ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 385 ลดน้ำหนักและเพิ่มน้ำหนัก
ต้าไป๋เห็นฉากนี้ เริ่มยืดอกเชิดหน้าเดินเข้ามา
“เจ้ากระต่าย ถ้ามาอยู่ที่นี่ ต้องปฏิบัติตามกฎมาก่อนเป็นพี่มาทีหลังเป็นน้อง เจ้าเป็นได้แค่ที่ห้า ข้าเป็นที่สอง ปกติเจ้าต้องเรียกข้าว่าพี่ไป๋ เข้าใจไหม โฮ่ง!” ต้าไป๋มองกระต่ายจันทราแล้วแสยะยิ้ม
ดวงตาดุจลูกแก้วสีทองของกระต่ายจันทราฉายแววเย็นเยียบ สากหยกตำสมุนไพรปรากฏในมือ แบกขึ้นบ่าแล้วขำเบาๆ “เหอะๆ อย่างเจ้ามีสิทธิ์จะอยู่หน้าข้าด้วยหรือ”
“เจ้ากระต่ายมาใหม่ ที่นี่ไม่มีฉางเอ๋อคุ้มกะลาหัวเจ้า ท่าทางจะใช้ไม้อ่อนไม่ได้ ตอนนี้ข้าจะให้เจ้าได้เห็นอิทธิฤทธิ์ของพี่ไป๋! โฮ่ง!” ต้าไป๋ไม่ยอมอ่อนข้อ สวมกรงเล็บปราณทลายสวรรค์ ตวัดกลางอากาศใส่กระต่ายจันทรา ลำแสงเย็นเยือกแหวกอากาศมาพร้อมกับเสียงหวีดหวิว
“เจ้าสุดยอดหรือ ข้าจะฟาดเจ้าให้เป็นหมาง่อยเลย!” กระต่ายจันทรากวัดแกว่งสากหยก กระโดดใส่ต้าไป๋
“เจ้ากระต่ายอย่าโอหัง ข้าจะสอนให้เจ้าเป็นกระต่ายที่ดี โฮ่ง!” ต้าไป๋ตะโกนกร้าว กระโจนใส่กระต่ายจันทราเช่นเดียวกัน
อันหลินยืนดูอยู่ข้างๆ เรื่องนี้เขาคร้านจะยุ่งเกี่ยว
ด้วยเหตุนี้ศึกนี้จึงเริ่มขึ้น
ปึกๆ ๆ…ปักๆ ๆ…ตึกๆ ๆ…ผลัวะๆ ๆ…
…
สงครามปิดฉาก
ต้าไป๋นอนแผ่หลาบนพื้นด้วยใบหน้าที่ปูดบวม กระต่ายจันทรานั่งบนหน้าท้องของต้าไป๋อย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง พลางควงสากหยก หัวเราะร่วน “หมาง่อย อย่างเจ้ายังคิดจะพูดจาสามหาวต่อหน้าข้าหรือ ไม่เจียมตัว!”
ต้าไป๋ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งจะถูกกระต่ายนั่งทับ จึงรู้สึกอดสูอย่างอดไม่ได้ แต่เมื่อเห็นสากหยกที่ทรงพลังนั่น ก็หงอลงทันที “เอาละ พี่กระต่าย ข้ายอมรับว่าเจ้าอยู่หน้าข้าได้ เป็นสัตว์เลี้ยงหมายเลขหนึ่งของพี่อัน พอใจแล้วหรือยัง…”
“นับว่าเจ้ารู้ตัว” กระต่ายจันทราพยักหน้าอย่างพอใจ ปล่อยต้าไป๋ไป
แต่หลายวินาทีต่อมา หูขนปุกปุยของกระต่ายจันทรากลับตั้งขึ้น ดวงตาเบิกกว้าง “ไม่สิ! ข้าไปเป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้าทึ่มอันตั้งแต่เมื่อใด คุณพระ ข้าดีใจไปทำไมกัน!”
