ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 496 เพื่อนเก่าพบเพื่อนเก่า
บนท้องนภา สายฟ้ากลายเป็นงูสีเงินนับพันหมื่นพุ่งไปหาอันหลิน
ปีกวายุกางออกด้านหลังอันหลิน กะพริบเคลื่อนย้ายท่ามกลางการโจมตีของสายฟ้านับไม่ถ้วน
อานุภาพของอัสนีเหล่านี้ทรงพลังยิ่งนัก ทุกครั้งที่ฟาดลงมาล้วนแต่ทำให้ผิวดินเกิดหลุมขนาดมหึมา สิ่งเดียวที่โชคดีก็คือ สายฟ้าเหล่านี้ยังไม่ถึงขั้นอัสนีทองอนัตตา มิเช่นนั้นสภาวะ ะที่เขาเผชิญจะกลายเป็นทางตันทันที
มังกรหมายเลขสามตัวหนึ่งเรียกสายฟ้ากลางเวหาไม่หยุดหย่อน มังกรหมายเลขสามอีกตัวกลับไล่ล่าอันหลินไม่เลิกรา กรงเล็บสีขาววาดลำแสงที่แหลมคมอย่างยิ่งกลางอากาศ ทำให้เกิดเสียงแหวกอากาศ ศประหนึ่งวิญญาณโหยหวน
มังกรพันเนตรสองตัวเข้าขากันได้อย่างดีเยี่ยม เล่นเอาอันหลินหาโอกาสตอบโต้ไม่ทันขึ้นมาทันที
“วิชาเทวะ ศรวายุ!”
ศรสีขาวส่องแสงพร่างพรายมาแต่ไกล สุดท้ายกลายเป็นเสาแสงสีขาวต้นใหญ่ ภายในแฝงด้วยพลังทำลายล้างแรงดันอันยิ่งใหญ่ โจมตีมังกรพันเนตรที่กำลังเรียกสายฟ้าบนท้องฟ้าทันใด!
พลังทำลายล้างแรงดันทำงานทุกอณูรูขุมขนของมังกรพันเนตร ชั่ววินาทีนั้น ร่างของมันเหมือนถูกพลังที่น่ากลัวบางอย่างทับจนแบน จากนั้นร่างกายก็ถูกระเบิดดังตูมให้กระเด็นออกไปหลา ายร้อยเมตร กลิ้งตกลงสู่พสุธา
อันหลินก็เริ่มตระหนักรู้ได้บ้างแล้วในเสี้ยววินาทีนั้นว่า ไม่สามารถใช้อาวุธที่แหลมคมฟันมังกรพันเนตร เช่นนั้นจะสามารถใช้พลังงานที่ทำปฏิกิริยากับร่างกายของมังกร ปลิดชีพมันโ โดยตรงได้หรือไม่
ตอนที่เขาคิดเช่นนี้ ประคำเพลิงเก้าสวรรค์ปรากฏกลางฝ่ามือของเขาแล้ว มังกรเพลิงสีทองหลายตัวเคลื่อนไหวรอบประคำสีแดง แผ่พลังงานอันน่าสะพรึง
ในตอนนั้นเอง มังกรหมายเลขสามตัวนั้นที่ถูกศรวายุปักก็ลึกขึ้นจากพื้น แววตาไม่จับจ้องอันหลินอีก แต่ทอดสายมองบริเวณหนึ่งที่อยู่ไกลออกไปพร้อมกับแผ่พลังที่อันตรายอย่างยิ่ง
อันหลินสะดุ้งในใจ รู้ว่าหลิวฉู่ฉู่ที่อยู่ไกลถูกหมายหัวเสียแล้ว
ในตอนนั้นเอง มังกรหมายเลขสามสองตัวกระโจนไปหาหลิวฉู่ฉู่พร้อมกัน!
“กรี๊ด!”
เสียงกรีดร้องของทีน่าก็ดังมาไกลๆ เช่นกัน อันหลินเห็นมังกรพันเนตรเข้าใกล้ทีน่าแล้วกระจายคลื่นที่ไร้รูปร่าง
“ช่วงชิง!”
อันหลินรีบปล่อยต๋าอีกับต๋าเอ้อร์ออกมาทันทีที่เห็นแล้วสั่งการว่า “พวกเจ้าไปช่วยทีน่า!”
พูดจบเขาก็กางปีกวายุแล้วพุ่งออกไปมังกรหมายเลขสามสองตัว!
