ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 44 ยินดีด้วย ถูกรางวัลใหญ่!
ข่าวการฟื้นของอันหลิน กระจายไปทั่วสำนักราวกับพายุหมุน
ถูกขนานนามว่าเป็นอันดับหนึ่งไร้เทียมทาน ผู้ซึ่งโดดเด่นเหนือใคร!
เพียงชั่วพริบตา นักเรียนต่างก็พากันมาเยี่ยมเยียน ของขวัญกองเต็มห้องเก็บของ!
บอกตามตรง ประหลาดใจเพราะเป็นที่โปรดปรานไม่เพียงพอจะนิยามอารมณ์ในตอนนี้ของเขาแล้ว
ความรู้สึกของเขาตอนนี้คือ ประหลาดใจเพราะเป็นที่โปรดปรานอย่างมหันต์!
กระต่ายจันทราเห็นว่าอันหลินไม่เป็นไรแล้ว และเหมือนว่าสมองจะไม่มีปัญหาอะไร จึงเดินทางกลับวังจันทรา
เมื่อสวีเสี่ยวหลานเห็นอันหลินฟื้นแล้ว ดวงตาก็แดงระเรื่อ ยื่นกระบี่แก้วสีทองเล่มหนึ่งให้เขา
มันเป็นศาสตราวุธชั้นสูง เป็นรางวัลที่อันหลินได้ตอนเข้าร่วมศึกแห่งอิสรภาพ
เพราะตอนรับรางวัลอันหลินยังนอนสลบไสล สวีเสี่ยวหลานจึงช่วยรับแทนเขาก่อน
นอกจากนี้ เพราะอันหลินเป็นนักเรียนที่ติดอันดับเซียนด้วย จึงมีโอกาสเข้าไปหลอมกายในเจดีย์หยก แต่เพราะตอนที่เจดีย์หยกเปิด เขายังไม่ได้สติ จึงพลาดโอกาสไป…
มีอีกเรื่อง เพราะอันหลินโดดเด่นในศึกแห่งอิสรภาพ มีโอกาสได้ขึ้นเขาสุสานเทวะพร้อมกับผู้แข็งแกร่งสิบอันดับแรกของสำนัก เพื่อศึกษามรรควิถี แต่เพราะตอนที่เขาสุสานเทวะเปิด เขายังสลบเหมือดอยู่ จึงพลาดโอกาสไปอีกครั้ง…
หลังอันหลินฟื้นขึ้นมา ได้รู้ข่าวพวกนี้ เรียกได้ว่าน้ำตาไหลพราก ไม่ใช่สิ่งที่จะใช้คำว่าพลาดเงินร้อยล้านมานิยามได้
มีอีกประการหนึ่ง ก็คือว่าที่เขาสลบครั้งนี้ เขาสลบไปสองเดือนเต็มๆ!
โชคดีที่การระเบิดตัวเองในครั้งนี้ไม่มีผลข้างเคียงอะไร
หลังฟื้นขึ้นมา เขาไม่ได้รู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรง กลับรู้สึกมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยมด้วยซ้ำ ราวกับมีพละกำลังที่ใช้ไม่หมด คิดว่านี่คงจะเป็นสรรพคุณของเม็ดยาสรรสร้างชีวิตด้วยเช่นกัน
อันหลินกับสวีเสี่ยวหลานกำลังเยื้องย่างในรั้วสำนัก
เพิ่งหายจากอาการป่วย ออกไปเดินเล่นให้มากหน่อยยิ่งดี
ระหว่างนี้ สวีเสี่ยวหลานยังพูดเรื่องอันดับใหม่ล่าสุดของอันดับเซียนให้เขาฟังอีกด้วย
แม้นิ้วนั้นของอันหลินจะน่าตะลึงพรึงเพริด แต่มันเป็นท่าที่ต้องแลกด้วยชีวิต
แต่เพราะสำนักคำนึงถึงความปลอดภัย จึงไม่รวมคะแนนของท่านี้ใส่ในค่าพลังของเขา
ด้วยเหตุนี้ อันดับของอันหลินจึงอยู่ที่ยี่สิบสาม เป็นนักพรตที่มีอันดับสูงสุดนอกเหนือจากนักพรตหล่อเลี้ยงวิญญาณ
การจัดอันดับไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวตนเหนือชั้นในสำนักของเขาเลยสักนิด
นักเรียนยังคงยกเขาให้เป็นอันดับหนึ่งที่แท้จริงของสำนัก
เมื่ออันหลินได้ยินข่าวนี้ก็ยิ้มขมขื่น มูลค่าของการเสแสร้งครั้งนี้สูงมากเหลือเกิน เกือบตายเพราะร่างกายระเบิด แถมยังติดหนี้บุญคุณฉางเอ๋ออย่างยากจะทดแทนได้
ส่วนท่าที่ถึงตายแบบนี้…ให้ตายเขาก็ไม่มีทางใช้เป็นครั้งที่สอง!
