุ่งขึ้นฟ้า กลายเป็นงูสีเขียวหลายตัว พุ่งใส่อันหลินพร้อมกับกลิ่นอายของพิษร้าย
อันหลินกระทืบเท้า หายตัวไปจากที่เดิม
งูเหลือมพุ่งชนตำแหน่งเดิมของเขาอย่างแรง ระเบิดไอพิษออกมาอย่างท่วมท้น
ในตอนนั้นเอง ลำแสงสีน้ำเงินสิบเส้นก็ทะลวงไอพิษ พุ่งไปหาสัตว์ประหลาดร่างเขียว
สัตว์ประหลาดร่างเขียวก็รวดเร็วมากเช่นกัน ร่างพุ่งออกจากบ่อน้ำปานขีปนาวุธ ร่างที่บิดเบี้ยวหลบหลีกการโจมตีของลำแสงสิบเส้น
“ศรเทวะชาด!”
คลื่นที่ร้อนระอุโชยมา ไม่รู้ว่าอันหลินมาโผล่ด้านหลังสัตว์ประหลาดร่างเขียวตั้งแต่เมื่อใด ขนนกสีชาดก่อตัวเป็นศรที่แฝงพลังเพลิงอันน่ากลัวยิ่ง พุ่งออกไปดังฟิ้ว
ศรเทวะชาดกลายเป็นลำแสงสีแดงที่มีอุณหภูมิสูงอย่างยิ่งยวด ทะลวงหน้าอกของสัตว์ประหลาดร่างเขียว
สัตว์ประหลาดร่างเขียวคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว หันหลังแล้วปล่อยหมัดทันที ชั่วขณะที่เคลื่อนแขน ก็มีภาพของกระดูกสีเขียวปรากฏบนหมัด พุ่งไปหมายกระแทกอันหลิน
“อาจหาญแลกหมัดกับข้างั้นหรือ”
อันหลินปล่อยหมัดสะเทือนขุนเขาใส่มันอย่างไม่เกรงใจ หมัดสีทองชนกับหมัดกระดูกสีเขียว พลังงานที่ปะทุม้วนตัวไปทั่วทุกสารทิศ
ขณะนั้นเอง ต้าไป๋ก็กระโจนใส่สัตว์ประหลาดร่างเขียวแล้วเช่นกัน อุ้งมือหมาที่สวมกรงเล็บปราณทลายฟ้าตะปบศีรษะของสัตว์ประหลาดตัวนั้น
ทุกอย่างเกิดขึ้นไวเหลือเกิน การโจมตีของอันหลินต้าไป๋ผสานกันได้ลงตัวอย่างยิ่ง สัตว์ประหลาดร่างเขียวหลบกรงเล็บของต้าไป๋ไม่ทันเลยสักนิด
เงาดาบสีน้ำเงินกะพริบหายไป จากนั้นก็เห็นร่างของสัตว์ประหลาดสีเขียวถูกเงาดาบหั่นเป็นหลายท่อน…
พรืด
เลือดสีเขียวพุ่งกระฉูด อันหลินกับต้าไป๋ต่างก็ถอยกรูดอย่างนึกรังเกียจ
“ยินดีกับพวกเจ้าด้วย ผ่านการทดสอบพิษแล้ว!”
ไป๋หลิงสวมกระโปรงสีขาว ปรากฏกายตรงหน้าอันหลิน
อันหลินส่ายหน้าอย่างระอาใจ “นี่น่ะหรือการทดสอบที่มีอัตรารอดต่ำกว่าสิบสองเปอร์เซ็นต์ ไม่เท่าใดนี่นา”
ไป๋หลิงเหลือบมองอันหลิน “…นี่เจ้ากำลังอวดดีกับข้าอยู่หรือ”
“ขอถามอะไรหน่อย มีอีกกี่ด่าน” อันหลินถามอย่างสงสัย
“เหอะๆ ไม่บอกเจ้าหรอก...” ไป๋หลิงยิ้มมีเลศนัย “แต่ว่านะ ข้างหลังมีเซอร์ไพรส์นะ”
“อ้อจริงสิ มรดกพวกนั้นข้าจะเก็บไว้ให้เจ้าก่อน รอให้พิชิตได้ทั้งโบราณสถานแล้วค่อยให้เจ้า ไม่อย่างนั้นเกิดเจ้าตายกลางคัน ข้าก็เสียแรงเปล่าน่ะสิ” ไป๋หลิงพูดต่อ
“เอาเถอะ ข้าไม่ได้อยากได้มรดกพวกนั้นของเจ้าเสียหน่อย” อันหลินโบกมือปัดๆ เดินไปยังประตูบานต่อไป
ไป๋หลิงได้ยินประโยคนี้ก็พลันแน่นหน้าอก “เจ้า…”
นางโมโหจนกัดฟันกรอด มองแผ่นหลังของชายหนุ่มที่เดินหน้า กลับเห็นชายคนนั้นเริ่มการทดสอบที่สองโดยไม่เหลียวหลัง