ระบบอัจฉริยะที่ไม่มีใครเสมอเหมือน - ตอนที่ 183 พลังที่น่ากลัว
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสนิทแม้แต่เสียงเข็มหล่นก็คงได้ยิน ทั้ง หลง ซานกุย และ ชู หยุนเชียง ต่างก็พากันมองไปที่ เสี่ยวหลัว ด้วยสายตาที่ตกตะลึง หากพวกเขาไม่ได้เห็นมันด้วยตาของตนเอง พวกเขาก็คงจะไม่เชื่ออย่างแน่นอนว่าคนๆหนึ่งจะสามารถดื่มเหล้า เหมาไถ ทั้งสองขวดที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 53% ติดต่อกันได้ นอกจากความมึนเมาจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แล้ว กระเพาะอาหารของเขาก็คงจะถูกเผาไหม้อย่างแท้จริงจากพิษของแอลกอฮอล์ แล้วนี่มันเป็นไปได้ยังไงที่เขายังยืนตรงอยู่ได้?
“มันเป็นเหล้าที่ดีจริงๆ ตั้งแต่เกิดมา ฉันไม่เคยดื่มเหล้าที่หวานขนาดนี้มาก่อนเลย” เสี่ยวหลัว จ้องมองไปที่ หลง ซานกุย ด้วยสายตาที่ดูถูก
คำพูดเหล่านี้มันเกือบจะทำให้ หลง ซานกุย อาเจียนออกมาเป็นเลือด ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาได้กลิ่นที่หอมหวานที่อบอวนอยู่ในขวดเปล่าทั้งสองขวด เขาก็คงจะคิดว่า เสี่ยวหลัว นั้นเพิ่งจะดื่มน้ำเปล่าลงไปทั้งสองขวดอย่างแน่นอน
“ไอ้เวรเอ้ย!”
ใบหน้าของ หลง ซานกุย ค่อนข้างน่าเกลียด เขาตบโต๊ะอย่างแรง เขาคิดว่าเหล้า เหมาไถ ทั้งสองขวดนั้นก็สามารถฆ่าเสี่ยวหลัวได้อย่างง่ายดายแล้ว แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากที่เสี่ยวหลัว ได้ดื่มเหล้าไปแล้วมันยังจะยกย่องว่ามันเป็นเหล้าที่ดีอีก นี่มันเป็นเหมือนกับการตบหน้าของเขาชัดๆ“แกมันเป็นสัตว์ประหลาด!”
ชู หยุนเชียง เผยรอยยิ้มออกมา “บอสหลง,เสี่ยวหลัว ได้ดื่มเหล้า เหมาไถ ไปแล้วสองขวดตามความต้องการของคุณ ตอนนี้คุณจะยุติความบาดหมางกับเขาลงทั้งหมดใช่ไหม… ”
ชู หยุนเชียง ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขารอให้ หลง ซานกุย เป็นคนที่พูดออกมาเอง
“แน่นอนว่า ฉันรักษาคำพูดของฉันเสมอ ความแค้นระหว่างฉันกับไอเด็กเวรนี่ ถือว่าจบลงแล้ว และแก๊งมังกรของฉันก็จะไม่ไปแตะต้องมันอีก”
หลง ซานกุย เอียงศีรษะเล็กน้อยและทันใดนั้น เขาก็พูดอย่างเย็นชากับ เล้งเปา และ ต้าหยวน ที่อยู่ข้างหลังของเขาว่า “เล้งเปา ต้าหยวน นับจากวันนี้เป็นต้นไป พวกแกถูกไล่ออกจากแก๊งมังกรและไม่ต้องมาติดต่ออะไรกับมังกรอีก จากนี้ไปสิ่งที่พวกแกทำจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉัน แกได้ยินไหม ”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นทั้ง เล้งเปา และ ต้าหยวน ต่างก็พากันตกตะลึง ถูกไล่ออกและตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับแก๊งมังกร? นี่มัน…….
“พี่หลงเราทำอะไรผิด? ทำไมพี่ถึงได้ไล่เราออกจากแก๊งมังกร”
ต้าหยวน ร้องออกมาเสียงดังอย่างตื่นตระหนก เขาไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่า เขาถูกไล่ออกจากแก๊งมังกร ได้ เขารับใช้แก๊งอย่างซื่อสัตย์มาเป็นเวลาหลายปี แล้วจู่ๆทำไมเขาถึงถูกไล่ออกอย่างนี้?
