ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 456 มหาเทพเต้าเต๋อเทียนจุนมาแล้ว
มันเป็นค่ำคืนที่ลมสารทโชยชาย หลังทุกคนวุ่นวายมาทั้งวันแล้ว ต่างก็เริ่มพักผ่อนในห้องโถง
อากาศที่เย็นสบายแบบนี้ เหมาะแก่การเล่นไพ่นกกระจอกในห้อง!
เสี่ยวหงมีเพลงแบ็คกราวน์ส่วนตัว ฮัมทำนองไพ่นกกระจอกที่สนุกสนาน
อันหลิน สวีเสี่ยวหลาน ต้าไป๋และเจ้าอัปลักษณ์กำลังเล่นกันได้ที่ สาวใช้ชุน เซี่ย ชิว ตงก็มุงดูอย่างคึกคักเช่นกัน สนอกสนใจของเล่นที่แปลกใหม่เช่นนี้อย่างยิ่ง
อันหลินกำลังพยายามรักษาความสมดุลบางอย่างอยู่ เขาทั้งหวังว่าสวีเสี่ยวหลานจะใช้ชีวิตในสภาพของคนธรรมดาได้อย่างมีความสุข ขณะเดียวกันก็ค้นหาวิธีแก้ไขรากฐานพินาศด้วยความพยา ายามของตน
เขาไม่อยากให้ตนออกไปค้นหาวิธีอย่างสุดชีวิต ครั้นกลับมาทุกอย่างก็ดับสูญ ยิ่งไม่ต้องการให้สวีเสี่ยวหลานค่อยๆ แก่ตายไปในร่างกายของมนุษย์เดินดิน แต่ตนกลับทำอะไรไม่ได้ เลย
มันเป็นความคิดที่ขัดแย้งยิ่งนัก ทำได้สมบูรณ์ได้ยากเหลือเกิน แต่อันหลินกำลังพยายามทำให้สำเร็จ
ทว่าความพลิกผันของสถานการณ์มาไวยิ่งกว่าที่เขาคาดคิด
ขณะที่กำลังเล่นไพ่นกกระจอกกันอยู่นั้น ยันต์ส่งสารของอันหลินก็พลันสว่างวาบขึ้นมา
เมื่อสัมผัสพลังปราณแล้วพบว่า หยินสี่กำลังติดต่อตนเอง
เขารับยันต์ส่งสารด้วยความตื่นเต้น เสียงก็พลอยสั่นเครือไปด้วย “ว่าอย่างไรสหายหยินสี่ สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
“ฮ่าๆ ๆ ช่วยรักษาเสถียรภาพของยันต์ส่งสารด้วยละ อาจารย์ของข้าจะไปหาเจ้าตามพลังปราณ ส่วนรายละเอียด ท่านจะทำความเข้าใจก่อนแล้วค่อยคุยกับเจ้า” เสียงของหยินสี่เจือความผ่อนคลา ายและกระหยิ่มใจ
อันหลินได้ฟังก็ตื่นเต้นจนเนื้อตัวสั่นเทา พูดจาสะเปะสะปะว่า “ขอบคุณพี่หยินสี่ ขอบคุณผู้อาวุโสเต้าเต๋อเทียนจุน ขอบคุณ ขอบคุณมากจริงๆ…”
เขารู้ว่าประโยคนี้ของหยินสี่หมายความว่าอย่างไร หากว่าไม่มีความหวังเลยแม้แต่นิด ปรมาจารย์แห่งเต๋าไม่มีทางเสียเวลาเดินทางมาที่นี่เด็ดขาด
ในเมื่อปรมาจารย์แห่งเต๋าจะมา เช่นนั้นก็หมายความว่ามีข่าวดี ยังมีความหวัง!
อันหลินไม่ปกปิดเสียงของยันต์ส่งสาร ด้วยเหตุนี้สัตว์เลี้ยงกับสวีเสี่ยวหลานที่อยู่ด้วยต่างก็ได้ยิน
พวกต้าไป๋ดวงตาลุกวาว นัยน์ตาเปี่ยมด้วยความคาดหวัง
สวีเสี่ยวหลานกำมือขาวผ่องแน่น เบ้าตาแดงเรื่อ พยายามสะกดกลั้นความปั่นป่วนในใจ
ในยามที่ต้องสูญเสียบางอย่างไปจริงๆ จึงจะเข้าใจอย่างแท้จริงว่าของสิ่งนั้นสำคัญกับตนมากแค่ไหน
สวีเสี่ยวหลานไม่เสียใจที่ใช้เซียนวิถีของตนช่วยชีวิตอันหลิน แต่ไม่ได้แปลว่านางไม่ถนอมรัก ไม่แยแส
กลับกัน นางเป็นหญิงสาวที่ทะนงตนอย่างยิ่งคนหนึ่ง ประหนึ่งพญาหงส์ที่บินร่อนกลางนภา ปรารถนาท้องฟ้าสีครามยิ่งกว่าผู้ใด อยากเห็นปลายทางของการบำเพ็ญเพียรว่าเป็นอย่างไรยิ่ง งกว่าผู้ใด
อันหลินยื่นมือไปกุมกำมือของสวีเสี่ยวหลานแล้วยิ้มบางๆ เป็นเชิงไม่ให้นางตื่นเต้นเกินไป
แต่ทว่าตัวของอันหลินเองกลับตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหว สมองวุ่นวายไปหมด
กำลังคิดว่าหลังเจอปรมาจารย์แห่งเต๋าแล้วจะทำอย่างไร ควรพูดอะไร มีกฎซ่อนเร้นหรือไม่ ต้องทำอะไรหรือเปล่า มอบของขวัญอะไร…
“เอ๊ะ พวกเจ้ากำลังเล่นไพ่นกกระจอกหรือ ของสิ่งนี้ข้าก็ชำนาญเหมือนกัน!”
