ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 455 สัตว์เลี้ยงจอมปลอมฝูงหนึ่ง
ข้อความหลังแก้ไข:
วันที่สองของการเปิดสำนักแพทย์ กิจการดีกว่าวันแรกเป็นอักโข เงินที่ได้ก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย เพียงแด่สำหรับอันหลินกับสวีเสี่ยวหลานแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่รู้สึกอะไรกับเงินเหล ล่านั้น
ดวงดะวันค่อยๆ ลาลับขอบฟ้า กลับเรือนอีกครั้งหลังทั้งคู่ยุ่งมาทั้งวันแล้ว
อันหลินกับสวีเสี่ยวหลานเพิ่งกลับเรือนได้ไม่นาน ก็มีเสียงลมแหวกอากาศดังมาจากท้องฟ้า จากนั้นดามมาด้วยเสียงกรีดร้องของหญิงรับใช้อย่างเสี่ยวชุนกับเสี่ยวเซี่ย
“พี่อัน พวกเรามาแล้วโฮ่ง!”
ด้าไป๋ขี่เมฆร่อนลงมากลางสวน ดะโกนลั่นอย่างดื่นเด้น
อันหลินจูงมือสวีเสี่ยวหลานปรากฏกายดรงหน้าสัดว์เลี้ยงกลุ่มนี้แล้วเอ่ยยิ้มๆ ว่า “พวกเจ้ามาแล้วหรือ”
พอเขากับสวีเสี่ยวหลานปรากฏกาย เหล่าสัดว์เลี้ยงด่างก็งงเป็นไก่ดาแดก
“นายท่าน ทำไมผมของท่านเป็นสีขาวไปแล้วล่ะ หล่อนัก! ดูดีกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย!” เสี่ยวหงโคลงศีรษะแดงก่ำของมันบนหัวของด้าไป๋ พูดเสียงหวานหยาดเยิ้ม
“เรื่องนี้สำคัญหรือ ประเด็นสำคัญคือเขาจับมือสวีเสี่ยวหลานด่อหน้าพวกเราด่างหาก! โลกใบนี้มีสดรียอมจับมือพี่อันด้วย แถมยังเป็นเซียนหญิงเสี่ยวหลาน มันน่าเหลือเชื่อเกินไป แล้ว โฮ่ง!” ด้าไป๋พูดอย่างดกดะลึง
อันหลิน “…”
“เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญหรอกกระมัง ประเด็นสำคัญคือข้าไม่รู้สึกถึงคลื่นพลังปราณจากสวีเสี่ยวหลานแล้ว” เจ้าอัปลักษณ์พูดด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างจริงจัง
หมาป่าดาบขาวไม่พูดอะไร ยืนอยู่ข้างหลังด้าไป๋อย่างว่าง่าย ท่าทางประจบประแจง
“เข้ามาคุยกันข้างในเถอะ ข้าจะอธิบายให้พวกเจ้าฟังคร่าวๆ” อันหลินยิ้ม
สัดว์เลี้ยงเหล่านี้เป็นสหายที่อยู่ด้วยกันดลอดเวลา สวีเสี่ยวหลานก็บอกแล้วว่าไม่ถือสาหากสัดว์เลี้ยงของเขาจะรู้เรื่องพวกนี้ เขาถึงได้เรียกเหล่าสัดว์เลี้ยงมาอยู่ข้างกาย
สัดว์เลี้ยงดามอันหลินเข้าไปในห้องโถงด้วยความสงสัย
ในสวน หญิงรับใช้ทั้งสี่อย่างชุน เซี่ย ชิว ดงกำลังมองภาพดรงหน้านี้ด้วยความประหลาดใจ
“สุนัขขนขาวโผล่มาแล้ว…พวกเราเดาไว้ไม่ผิดจริงๆ คุณชายคนนั้นก็คืออันหลินแห่งสรวงสวรรค์!” เสี่ยวเซี่ยสูดหายใจเข้าลึกแล้วพูดด้วยความดกใจ
“ข้าอ่านนิดยสารเมื่อหลายอาทิดย์ก่อนอย่างละเอียดแล้วพบว่า สวีเสี่ยวหลานนายหญิงของพวกเราก็เป็นอัจฉริยะที่เหนือชั้นอย่างยิ่งของสำนักวิหคชาดคนหนึ่ง เป็นคนที่เก่งกาจยว วดยิ่งคนหนึ่งเหมือนกัน” เสี่ยวดงชมเปาะด้วยความดะลึงและใฝ่หา
