ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 41 อันหลินระเบิดแล้ว
แสงทองสว่างโชติช่วง พุ่งออกมาจากปลายนิ้วของอันหลิน
พลังเหล่านี้เหนือการควบคุมของเขาไปตั้งนานแล้ว จะหลุดออกมาจากนิ้วแล้ว!
ดวงตาของอันหลินฉายความน่ากลัว พยายามอยากควบคุมพลังของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ขณะเดียวกันก็ตะโกนในใจว่า ไม่เอานะ! เก็บเข้าไปสิ!
อย่างน้อย…ก็อย่าให้โดนหวังเสวียนจ้านเลย!
อาจเป็นเพราะความปรารถนาอย่างแรงกล้าของเขาได้ผล หรือเพราะเสียงตะโกนร่ำร้องในใจของเขา ลำแสงตรงปลายนิ้ว มืดมัวลงกะทันหัน พลังก็มลายหายไปอย่างรวดเร็ว
อันหลินชะงัก ยังไม่ทันได้ถอนหายใจ ก็มีแสงสีทองประหนึ่งเส้นไหมที่หลงเหลือตรงปลายนิ้ว พุ่งออกมาจากนิ้ว…
มันทะลวงหน้าผากของหวังเสวี้ยนจ้าน แต่กลับไม่ทำอันตรายกับเขาเลยแม้แต่นิด
ต่อมา มันก็พุ่งลงไปที่พื้นข้างหลังหวังเสวียนจ้าน
ครืน!
พลังมหาศาลระเบิด แผ่นดินเริ่มสั่นสะเทือน!
แสงทองเป็นดั่งกระบี่เทพที่ส่องแสงสว่างไสวเล่มหนึ่ง ที่ทลายปฐพีอย่างสิ้นเชิง รอยแยกลุกลามไปนับพันจั้ง
พลังแห่งมรรควิถีอันบริสุทธิ์ บดขยี้ทุกสรรพสิ่งที่ผ่านมาจนเป็นผุยผง ทำลายเนินเขาระหว่างทางทั้งหมดจนสิ้นซาก!
ไม่นาน พลังก็สลายไป ทุกอย่างกลับสู่ความสงบ
อันหลินมอง ‘รอยแยกขนาดใหญ่’ เบื้องหน้าที่แทบจะไม่เห็นปลายทาง ตะลึงอึ้งงัน
หวังเสวียนจ้านตะลึงงัน หลังเขาสัมผัสได้ว่าอานุภาพอันชวนให้หยุดหายใจรอบตัวหายไปแล้ว ก็ตาเหลือก หมดสติไป…
ณ จัตุรัสหยกขาว หลังลำแสงของดรรชนีอันสะเทือนฟ้าหายไปแล้ว นักเรียนหลายหมื่นคนต่างก็ผ่อนคลาย ราวกับก้อนหินที่ทับอยู่บนตัวถูกยกออกไปแล้ว
ขณะนั้นเอง ก็มีคนจ้องหน้าจอแล้วตะโกนขึ้นมาว่า
“ทุกคนรีบดูนั่นสิ นั่นมันอะไรน่ะ!”
ทุกคนพากันมองไปที่หน้าจอ หลังฝุ่นควันสลายหายไป ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอ ก็ทำให้พวกเขาตะลึงพรึงเพริดกันทุกคน
อานุภาพน่ากลัวเช่นนี้ อย่าว่าแต่ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณ แม้แต่เซียนพสุธาระดับแปลงจิตก็ทำไม่ได้!
ผ่านไปเนิ่นนาน กว่าจะมีนักเรียนตื่นจากภวังค์ตกใจ พึมพำว่า
“นี่เป็นอานุภาพของท่าเมื่อครู่นี้ของอันหลินงั้นหรือ”
คนนับไม่ถ้วนเงยหน้า มองร่างที่ยืนทะนงองอาจอยู่ตรงนั้น
ใบหน้าของเขาเรียบเฉย ชุดนักพรตสีขาวพลิ้วไหวตามแรงลม แลดูยิ่งใหญ่จับต้องไม่ได้
ใช่เขาจริงหรือ
ไม่ว่าจะเป็นหวังเสวียนจ้านที่หมดสติไปแล้ว หรือรอยแยกอันน่าพรั่นพรึงนั่น ล้วนให้ความรู้สึกเหมือนฝันแก่นักเรียนทุกคน
พานปู้อวี่ตบหน้าตัวเองอย่างแรง พูดไม่หยุดว่า “เรากำลังฝันไปแน่ๆ เราต้องไปฝันไปแน่…”
ทว่าไม่นานนัก เหล่านักเรียนก็ยอมรับความจริงข้อนี้
โบราณกล่าวไว้ว่า สิ่งที่ตาเห็นย่อมเป็นความจริง
นักเรียนหลายหมื่นคนเห็นอันหลินใช้นิ้วนั้นอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งผ่านหน้าจอ เรื่องนี้ไม่เท็จแน่นอน และพวกเขายังสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของนิ้วนั้น แม้จะมีหน้าจอขวางกั้น ทว่ามันจะเป็นเรื่องปลอมได้อีกหรือ
ด้วยเหตุนี้ แววตาของนักเรียนมากมายที่มองอันหลิน ล้วนเปล่งประกายขึ้นมาแล้ว
มีนักเรียนหญิงบางคน ใช้สายตาที่รักใคร่ชื่นชมจดจ้องร่างที่อยู่ในหน้าจอ
“ที่แท้เขาต่างหากที่เป็นคนที่สุดยอดที่สุดในรุ่นนักเรียนใหม่!”