“ต้าหยวนไปกันเถอะ”
เล้งเปา ลากตัวของ ต้าหยวน ออกมาเลยโดยตรง
“แกมาลากฉันออกมาเพื่ออะไร พี่หลง เขาบ้าไปแล้ว เขาไล่พวกเราออกจากแก๊งมังกรจริงๆ แกไม่อยากถามพี่หลงเหรอว่าทำไม?” ต้าหยวน ยังคงส่งเสียงร้อง
เล้งเปา ดันแว่นตาของเขาขึ้นและแสงเย็นก็ฉายในดวงตาที่เป็นดั่งงูพิษของเขา: “พี่หลง ไม่ต้องการปล่อยเสี่ยวหลัวไป แต่เขาเพิ่งจะสัญญากับ ชู หยุนเชียง ว่าแก๊งมังกรจะไม่โจมตีเสี่ยวหลัว แกไม่เข้าใจเรื่องนี้หรือไง ไอคิวของแกมันช่างน่าสมเพชจริงๆ ”
ตั้งแต่ออกมาจากห้องใบหน้าของ ต้าหยวน ก็บิดเบี้ยว แต่หลังจากที่เขาได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ในทันทีว่า ท้องฟ้ามันปลอดโปร่งและหัวเราะออกมา: “พี่หลง เป็นอัจฉริยะจริงๆ ตอนนี้เราไม่ใช่สมาชิกแก๊งมังกรแล้ว ดังนั้นเราจึงสามารถโจมตีเสี่ยวหลัวได้ ฮ่าฮ่าฮ่า.. ”
เล้งเปาพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรต่อ
ในห้อง ชู หยุนเชียง มองไปที่ หลง ซานกุย และพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า“ บอสหลง คุณเก่งเรื่องเล่นลิ้นจริงๆ!”
หลง ซานกุย ถอนหายใจ“ประธานชู มันไม่ใช่การเล่นลิ้นอะไรจริงๆ เด็กพวกนั้นมันฝ่าฝืนกฎที่ฉันตั้งไว้ เพราะฉะนั้นพวกมันจึงถูกไล่ออกจากแก๊งมังกร นี่คือเรื่องของแก๊งมังกร ประธานชู คุณคงจะไม่เข้ามายุ่งใช่ไหม”จากนั้น หลง ซานกุย ก็ดื่มน้ำชาลงไปจนหมดและลุกขึ้นยืน “เอาล่ะเนื่องจากเราคุยกันเสร็จแล้ว ฉันก็ควรจะไปได้แล้ว ไว้เจอกันใหม่ประธานชู”
หลง ซานกุย หยิบไม้เท้าหัวมังกรขึ้นมา และเดินไปหยุดอยู่ตรง เสี่ยวหลัว และยื่นมือออกมาตบไหล่ของเสี่ยวหลัว “พายุอาจเกิดขึ้นจากท้องฟ้าที่แจ่มใส และชะตากรรมของชายคนหนึ่งมันก็ไม่แน่นอนดั่งเช่นสภาพอากาศ ดูแลตัวเองเอาไว้ให้ดีๆนะ ฮ่าฮ่าฮ่า … ”
เมื่อ หลง ซานกุย พูดจบเขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง แล้วเดินออกจากห้องไป
ชู หยุนเชียง ดื่มชาถ้วยสุดท้ายจนหมด แล้วถาม เสี่ยวหลัว ด้วยความเป็นกังวลว่า“ เสี่ยวหลัว คุณต้องการยาสำหรับอาการเมาค้างหรือเปล่า?”
“ไม่” เสี่ยวหลัว ส่ายหัว
ภายใต้การห่อหุ้มด้วยพลังภายในฤทธิ์ของเหล้า เหมาไถ ทั้งสองขวด มันจะค่อยๆไหลซึมออกมา ซึ่งนั่นมันจะทำให้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆต่อร่างกายของเขา
“การประนีประนอมในครั้งนี้ มันไม่บรรลุผลไปตามที่คาดหวัง และ หลง ซานกุย ก็ได้เล่นลิ้นจนมันออกมาเป็นอย่างนี้ซะได้”
ชู หยุนเชียง กำถ้วยชาไว้แน่น พูดตามตรงถ้าหากว่า หลง ซานกุย กล้าที่จะเล่นลิ้นกับเขาแบบนี้ตอนที่เขายังหนุ่มอยู่หละก็ เขาจะต้องฆ่า หลง ซาน กุย ด้วยวิธีที่ทรมานที่สุดไปแล้วแน่ๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้สิ่งต่างๆมันแตกต่างออกไป มันมีคนหลายคนที่ต้องพึ่งพาเขา และ ลูกสาวของเขา ชูเยว่ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้ และเขาก็จะต้องเพิกเฉยต่อสิ่งอื่นใดเพราะเห็นแก่เธอ ความปรารถนาของเขาก็คือ การให้เธอมีชีวิตที่สงบสุขและไม่ต้องเป็นกังวลอะไร
“ก็อย่างที่พวกเขาพูดกันว่า ‘คุณธรรมนั้นสูงเพียงหนึ่ง แต่ปีศาจนั้นกลับสูงเป็นสิบ’ หลง ซานกุย นั้นมีไหวพริบที่ดีจริงๆ แต่ผมก็ต้องขอขอบคุณประธานชูมาก สำหรับทุกสิ่งที่คุณทำให้กับผมในวันนี้” เสี่ยวหลัว ยิ้มออกมาอย่างเข้าใจ
“คุณควรระวังตัวให้มากขึ้น หลังจากที่ออกจากที่นี่ เล้งเปาและต้าหยวน ต่างก็เป็นนักสู้ที่เก่งกาจมาก”
เสี่ยวหลัว พยักหน้า
“อย่างไรก็ตาม วันนี้ผมมาที่นี่เพื่อเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง”
เสี่ยวหลัวหยิบบัตรธนาคารออกมาจากกระเป๋า และส่งไปให้กับ ชู หยุนเชียง
“นี่คือ?”