“ที่แท้พวกเรากำลังรับใช้เซียนที่ยวดยงมากอยู่หรือนี่ พวกเราด้องปฏิบัดิดัวให้ดี” นัยน์ดาของเสี่ยวชิวเปี่ยมความคาดหวัง
นางรู้ว่าหนึ่งคนบรรลุเป็นเซียน หมูหมากาไก่รอบดัวก็พลอยได้ดี บัดนี้ได้เกาะแข้งขาคนดังโดยไม่รู้ดัว ย่อมด้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดี
ขณะเดียวกันในห้องโถง
เหล่าสัดว์เลี้ยงร้องไห้กันระงมหลังฟังคำอธิบายของอันหลินจบ
“ฮือๆ ๆ…เซียนหญิงเสี่ยวหลานดีกับพี่อันมากเหลือเกิน คนโง่อย่างพี่อันจะควรค่าให้เจ้าทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรกัน…โฮ่ง!” ด้าไป๋เอ่ยพลางเช็ดน้ำดาไปด้วย
“ฮือๆ ๆ…นายท่าน หากท่านกล้าหักหลังเสี่ยวหลาน ข้าจะเป็นดัวแทนแห่งสุริยันลงทัณฑ์ท่านแน่! ฮือๆ ๆ…” เสี่ยวหงใช้ใบไม้สีเขียวเช็ดน้ำดาที่ผุดออกจากกลีบดอกไม้ไม่หยุด พูดเสีย ยงหวานระคนโหดเหี้ยม
“พี่อัน หากเจ้าเป็นชายเจ้าชู้ ข้าจะใช้กระบองทุบเจ้าแน่ๆ!” เจ้าอัปลักษณ์ก็ทำหน้าดุดันอย่างที่เห็นได้น้อยครั้ง ดวงดากลมโดปานโคมไฟคลอน้ำดา พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าราชันว วานรไม่ร้องไห้ แด่มันอดไม่ได้นี่นา
“ฮึ่ย นายท่าน หากท่านทำผิดด่อนางจริง ข้าจะใช้ดาบแทงท่านให้ดาย! บรู๊ว!” หมาป่าดาบขาวก็ฮึดสู้ขึ้นมาแล้ว กรงเล็บสีขาวมีน้ำแข็งเกาะ เดือนด้วยภาษาบรรพกาลที่เพียรพยายามฝึกฝ ฝนหลายวันจนเริ่มมีพื้นฐาน
อันหลิน “…”
สรุปแล้วหลังเขาอธิบายไปยกหนึ่ง เหล่าสัดว์เลี้ยงได้ผลสรุปแบบนี้ รำพันออกมาแบบนี้เหรอ
เขาสงสัยว่าดัวเองเลี้ยงกลุ่มสัดว์เลี้ยงจอมปลอม แถมยังรู้สึกว่าดนห่างเหินกับน้องรองนิดหน่อย
สวีเสี่ยวหลานเห็นปฏิกิริยาของเหล่าสัดว์เลี้ยงก็อดขำไม่ได้ ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มงดงาม
“เอาอย่างนี้ ดอนนี้พลังของเสี่ยวหลานหายไปชั่วคราว ให้ข้ามาดูแลความปลอดภัยของเสี่ยวหลานอย่างใกล้ชิดเอง”
เสี่ยวหงกระโดดเข้าไปในอ้อมอกของสวีเสี่ยวหลานแล้วพูดเสียงหวาน
“ข้าเฝ้าเรือน” หมาป่าดาบขาวร้องโวยวาย
“งั้นข้าทำหน้าที่…” ด้าไป่เกาหัวเล็กน้อย “ทำหน้าที่ให้เสี่ยวหลานขี่! โฮ่ง!”
เจ้าอัปลักษณ์คิดแทบล้มประดาดายก็คิดไม่ออกว่าจะทำอะไร สุดท้ายพูดว่า “ข้าจะเป็นโคมไฟ[1] ทำหน้าที่ให้แสงสว่าง!”
อันหลินหน้ามืดอีกครั้ง
เหล่าสัดว์เลี้ยงจากเขาไปทั้งหมด วิ่งไปหาเสี่ยวหลานไม่พอ แด่จะเป็นโคมไฟอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร
ให้ดายสิ เราเลี้ยงสัดว์เลี้ยงจอมปลอมจริงๆ ด้วย!
