ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 499 ครอบครองวิชาจิตละโมบ
คลื่นสีทองกระจายไปทั่วทุกสารทิศ ปกคลุมมังกรพันเนตรหมายเลขสามในพริบตา
พลังกลุ่มนี้มังกรพันเนตรหมายเลขสามคุ้นเคยดีเหลือเกิน แต่มันพบว่าพลังนี้ไม่ค่อยเหมือนเดิมมากนัก เพราะริ้วคลื่นนั้นเป็นสีทอง
จากนั้นมันก็รู้สึกเหมือนตนสูญเสียอะไรบางอย่างไป…
ใบหน้าของมังกรพันเนตรหมายเลขสามฉายความหวาดกลัวเป็นครั้งแรก แผดร้องแล้วถอยกรูด!
อันหลินใช้วิชาช่วงชิงชิงเอาพลังแบ่งแยกทุกสรรพสิ่งของมังกรพันเนตรหมายเลขสามไป
เขาหยิบกระบี่พิชิตมารออกมาอีกครั้ง มุมปากยกขึ้นน้อยๆ “ถ้าอย่างนั้น…ตอนนี้ขอข้าดูหน่อยสิว่าถ้าตัดเจ้าเป็นสองท่อนแล้วจะกลายเป็นมังกรหมายเลขสี่สองตัวหรือไม่…”
จิตวิญญาณแห่งสายลมขั้นสอง ปีกวายุ!
หกกระบี่เทพสงคราม กระบี่สายลม!
ภายใต้การสนับสนุนของวิชาเพิ่มความเร็วสองขั้น ความเร็วของอันหลินก็พุ่งทะยาน เข้าใกล้มังกรพันเนตรหมายเลขสามที่กำลังหนีอย่างรวดเร็ว
“เจ้าวิปริตจะหนีไปไหน เอากระบี่ของเหล่าอันไปกิน!”
อันหลินชูกระบี่พิชิตมารขึ้นสูง แสงกระบี่โอบล้อมด้วยกระแสลมสีขาว ตวัดฟันมังกรพันเนตรหมายเลขสามดุจลำแสงสีขาวทะลวงตะวันด้วยอานุภาพที่แหลมคมยิ่งนัก
ฉัวะ
มังกรพันเนตรหมายเลขสามถูกกระบี่พิชิตมารตัดเป็นสองท่อน ร่างร่วงหล่นสู่พสุธาทันใด
ไม่มีเลือดแตกกระเด็นดุจแป้งก้อนใหญ่ถูกตัดเป็นสองก้อน
ก้อนเนื้อสีขาวสองก้อนขยับ พยายามลองแบ่งแยก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถแบ่งอวัยวะใหม่ได้!
ดวงตาของมังกรพันเนตรเคลื่อนไหวตามอันหลิน แววตาเปี่ยมด้วยความหวาดกลัวและงุนงง
พลังช่วงชิงเป็นพลังดั้งเดิมที่มีอยู่แล้วของมัน พลังเช่นนี้ถูกช่วงชิงไปได้เมื่ออยู่ต่อหน้าชายหนุ่ม ซ้ำยังใช้ผสานกันได้อีกด้วย เขาเป็นตัวประหลาดอะไรกันแน่!
อันหลินเดินแสยะยิ้มไปหามังกรพันเนตร ไม่พูดพร่ำทำเพลงแต่อย่างใด ใช้เพลิงเทวะทั้งสี่คลุมมังกรพันเนตรบนพื้นแล้วแผดเผาอย่างบ้าคลั่งทันที
มังกรพันเนตรกรีดร้อง ดวงตาสีเลือดค่อยๆ ฉีกขาด ร่างกายก็สั่นระริกตามไปด้วย
เพลิงเทวะทั้งสี่หลั่งไหลไม่ขาดสายจนกระทั่งพลังสุดท้ายภายในร่างกายของอันหลินถูกสูบไปจนหมด ถึงได้หยุดเผา
ตอนนี้มังกรพันเนตรบนพื้นถูกเผาจนเป็นถ่านดำ ไม่มีโอกาสจะฟื้นคืนได้อีกแล้ว
คลื่นที่ไร้รูปร่างกระจายออกไปรอบทิศ อันหลินสัมผัสได้ว่าเหมือนตนจะใช้คาถาเรียกสายฟ้าได้อีกครั้งแล้ว ทว่าพลังแบ่งแยกที่ช่วงชิงมาจากมังกรพันเนตรกลับค่อยๆ ถดถอย เปลวไฟสีแดง ตรงหน้าอกของหงโต้วก็ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้งเพราะพลังหวนคืน พลังชีวิตที่ไม่พบกันเนิ่นนานอบอวลไปทั่วร่างกาย
ติ้ง
‘ยินดีด้วยภารกิจสำเร็จ ตอนนี้เริ่มทำการถ่ายเทวิชาจิตละโมบ’
ภาพดวงตาสีทองบนหน้าผากอันหลินก็เริ่มริบหรี่ สุดท้ายจมหายไปในผิวหนัง
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วลืมตาที่สุกใสขึ้น ใบหน้ามีความพออกพอใจ
วิชาบำเพ็ญจิตเต็มไปด้วยโปรแกรมโกงจริงๆ ด้วย วิชาจิตละโมบนี้คล้ายคลึงกับการช่วงชิงของมังกรพันเนตรมาก แผ่ออกไปในรัศมีร้อยเมตร ขอเพียงประสานสายตากับศัตรูแล้วปล่อยคลื่นโจมตี ศัตรูจะสามารถช่วงชิงพลังวิชาอันเฉพาะตัวของศัตรูได้ ระยะเวลาจำกัดสิบนาที สามารถจุพลังในคราวเดียวได้มากที่สุดสามชนิด
“เพลิง…เพลิงแห่งชีวิตของข้ากลับมาแล้วหรือ” หงโต้วที่อยู่ภายในหลุมขนาดใหญ่พึมพำ
มันตะเกียกตะกายขึ้นจากหลุมลึกแล้วเห็นร่างที่สวมชุดขาวพลิ้วไหวกำลังหันหลังให้ตน มือถือกระบี่สีดำ ร่างนั้นถูกแสงจางๆ ชั้นหนึ่งปกคลุม แลดูค่อนข้างสูงใหญ่น่ายำเกรง...
“ผู้…ผู้อาวุโส ท่านช่วยข้าไว้หรือ”
หงโต้วพูดด้วยดวงตาที่รื้นชื้น ใบหน้าเปี่ยมด้วยความตื่นตันและเคารพนับถือ
ร่างนั้นหันกลับมามองหงโต้ว นัยน์ตาสีดำกะพริบปริบๆ แล้วพลันพูดยิ้มๆ ว่า “ที่แท้ก็สหายหงโต้วนี่เอง ข้าช่วยเจ้าไว้เอง เจ้าจะขอบคุณข้าอย่างไร”
เมื่อหงโต้วเห็นคนคนนั้นก็ตะลึงอึ้งงันทันที
“คุณพระ! เจ้าเองหรือ!”
เขาตะโกนลั่น เหมือนมีฝูงสัตว์นับหมื่นวิ่งห้อผ่านไปในใจ
เขาถูกอันหลินช่วยไว้งั้นหรือ ควรจะเป็นเขาที่ช่วยอันหลินด้วยฐานะของผู้พิทักษ์โลกไม่ใช่หรือ
บทมันไม่ถูกนี่นา!
