ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 371 ปีศาจร้อยอสูรแห่งสายเลือดจื่อซิง
เส้นทางสีแดงที่ทอดยาวไปไกล ตอนแรกอันหลินคิดว่าโบราณสถานต้องการสร้างบรรยากาศ จึงเลือกสีที่ไม่ปกติแบบนี้ แต่เมื่อเขาสังเกตและสัมผัสอย่างถี่ถ้วนแล้ว ถึงได้พบว่าผนังด้านในที่เป็นสีแดงนั่น เกิดจากการป้ายทาด้วยเลือดจริงๆ
“เลือดนี่คงถูกทามานานแล้ว ไม่คิดเลยว่าเทคนิคการคงสภาพของสถาบันวิจัยจะดีขนาดนี้ มองตอนนี้ก็ยังแดงฉานสดใหม่” อันหลินพยักหน้าเบาๆ พูดอย่างมั่นใจ
ต้าไป๋ตามหลังอันหลิน ใช้จมูกสูดดมฟุดฟิด จ้องมองเบื้องหน้าอย่างหวาดระแวง มันได้กลิ่นที่พิลึกมากจากอากาศ ไม่ใช่กลิ่นคาวเลือด แต่เป็นกลิ่นที่ทำให้เกิดความรู้สึกขยะแขยงโดยไม่รู้ตัว
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงห้องลับที่กว้างขวางห้องหนึ่ง
ภายในห้องลับว่างเปล่า มีเพียงไฟเบอร์กลาสทรงกลมขนาดมหึมาลอยอยู่กลางห้องลับ
ข้างในไฟเบอร์กลาสมีของเหลวสีแดง สัตว์ประหลาดที่มีหัวเหมือนมังกร มีปีกสีแดง เนื้อตัวเต็มไปด้วยเกล็ดสีเขียวกำลังหลับตานอนแช่อยู่ในของเหลว คล้ายว่ากำลังหลับใหล
“ยินดีต้อนรับสู่การทดสอบผิดบาป ปีศาจร้อยอสูรที่อยู่ในกระจก เป็นความล้มเหลวของการวิจัยสายเลือด มันมีการสืบทอดสายเลือดของสัตว์ประหลาดร่วมร้อยชนิดผสานอยู่ เป็นสุดยอดของสิ่งประดิษฐ์ที่มีชีวิต แต่มันก็มีข้อเสียที่ร้ายแรงอย่างมหันต์อยู่หนึ่งประการ นั่นก็คือไม่มีจิตสำนึกรู้ เป็นได้เพียงอาวุธต่อสู้ที่ผิดบาปที่สุด”
“สังหารปีศาจร้อยอสูร ก็ถือว่าผ่านการทดสอบนี้ จากสถิติของผู้ทดสอบที่ผ่านมา อัตราการรอดของการทดสอบนี้เป็นศูนย์ หากผ่านการทดสอบสามารถเลือกการสืบทอดได้ตามใจชอบหนึ่งอย่าง จะเริ่มการทดสอบเลยหรือไม่”
เสียงของไป๋หลิงดังขึ้นในห้องลับ ครั้งนี้นางอธิบายเนื้อหาการทดสอบได้ค่อนข้างละเอียด
เมื่อได้ยินว่าเนื้อหาหลักของการทดสอบเป็นการต่อสู้ ในใจอันหลินกลับโล่งไปเปราะหนึ่งด้วยซ้ำ
ถ้าสู้กันด้วยพลังต่อสู้เพียงอย่างเดียว เขายังไม่เคยขลาดกลัวใคร
“เริ่มการทดสอบ!”
แหวนมิติของอันหลินสว่างวาบ กำกระบี่พิชิตมาร พูดด้วยความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม
เมื่อบรรจุภัณฑ์ถูกเปิด เลือดสีแดงฉานก็เริ่มไหลทะลักลงพื้น
ปีศาจร้อยอสูรสูญเสียหลักยึด ตกลงมากระแทกพื้นดังตุบ มันยังคงหลับตา คล้ายว่ายังไม่ตื่นจากนิทรา
อันหลิน “…”
ต้าไป๋ “…”
“พี่อัน เราจะปลุกมันก่อนไหม โฮ่ง!” ต้าไป๋ถาม
อันหลินแสยะยิ้ม “ต้องปลุกมันอยู่แล้ว”
เขาพูด ปลายนิ้วชี้ข้างซ้ายชักนำสายฟ้าแปลบปลาบ ขณะเดียวกันมือขวาก็เปล่งแสงสีทองโชติช่วง
“หมัดสะเทือนขุนเขาอัสนี!”
