ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 394 เป็นพันธมิตรเพื่อนตาย
ณ จัตุรัสหยกขาว เหยาหมิงซีกำลังทำแผลให้เหยาซิ่ว
บนเรือนร่างของเหยาซิ่วมีรอยแผลที่ลึกมากแผลหนึ่ง เสื้อสีเขียวถูกย้อมเป็นสีแดงไปกว่าครึ่ง
นางมองชายหนุ่มที่กำลังตั้งใจทำแผลตรงหน้า ใบหน้าฉายความรู้สึกผิด “ขอโทษนะท่านพี่ เป็นเพราะข้าไร้ประโยชน์ แถมยังถ่วงท่านอีก...”
“พูดเรื่องพวกนี้ทำไม เป็นเพราะเราสู้คนอื่นไม่ได้ ศิษย์พี่ถังซีเหมินเป็นอันดับหนึ่งของชั้นปีที่สี่ และเป็นผู้กล้าที่คว้าอันดับต้นๆ ของอันดับเซียนด้วย ความสามารถของเขาย่อมต้องยืนหยัดถึงวันสุดท้ายได้แน่ พวกเราแพ้เขาก็ไม่เสียหลาย” เหยาหมิงซีทำแผลพลางเอ่ยเสียงเรียบ
ในตอนนั้นเอง ลำแสงสีทองก็ปรากฏกลางอากาศ
ร่างของถังซีเหมินร่วงลงข้างๆ เหยาหมิงซี หน้าอกถูกระเบิดจนไหม้เกรียม ดูค่อนข้างน่าสลด
เหยาหมิงซีกับเหยาซิ่วหันมองข้างกาย จากนั้นก็ชะงักไป
ทั้งสามสบตากันเงียบเชียบเช่นนี้ บรรยากาศค่อนข้างแปลกพิลึก
“พรืด…ฮ่าๆ ๆ…ท่านพี่ ศิษย์พี่ถังอนาถเหลือเกิน” เหยาซิ่วหัวเราะจนตัวโยน เผลอกระเทือนแผล จึงแยกเขี้ยวด้วยความเจ็บปวด
เหยาหมิงซีก็อดหัวเราะไม่ได้ “ข้าเพิ่งพูดไปหยกๆ ว่าศิษย์พี่ถังต้องยืนหยัดถึงสุดท้าย ไม่คิดเลยว่าจะมาตบหน้าข้าไวปานนี้”
ถังซีเหมินแค่นหัวเราะ “บางครั้งโชคชะตาก็คาดเดาไม่ได้”
สามคนที่เคยรบกันดุเดือดในคราแรก บัดนี้ต่างก็หัวเราะอย่างเริงร่า รำลึกอดีตกันประหนึ่งมิตรสหาย
ในป่าพันยอด
อันหลินกับหลิวเชียนฮ่วนเจอยอดเขาหินนิลดำ เริ่มลงมือเล่นลีคออฟคิง
นี่เป็นช่วงเวลาที่ถูกทารุณอย่างขมขื่นแสนสาหัส ยังไม่ขอกล่าวถึง
เขาทำได้เพียงคุมตัวศัตรูอันตรายหมายเลขหนึ่งคนนี้ไว้ก่อน ค่อยๆ ใคร่ครวญว่าจะช่วยสวีเสี่ยวหลานอย่างไรต่อไป
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของคนมาจากความไม่รู้ อันหลินไม่รู้ว่าต่อไปสวีเสี่ยวหลานจะเจอกับศัตรูแบบไหน ไม่รู้สวีเสี่ยวหลานจะยืนหยัดถึงพรุ่งนี้หรือไม่
หากกำลังเล่นลีคออฟคิง จู่ๆ น้องชายหายไปจะทำอย่างไร
ขณะที่อันหลินกำลังเหม่อลอยอยู่นั่น ฮีโร่นักดาบสายลมของเขาก็ถูกอุกกาบาตที่จิ้งจอกเก้าหางเรียกมากระแทกจนตาย
เสียงโห่ร้องปานกระพรวนดังขึ้นอีกครั้ง
…
วันต่อมา ทั้งสองที่เล่นลีคออฟคิงมาตลอดทั้งคืนต่างก็หาวหวอดๆ
อันหลินมองหญิงสาวที่ผิวค่อนข้างขาวหยวกเจิดจ้าท่ามกลางแสงอรุณ เอ่ยยิ้มๆ ว่า “เอาละ คำสัญญาของข้าเสร็จสิ้นแล้วสินะ”
หลิวเชียนฮ่วนพยักหน้า “นับว่าเจ้ารักษาสัจจะ มิตรภาพเพื่อนตายของเรายังคงอยู่!”