เสียงที่ค่อนข้างแก่ชรา แต่กลับชวนให้สบายใจอย่างยิ่งดังขึ้น
ไม่รู้ว่าชายชราที่มีผมขาวโพลนคนนี้ปรากฏกายข้างโต๊ะไพ่นกกระจอกตั้งแต่เมื่อใด มองไพ่นกกระจอกบนโต๊ะอย่างยิ้มแย้ม “เจ้าหนูหนี่วาคนนั้นเคยโม้กับข้าว่า ไพ่นกกระจอกเป็น ของเล่นแปลกใหม่ที่โลกของนางคิดค้น สนุกยิ่งนัก ให้พวกเราไตรวิสุทธิ์เล่นกับนาง หึ ปรากฏว่าพอข้าลงมือเล่น ก็ทำเอานางแพ้ยับเยิน จากนั้นนางก็ไม่กล้าพูดเรื่องไพ่นกกระจอก กกับข้าอีกเลย”
ชายชราเล่าวีรกรรมของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ ประหนึ่งเด็กที่กระโดดโลดเต้นเพราะชนะเกม แต่ทุกคนฟังแล้วกลับอกสั่นขวัญหาย
อันหลินไม่พูดพร่ำทำเพลง โค้งคำนับทันที “ข้าน้อยอันหลินคารวะมหาเทพเต้าเต๋อเทียนจุน!”
สวีเสี่ยวหลานคำนับตามด้วยความตื่นเต้น “ข้าน้อยสวีเสี่ยวหลานคารวะมหาเทพเต้าเต๋อเทียนจุน”
สัตว์เลี้ยงที่เหลือก็คำนับอย่างนอบน้อมด้วยเช่นกัน
ทางด้านสาวใช้ชุน เซี่ย ชิว ตงตะลึงงันไปแล้ว
มหาเทพเต้าเต๋อเทียนจุน ปรมาจารย์แห่งเต๋าน่ะหรือ
ปรมาจารย์แห่งเต๋าในตำนานซึ่งอยู่ในนิตยสารจิ่วโจวคนนั้นน่ะหรือ
คุณพระ! นั่นมันมหาเทพเหนือมหาเทพเชียวนะ! สำหรับพวกนางแล้ว มหาเทพเต้าเต๋อเทียนจุนก็คือสวรรค์!
ทว่าตอนนี้ บุคคลที่เหนือชั้นปานนั้นปรากฏกายตรงหน้าพวกนางหรือ
เหล่าสาวใช้งงเป็นไก่ตาแตก คิดว่าตัวเองอยู่ในห้วงความฝัน
เต้าเต๋อเทียนจุนจ้องอันหลินกับสวีเสี่ยวหลานแวบหนึ่งแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “อย่าได้มากพิธีเลย เรื่องของพวกเจ้าหยินสี่บอกข้าคร่าวๆ แล้ว เรื่องที่เหลือข้าก็พอจะเดา ได้บ้างแล้ว พวกเจ้าล้วนเป็นคนที่เถรตรง ข้าว่างไม่มีอะไรทำ จึงมาดูสักหน่อยว่าจะช่วยพวกเจ้าได้หรือไม่”
เขาพูดแล้วดีดนิ้วทีหนึ่ง แสงสีขาวก็จมหายไปในหว่างคิ้วของสวีเสี่ยวหลาน
อันหลินกลืนน้ำลายเอื๊อก มองเต้าเต๋อเทียนจุนด้วยความคาดหวัง หัวใจเต้นแรงมาก
เต้าเต๋อเทียนจุนเป็นชายชราที่ใบหน้ามีเลือดฝาด สีผิวดูแล้วสุขภาพดีนัก ซ้ำยังมีมาดที่เหนือโลกีย์แต่ก็เป็นหนึ่งกับธรรมชาติ มองแล้วให้ความรู้สึกเลื่อนลอย และมีความรู้สึก จิตใจสงบ
“อืม…วิธีถ่ายเลือดถูกปรับปรุงได้สมบูรณ์แบบอย่างมาก แม้รากฐานพินาศจะกู้คืนไม่ได้ แต่ไม่มีผลเสียใดๆ กับเส้นชีพจร ทะเลปราณ ดวงจิตและระบบการทำงานของร่างกายเลย มีโอกาส” เต ต้าเต๋อเทียนจุนเอ่ยเสียงเรียบ
วิ้ง…
อันหลินรู้สึกว่าสมองดังวิ้ง คำว่า ‘มีโอกาส’ ดังก้องอยู่ในสมองไม่หยุดประหนึ่งเสียงสวรรค์อันเสนาะหู
