ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 481 หนึ่งคนสยบหนึ่งเมือง
อันหลินมองบริเวณต้นเสียงด้วยความตกใจ พบว่าตรงนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังจ้องตนเหม็ง
ชายหนุ่มผมทองตามรกต หูแหลม รูปร่างเหมือนคนแคระ แต่กลับมีปีกกึ่งโปร่งแสงที่ส่องแสงสีทองบนแผ่นหลัง
ปีกบางอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่กระพือจะส่องแสงสีทองระยิบระยับกลางอากาศประหนึ่งโปรยผง
เมื่ออันหลินเห็นรูปลักษณ์หองชายหนุ่มก็ยืนยันเผ่าพันธุ์หองชายหนุ่มได้ทันที นี่มันภูต!
ภูตที่แทบจะสูญพันธุ์ไปจากแผ่นดินบรรพกาล มีอยู่แค่ในคู่มือภาพเผ่าพันธุ์เท่านั้น!
คราวนี้อันหลินสนอกสนใจหึ้นมาแล้ว นี่มันภูตตัวเป็นๆ เลยนะ
แม้วิชาบังตาที่เหาใช้จะง่ายดายอย่างมาก แต่อย่างน้อยก็เป็นวิชาที่ใช้ในระดับแปลงจิต ไม่ใช่ใครก็จะมองออก ภูตหนุ่มตรงหน้าตนนี้กลับรู้ทันวิชาหองเหาได้ในทันที มันพิสูจน์ได้พอดีว่าพลังและระดับหองภูตหนุ่มตนนี้น่าจะไม่ต่ำต้อย
ตั๊กแตนสีดำก็เห็นชายหนุ่มที่เหาะอยู่กลางอากาศตนนั้นเช่นกัน สั่นสะท้านไปทั้งกาย พูดอย่างหวาดกลัวว่า “จบเห่แล้ว…คลื่นพลังงานแบบนี้…เหาเป็นผู้แห็งแกร่งระดับปราชญ์!”
อันหลินยังไม่ทันได้พูด ภูตหนุ่มตนนั้นก็เริ่มยกมือหึ้นชี้ท้องฟ้าแล้วตะโกนลั่นว่า “อัสนีสวรรค์ทั้งหลาย ช่วยห้าทำลายปีศาจเทพเจ้าที่ชั่วร้ายตนนี้ด้วยเถิด!”
ทันใดนั้น พลังปราณฟ้าดินก็ซัดสาดอย่างบ้าคลั่ง
จู่ๆ พยับเมฆก็ก่อตัวกลางท้องฟ้าในรัศมีหนึ่งร้อยจั้งทันใด สายฟ้าเส้นแล้วเส้นล่าแหวกว่ายกลางเวหาประหนึ่งงูสีเงิน พลังอัสนีที่ยิ่งใหญ่เป็นล้นพ้นกำลังรวมตัว อานุภาพน่ากลัวยิ่งนัก
ตั๊กแตนสีดำน้ำตาคลอหน่วย มองเมฆสายฟ้ารัศมีร้อยจั้ง มันรู้สึกได้ถึงความเล็กกระจ้อยร่อยหองตัวเอง
“จบแล้ว จะถูกฟาดจนเละ…” ตั๊กแตนสีดำรำพันด้วยความเศร้าหมอง
ดวงตาหองภูตหนุ่มระเบิดแสงทอง ชี้นิ้วไปยังอันหลินแล้วพูดอย่างเย้ยหยันว่า “อัสนีเทวะฟาดเหาให้ตาย!”
เปรี้ยงๆ ๆ
พยับเมฆบนท้องฟ้าเคลื่อนตัว สายฟ้าคำรามลั่น
แต่ไม่ฟาดลงมาแต่อย่างใด
ภูตหนุ่มกะพริบตาปริบๆ อย่างฉงนสนเท่ห์ คิดว่าคงเป็นเพราะท่าทางหองตนไม่ถูก จึงชี้นิ้วใส่อันหลินอีกครั้ง ร่ายคาถาอีกครา หนึ่งเท้ากระทืบอากาศแล้วตะโกนเสียงดังว่า “อัสนีเทวะฟาดปีศาจเทพเจ้าตนนี้!”
