ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 388
เกิดเสียงดัง ‘ปึกๆ ๆ’ ภายในบ้านพัก
กระต่ายสูงครึ่งตัวคนมือกำเชือกยาวสีแดง กำลังกระโดดไม่หยุด
มันต้องทำเป้าหมายกระโดดเชือกวันละหนึ่งหมื่นครั้งตามที่อันหลินกำหนด ตอนนี้มาถึงครึ่งทางแล้ว ไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยเลย สีหน้าราบเรียบอย่างยิ่ง
อันหลินกลับมาถึงบ้านพัก เห็นกระต่ายจันทราที่กำลังกระโดดเชือกไม่หยุด ใบหน้าก็มีความปลื้มใจ
เขาไม่ลังเลอีก ถ่ายทอดวิถีใช้พลังงานไขมันที่ได้มาจากหยินสี่ให้กับกระต่ายจันทราโดยไม่สงวนเลยสักนิด
พอกระต่ายจันทราได้ฟัง ใบหน้าก็แสดงอาการตกใจอย่างปิดไม่มิดเช่นกัน “ใครกันที่บุกเบิกวิธีเผาผลาญไขมันแบบนี้กันนะ สุดยอดมากจริงๆ!”
อันหลินพูดอย่างขึงขังว่า “ผู้อาวุโสหยินสี่เป็นคนบุกเบิก หากไม่ได้รับการอนุญาตจากเขา เจ้าห้ามเปิดเผยให้มือที่สามรู้เป็นอันขาด!”
“เจ้าหลอกใครน่ะ เจ้าอย่าดูถูกเขาเชียวนะ นี่เป็นวิธีที่ได้จากหนทางของเขา ข้าไม่ได้พูดเหลวไหล หากพลังงานในท้องเขาปะทุละก็ อาจทำให้สรวงสวรรค์ระเบิดก็ได้!” ใบหน้าของอันหลินเปื้อนรอยยิ้มภาคภูมิใจและลำพองตน
วิธีเผาผลาญไขมันที่หยินสี่ถ่ายทอดให้เขา กลายเป็นบุคคลที่เป็นทั้งอาจารย์และสหายของเขา เขาก็เลยรู้สึกภูมิใจในความยิ่งใหญ่ของหยินสี่
กระต่ายจันทราเงียบงันไปครู่ใหญ่ ไม่โต้เถียงอันหลิน แต่กลับทำท่าอยากรู้อยากลอง “ข้าพอใจเข้าใจบ้างแล้ว งั้นเรามาลองกันก่อนดีไหม”
อันหลินเองก็เห็นด้วย พยักหน้าพลางพูดว่า “ได้เลย!”
หนึ่งคนหนึ่งกระต่ายขี่อิฐสีดำกับสากหยกเหาะไปทางชั้นเมฆที่อยู่นอกรั้วสำนัก
พระอาทิตย์ลอยเด่นกลางนภา ปุยเมฆขาวใต้ฝ่าเท้า อันหลินกับกระต่ายจันทรายืนกระตุ้นกำลังภายในอยู่ข้างกันบนก้อนเมฆ
อันหลินสัมผัสได้ว่ามีกระแสอุ่นก่อตัวในช่องท้อง จากนั้นแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กายอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้น ร่างกายของเขาก็เหมือนกับลุกไหม้ ร้อนรุ่มอย่างยิ่ง
ภายใต้การกระตุ้นของกำลังภายใน พลังงานที่ร้อนระอุไหลเลียบตามเส้นชีพจรมาบรรจบกันที่ปากของเขา
อันหลินกับกระต่ายจันทราสบตากัน ต่างก็เห็นความหวั่นวิตกในสายตาของอีกฝ่าย
จากนั้นหนึ่งคนหนึ่งกระต่ายก็เบนสายตาออก ทอดมองไกลออกไปพร้อมกัน และอ้าปากกว้างพร้อมกัน
ครืน
ปากของอันหลินระเบิดเสาพลังงานสีทองที่น่ากลัวอย่างยิ่งออกมา ทอดไปยาวหลายลี้ ทลายชั้นเมฆสีขาวในพริบตา ประหนึ่งธารเพลิงที่ทะลวงชั้นฟ้า แผดเผามิติจนบิดเบี้ยว
ปากของกระต่ายจันทราเองก็ระเบิดเสาพลังงานสีทองเช่นเดียวกัน เสาพลังงานน่าสะพรึงกว่าที่อันหลินปล่อยออกมามากกว่าสิบเท่า อันหลินที่อยู่ข้างกายถูกคลื่นที่ยิ่งใหญ่กระแทกจนกระเด็น
ครืน เสียงแผดร้องสะเทือนฟ้าดังขึ้น เสาแสงสีทองแผ่ออกไปไม่รู้ตั้งกี่ลี้ ชั้นเมฆในรัศมีหลายสิบลี้ถูกคลื่นกระแทกที่น่ากลัวสะเทือนจนแตกซ่าน บนทิศทางของเสาเพลิง ถึงขั้นว่ามีรอยแยกปานใยแมงมุมถี่ยิบ แผ่กระจายกลิ่นอายทำลายล้าง
กระต่ายจันทราเดาะปากที่มีควันโขมง พูดเสียงกังวานว่า “ร้อนจะตายแล้ว!”