“ถุย! เขาเป็นคนที่สุดยอดที่สุดของทั้งสำนักเราแล้ว!”
“สหายอันหลินมีอิทธิฤทธิ์เช่นนี้ ตอนที่ถูกร่ำลือว่าเป็นเด็กเส้นที่เส้นใหญ่สุด ก็ยังนิ่งสงบได้ จิตใจแบบนี้ ช่างน่านับถือนัก!”
หัวข้อของอันหลินสร้างความฮือฮาในจัตุรัสขึ้นมาในพริบตา
ผู้คนยิ่งพูดก็ยิ่งสมจริง สุดท้าย อันหลินก็ถูกฉาบด้วยรัศมีอันแสนวิเศษไปโดยปริยาย…
แม้แต่สวีเสี่ยวหลาน เซวียนหยวนเฉิงที่สนิทสนมกับอันหลิน ก็รู้สึกราวกับเพิ่งรู้จักเขาครั้งแรก
หลิวต้าเป่าได้ทีโอ้อวดกับคนรอบข้างอย่างกระหยิ่มใจว่า เขาเคยสู้อย่างสูสีคู่คี่กับอันหลินด้วย
…
แนวโน้มของหัวข้อเริ่มไม่เข้าท่าแล้ว
“อ๊าก! อันหลิน ข้าจะคลอดลูกให้เจ้า!”
“อันหลินเป็นของข้า เจ้าหลีกไป!”
“ทุกคนล้วนมีสิทธิ์จีบอันหลิน เราต้องแข่งกันอย่างเท่าเทียม!”
“เอาล่ะๆ ข้าเป็นเพื่อนร่วมห้องของอันหลิน หากต้องการนัดพบอันหลินอย่างใกล้ชิด ชายยืนทางนี้ หญิงยืนทางนั้น ข้าจะจดบันทึกไว้ จากนั้นรายงานเขา…”
ความเหนือชั้นของอันหลินทั้งชายหญิงล้วนหลงใหล บรรยากาศคึกคักเป็นพิเศษ
ขณะนั้นเอง ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมา ทำให้ทั่วทั้งบริเวณเงียบลงทันใด
“พวกเจ้าเลิกเถียงกันได้แล้ว อันหลินอยู่กับหมาสีขาวตัวนั้น พวกเจ้าลืมฉายาคู่หูมนุษย์สุนัขไปแล้วหรือ!”
เมื่อประโยคนี้ดังขึ้น ผู้คนก็ได้สติกันระนาว
“นั่นสิ หมาสีขาวตัวนั้นกับอันหลินต่อสู้กันอย่างรู้ใจ พวกเขารบเคียงบ่าเคียงไหล่ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน พันธนาการของพวกเขาลึกซึ้งเช่นนี้ พวกเขาเป็นคู่กันต่างหาก!”
จ้าวหวายหยินที่อยู่อีกมุมหนึ่งได้ยินประโยคนี้ ก็ร้องไห้จนเป็นลมคาห้องน้ำ
ทว่ายังคงมีแฟนคลับจำนวนมากไม่ยอมถอดใจ ต่างก็จ้องมองสุนัขสีขาวบนหน้าจอด้วยสายตาเย็นเยือก คิดแผนการในใจ…
ในป่าพันยอด จู่ๆ ต้าไป๋ก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว ซ้ำยังจามขึ้นมาดื้อๆ
ความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกัน มีศัตรูอีกแล้วหรือ!
สีหน้าของต้าไป๋เปลี่ยนไป มองซ้ายแลขวา กลับไม่พบความผิดปกติอะไร
มันมองอันหลิน พบว่าเขายังยืนอยู่ที่เดิม ท่าทางสง่างาม จึงอดตะโกนไม่ได้ว่า “โฮ่ง! แม้ว่าเจ้าจะเลิศล้ำ แต่วางท่านานขนาดนี้แล้ว ยังไม่พออีกหรือ”
เจ้าคิดว่าข้าอยากวางท่าวางทางมากหรือไง!
อันหลินอยากพูดกับต้าไป๋ แต่พูดไม่ออกเลยสักนิด
เขาในตอนนี้ หมดสิ้นความรู้สึกแล้ว เป็นเช่นเดียวกับตอนที่ใช้ดรรชนีวิถีสวรรค์ สูญเสียการควบคุมไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
กลางนภา เซียนพสุธาชางชิงไม่รู้ว่าควรจะมองอันหลินด้วยสีหน้าแบบไหน
คนคนนี้เป็นนักเรียนที่เขารู้จักคนนั้นจริงหรือ สังหารเขาได้ภายในนิ้วเดียวแล้วกระมัง!