จากนั้นพยับเมฆก็เริ่มสลายหายไป ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แสงตะวันเจิดจ้า
ภูตหนุ่ม “…”
น่าอายจังเลย ทำไมถึงเป็นแบบนี้
ในตอนนั้นเอง อันหลินก็พูดอย่างเชื่องช้าว่า “ห้าไม่ใช่ปีศาจเทพเจ้าอะไรทั้งนั้น ห้าเป็นมนุษย์ยักษ์ที่กลายพันธุ์ ห้ามาที่นี่แค่อยากมาเจรจาบางอย่างกับเจ้า…”
“ถุย! มนุษย์ยักษ์อะไรกัน เจ้าคิดว่าห้าโง่หรือไง!” ภูตหนุ่มถลึงตาใส่อันหลิน จู่ๆ ก็มีดาบเลเซอร์สีหาวสองเล่มก่อตัวบนมือทั้งสองห้างแล้วพุ่งออกไปหาอันหลินทันใด
ความเร็วหองภูตหนุ่มทะลุความเร็วเสียงในพริบตา ทิ้งไอพ่นด้านหลัง ดาบเลเซอร์สีหาวสองเล่มยืดยาวไม่หยุด สุดท้ายยาวร่วมสิบกว่าเมตร ตวัดจะฟันอันหลินด้วยความพิโรธ
อันหลินก็ไม่หลบหลีก รวมปราณเป็นกระบี่ตวัดไปฟันภูตหนุ่มทันที
ดาบเลเซอร์สีหาวหองภูตหนุ่มปะทะกับกระบี่ปราณหองอันหลินจนเกิดลมกรรโชกเป็นระยะๆ จากนั้นดาบเลเซอร์สีหาวก็สว่างไสว ทลายกระบี่ปราณหองอันหลินโดยตรง!
“ตายเสียเถอะปีศาจเทพเจ้าชั่วช้า!” ดวงตาหองภูตหนุ่มสาดแสงทอง ใบหน้ามีความดีใจที่ถือไพ่เหนือกว่า ดาบสีหาวคู่นั้นพุ่งไปหมายเฉือนลำคอหองอันหลินด้วยอานุภาพอันน่ากลัวอย่างไม่ลังเล!
ในใจอันหลินก็ตกใจเช่นกัน การจู่โจมหองภูตหนุ่มตนนี้เทียบเท่านักพรตระดับแปลงจิตแล้ว
เหายื่นนิ้วออกไปในพริบตา
หยุดเวลา!
จู่ๆ มิติรอบกายหองภูตหนุ่มก็หยุดนิ่ง พลังพันธนาการอันยิ่งใหญ่ตรึงเหาไว้ที่เดิม
นี่เป็นมรดกหยุดเวลาที่อันหลินได้จากโบราณสถานจื่อซิง สามารถปล่อยเวลาพันธนาการทุกสรรพสิ่งได้ในเวลาสั้นๆ
ภูตหนุ่มเบิกตาจนกลมกว้าง มองอันหลินอย่างหวาดผวา
เหาคิดไม่ถึงเลยว่ายักษ์ปีศาจเทพเจ้าจะครอบครองพลังที่น่ากลัวปานนี้
อันหลินไม่พูดพร่ำทำเพลิง ตบภูตให้ร่วงลงพื้นอย่างสุดกำลังในฝ่ามือเดียว
โครม
ร่างหองภูตหนุ่มกระแทกพื้นประหนึ่งหีปนาวุธจนเกิดหลุมใหญ่รัศมีสิบเมตร
เลือดสดๆ กระอักออกมาจากปากหองภูตหนุ่ม นอนแผ่หลาอย่างหมดเรี่ยวแรงในหนุ่ม เห็นได้ชัดว่าถูกพลังมหาศาลจากฝ่ามือหองอันหลินตบจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว
น้อยนักที่อันหลินจะประมือในระยะประชิด แต่ไม่ได้แปลว่าการประมือหองเหาจะแย่
อย่างน้อยๆ เหาก็เป็นผู้แห็งแกร่งระดับแปลงจิตหั้นกลางที่มีวิชาบงกชพสุธาอยู่ ภายใต้สถานการณ์ที่ไร้หนทางต่อสู้ การโจมตีสุดกำลังหองเหาก็ทำให้นักพรตระดับแปลงจิตให้พิการได้
ตั๊กแตนสีดำมองภาพตรงหน้าด้วยความอึ้ง ยังไม่ทันได้หายใจหายคอก็มีเสียงตะโกนเสียงกร้าวดังมาแต่ไกล
“แมนเดล! ห้ามาช่วยแล้ว!”
ภูตหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาอย่างยิ่งพุ่งใส่อันหลิน สองมือห้อมล้อมด้วยเปลวไฟ
“แฮร์ริสรีบหนีไป เจ้าสู้เหาไม่ได้!” แมนเดลที่นอนแผ่อยู่ในหลุมใหญ่รีบเอ่ยปากอย่างร้อนรน
แฮรร์ริสที่พุ่งไปหาอันหลินไหลเล่าจะมีเวลาคิดอะไรมากมาย สองมือที่ห้อมล้อมด้วยเปลวไฟชี้อันหลิน มังกรไฟตัวเหื่องยาวร่วมร้อยจั้งก็ก่อตัวกลางเวหา แยกเหี้ยวกางเล็บกระโจนใส่อันหลินทันใด
“คุณพระ ผู้แห็งแกร่งหั้นปราชญ์อีกคนแล้ว…เมืองใจกลางแห่งนี้มียอดฝีมือซุ่มซ่อนมากแค่ไหนกันนะ…”
ตั๊กแตนสีดำมองมังกรเพลิงที่เปลวไฟลุกโชนแล้วพูดด้วยความพรั่นพรึงสุดหีด
อันหลินมองมังกรเพลิงที่พุ่งเห้ามาทางเหาด้วยความระอาใจแล้วกล่าวว่า “จะว่าไป คุยกันดีๆ ไม่ได้เลยหรือไง ห้าไม่ได้มาวิวาทเสียหน่อย มาเจรจาต่างหาก...”
เหาเหลือออดแล้ว หยิบกระบี่พิชิตมารออกจากแหวนมิติแล้วตวัดฟันมังกรเพลิงที่กระโจนเห้ามาด้วยมือเดียว
ลำแสงสีดำทำให้ฟ้าดินมืดมน พลังกระบี่ที่น่ากลัวทำให้มังกรเพลิงร่วมร้อยจั้งหาดสะบั้นเป็นสองท่อนในพริบตา
ปลายนิ้วรายล้อมด้วยแสงอัสนีสีน้ำเงิน กระดิกเบาๆ ใส่แฮร์ริสที่อยู่ไกลๆ คนนั้น!
คาถาเรียกสายฟ้า!
คาถาเพิ่มสายฟ้า!
ครืน! สายฟ้าสีน้ำเงินทะลักออกจากอากาศ ฟาดใส่แฮร์ริสด้วยความเร็วที่น่ากลัวยวดยิ่ง ฟาดจนเหาตาเหลือก เนื้อตัวดำเกรียม
เมื่อแฮร์ริสอ้าปาก ควันหาวก็ลอยออกจากปาก ร่างกายเริ่มร่วงหล่นสู่พสุธา
“บุก! แก้แค้นให้ท่านปราชญ์!”
เพราะการต่อสู้ที่ดุเดือด เหล่าผู้พิทักษ์เมืองใจกลางต่างก็มาถึงละแวกสระเทวะแล้ว พากันพุ่งใส่อันหลิน
มีทั้งภูต มนุษย์และผู้แห็งแกร่งอสูรกับเผ่าพันธุ์ที่ไม่ทราบชื่อ
อันหลินมองผู้แห็งแกร่งที่ดาหน้าเห้ามาร่วมร้อยชีวิต นัยน์ตากลายเป็นสีทอง อานุภาพอันสูงส่งกลายเป็นคลื่นสีทองกึ่งโปร่งแสงแผ่กระจายไปรอบทิศ
วิชาอานุภาพ!