หลิวฉู่ฉู่ตอบสนองรวดเร็วอย่างยิ่ง นางรู้ว่าตนจะถูกประชิดตัวไม่ได้ ชั่วขณะที่ถอยหลังไม่หยุดก็ใช้ธนูปล่อยมังกรวารินตัวใหญ่ยักษ์ออกไปหามังกรพันเนตร ไม่หวังว่าจะปลิดชีพ เพียง งหวังว่าจะถ่วงเวลาของมังกรปีศาจได้
อันหลินเข้าประชิดมังกรหมายเลขสามตัวหนึ่งในอีกหลายอึดใจให้หลังเช่นกัน ประคำเพลิงเก้าสวรรค์ปล่อยเปลวเพลิงสีเหลืองอ่อนอย่างไม่สิ้นสุด ปกคลุมมันไว้
อาศัยประคำเพลิงเก้าสวรรค์ อาวุธเซียนขั้นสูง เขาสามารถกระตุ้นเพลิงเทวะภายในร่างกายได้อย่างเต็มขีดจำกัด
ตูม เปลวไฟสีเหลืองอ่อนแผ่คลุมมิติในรัศมีร้อยจั้งในพริบตา เขมือบและหลอมทุกสิ่งทุกอย่าง ทอดมองไกลๆ ก็เหมือนพระอาทิตย์ดวงเล็กที่โผล่มาเหนือพสุธาแล้วแผ่ความร้อนอันมหาศาล
กรรซ์…
มังกรพันเนตรตัวนั้นแผดร้องอย่างเจ็บปวด ถอยหลังไม่หยุด พยายามหนีออกจากการปกคลุมของเปลวไฟ
ดวงตาอันหลินเป็นประกาย รู้ว่าการโจมตีของตนได้ผลแล้ว ย่อมไม่มีทางปล่อยมันไปอีก!
แต่ทว่าในตอนนั้นเอง เสียงกรีดร้องของทีน่าดังมาจากที่ไม่ไกลอีกครั้ง
อันหลินนึกว่าเกิดเรื่องกับทีน่าจึงรีบหันหลังมองไป
สิ่งที่เขาเห็นหลังจากนั้นก็คือ…ทีน่ามองต๋าอีกับต๋าเอ้อร์ด้วยความงุนงง ท่าทางทำอะไรไม่ถูกอย่างสิ้นเชิง
เขากะพริบตาปริบๆ มองต๋าอีกับต๋าเอ้อร์แล้วพลันก็ตะลึงพรึงเพริด
เห็นต๋าอีกับต๋าเอ้อร์ถือดาบเลเซอร์ยืนอยู่บนพสุธาอย่างสง่างาม
ตรงหน้าพวกมันเป็นร่างที่ขาดสะบั้นของมังกรพันเนตรหมายเลขสอง…
ใช่แล้ว มังกรพันเนตรถูกต๋าอีกับต๋าเอ้อร์ฟันเป็นหลายสิบท่อน!
มุมปากของอันหลินกระตุกไม่หยุด ควรชมเพลงกระบี่ของต๋าอีกับต๋าเอ้อร์ว่าดีดีไหม…
นี่มัน…ความสามารถอย่างต๋าอีกับต๋าเอ้อร์…ชัดเจนมากว่ามังกรพันเนตรตั้งใจถูกฟัน!
อันหลินกุมขมับ เขาควรจะบอกต๋าอีกับต๋าเอ้อร์ว่าห้ามโจมตีด้วยอาวุธมีคม ทว่าตอนนี้ทุกอย่างก็สายไปแล้ว…
เป็นดังที่คาด เศษเนื้อบนพื้นเริ่มขยับ กลายเป็นลูกบอลสีขาวก่อนแล้วค่อยๆ กลายเป็นลักษณะของมังกรพันตาช้าๆ…
“เพลิงสุริยัน เพลิงมารดารา เพลิงจันทร์ภฤษฏ์ เพลิงอนัตตา!” มือของอันหลินกำประคำเพลิงเก้าสวรรค์แล้วโจมตีเศษเนื้อบนพื้นอย่างไม่ลังเล!
