ระบบอัจฉริยะที่ไม่มีใครเสมอเหมือน - ตอนที่ 76 ซุ่มโจมตี
ชายที่มีผมสีเงินและ ฝาง ชูหลาน ต่างก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่พวกเขาไม่เชื่อว่าเสี่ยวหลัว จะมีทักษะมากขนาดฆ่าพวกเขาได้
“นายมันเป็นแค่ไอลูกหมาตัวเมียอย่ามาขู่ฉันซะให้ยากเลย พวกบอดี้การ์ดขยะที่บ้านของ เจียเหว่ย นั้นไม่สามารถเทียบได้กับชายแปดคนที่นี่เลยสักนิด”ฝาง ชูหลาน กล่าวอย่างโอ้อวดและมีความมั่นใจมาก “พวกเขาสามารถฆ่านายได้อย่างง่ายดาย หากพวกเขาต้องการ สำหรับพวกเขาการฆ่านายมันง่ายเหมือนการบดผัก”
“อย่างงั้นเหรอ?”
เสี่ยวหลัวแสยะยิ้ม วินาทีต่อมาเขาก็หายตัวไปจากจุดที่เขายืนอยู่ และปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า ฝาง ชูหลาน เหมือนสายฟ้าสีดำ เสี่ยวหลัวยื่นมือของเขาออกมาคว้าไปที่คอที่ขาวเนียนของ ฝาง ชูหลาน เหมือนคีมโลหะคู่หนึ่ง
ความรู้สึกที่อึดอัดของการหายใจไม่ออกพุ่งขึ้นไปที่สมองของเธอในทันที ตัวของ ฝาง ชูหลาน ถูกยกขึ้นและเท้าของเธอลอยขึ้นจากพื้น ความเจ็บปวดรุนแรงกวาดพัดไปทั่วร่างกายของเธอในทันที เมื่อเห็นการแสดงออกที่ไม่แยแสของเสี่ยวหลัวอย่างใกล้ชิด ตอนนี้เธอประสบกับความหวาดกลัวอย่างแท้จริง
ชายที่มีผมสีเงินและบอดี้การ์ดทั้งแปดคนที่อยู่กับเขา รู้สึกงุนงง เสี่ยวหลัวนั้นเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วมาก จนบอดี้การ์ดไม่มีเวลาที่จะตอบสนองได้เลย
“ปล่อยน้องสาวของฉันเดี๋ยวนี้!” ชายที่มีผมสีเงิน ตวาดเสียงดังอย่างโกรธเกรี้ยว
เสี่ยวหลัว ไม่ตอบสนอง เขาเงยหน้าขึ้นและจ้องเขม็งไปที่ ฝาง ชูหลาน อย่างเย็นชา “ถ้าฉันออกแรงมากกว่านี้อีกนิด ฉันก็สามารถหักคอของเธอและยุติการดำรงอยู่ที่น่าสังเวชของเธอได้เลย ชีวิตของเธอไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเธออีกต่อไปแล้ว เมื่อกี้เธอพูดว่าเธอต้องการชีวิตของฉันสินะ?”
ฝาง ชูหลาน ที่ถูกเสี่ยวหลัวจับตัว ตอนนี้ร่างทั้งร่างของเธอสั่นเทาราวกับลูกแกะ ที่คอถูกคาบไว้โดยเขี้ยวของหมาป่าที่หิวโหย เธอดิ้นรนอย่างอ่อนแรง ใบหน้าของเธอในตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มเหมือนตับหมู เธอไม่สามารถพูดได้ แต่ดวงตาของเธอสามารถสื่อได้ถึงความกลัวที่เกิดขึ้นในใจของเธอในตอนนี้ได้ดี
ชายที่มีผมสีเงินมองไปที่ ฝาง ชูหลาน ที่เริ่มอ่อนแรง เขาตวาดอย่างเกรี้ยวกราดใส่บอดี้การ์ดที่สวมชุดดำทั้งแปดคน“ทำไมพวกแกยังยืนอยู่เฉยๆอยู่อีก? ไปฆ่าไอลูกหมา นั่นซะ!”