อันหลินหายใจเข้าดังเฮือก ถลึงตาพลางพูดว่า “ช่างน่ากลัวเสียจริง…”
ยังดีที่พวกเขาระมัดระวังตัว เลือกจะฝึกบนท้องฟ้าที่อยู่นอกรั้วสำนัก หากพวกเขาฝึกในรั้วสำนักละก็ ภูเขาคงถูกระเบิดปากของกระต่ายจันทราถล่มยับแน่!
แม้แต่ระเบิดปากของตัวอันหลินเองก็ยิ่งใหญ่มากเช่นกัน เทียบเทียมได้กับหมัดอสนีปรมาณูที่เป็นไพ่ตายของเขา และเหนือกว่าทางด้านความปลอดภัยด้วยซ้ำ! ข้อเสียหนึ่งเดียวคือ หลังใช้ท่านี้จะเกิดผลข้างเคียงอ่อนแรง
“ข้าขอดูผลลัพธ์ก่อน!” กระต่ายจันทรารีบล้วงจานแสงสีขาวออกมาอย่างอดรนทนไม่ไหว วางลงกลางอากาศแล้วกระโดดขึ้นไปอย่างวิตกกังวล
จานหยกส่องแสงโชติช่วง ด้านบนแสดงตัวเลข ‘54.536’
อันหลินกับกระต่ายจันทราล้วนแสดงอาการดีใจ สำเร็จแล้ว!
น้ำหนักลดจาก 54.758 เป็น 54.536 แล้ว
“เสียดายที่ข้าใช้ท่านี้แล้วรู้สึกเหนื่อยมาก เกรงว่าคงจะใช้ได้แค่วันละครั้ง…” กระต่ายจันทราค่อนข้างผิดหวัง
“จะกลัวอะไร ต่อให้ใช้ได้แค่วันละครั้ง เดือนหนึ่งก็ลดได้ไม่ต่ำกว่าหกชั่ง แผนการลดน้ำหนักของเจ้าสำเร็จราบรื่นได้ไม่มีปัญหา!” อันหลินหัวเราะร่า
กระต่ายจันทราได้ฟังก็ดีอกดีใจ กระโจนใส่อกของอันหลินเหมือนกระต่ายน้อย พูดอย่างตื่นเต้นว่า “รอให้ข้าเป็นที่โปรดปรานอีกครั้ง หลังกลับตำหนักดวงจันทร์ ข้าจะมอบขนมดอกหอมหมื่นลี้ให้เจ้า!”
อันหลินถูกกระต่ายจันทราโถมตัวใส่จนเกือบจะตกลงจากก้อนอิฐ
พับผ่าสิ หนักจริงๆ ด้วย…คิดว่าตัวเองเป็นกระต่ายน้อยหรือไง!
อันหลินกอดกระต่ายจันทรา พร้อมกับบ่นในใจ
แต่หากช่วยให้กระต่ายจันทราลดน้ำหนักได้ ความจริงเขาก็ดีใจมากเหมือนกัน แต่เรื่องนี้คนที่ขอบคุณมากที่สุดคือหยินสี่ หากไม่มีหยินสี่ เขาไม่มีทางเจอวิธีลดน้ำหนักที่ดีกว่านี้แล้ว
อันหลินคิดว่าวันหลังจะไปที่ราชวังดุสิตอีกครั้ง เพื่อมอบของขวัญให้หยินสี่เป็นการแสดงความขอบคุณ
อืม ตัดสินใจแล้ว ให้ขนมไหว้พระจันทร์ครึ่งชิ้นแล้วกัน!