เซียนพสุธาชางชิงหันไปมองรองผู้อำนวยการอวี้หัว กลับพบว่าสีหน้าของเขาไม่ได้ดีไปกว่าตัวเองมากนัก
มิหนำซ้ำ รองผู้อำนวยการอวี้หัวดูจะตกใจกว่าเขาหลายเท่า จวบจนตอนนี้แล้วก็ยังไม่ได้สติ
เซียนพสุธาชางชิงบันทึกข้อมูลสถิติต่อ
หวังเสวียนจ้าน ค่าพลัง 1200 ค่าความดี 8100 ปล. แพ้ด้วยน้ำมืออันหลิน
อันหลิน ค่าพลัง …
เมื่อถึงคราวต้องเขียนของอันหลิน มือพลันชะงัก เบนสายตามองรองผู้อำนวยการอวี้หัวด้วยสายตาอ้อนวอน พูดเสียงเบาว่า “รองผู้อำนวยการ ไม่ทราบว่าค่าพลังของอันหลินควรเขียนเท่าใด”
รองผู้อำนวยการอวี้หัวได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ก็เริ่มได้สติ มองชายชราข้างกายแล้วพูดว่า “ชางชิงเอ๋ย ในเวลาแบบนี้เจ้ายังคิดจะบันทึกสถิติอีกหรือ ความรักในหน้าที่เช่นนี้ข้าช่างซาบซึ้งยิ่งนัก…
แต่ทว่าหากนิ้วเมื่อครู่นี้ของอันหลินปล่อยพลังออกมาเต็มที่ ไม่แน่ว่าอาจจะผ่าแผ่นดินลอยฟ้าแห่งนี้เป็นสองซีกก็ได้ ค่าพลังแบบนี้ ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะเขียนเท่าใด!”
ชางชิงได้ฟัง ก็แน่นิ่งไปอีกครั้ง
อะไรนะ! อันหลินยังไม่ได้ปล่อยพลังออกมาทั้งหมดงั้นหรือ
ถ้าปล่อยทั้งหมดออกมาสามารถผ่าแผ่นดินแห่งนี้เป็นสองซีกได้!
“อันหลินคงไม่ใช่ผู้เที่ยงแท้องค์ใดปลอมตัวมา ว่างเว้นจนเบื่อหน่ายจึงมาเที่ยวเล่นที่สำนักหรอกนะ”
ชางชิงรู้สึกว่าตนตกใจจนเกือบจะร้องไห้แล้ว นี่เขายังเป็นนักเรียนอยู่หรือไม่ ไม่ใช่นักเรียนแน่!
ขณะนั้นเอง จู่ๆ รองผู้อำนวยการอวี้หัวก็จ้องอันหลินที่อยู่เบื้องล่างอย่างฉงนใจ “ดูเหมือนอาการของอันหลินจะไม่ค่อยสู้ดี”
มีเสียงติ้งดังขึ้นในสมองของอันหลิน มีแจ้งเตือนปรากฏขึ้นมา
‘ขอแสดงความยินดี ภารกิจหมื่นคนยกย่องสำเร็จแล้ว เปิดวิชาแห่งอานุภาพอย่างเป็นทางการ!’
เขามึนงงเล็กน้อย วิชาแห่งอานุภาพถูกเขาจัดให้เป็นภารกิจที่ไม่มีทางทำสำเร็จได้ ทำไมจู่ๆ ถึงสำเร็จแล้วล่ะ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
จากนั้น ไม่รอให้เขาคิดหาต้นสายปลายเหตุ เขาก็รู้สึกว่าปวดเนื้อปวดตัว
ติ้ง
‘ตรวจสอบพบว่าโฮสต์กำลังถูกวิถีสวรรค์แว้งกัด เปิดระบบป้องกันตัว…’
อันหลินสะดุ้ง วิถีสวรรค์แว้งกัดอะไรกัน หรือจะเป็นผลข้างเคียงของท่าเมื่อครู่นี้
ความเจ็บปวดปานจะขาดใจเริ่มก่อตัวขึ้น มันเป็นความรู้สึกที่เหนือคำบรรยาย ราวกับทุกอณูของร่างกายกำลังฉีกออก
ขณะนั้นเอง เขาก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ คล้ายจะระเบิดอย่างไรอย่างนั้น
ตูม!
อันหลินระเบิดแล้ว!
ร่างกายของเขาระเบิดเป็นเลือดจำนวนมหาศาล ท่ามกลางสายตาจับจ้องของนักเรียนหลายหมื่นคน ภายใต้ดวงตาของรองผู้อำนวยการอวี้หัว
เลือดหนืดข้นลอยล่องกลางอากาศ เป็นดั่งดอกไม้ขนาดมหึมาที่เบ่งบาน…
………………………………….