บอดี้การ์ดทั้งแปดคน เพิ่งจะฟื้นสติกลับมาจากความตกตะลึง พวกเขารีบวิ่งเข้าไปหา เสี่ยวหลัวทันที พวกเขาเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมาก หากไม่เปรียบเทียบกับเสี่ยวหลัว
ในขณะที่ความขัดแย้งครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในตอนนั้นเองก็มีรถ BMW ซีรีย์สามสีแดงพุ่งเข้ามา หยุดอยู่ตรงกลางของทั้งสองฝ่าย เสียงเบรคดังเอี้ยดรอยยางสีดำหลายเส้นถูกทำเครื่องหมายอยู่บนพื้นถนน!
ประตูรถเปิดออกและชูเยว่ที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวพร้อมกระโปรงสีเขียวมรกตก้าวเท้าออกมา
ผมสีดำเข้มของเธอถูกถักเปียที่ดูดี ในขณะที่ผมไม่กี่เส้นก็ถูกปล่อยให้ปลิวไสวปรกที่หน้าหน้าผากสีขาวเหมือนหยกของเธอ ตอนนี้เธอดูสวยงามและบริสุทธิ์มาก
“หยุด! ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้!” ชูเยว่ ตวาดเสียงดัง
“โย่! คุณชู นับเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่คุณมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่” เสี่ยวหลัว มีรอยยิ้มที่ขี้เล่นปรากฏบนใบหน้าของเขา
ชูเยว่ตะโกนใส่เขา“เสี่ยวหลัว วางเธอลง เดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“ทำไมฉันต้องทำตามที่เธอพูด มันเป็นเพียงเพราะว่าเธอสวยหรือไง ฉันถึงจะต้องทำตามที่เธอพูด คุณชู?” เสี่ยวหลัว กล่าวถามอย่างเฉยเมย
ฝาง ชูหลาน นั้นเป็นเพื่อนของ ชูเยว่ และเหตุการณ์ในวันนี้มันก็เริ่มต้นมาจาก ชูเยว่ ที่ก่อให้เกิดเรื่องในวันนั้น ตอนนี้เสี่ยวหลัวจึงไม่แยแสต่อคำพูดของเธอ
“เสี่ยวหลัว นายต้องการทำสิ่งนี้จริงๆงั้นเหรอ? เสี่ยวหลัวปล่อยเธอไปเถอะนะ ฉันขอร้อง” ชูเยว่กล่าวอย่างอ้อนวอน ในขณะนี้เธอเปลี่ยนไปจากภาพลักษณ์ที่ปกติจะแสนเย่อหยิ่ง เปลี่ยนไปเป็นอ้อนวอน
จากนั้นไม่นานมันก็มีรถอีกคันวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วและจอดอยู่ใกล้ๆ ชายสองคนที่ดูแข็งแกร่ง ก้าวลงมาจากรถ ชายสองคนที่ก้าวลงมาจากรถก็คือ โกหยาง และ โกเจี้ยน
“วันนี้มันช่างเป็นวันที่มีชีวิตชีวาจริงๆ!”