“นี่คือเงินที่ผมเป็นหนี้คุณ ทุกอย่างอยู่ข้างในนี้รวมถึงดอกเบี้ยของธนาคารด้วย รหัสผ่านคือ 888888” เสี่ยวหลัว ยิ้ม
เล้งโจวและเล้งหยู่ ที่ยืนอยู่ใกล้ๆตกใจ เส้นตายมันควรจะเป็นในหนึ่งปี แต่เสี่ยวหลัวเขากลับเคลียร์หนี้หกร้อยล้านได้ภายในเวลาไม่ถึงสามเดือน แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าการดำเนินงานของ บริษัท หลัวฝาง นั้นจะเต็มไปด้วยความผันผวนและได้จับตลาดจำนวนมากใน เจียงเฉิง แต่พวกเขาก็ยังคงประหลาดใจอยู่ดี ที่เสี่ยวหลัวสามารถคืนเงินจำนวนมากให้กับเจ้านายของพวกเขาได้ในเวลาอันสั้นเช่นนี้
“เสี่ยวหลัวตอนนี้ฉันรู้แล้วว่า ฉันได้ประเมินความสามารถของคุณต่ำไปมาก” ชู หยุนเชียง พูดออกมาด้วยความตกตะลึงไม่แพ้กัน ในขณะที่เขาจ้องมองไปที่ เสี่ยวหลัว
“ผมแค่โชคดีหนะ”
เสี่ยวหลัวตอบกลับคำชมด้วยรอยยิ้มสุภาพ พูดตามตรงนอกเหนือจากผลการดำเนินงานทางธุรกิจของ บริษัท หลัวฝาง แล้วมันยังมีปัจจัยอื่นๆอยู่อีก ที่ทำให้เขาสามารถชำระหนี้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นก็คือเงินชดใช้จาก ฝาง ฉงเหล่ ที่ทำธุรกิจอย่างไม่เป็นธรรม และเงินแปดสิบล้านที่เขาเพิ่งจะได้มาจาก คาสิโน ฮวางเทียน
……
บางทีมันอาจเป็นเพราะว่าช่องว่างระหว่างวัย เสี่ยวหลัว จึงได้รู้สึกว่ามันมีช่องว่างในการสื่อสารกับ ชู หยุนเชียง อยู่เสมอดังนั้นเขาจึงรักษาระยะห่างกับ ชู หยุนเชียง หรือบางทีมันอาจจะเป็นเพราะว่าความภาคภูมิใจของเขา ที่ทำให้เขาไม่ต้องการเป็นหนี้บุญคุณใคร เขารู้สึกได้ว่าในช่วงเวลาอันสั้นนี้เขาจะต้องไม่พึ่ง ชู หยุนเชียง บ่อยเกินไปในอนาคต
เสี่ยวหลัว ออกมาจากโรงแรมเมเปิ้ลลีฟ และขับรถกลับบ้านด้วยรถโคโรร่าสีขาวของ จาง ซูซาน
เย่จินจิง ที่เสี่ยวหลัวเพิ่งจะแลกมานั้น มันรู้สึกแตกต่างจากที่เขาเข้าใจอยู่เล็กน้อย ตามการแจ้งเตือนของระบบ เย่จินจิง มันจะทำให้เขามีภูมิคุ้มกันต่อสารพิษทั้งหมด การปรากฏตัวของพลังภายในนั้นไม่มีที่สิ้นสุด และเขาก็รู้สึกได้ว่า มันเหมือนกับว่ามีแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวอยู่ในตัวของเขา เพียงแค่กำหมัดเบาๆ ก็รู้สึกได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่พุ่งออกมาแล้ว
“ตอนนี้ฉันแข็งแกร่งแค่ไหนกัน?”
เพื่อค้นหาคำตอบของเขา เสี่ยวหลัว จึงได้เพิ่มแรงกดในการจับพวงมาลัยเบาๆ และทันใดนั้นพวงมาลัย ที่ทำมาจากอะลูมิเนียม ก็หดตัวผิดรูปไปในทันที นิ้วทั้งสิบของเขาจมลึกอยู่ภายในพวกมาลัย
แม้จะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่เสี่ยวหลัว ก็ยังคงรู้สึกตกใจกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นนี้อยู่ดี เสี่ยวหลัว แทบที่จะไม่ได้ออกแรงอะไรเลย เขาออกแรงไปแค่ประมาณสิบถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ทำให้พวงมาลัยเสียรูปทรงได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ออกแรงบีบมันเท่านั้น
เนื่องจากรถคันนี้เป็นของ จาง ซูซาน มันจึงค่อนข้างที่จะน่าอาย ที่จะนำรถไปคืนด้วยสภาพพวงมาลัยที่เป็นเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงรีบไปหาโรงซ่อมรถเพื่อเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหายในทันที