ระบบอัจฉริยะที่ไม่มีใครเสมอเหมือน - ตอนที่ 162 ปฏิเสธ
หลังจากที่ได้กินยาตามที่เสี่ยวหลัวบอกมาในระยะหนึ่ง เจียง หยงชุน ก็พบว่าพลังงานของเขานั้นมันเริ่มกลับคืนมาบ้างแล้ว และสิ่งที่ทำให้เขาปลาบปลื้มใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ“น้องชายคนเล็ก” ของเขาที่ไม่ได้ใช้งานมานาน ก็เริ่มที่จะตอบสนองต่อเซ็กส์ ที่แสนรื่นรมได้ ในที่สุดมันก็ได้ตื่นขึ้นจากการหลับใหลอันยาวนาน! แม้ว่ามันจะไม่ได้กลับมาสวยงามเหมือนดั่งตอนที่เขายังเด็ก แต่อย่างน้อยเขาก็สามารถมีความสุขกับผู้หญิงของเขาได้อีกครั้งแล้ว
เขารู้สึกขอบคุณ เสี่ยวหลัว เป็นอย่างมาก และในที่สุดเขาก็ได้กลายมาเป็นผู้สนับสนุนที่ซื่อสัตย์ของ เสี่ยวหลัว
ดังนั้นเมื่อเขาเห็นว่า คนเหล่านี้กำลังสร้างความยากลำบากให้กับ เสี่ยวหลัว เขาจึงไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยที่จะก้าวออกมาเปิดเผยตัวตนของ เสี่ยวหลัว จุดประสงค์ของเขาก็คือเพื่อระงับคนเหล่านั้นที่จะมาสร้างปัญหา เนื่องจากเขาเป็นหุ้นส่วนของโรงพยาบาล และแพทย์อาวุโสหลายคนที่เคารพนับถือเขาก็จำเขาได้ สิ่งที่เขาพูดออกมาโดยธรรมชาตินั้นมันมีน้ำหนักมาก
คนที่ตกใจมากที่สุดคือ เสี่ยวรุ่ยอิง และ ถังเหริน
“พี่ชายของฉัน…พี่ชายของฉันเขาเป็นประธานของ บริษัท หลัวฝาง จริงๆ?”
เสี่ยวรุ่ยอิง มองไปที่ จาง ซูซาน และถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
จาง ซูซาน ยักไหล่และแบมืออกมาพร้อมกับพูดว่า:“ใช่แล้ว ฉันก็เคยพูดไปแล้วหนิ แต่เธอไม่เชื่อเอง และตอนนี้พวกเขาทั้งสองคน ต่างก็กำลังทำงานให้เสี่ยวหลัว”
ฝู อู๋ฮั่น และ เสี่ยวอู๋ พยักหน้ากันอย่างพร้อมเพรียง
“โอ้พระเจ้า พี่ชายของฉันทรงพลังมากขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย!”
ถังเหริน ไม่อยากจะเชื่อ นี่มันเหนือจินตนาการของเขาไปแล้ว เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เขาจะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ ประธานที่มีมูลค่าสุทธิหลายร้อยล้านในช่วงชีวิตนี้ ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นเพียงแค่แพทย์ฝึกหัด ที่ไม่มีนัยสำคัญอะไร และเขาก็ยังไม่ได้แม้แต่ใบรับรองจากแพทย์เลยด้วยซ้ำ เขาเป็นเพียงแค่ลูกปลาตัวเล็กๆ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าบุคคลเช่นนี้ ซึ่งเป็นประธานของ บริษัทหลัวฝาง ที่มีมูลค่าสุทธิอย่างน้อยเจ็ดถึงแปดร้อยล้าน จะเป็นพี่ชายของภรรยาของเขา
ซุนยู้ ตกตะลึง เธอรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองได้สูญเสียความสามารถในการควบคุมการกระทำของตัวไป และ เธอก็ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม สายตาของเธอจ้องมองไปที่เสี่ยวหลัวซึ่งกำลังยืนอยู่บนเวที พร้อมกับพึมพำออกมาเบาๆกับตัวเองว่า:“งั้น…เขาก็เป็นประธานของ บริษัท หลัวฝาง จริงๆงั้นเหรอ…”
ข่าวที่ได้รับรู้อย่างกะทันหันนี้ มันทำให้เธอประหลาดใจและมันก็ทำให้เธอตกตะลึงเป็นอย่างมาก!
ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมลุงของเธอถึงได้ขอให้เธอจับเสี่ยวหลัวเอาไว้ให้แน่น แต่ว่า …
ริมฝีปากของซุนยู้สั่นสะท้าน เธอทรุดตัวนั่งลงไปราวกับว่าเธอได้สูญเสียวิญญาณไป นี่ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับเธอเลยแม้แต่น้อย เมื่อเธอจินตนาการถึงช่องว่างระหว่างเธอกับเสี่ยวหลัวที่กำลังกว้างออกไปเรื่อยๆ ซึ่งมันกว้างเกินไปที่จะมาข้องเกี่ยวกันได้ เธอเปรียบว่าเสี่ยวหลัวอยู่บนท้องฟ้า และเธออยู่บนพื้นดิน เขาเป็นผู้ประกอบการที่อายุน้อยและก็เป็นประธานของ บริษัท ที่มีชื่อเสียง ในขณะที่เธอเป็นเพียงพยาบาลจากภูมิหลังที่ต่ำต้อย โดยที่ได้รับเงินเดือนเพียง 3,000 หยวน ต่อเดือนเท่านั้น
ความแตกต่างของสถานะทางสังคมนี้ มันทำให้เธอรู้สึกอับอายเมื่อเธอยืนอยู่ต่อหน้า เสี่ยวหลัว
“คุณซุนยู้คนสวย คุณจะเลือก ดร.ฝู หรือประธานเสี่ยวที่อายุน้อยและมีความสามารถ ที่ยืนอยู่ที่ข้างๆฉัน?”
เสียงของ เจียง หยงซุน มันทำให้เธอกลับมาสู่ความเป็นจริง
ทุกสายตาจับจ้องมาที่เธอในขณะนี้ เธอรู้สึกเหมือนกับว่ามีกำแพงขนาดมหึมาที่มองไม่เห็นก่อตัวขึ้น และความกดดันนี้มันก็กำลังบดขยี้เธออยู่
ดวงตาของ หู่ ซัวหรง ที่ยืนอยู่ข้างๆเธอมีทั้งความหวังและยากที่จะซ่อนความกังวลของเธอ จากมุมที่เธอยืนอยู่ เธอตะโกนบอกซุนยู้อย่างตื่นเต้นว่า“ยู้ยู้ เลือกเสี่ยวหลัวเร็วเข้า! เขาสามารถพาเธอให้ออกไปจากหลุมนรกที่สกปรกนี้ได้อย่างแน่นอน!”
ซุนยู้ ในตอนนี้เธอเป็นเหมือนกับนักแสดงที่ขึ้นแสดงบนเวทีเป็นครั้งแรก และถูกจ้องมองจากสายตาของผู้ชมนับร้อยคู่
ทันใดนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืนและตอบกลับด้วยเสียงอันดัง“ฉันจะไม่เลือกอะไรทั้งนั้น!” จากนั้นเธอก็หันหลังแล้ววิ่งออกไปข้างนอกโรงแรมในทันที
ไม่เลือก งั้นเหรอ? !
เจียง หยงซุน ตกตะลึง จาง ซูซาน ก็ตกตะลึง เสี่ยวรุ่ยอิง ก็ตกตะลึงจนตาเบิกกว้าง
ผลลัพธ์นี้มันเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด พวกเขาไม่คิดเลยว่า ซุนยู้ จะไม่เลือกใคร!
“เกิดอะไรขึ้นกัน?” จาง ซูซาน ถาม ขณะที่เขาหันไปทอง เสี่ยวรุ่ยอิง เขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เสี่ยวรุ่ยอิง ตะคอกกลับ: “คุณกำลังถามฉัน? แล้วจะให้ฉันไปถามใครห่ะ!”