ดวงตาของเสี่ยวหลัวหดแคบลงเล็กน้อย “เนื่องจากคุณหนูชู อุส่าพูดอ้อนวอนขอร้องฉัน ฉันจะไว้ชีวิตเธอสักครั้ง”
ในขณะที่พูด เสี่ยวหลัว ก็โยนร่างของ ฝาง ชูหลาน ลงบนพื้นเหมือนเศษขยะ
ฝาง ชูหลาน ที่เป็นอิสระจากเงื้อมมือของเสี่ยวหลัว เธอรีบอ้าปากกว้างเพื่อสูดอากาศเข้าปอดของเธอในทันที ขณะนี้เริ่มมีรอยช้ำปรากฏขึ้นบริเวณที่คอของเธอแล้ว
ชูเยว่วิ่งไปหาและช่วยเธอ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง: “ถ้า หยิงหยิง ไม่ได้บอกฉัน วันนี้เธอคงจะตายไปแล้ว ทำไมเธอถึงไม่ฟังฉันเลย ฉันบอกเธอแล้วว่าอย่าไปมีปัญหากับ เสี่ยวหลัว”
“ฉัน …”
ฝาง ชูหลาน ไม่สามารถพูดอะไรได้สักคำได้ในขณะนี้ ตอนนี้เธอได้แต่กลืนความคับข้องใจที่เกิดขึ้นของเธอลงไป
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว มิตรภาพของเราจบลงที่นี่ ในวันนี้!.”
ชูเยว่ เธอเคยพูดไปก่อนหน้านี้แล้วว่าเธอจะตัดขาดมิตรภาพจากใครก็ตามที่ไปหาเรื่องเสี่ยวหลัว และเธอก็เป็นคนที่รักษาคำพูดซะด้วย เธอเงยหน้าขึ้นจ้องมองไปที่ผู้ชายผมสีเงินเขม็ง
“ฝาง ฉงชิ่ง คุณนำบอดี้การ์ดของคุณไปทำร้ายใครบางคนเพียงเพราะ ชูหลาน ขอให้คุณช่วย? คุณคิดว่าคุณสามารถทำในสิ่งที่คุณต้องการได้เพียงเพราะคุณมีลูกน้องอยู่สองสามคนงั้นเหรอ? งั้นฉันควรจะเอาบอดี้การ์ดสองสามคนของฉันมาต่อสู้กับคุณดีไหม?” ชูเยว่ กล่าวตำหนิเขา
“เยว่เยว่ คือว่า … ”
“อย่ามาเรียกฉันว่าเยว่เยว่ ฉันสามารถบอกคุณอย่างชัดเจนในตอนนี้ได้เลยว่า ไม่ว่าพ่อของคุณจะให้เงินมากแค่ไหน ฉันก็จะไม่หมั้นกับคุณ” ชูเยว่ ขัดจังหวะคำพูดของเขา
ฝาง ฉงชิ่ง ปิดปากด้วยความอับอาย
เสี่ยวหลัว ประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นด้านที่แข็งแกร่งและมุ่งมั่นของ ชูเยว่ แบบนี้ แต่เมื่อเขานึกได้ว่าเธอเป็นลูกสาวของ ชู หยุ่นเชียง มันก็พอที่จะยอมรับได้อยู่ ถ้าเทียบกับ ชู หยุนเชียง เป็ยมังกรแล้วลูกสาวของมังกรมันจะออกมาเป็นลูกไก่ได้อย่างไร? แม้ว่ามันจะเป็นการพูดเกินจริง แต่เธอก็ไม่ใช่พวกลูกผู้ดีคนอื่นๆที่ได้รับความเดือดร้อน แล้วจะร้องไห้เพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อมีปัญหา เสี่ยวหลัวเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน จากในเหตุการณ์ที่เธอและไป่หลิง ถูกนักฆ่า หม่า เจิ้งเฟิง ตามล่า
หืม?
ทันใดนั้นลางสังหรณ์ที่อันตรายก็แจ้งเตือนตรงเข้ามาหาเขาในทันที
“ปัง ปัง!”
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ลูกกระสุนทั้งสองนัดพุ่งออกมาแทบจะในเวลาเดียวกัน ลูกกระสุนทั้งสองลูกมันมาพร้อมกับเสียงที่ฉีกขาดของห้วงอากาศ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกมันพุ่งเข้าไปที่ไหน กระสุนทั้งสแงลูกพุ่งเข้าไปเจาะร่างของ โกหยาง และ โกเจี้ยน เลือดสีแดงสดฉาดสาดกระจายออกมาในทันที โชคดีที่ทั้งสองคนตื่นตัวอยู่เสมอและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว มันทำให้พวกเขาหลีกเลี่ยงส่วนที่สำคัญของร่างกายได้
“ฟุ๊บบ!”