ทันใดนั้น หมัดสายฟ้าสีทองที่แฝงอานุภาพน่ากลัวก็พุ่งออกไปหาสัตว์ร้อยภูตที่ล้มบนพื้นทันที
กระบวนท่าที่ทรงพลัง ไม่จำเป็นต้องสั่งสมกำลังอย่างท่านี้ เหมาะแก่การใช้ที่นี่ที่สุด!
ตูม
ลำแสงสีทองที่ประกอบด้วยกระแสไฟทำลายล้างระเบิด พลังงานม้วนตัวไปทั่วห้อง อันหลินกับต้าไป๋ก็ถูกแรงระเบิดที่ยิ่งใหญ่สะเทือนจนถอยกรูด ปีศาจร้อยอสูรที่ไม่ทันตั้งตัวไม่ตายก็พิการเป็นแน่
อันหลินเพิ่งใช้วิชาญาณทิพย์ลองหยั่งเชิงสถานการณ์ภายในวงระเบิด จู่ๆ เงาดำก็แหวกพลังของระเบิด กระโจนใส่อันหลินที่ถอยหลังออกไป
เร็วชะมัด!
อันหลินขนลุกขนพอง ภายใต้การทำงานของญาณทิพย์ เขาสามารถมองเห็นตำแหน่งจู่โจมของปีศาจร้อยอสูร แต่ปีศาจตัวนี้ว่องไวเหลือเกิน ถึงขั้นว่าอันหลินเกือบจะตั้งรับไม่ทัน!
กระบี่แห่งสายลม!
ความเร็วของกระบี่พิชิตมารพุ่งทะยานในพริบตา แหวกอากาศแล้ววาดลำแสงสีขาว ประสานงากับฝ่ามือสีเขียวที่พุ่งเข้ามา
ครืน
การปะทะของทั้งคู่ทำให้เกิดลมคลั่ง พสุธาทรุดตัว
อันหลินเองก็สัมผัสได้ถึงพลังงานที่เหนือคำบรรยาย มันเหนือกว่าเขา!
ในตอนนี้ ในที่สุดเขาก็มีโอกาสได้เห็นรูปร่างหน้าตาของปีศาจร้อยอสูรชัดเจนแล้ว
ปีศาจร้อยอสูรถูกหมัดสะเทือนขุนเขาอัสนีโจมตีเข้าอย่างจัง ร่างกายกลับไร้รอยขีดข่วน ดวงตาสีม่วงเย็นเยียบชอบกล ปีกสีแดงขยับเหมือนเนื้อเปื้อนเลือด ชวนให้รู้สึกพรั่นใจ
“ราชสีห์คำราม”
เสียงที่เย็นเยือกประหนึ่งหุบเหวคำรามดังมาจากปากของปีศาจร้อยอสูร
“โฮก!” จู่ๆ คลื่นเสียงสีทึบก็ทะลักออกจากฝ่ามือสีเขียวของมัน เสียงสิงโตคำรามพุ่งมาหาอันหลินด้วยพลังคลื่นเสียงที่ทรงอานุภาพ กระแทกจนอันหลินกระเด็นออกไป!
ปีศาจร้อยอสูรได้เปรียบทันที ขณะที่กำลังจะไล่กวด ลำแสงสีน้ำเงินหลายเส้นก็พุ่งทะลุอากาศมาโดยพลัน
“ย่างเงาอสรพิษ”
ปีศาจร้อยอสูรหยุดตามล่าอันหลิน ย่างฝีก้าวที่พิลึกและปราดเปรียว ร่างกายกลายเป็นภาพติดตา หลบหลีกลำแสงที่ทรงพลังเหล่านั้นในพริบตา และพุ่งมาประชิดตัวต้าไป๋
“หัตถ์ค้างคาว!”