“เหอะๆ ได้เป็นสัตว์เลี้ยงของข้าเป็นโชคดีของเจ้า” อันหลินคว้าหูของกระต่ายจันทราหมับแล้วหิ้วมันขึ้น
จากนั้นเขาก็พบว่ากระต่ายจันทราตัวหนักจริงๆ ถึงว่าฉางเอ๋อรังเกียจ ไม่อยากอุ้มเลยด้วยซ้ำ
“บังอาจเสียมารยาทกับข้าหรือ!” กระต่ายจันทราโมโหจนร้องโหวกเหวก
มันจะใช้สากหยกทุบศีรษะอันหลิน ยามนี้กลับเห็นอันหลินถือจดหมายของฉางเอ๋อโบกไปโบกมาตรงหน้ามัน คลื่นลี้ลับแผ่กระจาย ทำให้มันเซื่องซึมลงทันตา
อันหลินวางกระต่ายจันทราลงอย่างยิ้มแย้ม เอ่ยปากว่า “ตอนนี้ข้าเป็นคนดูแลเจ้า เจ้าต้องฟังข้า เจ้ามาทีหลังเสี่ยวหง ต้าไป๋กับเจ้าอัปลักษณ์ ฉะนั้นจะเป็นที่ห้า อีกอย่างเมื่ออยู่ที่นี่ เจ้าต้องรู้จักสงบเสงี่ยม มีมารยาท ปฏิบัติตามกฎ ห้ามรังแกต้าไป๋เข้าใจไหม!”
หูยาวของกระต่ายจันทราลู่ลง พูดอย่างหมดอาลัยตายอยาก “เข้าใจแล้ว…”
มันไม่เชื่อฟังใครก็ได้ แต่จำต้องฟังคำฉางเอ๋อ ไม่อย่างนั้นถ้าอยากกินของอร่อยในตำหนักดวงจันทร์ก็ฝันไปเถอะ!
“น้องห้า ไม่ต้องเศร้าไป พี่ไป๋จะดูแลเจ้าให้ดี โฮ่ง!” ต้าไป๋เห็นสถานการณ์กลับตาลปัตร ก็เริงร่าขึ้นมาทันที พูดขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม
กระต่ายจันทราชูสากหยกในมือขึ้นอีกรั้ง ต้าไป๋ก็เงื่องหงอยทันที
“เอาละๆ เรามาคุยธุระก่อน เสี่ยวเยว่ตอนนี้น้ำหนักของเจ้าอยู่ที่เท่าใด” อันหลินเอ่ยถาม
กระต่ายจันทราเบะปาก ฮึดฮัดในลำคอ “เจ้าไม่รู้หรือว่าถามน้ำหนักของสตรีเป็นเรื่องที่เสียมารยาทมาก”
ปากของอันหลินกระตุก “แต่เจ้าเป็นกระต่าย แถมข้ายังต้องคุมเจ้าลดน้ำหนักด้วย!”
กระต่ายจันทราเก็บสากหยกของตัวเองใส่แหวนมิติ จากนั้นหยิบวัตถุคล้ายจานสีขาวออกมา วางลงบนพื้นแล้วกระโดดขึ้นไป
จานส่องแสงสว่างวาบ ด้านบนแสดงค่าตัวเลข ’54.758’
“หนึ่งเดือนต้องลดสี่ชั่งกว่า ใช้คาถาดูดไขมันได้ไหม”
จู่ๆ อันหลินก็รู้สึกว่าหนทางยากลำบาก จึงลองถามหยั่งเชิง
กระต่ายจันทราหัวเราะหึๆ ใบหน้าฉายความเหยียดหยาม “ข้าเป็นสัตว์เทพแห่งดวงจันทร์ ดูดไขมันหรือ เจ้าดูดได้หรือ เรื่องนี้แม้แต่นายหญิงยังทำไม่ได้เลย!”