แม้หวังเสวียนจ้านจะตกใจกลัวจนสลบเหมือด แต่ค่าพลังของเขายังคงสูงที่สุดในสำนัก ได้อันดับหนึ่งไปครอง
หลิวเชียนฮ่วนอันดับสอง หยางเฉิงอู่อันดับสาม
เซวียนหยวนเฉิงกับซูเฉี่ยนอวิ๋นต่างก็คว้าอันดับเก้าและแปดไปครองด้วยความสามารถของตัวเอง นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่ค่อนข้างฮือฮาในสำนักเหมือนกัน
มีตอนพิเศษโผล่มาด้วย นั่นก็คือต้าไป๋ ‘สัตว์คู่กายอันหลิน’ ไม่ติดหนึ่งในอันดับเซียน ทำให้เกิดการประท้วงไม่น้อยเลย
แต่ว่า ทางสำนักให้คำอธิบายว่า
ต้าไป๋เป็นสัตว์เทพ ไม่ใช่เซียน! หากจะติดอันดับต้องสร้างอันดับสัตว์ก่อน ค่อยประเมินอันดับ…
กับเรื่องนี้ อันหลินก็ยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน
เมื่อวานต้าไป๋มาเยี่ยมเขา ก็เคยระบายทุกข์กับเขาเช่นกัน ทั้งๆ ที่มันทำงานอย่างหนัก พฤติกรรมดีงาม แต่กลับไม่ได้สิ่งตอบแทน
และยามมันอยู่ในรั้วสำนักยังเกิดความหวาดกลัวอยู่บ่อยครั้ง ราวกับมีคนกำลังจ้องมัน จะจับมันกินอย่างไรอย่างนั้น
อันหลินเชื่อว่า คนพวกนี้หากไม่ใช่คนที่เคยถูกคู่หูมนุษย์สุนัขจัดการ ก็คงเป็นแฟนคลับผู้คลั่งไคล้เขาอย่างรุนแรง
ใช่แล้ว ตอนนี้อันหลินมีแฟนคลับกลุ่มใหญ่แล้ว!
ตอนนี้เขาเป็นดาราดังแล้ว!
แม้แต่ตอนนี้ที่เดินเล่นกับสวีเสี่ยวหลาน ยังคงมีนักเรียนไม่น้อยตามหลัง…
อันหลินอุทานเบาๆ ว่า แดนบำเพ็ญเซียนก็นิยมคลั่งไคล้ดาราด้วยเหรอ
เขาดูถูกดรรชนีวิถีสวรรค์เสียแล้ว ไม่คิดว่าจะสร้างความแตกตื่นให้กับทุกคนแบบนี้!
เมื่อพูดถึงดรรชนีวิถีสวรรค์ เขาก็นึกถึงเฉินเฉิน
เพราะเฉินเฉิน เขาถึงได้รู้ท่าที่น่ากลัวพรรค์นี้ เฉินเฉินคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
“จริงสิ เฉินเฉินอยู่อันดับที่เท่าใดหรือ” อันหลินถาม
“เฉินเฉิน…คือใคร” สวีเสี่ยวหลานขมวดคิ้ว ถามอย่างแปลกใจ
“หา ชายหนุ่มคนที่ทำให้หวังเสวียนจ้านตกใจจนทรุดลงไปคนนั้นไงเล่า!” อันหลินอธิบาย
“อ๋อ! เขาน่ะเหรอ จำได้รางๆ ว่า…เหมือนจะไม่มีชื่อเขาในอันดับเซียนนะ…” สวีเสี่ยวหลานทำหน้ากระจ่างแจ้ง
จำได้รางๆ เองงั้นเหรอ
ภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจขนาดนี้ อันหลินมาคิดย้อนไปในตอนนี้ ในใจยังตะลึงไม่หาย แต่นางเกือบลืมเฉินเฉินไปงั้นเหรอ
ฉากนี้อาจารย์ก็น่าจะเห็นด้วยเหมือนกัน ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่ติดอันดับเซียนนี่นา
อันหลินส่ายหน้า ไม่คิดเรื่องนี้อีก
ทุกคนอาจจะร่วมมือกันปกปิดก็ได้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะยุ่งได้
สรุปแล้ว อันหลินได้ประโยชน์จากศึกแห่งอิสรภาพไม่น้อยเลยทีเดียว
โยนท่าระเบิดสังหารตัวเองพรรค์นั้นทิ้งไปไม่ขอพูดถึง ระดับพลังยุทธ์ของเขาเลื่อนจากกายแห่งมรรคขั้นเจ็ดเป็นขั้นเก้า ได้พลังบงกชพสุธาขั้นหนึ่งมา ซ้ำยังมีวิชาแห่งอานุภาพอีกด้วย
นอกจากนี้ เขายังได้กินเม็ดยาวิเศษขั้นสอง ร่างกายเปี่ยมด้วยพละกำลัง ได้ของขวัญจากแฟนคลับอย่างล้นหลาม ได้ศาสตราวุธชั้นสูงมาด้วย…
ประโยชน์ไม่น้อยเลยจริงๆ!