สวีเสี่ยวหลานตัวสั่นระริก นัยน์ตาเลื่อนลอย เหม่อมองชายชราที่อยู่ตรงหน้า
“โอ้ เจ้ามีสายเลือดอีกชนิดแฝงเร้นอยู่ในร่างกายด้วย สายเลือดมังกรหรือ ระดับความบริสุทธิ์สูงยิ่งนัก เยี่ยมมาก...ความหวังที่จะสำเร็จเพิ่มขึ้นร้อยเท่า ใช้สายเลือดอีกชนิดเป็นตั วชี้นำได้ ใช้สายเลือดพญาหงส์ที่มีความบริสุทธิ์สูงยิ่งจะดีที่สุด ใช้สายเลือดสองชนิดผสานเป็นจุดเชื่อมต่อ ก็จะสามารถเบิกถอนเจตจำนงของสายเลือดมังกรที่หลับใหล ทำการฟื้นฟูรากฐ ฐาน” เต้าเต๋อเทียนจุนพูดช้าๆ
คำพูดของเต้าเต๋อเทียนจุนทำให้อันหลินกับสวีเสี่ยวหลานเกิดความหวังอันสว่างไสวอย่างยิ่ง
“ผู้อาวุโส แล้วจะหลอมรวมสายเลือดทั้งสองอย่างไร” อันหลินอดถามไม่ได้
“เรื่องนี้น่ะหรือ แน่นอนว่าวิธีที่มีอัตราสำเร็จสูงที่สุดคือ ใช้วิธีถ่ายเลือดกับเจ้า นำสายเลือดที่สวีเสี่ยวหลานมอบให้เจ้าคืนกลับสู่เจ้าของเดิม…เช่นนั้นข้ารับรองอัตราสำเ เร็จจะสูงถึงร้อยละแปดสิบ” เต้าเต๋อเทียนจุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
สวีเสี่ยวหลานกับเหล่าสัตว์เลี้ยงต่างก็ชะงักเมื่อได้ฟัง
อันหลินมองเต้าเต๋อเทียนจุน พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ไม่มีปัญหา ข้ายอม!”
“ข้าไม่ยอม! ถ้าเป็นแบบนั้น รากฐานของเจ้าก็จะพินาศ กลายเป็นคนธรรมดา ข้าไม่อยากเห็นเจ้ากลายเป็นแบบนั้น” สวีเสี่ยวหลานมองอันหลินด้วยสีหน้าที่เด็ดเดี่ยว
“เจ้าเป็นคนให้ชีวิตข้าแต่แรก ตอนนี้พิษเย็นถูกกำจัดแล้ว เจ้าทำให้ข้าอยู่ได้อีกหนึ่งชีวิต ทำไมข้ายังต้องยึดครองพลังของเจ้าอีก” เป็นครั้งแรกที่อันหลินไม่เห็นด้วยกับเจตน นาของสวีเสี่ยวหลาน ยืนกรานอย่างหนักแน่น
“ข้าบอกว่าไม่ยอมก็คือไม่ยอม!” สวีเสี่ยวหลานเม้มปาก สีหน้าหนักแน่นอย่างยิ่ง
เมื่อเห็นว่าทั้งสองจะวิวาทกันอยู่รอมร่อแล้ว เต้าเต๋อเทียนจุนจึงรีบไกล่เกลี่ย “พวกเจ้าใจเย็นๆ เมื่อครู่เพียงแค่บอกวิธีที่เป็นไปได้ที่สุด ยังเหลือวิธีอื่นอยู่ไม่ใช่หรือไง ง!”
ใครเล่าจะรู้ว่าอันหลินจะส่ายหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว “ไม่ต้องพูดแล้ว ในเมื่อมันเป็นวิธีที่เป็นไปได้มากที่สุด เช่นนั้นก็ต้องเลือกมัน ข้าไม่อยากนึกเสียใจทีหลัง ไม่อยากให้เส สี่ยวหลนเสี่ยงอันตรายมากกว่านี้แล้ว”
สวีเสี่ยวหลานพูดอย่างร้อนใจว่า “ผู้อาวุโสอย่าไปฟังเขาพูดเรื่อยเปื่อย ท่านช่วยบอกวิธีอื่นกับพวกเราหน่อยเถอะ”
“ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว ผู้อาวุโส เริ่มเลย!”
“ผู้อาวุโสอย่าไปสนใจเขา ว่ามาเถอะ!”
เต้าเต๋อเทียนจุน “…”