อันหลินก็ไม่แยแส ย้อนถามว่า “แล้วเจ้ามีแผนการอะไรไหม”
“ไม่มีแผนการ นี่เป็นปัญหาใหญ่หลวง…ตอนนี้ข้ามีแต่รอให้นายหญิงเปลี่ยนใจ ไม่รังเกียจน้ำหนักของข้า ให้ข้ากลับสู่อ้อมอกของนางอีกครั้ง” จู่ๆ ใบหน้าของกระต่ายจันทราก็ทุกข์ระทมขึ้นมา ทอดมองท้องฟ้าที่มืดสลัวลงเรื่อยๆ ด้วยความเศร้าโศก
เมื่ออันหลินเห็นภาพนี้ก็รู้สึกว่าน่าขำ
กระต่ายจันทราที่ถูกฉางเอ๋อรังเกียจด้วยน้ำหนัก หากคนนอกรู้เข้า ก็นับว่าเป็นข่าวครึกโครมเหมือนกัน
“เอาอย่างนี้ ข้าจะวางแผนลดน้ำหนักให้เจ้า อืม กินแครอทวันละหนึ่งหัว ออกกำลังกายสามชั่วยาม แผนนี้เป็นอย่างไร” อันหลินพูดยิ้มๆ
กระต่ายจันทรามองอันหลินประหนึ่งมองคนทึ่ม “หากกายบริหารตามแผนการของเจ้า ลดน้ำหนักเดือนละหนึ่งชั่งได้ ข้าถือว่าเจ้าชนะ”
อันหลินสูดหายใจเข้าลึก “งั้นไม่กินอะไรเลยหนึ่งเดือน ออกกำลังกายสิบสองชั่วยามติดต่อกันหนึ่งเดือนล่ะ”
กระต่ายจันทราโกรธเกรี้ยว “เจ้าทึ่มอัน! เจ้ากำลังทารุณกระต่ายอยู่นะ! อีกอย่างต่อให้ข้าทำเช่นนั้นจริง ก็ลดน้ำหนักได้ไม่ถึงครึ่งชั่ง!”
“ลดยากขนาดนี้ สมกับเป็นสัตว์เทพแห่งดวงจันทร์จริงๆ…” อันหลินทำหน้าแปลกใจ ท่าทางแผนการลดน้ำหนักปกติจะใช้ไม่ได้ผลกับกระต่ายจันทราเลยสักนิด ต้องคิดหาวิธีอื่น
ครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขาจึงเสนอแผนการลดน้ำหนักอีกหลายวิธี แต่ก็ถูกกระต่ายจันทราปฏิเสธทั้งหมด
สุดท้ายเขาทำได้แค่ปล่อยตัวปล่อยใจครู่หนึ่ง ทำเรื่องที่สนุกสนานสักหน่อย เรื่องสนุกสนานที่ว่าก็คือ…
กินขนมไหว้พระจันทร์!
อันหลินหยิบขนมไหว้พระจันทร์ที่กลมกลึงดุจดวงจันทร์ออกจากแหวนมิติชิ้นเดียว มันมีขนาดใหญ่เท่าขอบถ้วย แต่กลับทำให้อารมณ์ชโลมทุกสรรพสิ่งภายใต้การส่องสะท้อนของพระจันทร์
“ช่างเป็นขนมไหว้พระจันทร์ที่สวยงามยิ่งนัก…” เสี่ยวหงกลายร่างเป็นหญิงสาวชุดแดง ยืนงามสง่าอยู่ข้างเคียง นัยน์ตาเป็นประกาย เป็นครั้งแรกที่เกิดความสนใจอย่างแรงกล้าต่อสิ่งอื่นนอกจากพระอาทิตย์
กระต่ายจันทราเผลอเลียริมฝีปาก “ขนมไหว้พระจันทร์แฝงพลังแห่งแสงจันทร์ และทำจากของวิเศษหลากชนิดผสานกับดอกหอมหมื่นลี้ ไม่ใช่แค่รสเลิศเป็นหนึ่งในหล้า แต่ยังยืดอายุได้พันปี นอกจากนี้มันยังเพิ่มพลังหลอมปราณของเส้นชีพจรและกระดูก รวมทั้งเพิ่มพลังแสงจันทร์ให้แก่ทะเลปราณ อันหลินเพิ่งบรรลุระดับแปลงจิต กินแล้วยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่พลังยุทธ์ได้อีกด้วย!”
อันหลินได้ยินสรรพคุณมากมายปานนี้ดวงตาก็ลุกวาว อดอุทานไม่ได้ว่า “สมกับเป็นผลิตภัณฑ์ของฉางเอ๋อ ขนมไหว้พระจันทร์นี่เลอค่ากว่ายาเซียนทั่วไปเสียอีก!”
กระต่ายจันทรายิ้มกริ่ม ทำท่าภาคภูมิใจ “มันแน่นอนอยู่แล้ว!”