อ้อ จริงด้วย เราติดอันดับเซียน ได้สุ่มจับรางวัลจากระบบอีกด้วย!
อันหลินเปิดระบบในสมอง เปิดแถบภารกิจพิเศษขึ้นมา
‘ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ทำภารกิจสำเร็จ ตอนนี้ได้โอกาสจับฉลากรางวัลอาวุธหนึ่งครั้ง ในการจับฉลากครั้งนี้มีโอกาสจะได้รับ
ศาสตราวุธ (100 ชิ้น) อาวุธวิเศษ (50 ชิ้น) อาวุธเซียน (10 ชิ้น) อาวุธพิเศษ (2 ชิ้น)’
อันหลินดูระบบด้วยสายตาที่เร่าร้อน
ไม่คิดว่าจะสามารถจับรางวัลอาวุธวิเศษในระบบได้เพียงอย่างเดียว แต่มีแม้กระทั่งอาวุธเซียนด้วยซ้ำ!
แค่อาวุธวิเศษก็เป็นของล้ำค่าของสำนักบำเพ็ญเซียนทั่วไปแล้ว ส่วนอาวุธเซียน มันเป็นถึงของล้ำค่าประจำสำนักของสำนักบำเพ็ญเซียนชั้นสูง!
แม้จะไม่รู้ว่าอาวุธพิเศษคืออะไร แต่คงจะเป็นของที่เจ๋งสุดๆ ไปเลย!
อันหลินกลืนน้ำลาย เริ่มกดเลือกจับฉลากในสมอง
จู่ๆ ระบบก็ส่องแสงสว่างไสวขึ้นมาทันใด!
ติ้ง!
‘ยินดีด้วย คุณได้รางวัลใหญ่’
อันหลินได้ยินใจก็เต้นระรัว ตื่นเต้นจนแทบจะขาดอากาศหายใจแล้ว
ได้รางวัลใหญ่แล้ว!
ได้ยินไหม เราได้รางวัลใหญ่แล้ว!
อาวุธเซียนเหรอ
อันหลินจ้องระบบ เห็นระบบแจ้งเตือนเพียงว่า
‘ขอแสดงความยินดี คุณได้อาวุธพิเศษ: ก้อนอัลลอยแรกกำเนิด!
ก้อนอัลลอยทนทานอย่างยิ่ง เป็นก้อนอิฐที่แข็งที่สุดในโลก!
ก้อนอัลลอยวิจิตรประณีต ลวดลายคมชัด ประณีตอันดับหนึ่งของโลก!
ก้อนอัลลอยดำสนิท ดำที่หนึ่งในโลก!’
พรึ่บ
ก้อนอิฐดำสนิทปรากฏในมือของอันหลิน
อืม…สัมผัสดีมาก มีเนื้อสัมผัสของโลหะ…
อันหลินตัวสั่นเทา รู้สึกว่าไฟโทสะสุมอยู่ในอก
ก็แค่ก้อนอิฐไม่ใช่เหรอ
ไม่ว่าจะโม้ให้ดูเจ๋งอย่างไร มันก็เป็นแค่ก้อนอิฐไม่ใช่หรือไง!
ก็เหมือนก้อนอึ ต่อให้เป็นของนางฟ้า ก็เปลี่ยนแปลงธาตุแท้ของมันไม่ได้!
รางวัลใหญ่ที่ระบบว่า เป็นแค่ก้อนอิฐงั้นเหรอ
คนอื่นต่อสู้ล้วนใช้ดาบใช้กระบี่ จะให้เขาถือก้อนอิฐ วิ่งไปทุบท้ายทอยคนอื่นงั้นเหรอ
อันหลินหน้ามืด ร่างกายที่เพิ่งหายจากอาการป่วย เกือบจะเป็นลมล้มพับเพราะก้อนอิฐดำทะมึนในมือ…
……………………………………..