มังกรเพลิงสี่ตัวที่ก่อตัวจากเพลิงเทวะแฝงด้วยอุณหภูมิสูงอันน่ากลัวยิ่ง กระโจนออกไปหาร่างของมังกรพันตาพร้อมกับเสียงคำราม อานุภาพยิ่งใหญ่ถึงขั้นทำให้มิติในรัศมีพันจั้งบิดเบี้ ยวปรวนแปร
ขณะที่มังกรเพลิงสี่ตัวพุ่งไปหาร่างบนพสุธาของมังกรพันตา มังกรหมายเลขสามที่กระโจนไปหาหลิวฉู่ฉู่มาโผล่ตรงหน้าเศษเนื้อของมังกรปีศาจตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบได้ จู่ๆ ดวงตาสีแดงทั้งหม มดบนร่างกายก็แตกสลาย จากนั้นม่านแสงสีแดงก็แผ่คลุมพื้นที่รัศมีหลายสิบจั้ง
ตูม
การระเบิดของเปลวเพลิงก่อตัวเป็นคลื่นโจมตีทำให้แผ่นดินแตกระแหง ภูเขาสั่นไหว
ม่านแสงสีแดงตั้งตระหง่านไม่ล้มท่ามกลางทะเลเพลิงที่กว้างใหญ่ไพศาล แถมยังแผ่พลังงานที่ยิ่งใหญ่ ทลายเปลวไฟโดยสิ้นเชิง
ทีน่า ต๋าอีกับต๋าเอ้อร์มาใกล้อันหลินแล้ว เตรียมพร้อมล่าถอยทุกเมื่อ
มังกรหมายเลขสามที่ดวงตาแตกสลายตัวนั้นพลันกลายเป็นของเหลวสีขาว โปรยปรายลงบนพื้นแล้วสูญสิ้นชีวิต
อันหลินเห็นฉากนี้ในใจก็กระจ่างแจ้ง “ถ้าดวงตาฉีกขาด มันจะรักษาชีวิตไม่ได้อีก...ท่าทางร่างของมังกรพันเนตรจะเป็นดวงตา”
จากนั้นเขาก็พรั่นใจขึ้นมาอีก “ยอมสละดวงตาหนึ่งในสี่เพื่อปกป้องชิ้นส่วนของร่างกาย ความหมายของชิ้นส่วนเหล่านี้…”
เพิ่งสิ้นเสียงลูกบอลเหล่านั้นก็กลายเป็นมังกรพันเนตรมินิตัวแล้วตัวเล่า คาดคะเนจากสายตาแล้วมีห้าหกสิบตัว
พลังอันชวนให้ใจสั่นสะท้านแผ่กระจายไปทั่ว ดวงตาสีแดงประหนึ่งแฝงความน่ากลัวบางอย่าง คล้ายจะเขมือบทุกสรรพสิ่ง
อันหลินคิดว่าการแบ่งแยกแบบนี้ไม่สามารถคงอยู่ได้ด้วยพลังงาน คนอื่นแบ่งหนึ่งเป็นสอง อย่างน้อยพลังงานก็ต้องลดลงมากโข แต่มังกรพวกนี้แบ่งเป็นหลายตัว แต่พลังที่สัมผัสได้จา ากมังกรทุกตัวลดน้อยลงจากตอนแรกประมาณสามส่วน พอเป็นแบบนี้ พลังของมังกรหลายสิบตัวรวมกันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว…
ขณะเดียวกัน ด้านหลังก้อนหินของภูเขาใหญ่ริมแดนทะเลสาบขาว
มีสิ่งมีชีวิตที่เก็บงำพลังปราณสองตนกำลังจดจ้องการต่อสู้บริเวณทะเลสาบขาว
แมงกะพรุนกึ่งโปร่งใสขนาดครึ่งตัวมนุษย์ลอยอยู่กลางอากาศ หนวดส่องแสงสายฟ้าสีขาว “หงโต้ว คนนั้นน่ะหรืออันหลินที่เจ้าว่า”
มนุษย์หินที่ร่างกำยำ มีเปลวไฟลุกโชนที่หน้าอกพยักหน้า ใบหน้ามีความตะลึง “ไม่ผิดแน่! เขานี่แหละอันหลิน! ไม่คิดเลยว่าเขาจะอยู่ในแดนโบราณบรรพกาลด้วย ยิ่งคิดไม่ถึงเลยว่า หลัง งอำลาจากชุมนุมมรรคเทศนาสี่ทิศผ่านไปเพียงหนึ่งปีกว่า เขาก็เปลี่ยนจากระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นต้นเป็นผู้แข็งแกร่งแปลงจิตขั้นกลางแล้ว! คนคนนี้วิปริตแน่ๆ!”
“หึๆ…แต่ตอนนี้คนวิปริตนั่นกำลังตกที่นั่งลำบากแล้ว…” แมงกะพรุนพูดอย่างยิ้มแย้ม “สรวงสวรรค์ก็เป็นพันธมิตรของเรา พวกเราจะช่วยหรือไม่”
หงโต้วกะพริบดวงตาที่ลุกเป็นไฟ หวนคิดถึงอดีตที่ถูกอันหลินรังแก จู่ๆ ก็ยิ้มออกมา “ช่วย! เพื่อนเก่าพบเพื่อนเก่า หากไม่ช่วยมันใช้ไม่ได้เอาเสียเลย!”
“หึๆ…รอให้พวกเขาจวนจะจบเห่ พวกเราค่อยออกโรงอย่างเฉิดฉาย กลายเป็นผู้ช่วยชีวิตพวกเขา เป็นสิ่งที่พวกเขาจำต้องชื่นชม! เมื่อถึงตอนนั้น ความเท่ของข้าจะประทับอยู่ในสมองของเขาอย ย่างลึกซึ้ง!”
ใบหน้าของหงโต้วเปื้อนรอยยิ้มกระหยิ่มใจ ในใจเปี่ยมด้วยความคาดหวัง…