อันหลินหั่นขนมไหว้พระจันทร์เป็นห้าส่วนด้วยความตื่นเต้น เผยให้เห็นไส้ที่สอดภายใน ไส้ประหนึ่งหยกทอง เนียนละเอียดโปร่งใส กลิ่นของหอมหมื่นลี้เจือความหอมประหลาดบางอย่าง อวลไปทั่วที่พัก เย้ายวนใจยิ่ง
“หอมจังเลย…แค่กลิ่นก็ทำให้เคลิบเคลิ้มแล้ว…” อันหลินหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข
น้ำลายของต้าไป๋ไหลนองพื้น แม้แต่เจ้าอัปลักษณ์ก็น้ำลายไหลไม่หยุด
“มาเลย ข้าหั่นเสร็จแล้ว คนละหนึ่งชิ้น!” อันหลินพูดกับเหล่าสัตว์เลี้ยงด้วยรอยยิ้ม
“พี่อันดีที่สุด ข้ารักเจ้าที่สุดเลยโฮ่ง!” ต้าไป๋กระโจนเข้ามาก่อนปานหมาป่าหิวโซ ยื่นอุ้งมือออกไปคว้าขนมไหว้พระจันทร์ ส่งเข้าปากทันที
มันเพิ่งเคี้ยวขนมไหว้พระจันทร์ เนื้อตัวก็สั่นระริกทันที ทรุดตัวลงกับพื้นแล้วคร่ำครวญว่า “สุดยอด…พี่อัน สุดยอดไปเลย อร่อยเหลือเกิน โฮ่ง!”
อันหลินทำหน้าเอือมระอา เตะสุนัขตัวนี้กระเด็น
เจ้าอัปลักษณ์ก็หยิบชิ้นหนึ่งขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย ดวงตาเปล่งประกายขึ้นเรื่อยๆ
“นายท่านทำความดีแล้ว!” เรียวนิ้วของเสี่ยวหงหยิบขนมไหว้พระจันทร์ชิ้นหนึ่งขึ้นมา ส่งเข้าปากจิ้มลิ้มสีแดงเรื่อ แววตาหยาดเยิ้ม เคี้ยวอย่างมีความสุข
อันหลินเห็นกระต่ายจันทราไร้การเคลื่อนไหว จึงโพล่งออกมาว่า “เสี่ยวเยว่ เจ้าก็หยิบด้วยสิ!”
กระต่ายจันทราทำหน้างุนงง “เอ่อ…นายหญิงมอบให้เจ้า ข้ากินได้ด้วยหรือ”
อันหลินไม่คิดว่ากระต่ายจันทราที่ไม่กลัวเกรงใคร บัดนี้กลับเกรงอกเกรงใจเช่นนี้ ก็อดขำเบาๆ ไม่ได้ “ในเมื่อตอนนี้เจ้าอยู่ในความดูแลของข้า นั่นย่อมต้องมีสุขร่วมเสพสิ ไม่อย่างนั้นเจ้าคิดว่าข้าจะตัดขนมไหว้พระจันทร์เป็นห้าชิ้นทำไม”
กระต่ายจันทราชะงักเมื่อได้ฟัง ไม่ต่อปากต่อคำอย่างที่เกิดขึ้นไม่บ่อยอีก แต่ใช้อุ้งมือขาวสะอาดหยิบขนมไหว้พระจันทร์ขึ้น เอ่ยเสียงเบาว่า “งั้นข้าไม่เกรงใจละนะ”
เมื่อเห็นกระต่ายจันทราได้กินแล้ว อันหลินจึงหยิบขนมไหว้พระจันทร์ชิ้นสุดท้ายขึ้นแล้วส่งเข้าปาก
รสสัมผัสโอชาระเบิดในพริบตา ทำให้เขาสั่นไปทั้งตัว
พลังแห่งแสงจันทร์กลายเป็นกระแสอุ่นหล่อเลี้ยงทั่วสรรพางค์กาย เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพลังยุทธ์ พลังส่วนหนึ่งซึมซาบสู่ทะเลปราณ ทำให้ทะเลปราณส่องแสงพระจันทร์เรื่อๆ และมีแสงจันทร์อีกส่วนปกคลุมดวงจิต ทำให้ดวงจิตแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
วินาทีนั้น อันหลินรู้สึกเหมือนตัวเองได้ท่องพระจันทร์ เอ้อระเหยอยู่กลางดงดอกหอมหมื่นลี้ ฉางเอ่อยิ้มให้เขา กระต่ายจันทรากระโดดรอบๆ เขา…
ร้อยคำหมื่นพันรวมกันเป็นคำเดียว
‘สุดยอด!’