เธอเคยถามซุนยู้ เกี่ยวกับความรู้สึกของเธอที่มีต่อพี่ชายของเธอเป็นการส่วนตัวมาก่อน จากวิธีการที่ ซุนยู้ พูดกับเธอ เธอแน่ใจว่าซุนยู้ชอบพี่ชายของเธอแน่ๆ แต่ทำไมตอนนี้ ซุนยู้ ถึงได้ปฏิเสธพี่ชายของเธออย่างกะทันหันกัน? เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ
เสี่ยวหลัว ยังคงจ้องมองไปที่ประตูอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ส่ายหัวและยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาวางไมโครโฟนลง แล้วเดินลงไปจากเวทีในทันที
เจียง หยงซุน ที่ยืนอยู่บนเวทีทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ เขาต้องการที่จะสร้างความดีความชอบให้กับเสี่ยวหลัว แต่ใครจะไปรู้ว่าผลลัพธ์มันจะกลายมาเป็นแบบนี้? แผนของเขามันไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ และตอนนี้เขาก็อายเกินกว่าที่จะพูดกับเสี่ยวหลัวเช่นกัน
“เจียง หยงซุน คุณคิดว่าฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณหรือไง”
เสี่ยวหลัว หยุดเดินอย่างกะทันหันและหันกลับมามองไปที่ เจียง หยงซุน และพูดออกมาอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็กระโดนลงไปจากบนเวที โดยที่ไม่ได้หันกลับมามอง
“ประธานเสี่ยว ฉ…ฉัน…”
เจียง หยงซุน อยากจะตบหัวตัวเองสักสองสามครั้ง เขาทำอะไรลงไปกัน? เขาไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ แต่ตอนนี้เสี่ยวหลัวกลับรู้สึกไม่พอใจเขาแล้ว เจียง หยงซุน รู้สึกหดหู่ใจกับการกระทำของตัวเองที่ทำออกไปเป็นอย่างมาก
…… ..
“พี่ชาย พี่…โอเคไหม”
เสี่ยวรุ่ยอิง ถามด้วยความกังวล ขณะมองไปที่ใบหน้าที่เย็นชาของ เสี่ยวหลัว ที่กำลังเดินมา
เสี่ยวหลัว ลูบหัวของเธอและยิ้ม “พี่โอเค”
“อืม พี่ไม่ต้องเสียใจไปนะ ยู้ยู้ คงไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะว่าทุกอย่างมันกระทันมากเกินไป หนูรับรองได้เลยว่า เธอชอบพี่อย่างแน่นอน” เสี่ยวรุ่ยอิง พูด
“ใช่แล้ว จากประสบการณ์เจ็ดถึงแปดปีของฉันในการจีบสาว น้องสาวซุน จะต้องมีความรู้สึกที่ดีกับแกอย่างแน่นอน แต่ฉันก็คิดไม่ออกเลยว่าทำไมเธอถึงได้ปฏิเสธแกไปอย่างนี้” จาง ซูซาน กล่าว ขณะที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็นำมือออกมาลูบเคราในจินตนาการของเขาอีกครั้ง อย่างครุ่นคิด
เสี่ยวหลัวยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร
เสี่ยวหลัว ไม่ได้เสียใจอะไรมากมาย แต่เขาก็รู้สึกได้ว่า ซุนยู้ ดูเหมือนว่าเธอจะกำลังปิดบังอะไรบางอย่างเอาไว้อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่ หู่ ซัวหรง เพื่อนของเธอเคยพูดกับเขาในก่อนหน้านี้: ที่ให้พาเธอหนีไปให้ไกลๆ
ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะบอกใบ้อะไรบางอย่างให้กับเขา
“ผมคิดว่าสิ่งที่เสี่ยวอู๋พูดนั้นถูกต้องแล้ว อย่าคิดมากและจินตนาการกันไปเองเลย เพียงแค่ทำให้เธอหมดสติและพาเธอกลับมาก็จบแล้ว” เฟิง อู๋ฮั่น พูดความคิดเห็นของเขาออกมาด้วยความมั่นใจ
เสี่ยวหลัวมองไปที่เขา แล้วรู้สึกพูดไม่ออก
… …
ซุนยู้ เดินไปที่มุมหนึ่งที่เงียบสงัด จากนั้นเธอก็ยืนพิงต้นไม้เธอแล้วร้องไห้ออกมา เธอร้องไห้เหมือนกับเด็กที่หลงทางในตอนกลางคืน
“ยู้ยู้!”