อันหลินคิดๆ แล้วลองถามหยั่งเชิงว่า “งั้นข้าอยากทำข้อแลกเปลี่ยนอย่างหนึ่งกับท่าน ท่านช่วยกำจัดคนให้ข้า ข้าจะเล่นเกมกับท่านอีกหนึ่งวันเป็นอย่างไร”
หลิวเชียนฮ่วนฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ “ใครจะสู้เจ้าได้ เจ้าถึงต้องให้ข้าช่วย”
“ข้ากำลังเป็นคนสงบเสงี่ยมอยู่ ท่านก็รู้นี่นาว่าข้าเป็นคนที่ไม่ชอบทำเท่…”
หลิวเชียนฮ่วนกลอกตา “อย่าเอาแต่เหลวไหลได้หรือไม่ เจ้าอยากทำอะไรกันแน่ ลับๆ ล่อๆ คงไม่ได้เพราะอยากเล่นเกมกับข้าเลยหาข้ออ้างหรอก... เมื่อก่อนข้าให้หินวิญญาณ เจ้ายังไม่ยอมเล่นกับข้าเลย”
อันหลินลังเลครู่หนึ่ง มองหลิวเชียนฮ่วนแล้วเห็นความความหวังในดวงตาของนาง
“ข้าอยากให้สวีเสี่ยวหลานเป็นที่หนึ่ง และข้าติดอันดับเซียนไม่ได้” อันหลินสูดหายใจเข้าลึก ตัดสินใจบอกความจริงกับหลิวเชียนฮ่วน
หลินเชียนฮ่วนเหม่อลอยไปชั่วขณะหลังได้ยินคำตอบ จากนั้นก็ยิ้ม “คำตอบที่ประหลาดเช่นนี้ กลับเหมือนจะเป็นความจริง ถ้าอย่างงั้น ข้าก็เป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของพวกเจ้าสินะ”
ปอยผมที่ลู่ปรกใบหูขาวสะอาดถูกนางรวบขึ้นเบาๆ นัยน์ตาสีม่วงจ้องชายหนุ่มตรงหน้า “ทำไมเจ้าต้องบอกเรื่องนี้กับข้า แบบนี้ไม่มีประโยชน์กับเจ้าเลย”
“เพราะเราเป็นเพื่อนกัน ข้าไม่อยากหลอกลวงท่าน หลอกใช้ท่าน จึงบอกความจริงเสียเลย” อันหลินเผยความคิดในใจออกมา
แววตาของหลิวเชียนฮ่วนสั่นระริก มุมปากยกขึ้นเป็นเส้นโค้งเล็กน้อย แลดูงดงาม “เจ้าไม่มองข้าเป็นคนโง่ แต่เห็นข้าเป็นเพื่อน งั้นข้าก็จะช่วยเจ้าในฐานะเพื่อนแล้วกัน!”
“จริงหรือ” อันหลินตื่นเต้นจนเกือบจะกระโดดโลดเต้นเมื่อได้ยินประโยคนี้
หลิวเชียนฮ่วนพูดอย่างไพเราะว่า “ไม่หลอกเจ้าแน่นอน ที่จริงพอคิดๆ ดูแล้ว เจ้าทำเรื่องนี้ก็น่าสนุกเหมือนกัน”
“ท่านน่ะคิดว่าสนุก นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวโยงถึงความสุขของครึ่งชีวิตข้าเลยนะ จะพลาดไม่ได้แม้แต่นิด!” อันหลินพูดอย่างเคร่งขรึม
“ความสุขครึ่งชีวิตหรือ เจ้าจะใช้โอกาสนี้สารภาพรักกับสวีเสี่ยวหลานหรือ!” หลิวเชียนฮ่วนอุทาน
“พูดอะไรน่ะ!” อันหลินร้อนรน “ไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้น เป็นด้านอื่นต่างหาก!”
หลิวเชียนฮ่วนยกนิ้วชี้ขาวเรียวขึ้นแตะหน้าผาก “อืม…ด้านอื่นหรือ ความสุขครึ่งชีวิต...หรือจะเกี่ยวข้องกับชะตาชีวิตของเจ้า เจ้าจะจบเห่แล้วหรือ”
อันหลินตัวเซ สูดลมหายใจเข้าลึก
ให้ตายสิ ความคิดอะไรเนี่ย แบบนี้ยังคิดได้ด้วยเหรอ!