หญิงสาวที่สวมชุดกระโปรงสีชมพูย่ำเมฆเหาะมาแล้วกระโดดลงข้างๆ อันหลินอย่างเบาหวิว คิ้วเรียวขมวดมุ่นแล้วบ่นอุบว่า “มังกรที่เก่งกาจปานนี้ทำไมไม่มีอะไรเลย”
อันหลินก็ยักไหล่อย่างเหลืออดเช่นกัน “สัตว์ตัวนี้ค่อนข้างพิเศษ หากไม่อยากให้เกิดเหตุไม่คาดฝัน ทำได้แค่เผาให้วอดวาย ข้ายังคิดอยู่เลยว่าเผามันให้สิ้นซากแล้วจะมีของดีจำพวก ผลึกต้นกำเนิดโผล่มาหรือไม่ ไม่คิดเลยว่าข้าจะคิดเยอะไป”
หลิวฉู่ฉู่ยู่ปากอ่อนนุ่มแล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “สู้ฆ่าคนชิงทรัพย์ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ…”
อันหลิน “…”
ก็จริง สู้อย่างยากลำบาก เกือบจะเอาชีวิตไปทิ้งแล้วด้วยซ้ำ กว่าจะเอาชนะบอสบรรพกาลตัวหนึ่งได้ กลับคิดไม่ถึงเลยว่าพอเอาชนะบอสได้แล้วจะไม่มีไอเทมให้ ไม่มีแม้แต่เหรียญด้วยซ้ำ! พว วกเขาสู้ขนาดนี้ไปเพื่ออะไร เมื่อพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ถ้าเป็นมนุษย์ก็ต้องรู้สึกเจ็บปวดจนทนไม่ไหว
อันที่จริง…ในใจอันหลินก็ไม่ได้รู้สึกแย่ปานนั้น เนื่องจากเขาได้รับโปรแกรมโกงมาก็ดีใจมากอยู่เหมือนกัน แต่มันแสดงออกไม่ได้ หลิวฉู่ฉู่จะได้ไม่อึดอัดใจกว่าเดิม เขาใส่ใจขนาดนี แหละ
ทั้งสองผ่านความยากลำบากมาด้วยกัน ย่อมดีกว่าคนหนึ่งได้รับโชค แต่อีกคนลำบากต่อไป…
ในตอนนี้เอง แมงกะพรุนที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าก็ค่อยๆ ลอยลงมาหาอันหลินช้าๆ แล้วแนะนำตัวด้วยเสียงที่ค่อนข้างมีชีวิตชีวาว่า “สวัสดีสหายทั้งหลาย ข้าหลิงอิ่งจากอาณาจักรธรรมชาติแห ห่งหอสร้างโลก”
อันหลินพยักหน้าแล้วยกมือขึ้นคารวะตอบ “สวัสดีหลิงอิ่ง ข้าอันหลินจากแดนจิ่วโจวแห่งสรวงสวรรค์”
หลิวฉู่ฉู่ก็แนะนำตัวเองเช่นกันว่า “สวัสดี ข้าหลิวฉู่ฉู่จากแดนจิ่วโจวแห่งสรวงสวรรค์”
“ข้าทีน่าจากเมืองใจกลาง!” ทีน่ากางปีกสีทองแล้วพูดอย่างยิ้มแย้ม
หงโต้วกินยารักษาบาดแผลแล้วเดินกะเผลกเข้ามา มองอันหลินแวบหนึ่งด้วยความรู้สึกผิด เบะปากแล้วเบนสายตามองหลิวฉู่ฉู่ก่อนจะพูดว่า “ข้าหงโต้วจากอาณาจักรธรรมชาติแห่งหอสร้างโล ลก”
ดวงตาของหลิวฉู่ฉู่เป็นประกาย ที่แท้มันก็คือหงโต้วที่มีฉายาดีที่สี่นี่เอง
อันหลินโค้งให้หงโต้วกับหลิงอิ่งเล็กน้อยๆ ใบหน้ามีความซาบซึ้ง “ขอบใจพวกเจ้าทั้งสองที่ลงมือช่วยเหลือ ข้าขอขอบคุณทั้งสองมา ณ ที่นี้ก่อน”
ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร หงโต้วกับหลิงอิ่งลงมือช่วยอันหลินจัดการมังกรพันเนตรจริงๆ บุญคุณครั้งนี้เขาจะจำจดไว้ในใจ
“ฮ่าๆ ๆ…สหายอันหลินไม่ต้องทำเช่นนี้หรอก พวกข้าไม่ได้ช่วยอะไรเลย” หลิงอิ่งรีบโบกมือเป็นพัลวัน หนวดสีขาวกึ่งโปร่งแสงหลายสิบเส้นโบกไปโบกมากลางอากาศ
หงโต้วกลับถูกคำขอบคุณคำนี้เล่นเอาละอายใจ ฮึดฮัดเบาๆ แล้วสะบัดหน้าไปยังทางอื่น
เมื่อแนะนำตัวกันแล้วหลิงอิ่งก็ค่อยๆ เหาะไปยังใจกลางของทะเลสาบขาวช้าๆ
“พวกเจ้าก็อย่าเศร้าไปเลย ข้าคิดว่าก้นทะเลสาบขาวแห่งนี้ไม่ธรรมดา”
หลิงอิ่งเป็นแมงกะพรุน จึงค่อนข้างรู้สึกไวกับสิ่งที่เกี่ยวกับน้ำเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้จึงสังเกตเห็นความผิดปกติ
อันหลินกับพวกหลิวฉู่ฉู่ต่างก็ตาลุกวาว เหาะตามหลิงอิ่งไปยังกลางทะเลสาบขาว
“ตามข้ามา ที่นี่อาจจะเป็นแดนพิศวง มังกรปีศาจตัวเมื่อครู่นี้น่าจะเป็นอสูรพิทักษ์แห่งแดนพิศวง!” หลิงอิ่งดำลงไปในทะเลสาบก่อน
ไม่รู้เพราะเหตุใด อันหลินนึกถึงเจียงอันหลานแห่งโบราณสถานเมฆขาว เจียงอันหลานก็เป็นมังกรเช่นกัน ทำหน้าที่พิทักษ์โบราณสถานสถานบันวิจัยจื่อซิง หมายความว่ามังกรพันเนตรก็เป็นสิ่ง งมีชีวิตเฉกเช่นเจียงอันหลานน่ะสิ
เรื่องที่พวกเขาทำก่อนหน้านี้เท่ากับสังหารเจียงอันหลาน จากนั้นเข้าไปในโบราณสถาน…
ต้องมีเครื่องสังเวยจำพวกวัวสายรุ้งที่ทำให้มังกรพันเนตรเป็นฝ่ายช่วยให้พวกเขาเข้าไปในแดนพิศวงหรือไม่
ขณะที่อันหลินกำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่นั้น หลิงอิ่งก็มาถึงก้นทะเลสาบแล้ว
ก้นทะเลสาบมืดสนิท แต่ยังสามารถเห็นหลุมขนาดใหญ่ที่เกิดจากการระเบิดได้
หนวดของหลิงอิ่งขยับไปมาอย่างรวดเร็ว ระเบิดลำแสงที่เจิดจ้าอย่างยิ่งแล้วสลักอักขระประหลาดตัวแล้วตัวเล่า
อักขระกะพริบ ก่อตัวเป็นพลังกระจายไปทั่ว ทิศทางหนึ่งในน้ำพลันก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนขนาดใหญ่เพราะการชักนำของพลัง กระแสวนคล้ายว่าสามารถดูดทุกสรรพสิ่ง มืดมนลึกล้ำ
“นี่แหละเส้นทางแดนพิศวง ตามข้ามา!” หลิงอิ่งเห็นดังนั้นกระดิกหนวดแหวกว่ายไปยังกระแสน้ำวนด้วยความตื่นเต้น
ตอนนี้พวกอันหลินก็สัมผัสได้ถึงมิติพิเศษบางอย่างในกระแสน้ำวนเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงไม่ลังเลอีก ตามหลังหลิงอิ่งว่ายเข้าไปในกระแสน้ำวนขนาดใหญ่พร้อมกัน…