หู่ ซัวหรง ที่ไล่ตามเธอมาร้องเรียกเมื่อเธอเห็น ซุนยู้
ซุนยู้เริ่มสะอื้น เธอพยายามปกปิดความเจ็บปวดด้วยมือของเธอ แต่พันธนาการเหล่านั้นก็หายไปเมื่อ หู่ ซัวหรง วางมือบนไหล่ของเธอ เธอหันกลับมาและกอด หู่ ซัวหรง และร้องไห้ออกมาในทันที:“ซัวหรง ฉันจะทำอย่างไร ฉันจะทำอย่างไรดี? ฮือฮือ…”
ดวงตาของ หู่ ซัวหรง ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเช่นกัน จากนั้นเธอก็ลูบหลังของซุนยู้เบาๆพร้อกับพูดออกมาว่า :“ทำไมเธอถึงไม่ตอบตกลงที่จะไปกับเขาล่ะ? ฉันสามารถบอกได้เลยว่าเสี่ยวหลัวเขาเป็นคนดี”
“เป็นเพราะว่าเขาดีและโดดเด่นเกินไป นั่นแหละคือสาเหตุที่ฉันไม่กล้าตอบตกลง เธอรู้ไหมว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่สะอาด ถ้าเขารู้เรื่องนั้น ฉัน…”
ใบหน้าของซุนยู้ เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและขณะที่สะอื้นไห้ เธอก็กัดริมฝีปากของเธออย่างแรง “ฉันไม่คู่ควรกับเขาเลย!”
“อย่าโง่ นี่มันไม่ใช่ความผิดของเธอเลย ทั้งหมดนี้มันเป็นความผิดของ ไอสารเลวนั่น เขาทำร้ายเธอและเขาก็ทำร้ายฉันด้วย ฉันจมดิ่งลงลึกเกินไป และฉันก็ไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีกต่อไป แล้ว แต่เธอไม่เหมือนกับฉัน เธอต้องมุ่งมั่นเข้าไว้น่ะ เธอไม่สามารถถูกควบคุมโดยเขาได้อีกต่อไป ดังนั้นเธอจงกล้าหาญและไปด้วยกันกับเสี่ยวหลัว ผู้ชายคนนั้นสามารถช่วยเธอได้!” หู่ ซัวหรง พูดปลอบเธอ
ซุนยู้ส่ายหัวและพูดว่า:“ฉันไม่กล้าบอกให้เขารู้!”
“เธออยากถูกไอ้สารเลวนั่น ทรมานต่อไปอีกงั้นเหรอห่ะ!”
ตอนนี้อารมณ์ของ หู่ ซัวหรง ประทุออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้“ไอสารเลวนั่นมันเป็นแค่สัตว์เดรัจฉาน ไอเลวนั่นมันได้ทำร้ายเด็กสาวไปหลายคนแล้ว และฉันก็ไม่สามารถเฝ้าดูเธอถูกไอเลวนั่นทำลายได้อีกต่อไป ดังนั้นสัญญากับฉันสิ เสี่ยวหลัว เขามีความสามารถที่จะพาเธอให้ออกไปจากนรกนั่นได้แน่”
“ฉัน…ฉันอยากจะขอคิดดูก่อน…”
ซุนยู้ ก้มหน้าลง น้ำตาของเธอก็ยังคงหลั่งไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