ระบบอัจฉริยะที่ไม่มีใครเสมอเหมือน - ตอนที่ 139 นักผลาญเงินตัวน้อย
[ฉางชาน พาวิลเลี่ยน]
ชู หยุนเชียง นั่งอยู่ในห้องทำงานของเขา และดูทีวีในขณะที่เขาดื่มชาอย่างผ่อนคลาย ด้วยรอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของเขา หากคุณไม่รู้จักเขาคุณจะคิดได้ว่าเขาเป็นเพียงแค่ชายวัยกลางคนที่แสนธรรมดา แต่ถ้าคุณรู้จักเขาคุณจะเข้าใจว่านี่แหละคือนักธุรกิจที่มีความทะเยอทะยานและแสนสูงส่งไม่ว่าจะเป็นสถานะหรืออำนาจเขาก็มีมากเกินกว่าความเข้าใจของคนทั่วไป
ในห้องทำงาน มีชายอยู่อีกคนหนึ่งที่กำลังดูทีวีอยู่ในห้องพร้อมกับเขา ชายคนนี้แต่งตัวดีและสวมแว่นตาที่มีขอบสีทอง คนคนนี้ก็คือทนายความที่มีชื่อเสียง จี เซินเจิ้น!
และสิ่งที่พวกเขากำลังดูอยู่ในตอนนี้ก็คือ ช่องข่าว ของเจียงเฉิง
นอกเหนือจากนักข่าวที่เกลียด หลัวฝาง เนื่องจาก เฉิน เจียนไป่ แล้ว ยังมีนักข่าวที่เป็นกลางและรายงานของพวกเขาลงในช่องของ เจียงเฉิง อยู่อีกบางส่วน
การข่มขู่ของ หลัวฝาง การสร้างหลักฐานเท็จ หรือว่ามันอาจจะมีเรื่องอื่นที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้อยู่อีกหรือไม่?
ชู หยุนเชียง ส่ายหัวของเขาและจิบชาขณะที่เขามองไปที่พาดหัวขนาดใหญ่ใต้หน้าจอ พร้อมกับพูดออกมาว่า“ฝาง ฉงเหล่ สร้างปัญหาร้ายแรงมาให้เสี่ยวหลัวแก้ปัญหาอีกครั้งแล้ว”
จี เซินเจิ้น พยักหน้า:“หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของ บริษัท หลัวฝาง ไม่สามารถต่อกรกับ ฝู เฮ่ย ได้เลย แม้ว่าจะเป็นฉันก็ไม่สามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่า ฉันจะสามารถชนะข้อโต้แย้งทางกฎหมายกับเขาได้ โดยที่ไม่ได้เตรียมตัวมาล่วงหน้า การพ่ายแพ้ของบริษัท หลัวฝาง เป็นไปตามที่คาดไว้”
“ด้วยกลุ่มนักข่าวที่กำลังรวมกลุ่มกันเพื่อทำลายชื่อเสียงของ บริษัท หลัวฝาง ในช่วงเวลาเหล่านี้สื่อโซเชียลมีบทบาทสำคัญในธุรกิจและชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก บริษัท หลัวฝาง จะประสบกับความสูญเสียมหาศาลทั้งในด้านการขาดดุลด้านความไว้วางใจและยอดขาย หากพวกเขาไม่จัดการกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ให้ดี พวกเขาจะต้องลำบากอย่างแน่นอน”
“ฝาง ฉงเหล่ เขาคงจะไม่นั่งรอดูความตายอยู่เฉยๆแน่ เสี่ยวหลัวเขาแย่งคู่ค้าเก่าจำนวนมากไปจาก taste buds ของเขา ตอนนี้เขาต้องกำลังเติมเชื้อเพลิงให้กับกองไฟอยู่แน่นอน และสายของเขาที่อยู่ใน หลัวฝาง ก็คงจะกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่อย่างแน่นอน”
หาก บริษัท หลัวฝาง ไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมและไม่มีพยาน ในระหว่างการพิจารณาคดีครั้งที่สอง ภายในห้าวันพวกเขาจะแพ้คดีอย่างแน่นอน และจากนั้นพวกเขาก็จะต้องถูกดำเนินคดีในฐานข่มขู่ผู้อื่น และพวกสื่อก็จะต้องก่อกวนทำลายชื่อเสียงของ หลัวฝาง ให้จมลงไปสู่ความหายนะอย่างแน่นอน!”
“คุณคิดว่า เสี่ยวหลัว เขาจะแก้ปัญหานี้ยังไง?” ชู หยุนเชียง ถามพร้อมกับรอยยิ้ม
“นี่เป็นเกมที่เขาแพ้ไม่ได้อีกต่อไป มีผู้สื่อข่าว 50 ถึง 60 คนรวมตัวกันอยู่ที่ทางเข้าของ บริษัท หลัวฝาง และพวกนั้นมันก็ยากที่จะจัดการ โดยไม่ต้องพิจารณาคดีฟ้องร้องกับ เฉิน เจียนไป่ ในศาล พวกเขาไม่สามารถใช้ความรุนแรงได้ และยิ่งพวกเขาอธิบายมากเท่าไหร่ หลุมที่พวกเขาขุดลงไปมันก็จะยิ่งลึกขึ้นเท่านั้น และถ้าพวกเขาทำผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ที่แสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดในหลักฐานชิ้นใดๆ สิ่งเหล่านี้มันก็จะถูกขยายโดยสื่อ นี่คือสิ่งที่นักข่าวทำได้ดี มันเป็นความจริงที่รู้กันดีว่า พวกเขามีอิทธิพลต่อความคิดเห็นของสาธารณะดังนั้นทุกประโยคและทุกคำที่ บริษัท หลัวฝาง พูดกับพวกเขามันจะต้องไม่มีช่องโหว่ใดๆให้เล่นงาน มิฉะนั้น บริษัท หลัวฝาง จะเดินเข้าไปในหลุมฝังศพของพวกเขาอย่างแน่นอน”
จี เซินเจิ้น หยุดพูดครู่หนึ่งขณะที่เขากำลังไตร่ตรองเรื่องราวทั้งหมด จากนั้นเขาก็ดันแว่นตาขึ้นแล้วพูดว่า“ดังนั้นฉันคิดว่าเสี่ยวหลัว เขาจะต้องมาขอความช่วยเหลือจากคุณ นี่อาจเป็นตัวเลือกเดียวที่เหลือสำหรับเขา”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของ ชู หยุนเชียง ก็ลึกซึ้งขึ้น เขาวางถ้วยน้ำชาแล้วโบกมือ “สิ่งที่คุณพูดมามันไม่ได้ถูกต้องไปซะทั้งหมด คุณได้ติดต่อกับเขาเพียงเล็กน้อยและไม่รู้จักเขาดี เสี่ยวหลัว เขาจะไม่ขอความช่วยเหลือจากฉันอย่างแน่นอน เขามีความภาคภูมิใจและความทะเยอทะยานของเขาเอง และเขาก็ไม่ต้องการพึ่งคนอื่นหรือเป็นหนี้ใคร เขาเป็นชายหนุ่มที่ดื้อรั้นมากที่สุดที่ฉันเคยพบ”
จี เซินเจิ้น ขมวดคิ้ว: “ถ้าเขาไม่ขอความช่วยเหลือจากคุณ แล้วเขาจะหลุดพ้นจากปัญหานี้ได้อย่างไร”
“นี่แหละคือสิ่งที่ฉันรอคอยที่จะเห็น”
ชู หยุนเชียง เบนสายตาของเขาไปทางทีวี “เสี่ยวหลัว เขาเป็นคนที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ นี่แหละคือเหตุผลที่ฉันชื่นชมเขาและให้ความสนใจเขา”