“เรื่องนี้เกี่ยวกับสวีเสี่ยวหลาน สู้เรามาตั้งชื่อภารกิจครั้งนี้ว่า ‘ช่วยเจ้าบรรลุเซียน คืนชีวิตให้ข้า’ ดีไหม” หลิวเชียนฮ่วนแนะนำ
อันหลิน “…”
สะกดกลั้นความอยากกระอักเลือด เขากับหลิวเชียนฮ่วนหารือแผนการในลำดับต่อไป
พลังของหลิวเชียนฮ่วนจำต้องยับยั้งให้อยู่ในสภาพที่ไม่ใช้กระบี่ เลี่ยงไม่ให้ค่าพลังต่อสู้สูงกว่าสวีเสี่ยวหลาน ส่วนค่าความดี นางไม่สู้กับลูกกะจ๊อก จะจัดการบอสเท่านั้น แบบนั้นค่าความดีจะอยู่ในขอบเขตที่ควบคุมได้
ลำดับต่อไปจะเป็นปัญหาที่ค่อนข้างจริงจัง หากหลิวเชียนฮ่วนไม่ใช้กระบี่จะเอาชนะเซวียนหยวนเฉิง ซูเฉี่ยนอวิ๋นกับจั่วชิวปิงได้จริงหรือ บางทีอาจจะซ้ำมีดได้ แต่ถ้ารบกันซึ่งหน้า ต้องแพ้มากกว่าชนะแน่ๆ
“ที่จริงหากข้าใช้พลังที่แท้จริงเอาชนะจั่วชิวปิง จากนั้นค่อยแพ้สวีเสี่ยวหลาน ต่อให้พลังต่อสู้ของสวีเสี่ยวหลานจะสู้ข้าไม่ได้ แต่ค่าความดีจะสูงกว่าข้าเยอะ อันดับหนึ่งของรั้วสำนักก็เป็นไปได้ว่าจะเป็นนาง!” หลิวเชียนฮ่วนกล่าว
อันหลินพยักหน้า พูดอย่างลังเลว่า “ท่านสามารถลงมือเต็มความสามารถสักตั้ง จากนั้นค่อยแพ้ให้กับสวีเสี่ยวหลาน...เพียงแต่ว่านี่ไม่ใช่เรื่องของท่านเลย ตอนนี้กลับให้ท่านทำ ข้ารู้สึกผิดมาก...”
หลิวเชียนฮ่วนตบไหล่อันหลินยิ้มๆ “นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพื่อความสุขครึ่งชีวิตของเพื่อน ข้าก็จำต้องเสียสละสักครั้ง!”
อันหลินมองหลิวเชียนฮ่วนอย่างซาบซึ้ง ล้วงขนมไหว้พระจันทร์ครึ่งหนึ่งออกจากแหวนมิติ เอ่ยเสียงเบาว่า “นี่เป็นขนมไหว้พระจันทร์ที่ฉางเอ๋อมอบให้ข้า ข้ากินไปครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งที่เหลือข้าให้ท่าน ขอบคุณศิษย์พี่ที่ช่วยข้า!”
เมื่อหยิบขนมไหว้พระจันทร์ออกมา กลิ่นหอมของดอกหอมหมื่นลี้ที่เย้ายวนใจก็อบอวลทั่วยอดเขาหินนิลดำ
หลิวเชียนฮ่วนสูดหายใจเข้าลึกแล้วพูดอย่างตกใจว่า “นี่มันขนมไหว้พระจันทร์ขนานแท้! ใช้ได้นี่นาอันหลิน มีเส้นสายนี่นา แถมยังใจกว้างพอด้วย! ถึงยอมแบ่งคนละครึ่ง!”
อันหลินโบกมืออย่างถ่อมตัว “เรื่องเล็กน้อย เรื่องเล็กน้อยทั้งนั้น”
หลิวเชียนฮ่วนรับขนมไหว้พระจันทร์ไป เงยหน้ามองอันหลินแวบหนึ่ง ดวงตาสีม่วงอวลด้วยความอ่อนโยน “เจ้ายังอยากกินไหม ข้าแบ่งเจ้าอีกครึ่งหนึ่ง”
“ไม่ต้อง ข้ากินไปครึ่งหนึ่งแล้ว! ครึ่งนี้ข้าให้ท่าน!” อันหลินส่ายหน้าอย่างหนักแน่น
ตั้งแต่ตอนที่มอบให้หยินสี่ เขาก็คิดจะมอบครึ่งชิ้นนี้ให้หลิวเชียนฮ่วนแล้ว ตอนนี้ได้โอกาสหยิบออกมาพอดี
บนยอดเขาหินนิลดำ ทั้งคู่รับแสงอรุณรุ่ง มองดินแดนที่ค่อยๆ สวมชุดสีทองชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
หลิวเชียนฮ่วนละเลียดกินขนมไหว้พระจันทร์ ชื่นชมรสโอชาของขนมไหว้พระจันทร์
พระอาทิตย์ค่อยๆ ลอยขึ้นฟ้า ทั้งสองก็เริ่มภารกิจพันธมิตรของพวกเขาแล้ว!