กระสุนมันพุ่งทะลุร่างผ่านของพวกเขา มันส่งผลกระทบอย่างมากไม่เพียง ด้วยแรงของลูกกระสุนมันทำให้ร่างของชายทั้งสองคน กระเด็นลอยออกไปกระแทกเข้ากับด้านหลังของรถ เสียง ดัง”เพล้ง” ของกระจกหน้ารถแตกดังขึ้น พร้อมกับเสียงสัญญาณเตือนของรถที่ดังขึ้น
ซุ่มยิงงั้นเหรอ?
หัวใจของเสี่ยวหลัวเต้นระรัว บุคคลประเภทใดกันที่สามารถนำปืนไรเฟิลเข้ามาในแผ่นดินจีนได้ ความคิดของเสี่ยวหลัววิ่งวนและนึกไปถึงสิ่งที่ หม่า เจิ้งเฟิง พูดเอาไว้เกี่ยวกับ บริษัท แบล็กวอเตอร์ ทหารรับจ้างตั้งเป้าไปที่ชูเยว่ และตอนนี้พวกเขาก็ได้ทำให้บอดี้การ์ดทั้งสองคนของชูเยว่ได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว จากการซุ่มโจมตีเพียงครั้งเดียว
“กรี๊ดดดด ~”
ฝาง ซูหลาน เมื่อเห็น โกหยาง และ โกเจี้ยน ที่นอนเลือดสาดกระเซ็น ก็กรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวในทันที
บอดี้การ์ดชุดดำทั้งแปดคนที่เป็นมืออาชีพ พวกเขารีบวิ่งเข้าไปสร้างกำแพงมนุษย์โดยมีชายที่มีผมสีเงินและ ฝาง ชูหลาน อยู่ตรงกลางเพื่อความปลอดภัยในทันที
ชูเยว่ก็ตื่นตระหนกและตกใจเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกลอบโจมตีด้วยกระสุนปืน เสียงที่ดังก้องของกระสุนปืนที่ฉีกขาดผ่านอากาศมันทำให้หูของเธอรู้สึกเหน็บชาไปในทันที
“คุณหนู หมอบลง และรีบวิ่งออกไปจากที่นี่ คุณหนู!”
โกหยาง ตะโกน ขอให้ชูเยว่ ให้รีบหนีออกไปจากที่นี่ โดยที่ไม่สนอาการบาดเจ็บของตัวเอง อีกฝ่ายมีปืนไรเฟิล ซึ่งพวกมันน่าจะไม่ได้มีแค่คนเดียว พวกมันจะต้องทำงานกันเป็นทีมแน่ๆ ไม่แน่ว่าในตอนนี้พวกเขาอาจถูกล้อมเอาไว้หมดแล้วก็ได้
เมื่อได้ยินคำพูดของโกหยาง บอดี้การ์ดชุดดำทั้งแปดคน ก็ได้สติ พวกเขารีบพา ฝาง ฉงชิ่ง กับ ฝาง ชูหลาน ที่หวาดกลัวขึ้นรถแล้วเตรียมพร้อมที่จะขับรถออกไปในทันที
“เยว่เยว่ รีบมาที่ตรงนี้เร็วๆ!”
ฝาง ฉงชิ่ง ยังคงคิดถึง ชูเยว่ อยู่ เขาไม่อาจทิ้งเธอเอาไว้ข้างหลังได้
สำหรับ ฝาง ชูหลาน ตอนนี้เธอกลัวจนจะตายอยู่แล้ว ร่างกายของเธอสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุมได้ สติและจิตใจทั้งหมดของเธอตอนนี้นั้นว่างเปล่าไปจนหมดแล้ว ตอนนี้เธอสูญเสียการควบคุมตัวเองไปจนหมด