ฝ่ามือสีเขียวแผ่คลุมทั่วร่างของต้าไป๋ ทำเอาต้าไป๋ตกใจจนขี่ลมถอยหลังทันที แต่ฝ่ามือที่กดอากาศกลับสะเทือนจนมันบิดเบี้ยว คลื่นที่ไร้รูปร่างแหวกเวหามา ส่งผลต่อร่างของต้าไป๋ ได้รับแรงกระทบกระเทือบจนร่างของมันยุบลงไป
ต้าไป๋ถูกโจมตีอย่างแรง ร่างกระแทกกับกำแพงเหล็ก
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ฟ้าดินก็พลันมืดลง จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงคมกระบี่หวีดหวิว
อันหลินใช้ท่าเงาพยัคฆ์ของหกกระบวนท่า กระบี่พิชิตมารจรดลำคอของปีศาจร้อยอสูรอย่างไม่ลังเล ปราณกระบี่สีดำไร้สุ้มเสียงฉีกทำลายโลหะไร้ชื่อบนพื้นให้เกิดรอยแยกขนาดใหญ่
เขาเบิกตากว้าง มองลำคอของปีศาจร้อยอสูรด้วยความตะลึง ในใจระส่ำระสาย
กระบี่พิชิตมารเฉือนลำคอของปีศาจร้อยอสูร แต่ไม่มีบาดแผลเลยสักนิด
ทำไมกัน…
ไม่สิ! อันหลินเพ่งพินิจ เขาเห็นว่าระหว่างกระบี่พิชิตมารกับผิวหนังที่หุ้มด้วยเกล็ดของปีศาจร้อยอสูรมีช่องว่างเพียงน้อยนิด ระยะห่างนี้ทำให้กระบี่ของเขาเหมือนเจอกับแผ่นเหล็กสุดทนทาน
“มังกรมวนเมฆ!”
ปีศาจร้อยอสูรหันไปหาอันหลิน ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มอำมหิตชั่วร้าย เผยให้เห็นคมเขี้ยวแหลมคม
ครืน พายุหมุนสีเขียวกระจายออกมาจากตัวมัน กลายเป็นคมมีดที่คมกริบไร้เทียมทานนับพันหมื่น ฉีกพื้นโลหะ จู่โจมหมายเชือดเฉือนอันหลิน
ชั่วขณะที่เลือดสาดกระจาย อันหลินกางปีกวายุถอยหลังทันที ในใจเริ่มกระจ่างแจ้งแล้ว
ทำไมปีศาจร้อยอสูรไม่ทันตั้งตัวเจอหมัดสะเทือนขุนเขาอัสนีของเขา แต่กลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่นิด ทำไมท่าเงาพยัคฆ์ถึงเฉือนหนังตรงลำคอของมันไม่ได้…
ทุกอย่างเป็นเพราะมันมีช่องว่างขวางกั้น!
เฉกเช่นกันดั้มที่ลอยอยู่กลางห้องโถงด้านนอก เนื้อตัวของปีศาจร้อยอสูรก็มีเกราะมิติหุ้มตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นเดียวกัน เกราะมิตินี้ตัดขาดทุกอันตรายที่เป็นผลเสียกับมัน ทำให้มันเป็นฝ่ายที่เหนือกว่า!
หากจะจัดการปีศาจร้อยอสูร เช่นนั้นก็ต้องทำลายชั้นมิติของมันก่อน
โดยปกติแล้ว บุคคลที่มีพลังทลายมิตินั้น จำต้องเป็นยอดฝีมือระดับหวนสู่ความว่างเปล่า…
จะสู้อย่างไร สู้กับผีอะไร!
ศัตรูมีท่าไม้ตายหลากหลายชนิด แถมยังมีกระดองเต่าที่ต้องวิปริตถึงขั้นหวนสู่ความว่างเปล่าเท่านั้นที่ทำลายได้ นี่มันไร้เทียมทานแล้ว! ต่อให้อันหลินใช้พลังปราณอนธการก็สู้ไม่ไหว!
ปีศาจร้อยอสูรพุ่งใส่อันหลินอีกครั้ง ฝ่ามือมีเปลวไฟสีแดงกำลังก่อตัว
อันหลินตวัดกระบี่ปล่อยลำแสงสีดำ แต่กลับถูกปีศาจร้อยอสูรใช้ท่าร่างที่ปราดเปรียวหลบหลีกอีกครา
ความสงสัยผุดวาบขึ้นในใจ ทั้งๆ ที่ไม่มีใครเทียบเคียง ทำไมต้องหลบกระบี่ของเราด้วยล่ะ
เป็นสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตงั้นเหรอ
หรือเป็นเพราะเกราะมิติจะผลาญพลังงานหากถูกโจมตี
“เคล็ดวิชาสุริยันวิหคเพลิง!”
ฝ่ามือของมันฟาดใส่อันหลิน ลูกไฟสีแดงในมือก่อตัวเป็นลูกบอลที่สว่างเจิดจ้า จากนั้นก็ระเบิดประหนึ่งลูกระเบิดก็ไม่ปาน
ตูม!
ห้องลับสั่นสะเทือนเลือนลั่นในพริบตา
เปลวไฟสีแดงที่บ้าบิ่นเขมือบทุกสรรพสิ่ง ทำให้ห้องลับกลายเป็นทะเลเพลิง