หนึ่งคนหนึ่งกระต่ายกลับบ้านพักด้วยความเริงร่า
พอพ้นประตู พวกเขาก็ล้มตัวนอนทันที
ผลข้างเคียงที่เกิดจากการเผาผลาญไขมันรุนแรงกว่าที่พวกเขาจินตนาการเสียอีก ตอนนี้ไม่ใช่แค่หมดแรงเท่านั้น แต่ยังมีอาการปวดรวดร้าวหลังเผาผลาญอีกด้วย
เช้าวันต่อมา กระต่ายจันทราปล่อยระเบิดต่อ
หลังปล่อยระเบิดสะเทือนฟ้าดินแล้ว มันก็กลับบ้านพักอย่างอ่อนระโหยโรยแรง นอนหลับอุตุตามเคย
อันหลินกลับไปยังราชวังดุสิตอีกครั้ง เพื่อมอบขนมไหว้พระจันทร์ครึ่งชิ้น
หยินสี่เห็นขนมไหว้พระจันทร์ครึ่งชิ้นก็ตาโตทันที ลมหายใจถี่กระชั้น “สหายอันหลิน นี่…นี่ใช่ขนมไหว้พระจันทร์ของฉางเอ๋อหรือไม่”
อันหลินพยักหน้าจริงจัง “แน่นอนสิ เจ้าของตำหนักดวงจันทร์มอบขนมไหว้พระจันทร์ให้ข้าชิ้นหนึ่ง ข้ากินเพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งข้ามอบให้สหายหยินสี่! ท่านอย่าเกรงใจข้านะ ขนมนี้ท่านต้องรับไว้”
หยินสี่ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า คว้าอันหลินมากอดไว้แน่นทันที “สหายเอ๋ย เจ้าเป็นสหายรักของข้าจริงๆ! แม้แต่ของวิเศษอย่างขนมไหว้พระจันทร์ เจ้าก็ยังยอมแบ่งข้าครึ่งหนึ่ง ข้าจะพูดอะไรได้อีก…ไม่ต้องห่วง น้ำใจของสหายอันหลิน ข้าจะจดจำไว้!”
หากจะพูดถึงคุณค่าทางสรรพคุณของขนมไหว้พระจันทร์ อาจเทียบเท่ายาเซียนทั่วไป แต่มูลค่าที่แท้จริงของมันไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพราะฉางเอ๋อจะมอบขนมไหว้พระจันทร์ให้ใครล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ คนในสรวงสวรรค์ที่มีวาสนาได้กินนั้นมีเพียงหยิบมือ คุณค่าของขนมไหว้พระจันทร์จึงสูงอย่างยิ่ง!
อันหลินยิ้มละมุน อยากลูบหลังของหยินสี่ แต่กลับทำได้เพียงลูบแขนของเขา
ด้วยเหตุนี้ ทั้งคู่จึงกอดกันอย่างรักใคร่อยู่พักหนึ่ง
อันหลินคิดไม่ถึงเลยว่าหยินสี่จะตื้นตันปานนี้ และไม่รู้ว่าเขาซาบซึ้งกับความจริงใจที่เจ้าครึ่งหนึ่งข้าครึ่งหนึ่ง หรือซาบซึ้งกับขนมไหว้พระจันทร์ที่เลอค่าของฉางเอ๋อ ตื้นตันใจอย่างยิ่ง ร้องไห้เหมือนเด็กหนักสามร้อยชั่ง
“เอาละๆ สหายหยินสี่ ข้ายังมีอีกเรื่องที่อยากถามท่าน” อันหลินจำใจต้องเป็นฝ่ายยุติบทโศกนี้ลงแล้วพูดอย่างระอาใจ
“อยากถามอะไร ว่ามาเลย ถ้าข้ารู้จะบอกเจ้าแน่นอน!”
สายตาที่หยินสี่มองอันหลินเป็นมิตรอย่างยิ่ง ทำให้อันหลินไม่ค่อยชิน
“ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่อยากถามว่ามียาอะไรที่ทำให้ฤทธิ์ยาแผ่ซ่านไปที่ทะเลปราณโดยตรง ก่อตัวเป็นกลุ่มพลังงานหรือไม่” อันหลินนึกถึงลักษณะพิเศษในวันนั้นแล้วเอ่ยถาม
หยินสี่สูดหายใจเข้าลึก ประกายในดวงตาสว่างไสวยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ “หรือสหายอันหลินจะแสดงการกินยาอีกแล้ว แม้ยาที่ก่อตัวเป็นกลุ่มพลังงานในทะเลปราณจะมีน้อยนิด แต่ข้าก็ปรุงได้อยู่หลายชนิด!”