ตอนที่ ฝาง ฉงเหล่ มาเยี่ยมเขาเพื่อทดสอบเขาเมื่อเร็วๆนี้ ชู หยุนเชียง เขาก็ตระหนักได้ถึงแผนการของ เสี่ยวหลัว ในทันที คำสั่งซื้อของ ฟู้ดคอร์ท กรุ๊ป และคำสั่งซื้อจำนวนมากจากคู่ค้าเก่าของ Taste Buds อยู่ในมือของ เสี่ยวหลัว แล้ว นี่เป็นหลักฐานว่า ชายหนุ่มที่น่าเกรงขามและน่ากลัวอย่างเสี่ยวหลัวเขาเป็นคนที่มีความสารถอย่างไร เขามีทักษะบางอย่างที่ผู้อื่นไม่สามารถแม้แต่ที่จะฝันถึงได้ แม้จะเป็น ชู หยุนเชียง เมื่อตอนที่เขาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับเสี่ยวหลัว เขาก็ไม่มีทางที่จะสามารถประสบความสำเร็จแบบนั้นได้
ชู หยุนเชียง ยิ้มและพึมพำกับตัวเอง “ปลาคาร์ฟสีทองอยู่ในบ่อแล้ว มันจะต้องใช้ลมกระโชกแรงสักเล็กน้อย สำหรับเขาที่จะกลายไปเป็นมังกร เมื่อถึงตอนนั้นเขาจะทำให้ฉันประหลาดใจขนาดไหนกันแน่นะ?”
จี เซินเจิ้น ตกตะลึง เขาไม่เคยคิดเลยว่า ชู หยุนเชียง จะประเมิน เสี่ยวหลัว สูงมากขนาดนี้
[Taste Buds]
“ไอเด็กเวรเสี่ยวหลัว ฉันอยากจะเห็นหน้าของแกจริงๆ ว่าตอนนี้แกจะทำหน้ายังไง ฮ่าฮ่าฮ่า”
ฝาง ฉงเหล่ ดูข่าวและยิ้มอย่างมีความสุข เขาปลดปล่อยอารมณ์ของเขาออกมาทั้งหมด ครั้งนี้เขาต้องการให้ หลัวฝาง ตายลงไปอย่างสมบูรณ์โดยไม่มีโอกาสกลับมาลุกขึ้นยืนได้อีก
ในตอนนั้นเองประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออกและ ฝาง ชูหลาน ก็เดินเข้ามาพร้อมกับชุดนักศึกษาของเธอ เธอเหลือบมองมาที่พ่อของเธออย่างแปลกๆ และพูดว่า: “อะไรทำให้พ่อมีความสุขมากขนาดนี้? หนูได้ยินเสียงหัวเราะของพ่อดังมาตั้งแต่ที่โถงทางเดิน”
“มันเป็นเรื่องดี!” เมื่อเห็นลูกสาวของเขาดวงตาของ ฝาง ฉงเหล่ ก็เต็มไปด้วยความรัก
“บริษัท หลัวฝาง ข่มขู่นักข่าวและแบล็กเมล์พวกเขา และสร้างหลักฐานปลอมเพื่อกลบชื่อเสียงผ่านการโกหก” พ่อนี่เป็นหนึ่งในแผนการของพ่อใช่ไหม” ฝาง ชูหลาน เดาได้ในทันทีว่าข่าวนี้เกี่ยวข้องกับพ่อของเธอ
ฝาง ฉงเหล่ ยิ้มให้กับเธอและไม่ได้พูดอะไร ซึ่งนั่นหมายความว่ามันชัดเจนอยู่แล้ว
“พ่อเก่งจริงๆ หลัวฝาง ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพ่อเลย ในไม่ช้ามันจะต้องปิดตัวลง และ Taste Buds ของเราก็จะผูกขาดตลาด” ฝาง ชูหลาน ยกนิ้วให้กับพ่อของเธอพร้อมยิ้มแย้มแจ่มใส
ฝาง ฉงเหล่ เงยหน้าขึ้นแล้วพูดอย่างเฉยชาว่า:“ไอเด็กเวรเสี่ยวจาก บริษัท หลัวฝาง มันยังเด็กเกินไปที่จะมาเป็นคู่ต่อสู้ของพ่อ แค่พ่อสบัดแขนเสื้อใส่มันก็ตายแล้ว”
เด็กเวรเสี่ยว?