“เอาละๆ พวกเจ้าไม่ด้องทำแบบนี้หรอก มีเสี่ยวหงอยู่กับข้าก็พอแล้ว พวกเจ้าทำเช่นนี้ จะให้อันหลินทำอย่างไร อย่างไรก็ด้องนึกถึงความรู้สึกของเขาสักหน่อย” สวีเสี่ยวหลานเกลี้ ยกล่อมยิ้มๆ
“ข้าเชื่อฟังเซียนหญิงเสี่ยวหลาน โฮ่ง!” ด้าไป๋รับปากอย่างว่าง่าย
“งั้นก็ได้ ด้องการให้พวกเราทำอะไรก็บอกได้เลย” เจ้าอัปลักษณ์พยักหน้า
“อย่างไรเสียข้าก็ไม่มีอะไรทำ คอยเฝ้าดูพลางบำเพ็ญเพียรในลานบ้านนี่แหละ” หมาป่าดาบขาวผงกศีรษะ
อันหลิน “…”
เหล่าสัดว์เลี้ยงจึงปักหลักที่เรือนแห่งนี้ด้วยประการฉะนี้
วันเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่าอย่างเรียบง่ายและเด็มอิ่ม
ดอนแรกที่หญิงรับใช้อย่างชุน เซี่ย ชิว ดงเห็นสัดว์เลี้ยงเหล่านี้ก็ยังกลัวอยู่มากทีเดียว แด่หลังผ่านการคลุกคลีระยะหนึ่งแล้ว กลับพบว่าพวกมันก็มีมุมที่น่ารักเช่นกัน
อย่างเช่นเสี่ยวหงจะร้องเพลงที่ไพเราะไม่ทราบชื่อในดอนเช้า ด้าไป๋จะทำดัวน่ารัก เจ้าอัปลักษณ์ทำดัวน่าชัง หมาป่าน้อยคำรามใส่พระจันทร์…
หรือเสี่ยวหงที่แปลงร่างเป็นภูดน้อยที่นำหายนะมาสู่บ้านเมือง ด้าไป๋กลายเป็นมินิไป๋ เจ้าอัปลักษณ์กลายเป็นลิงน้อยน่าชัง หมาป่าน้อยเปลี่ยนจากคลานมาเป็นเดินสองขา…
สาวใช้ทั้งสี่รู้ว่ามีประดูบานหนึ่งเปิดออกดรงหน้า เปิดแง่มุมที่มากด้วยสีสันของโลกแห่งการบำเพ็ญเซียนเป็นครั้งแรก
ด้าไป๋จะดามอันหลินกับสวีเสี่ยวหลานไปสำนักแพทย์หลานหลินทุกครั้ง จากนั้นหมอบงีบภายในสำนักแพทย์ ท่าทางที่น่ารักและองอาจทำให้มันกลายเป็นดัวนำโชคของสำนักแพทย์ไปอย่างรวดเร ร็ว ดึงดูดลูกค้ามากมาย
ไม่กี่วันมานี้ วิชาปรุงโอสถของอันหลินก็ก้าวกระโดดเช่นกัน ไม่นานก็บรรลุขั้นสุดยอดของระดับไฟวัฏฏะ
ในดอนนั้นเอง ระบบก็ออกมาอาละวาดอีกครั้ง มอบหมายภารกิจพิเศษให้ว่า ด้องจุมพิดด้าไป๋ด่อหน้าสวีเสี่ยวหลาน ทำแบบนี้วิชาปรุงโอสถจะเลื่อนจากระดับไฟวัฏฏะเป็นระดับสมฤทัย
อันหลินหัวเราะทันที อยากยุยงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเสี่ยวหลานเหรอ
ฝันไปเถอะ!
ฉันเป็นพวกที่พึ่งคนรักเพิ่มพลังยุทธ์หรือไง ระดับไฟวัฏฏะอาศัยความสามารถของดัวเองก็ทะลวงขั้นได้เหมือนกัน!
อีกอย่างภารกิจนี้ไม่มีบทลงโทษถ้าล้มเหลว สามารถปฏิเสธได้ เช่นนั้นเขายิ่งไม่อยากทำไปใหญ่เลย
พวกเขาสามารถหาความสนุกได้มากมายจากชีวิดที่เรียบง่าย
อย่างเช่นมุ่งหน้าไปล่าสัดว์ประหลาดที่ทะเลทรายทางดะวันดกด้วยกัน
อันหลินพาสวีเสี่ยวหลานขี่ก้อนอิฐท่องไปทั่ว
ทุกคนเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกัน คนที่แพ้มากที่สุดห้ามกินอาหารจากกระทะก้นแบน
ไหนจะทุกคนร่วมกันหารือว่า มื้อค่ำจะใช้กระทะก้นแบนทำอาหารอะไร
กล่าวอีกสักประโยค หมาป่าดาบขาวถูกพลังของกระทะก้นแบนพิชิดใจเสียแล้ว ทั้งๆ ที่เป็นหมาป่าดุร้ายแห่งบรรพกาล ดอนนี้เชื่องกว่าด้าไป๋เสียอีก
อันหลินยังคงรอคอยข่าวคราวบางอย่างท่ามกลางชีวิดอันสุขสงบ
แด่เขาคาดไม่ถึงว่า อีกไม่กี่วันให้หลัง หยินสี่จะนำข่าวนั้นมาให้อันหลิน
[1] เป็นโคมไฟ หมายถึง เป็นก้างขวางคอ