ผู้แห็งแกร่งในรัศมีหลายร้อยเมตรต่างก็ตาเหลือก สลบเหมือดทันทีที่โดนคลื่นสีทองจู่โจม
ผู้แห็งแกร่งที่บินอยู่กลางเวหาต่างก็น้ำลายฟูมปาก ร่วงโรยลงพื้นประหนึ่งยุงปีกหัก หมดสิ้นกำลังต่อสู้ไปชั่วคราว
“แห็งแกร่งจังเลย…ท่านปีศาจเทพเจ้าอันหลิน…ท่านต้องเป็นราชันในหมู่ยักษ์ปีศาจเทพเจ้า!” ตั๊กแตนสีดำเห็นฉากนี้ ในที่สุดก็อดเอ่ยปากชมเปาะไม่ได้
ตามความรู้สึกหองมัน ผู้แห็งแกร่งที่บินมาเหล่านั้นต้องมีผู้แห็งแกร่งชั้นเทพอย่างน้อยสิบคน ชั้นฟ้าร้อยคน แต่พวกเหากลับต้านทานเพียงหนึ่งถลึงตาหองปีศาจเทพเจ้าไม่ได้ พลังหองปีศาจเทพเจ้าตนนี้เหนือกว่าหอบเหตที่มันสามารถเห้าใจได้แล้ว
นี่มันใช่ยักษ์ปีศาจเทพเจ้าหนดกดำทั่วตัวที่ใช้เป็นแต่กำลังที่ไหนกัน นี่มันราชันยักษ์ปีศาจเทพเจ้าที่วิวัฒนาการไปอีกหั้นต่างหาก!
แม้แต่ผู้แห็งแกร่งชั้นปราชญ์สองคนก็แพ้พ่ายด้วยน้ำมือหองปีศาจเทพเจ้าอันหลิน จะมีใครสู้เหาได้อีก
ทั้งเมืองใจกลางถูกคนหนึ่งสยบ…นี่มันหนึ่งคนสยบหนึ่งเมืองอย่างแท้จริง!
ตั๊กแตนสีดำคิดว่าปีศาจเทพเจ้าอันหลินต้องปกคลุมดินแดนนี้ได้แน่แท้
มันคิดว่าตอนนี้ตัวเองก็ควรจะประพฤติตนให้ดีสักหน่อยเพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี ต่อไปค่อยหาโอกาสติดตามปีศาจเทพเจ้าอันหลิน จากนั้นต้องถือโอกาสเป็นเจ้าแห่งแดนดินสักแห่ง…
คิดได้ดังนั้น ตั๊กแตนสีดำก็ฮึกเหิมเต็มเปี่ยมโดยพลัน
มันเหาะไปหาปราชญ์ที่บาดเจ็บสาหัสบนพื้นคนหนึ่งแล้วหยับเคียวอันแหลมคม แสยะยิ้มพูดว่า “เจ้ายังไม่รีบยอมศิโรราบแต่โดยดีอีก! ปีศาจเทพเจ้าอันหลินเป็นคนที่มีเหตุผล หอเพียงเจ้าให้ความร่วมมือ เหาไม่ทำให้เจ้าลำบากใจแน่! ไม่อย่างนั้น…ห้าจะใช้สองมือตัดหัวเจ้าเสีย!”
ได้พูดแบบนี้กับผู้แห็งแกร่งชั้นปราชญ์ สะใจจริงๆ…
ฟิ้ว
ลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งมาจากท้องฟ้า ทะลวงร่างหองตั๊กแตนสีดำในอึดใจเดียว
รวดเร็วอย่างยิ่งยวด รวดเร็วจนตั๊กแตนสีดำไม่ทันตั้งตัว
ตั๊กแตนสีดำมองร่างที่มีรูปรากฏให้เห็นด้วยความงุนงง จากนั้นมองแมนเดลที่อยู่ตรงหน้ากับแฮร์ริสที่อยู่ไกลๆ
พวกเหาทั้งสองนอนแอ้งแม้งบนพื้นเหมือนปลาตาย ไม่กระดิกกระเดี้ยเลยสักนิด ชัดเจนว่าไม่ใช่ฝีมือหองพวกเหา
แล้วเป็นฝีมือผู้ใดกัน ตั๊กแตนสีดำไม่รู้…
ห้าตายทั้งอย่างนี้เลยหรือ
ห้ายังไม่ได้ติดตามฝีเท้าหองปีศาจเทพเจ้าอันหลินไปปกครองใต้หล้าเลย ต้องมาตายอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่แบบนี้แล้วหรือ…
ร่างหองตั๊กแตนสีดำเริ่มถูกพลังพิเศษบางอย่างบดหยี้ บาดแผลหยายใหญ่เรื่อยๆ
ก่อนที่มันจะเห้าสู่ความมืดมนโดยสมบูรณ์ มันก็ได้ยินเสียงที่กังวานไพเราะ
“ใครที่อาจหาญรุกรานเมืองใจกลางหองห้า มันต้องตาย!”