ฝาง ชูหลาน ตกตะลึงเล็กน้อยเพราะในใจของเธอนึกชื่อของ เสี่ยวหลัว ขึ้นมาได้ในทันที
ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่พบกันที่สันเขาหมูป่า มันใช้เวลานานมากกว่าที่เธอจะหายจากอาการหวาดกลัว แม้ว่าทหารรับจ้างจะทิ้งความหวาดกลัวที่ลบไม่ออกในใจของเธอ แต่เสี่ยวหลัวเขาก็ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าพวกทหารรับจ้างเลย
ดังนั้นเมื่อเธอได้ยินคำว่า “เสี่ยว” จากปากพ่อของเธอ เธอก็จะนึกถึงผู้ชายคนนั้นที่เคยทำให้เธอหวาดกลัว เธอจะไม่มีวันลืมฉากเมื่อตอนนั้นที่เสี่ยวหลัวคว้าจับไปที่คอของเธอ ประสบการณ์การของชีวิตและความตายเมื่อตอนนั้น เมื่อเธอนึกถึงมัน มันก็จะทำให้ตัวของเธอตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว!
เธอส่ายหัวและพยายามโยนสิ่งเหล่านี้ให้ออกไปจากหัวของเธอ เธอพูดว่า “พ่อ หนูไม่มีเงิน”
นี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเดินทางมาที่นี่ของเธอ
“พ่อไม่ได้ให้ลูกไป 100,000 หยวน เมื่อครึ่งเดือนที่แล้วหรอกเหรอ?” ฝาง ฉงเหล่ ถาม
“หนูจะไม่อธิบายว่าเงินไปไหน แต่หนูแค่ไม่มีเงินอีกต่อไปแล้ว พ่อขอเงินหน่อย!” ฝาง ชูหลาน หน้าขมึงตึง
ฝาง ฉงเหล่ ส่ายหัวของเขา: “ได้ ได้ พ่อจะให้ลูกอีก 100,000 หยวน ในวันนี้ แต่ … ”
“เย้”
ฝาง ชูหลาน วิ่งเข้าไปกอดรอบคอของ ฝาง ฉงเหล่ ในทันทีและจูบไปที่แก้มของเขาและหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข:“พ่อเป็นคนที่ดีที่สุดในโลกเลย!”
ใจของ ฝาง ฉงเหล่ ละลายทันที มีคำกล่าวว่าลูกสาวเป็นคู่รักของพ่อในชาติที่แล้วของพวกเขาและภายใต้มนตร์เสน่ห์ของ ฝาง ชูหลาน เขาไม่มีกระจิตกระใจไปคิดถึงเรื่องเงินอีกต่อไปแล้ว เขาได้แต่พูดเตือนเธอว่า“อย่า ใช้มันทั้งหมดในหนึ่งวัน!”
“หนูไม่กลัว เพราะพ่อมีเงินเยอะมากที่สุดในโลก แม้ว่าพี่ชายและหนูจะพยายามใช้มัน แต่เราก็ไม่สามารถใช้มันได้จนหมดเลยตลอดชีวิตนี้ พ่อ หนูจะออกไปเที่ยวในคืนนี้ ดังนั้นอย่าลืมโอนเงินไปยังบัญชีของหนูล่ะ หนูจะต้องใช้มัน”
“ลูกเป็นนักผลาญเงินตัวน้อยจริงๆ!”
ฝาง ฉงเหล่ ส่ายหัวอย่างไร้ประโยชน์ แต่มันก็มีรอยยิ้มที่มีความสุขปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา