ระบบอัจฉริยะที่ไม่มีใครเสมอเหมือน - ตอนที่ 93 ช่วยเหลือความภาคภูมิใจให้ฉันสักหน่อยจะได้ไหม
- Home
- ระบบอัจฉริยะที่ไม่มีใครเสมอเหมือน
- ตอนที่ 93 ช่วยเหลือความภาคภูมิใจให้ฉันสักหน่อยจะได้ไหม
ในคืนนั้นเสี่ยวหลัวไม่สามารถนอนหลับได้เลย เขาต้องนอนอยู่บนเตียงเพื่อฟังเสียงกรนราวกับฟ้าร้องของ จาง ซูซาน ตลอดทั้งคืน โอกาสที่ ชู หยุน เชียง เสนอให้เขา มันทำให้เขารู้สึกไม่แน่ใจ เขาไม่รู้ว่าควรจะคว้ามันเอาไว้หรือไม่ ไม่ว่าเขาจะคิดหนักแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถตัดสินใจได้เลย
เสี่ยวหลัว ไม่อยากจะคิดถึงมันอีก เขายังมีเวลาที่จะพิจารณาถึงมันอีกสามวัน!
เสี่ยวหลัว ถอนหายใจแล้วเปิดหน้าต่างของระบบอัจฉริยะขึ้นมาดู
แต้มของเขาในตอนนี้มีอยู่ 46,000 แต้ม ความสามารถส่วนใหญ่ที่อยู่ในร้านค้าสามารถแลกเปลี่ยนได้ อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงยึดมั่นในหลักการ เขาไม่มีความตั้งใจที่จะแลกเปลี่ยนแบบสุ่ม ยิ่งเขาสะสมแต้มได้มากเท่าไหร่มันก็ยิ่งดีเท่านั้น
ในวันรุ่งขึ้น เสี่ยวหลัว ก็ไปซื้ออาหารอร่อยๆ เพื่อที่จะมากินกับ จาง ซูซาน หลังจากนั้นเขาจึงโทรไปหา น้องสาวของเขา เสี่ยวรุ่ยอิง
ประโยคแรกที่ออกมาจากปากของเธอก็คือ“พี่ชาย พี่เปลี่ยนเบอร์ใหม่งั้นเหรอ?”
“เสี่ยวรุ่ยอิง ปฏิกิริยาของเธอมันช้าเกินไปแล้ว เมื่อคืนพี่ส่งข้อความไปถึงเธอ แต่เธอพึ่งจะมาตอบกลับตอนบ่าย” เสี่ยวหลัว กล่าวด้วยความโมโหเล็กน้อย
“หนูทำงานกะกลางคืน พี่จะมาทานอาหารค่ำกับหนูไหม ถังเหรินและหนูต่างก็คิดถึงพี่นะ” เสี่ยวรุ่ยอิง พูดออกมา
เสี่ยวหลัวดูเหมือนจะไม่เชื่อที่เธอพูด เขาพูดต่อว่า“เธอแน่ใจนะว่าคิดถึงพี่ ไม่ใช่ว่าเธอพยายามตะจับคู่ให้กับพี่หรอกนะ?”
“ฮิฮิ! ดูเหมือนว่าหนูจะไม่สามารถซ่อนอะไรจากพี่ได้เลย” เสี่ยวรุ่ยอิง ตอบพร้อมกับรอยยิ้ม
“เธอไปแนะนำกับคนอื่นเถอะ พี่ไม่ต้องการ”
“พี่ชาย หนูสาบานต่อสวรรค์เลยว่า เธอเป็นผู้หญิงที่ดี เธออายุ 22 ปี และสูง 160 เซนติเมตร ถ้าหนูอนุมัติเธอ ก็หมายความว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวย เธอเป็นคนที่เหมาะสำหรับพี่มาก!”
“พี่…”
“พี่ชาย พี่ไม่ได้รับอนุญาตให้ปฏิเสธ นอกจากนี้การแนะนำให้พี่รู้จักใครบางคน มันไม่ใช่เป้าหมายหลักของหนู หนูไม่ได้เจอพี่มานานแล้วหนูคิดถึงพี่”
“ถ้าพี่ไม่มาหาหนู หนูจะโทรหาพ่อกับแม่และบอกพวกเขาว่า หลังจากที่หนูแต่งงาน พี่ก็ไม่ยอมรับหนูในฐานะน้องสาวของพี่อีกต่อไป”
เสี่ยวหลัวยิ้มอย่างสิ้นหวังและตอบรับ“เอาล่ะก็ได้! พี่จะไปหา”
“ฮิฮิ.หนูรักพี่ชายที่สุด!”เสี่ยวรุ่ยอิง หัวเราะเบาๆ เธอพึงพอใจกับความสำเร็จของเธอ
“เอาหละ แล้วจะให้พี่ไปหาตอนกี่โมง?”
“คืนนี้ตอนสองทุ่ม หนูจะรอพี่อยู่ที่หน้าประตูโรงพยาบาล พี่ชาย พี่ควรที่จะจัดการผมของพี่สักหน่อยนะ มันจะดีที่สุดถ้าพี่ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ พี่ดูหล่อมากในขณะที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ”
เสี่ยวหลัว ไม่ได้พูดอะไร
หลังจากวางสายโทรศัพท์ เขาก็เดินเข้าไปในห้อง. จาง ซูซาน เขากำลังนั่งเล่นเกมเกียรติยศของราชาอยู่บนโซฟา เสี่ยวหลัว เตะไปที่ก้นของเขาในทันที
จาง ซูซาน หันกลับมาตวาดเสียงดังว่า“แกทำอะไร แกคิดว่าก้นของฉันมันเซ็กซี่หรือไง ทำไมแกถึงได้ทำตัวน่ารำคาญขนาดนี้ ฉันไม่สามารถเล่นเกมได้อย่างสงบสุขเลยเมื่อมีแกอยู่!”
“รุ่ยอิง โทรมาและบอกให้ฉันไปหาเธอ แกอยากจะไปด้วยกันไหม” เสี่ยวหลัว ถามเขาขณะนั่งบนเก้าอี้พร้อมกับสวมถุงเท้า
จาง ซูซาน ลุกขึ้นแล้วตอบว่า“แกจะไปหาหลัวเหม่ย ทำไม?”
“ฉันไม่ได้เจอเธอมานานแล้ว ดังนั้นฉันจะไปหาเธอไม่ได้เหรอ” เสี่ยวหลัว ตอบกลับอย่างใจเย็น
“มันเป็นไปไม่ได้ ตามความเข้าใจของฉันเกี่ยวกับน้องสาวของแก เธอจะต้องแนะนำผู้หญิงให้รู้จักกับแกแน่ๆ” จาง ซูซาน ตอบกลับในทันที
เสี่ยวหลัวมองไปที่ จาง ซูซาน ด้วยความรู้สึกเคารพ: “ไม่เลวเลย แกเดาได้ถูกต้องแล้ว”
“ฉันเคยเจอผู้หญิงมาทุกประเภทแล้ว ฉันรู้ว่าผู้หญิงคิดอะไรอยู่” จาง ซูซาน ตบหน้าอกอย่างมั่นใจ
“ฉันคิดว่าแกจะเบื่อหน่ายกับการนัดบอดซะอีก แต่ทำไมคราวนี้แกถึงเห็นด้วยไปได้หละ?”
“ฉันก็บอกแกไปแล้ว ฉันไม่ได้เจอเธอมานานแล้ว” เสี่ยวหลัว ตอบ
“อืม มันก็สมเหตุสมผลอยู่”
“แกจะไปหรือไม่ไป แกช่วยกรุณาตอบให้ตรงคำถามกับฉันหน่อยจะได้ไหม”
“แน่นอนว่าไป โอกาสที่จะได้กินอาหารฟรีๆแบบนี้ แน่นอนว่าฉันจะต้องไปอยู่แล้ว”
จาง ซูซาน กระโดดลุกขึ้นมาขึ้นถอดเสื้อออก และใส่เสื้อที่เป็นทางการ “เนื่องจาก น้องสาวของแก กำลังจะแนะนำคนบางคนให้แกได้รู้จัก แกควรที่จะให้ความสนใจกับมันสักหน่อยนะ ถ้าเป็นผู้หญิงที่น่าดึงดูดแกก็สามารถที่จะ…ฮิฮิ…แกรู้นะว่าฉันหมายถึงอะไร…”
รอยยิ้มของ จาง ซูซาน นั้ยลามกมาก เรื่องแบบนี้เขานี่ถนัดนัก
สามารถเชี้…ยไร!
เสี่ยวหลัวอยากจะเตะก้นเขาไปอีกสักป๊าบเลยจริงๆ
…….
เจียงเฉิง นั้นแบ่งออกเป็นสี่เขต: เขตตะวันออกเฉียงใต้, เขตตะวันตกเฉียงเหนือ, เขตกวงหมิงและเขตไท่เหอ
หัวเย่ นั้นอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ และที่อยู่อาศัยของ เสี่ยวหลัว นั้นอยู่ในพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งอยู่ห่างจากเขตกวงหมิงไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตร เสี่ยวรุ่ยอิง นั้นทำงานที่โรงพยาบาลของรัฐในเขตกวงหมิง
การขับรถจากบ้านของเสี่ยวหลัวไปยังสถานที่ทำงานของ เสี่ยวรุ่ยอิง นั้นจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ถ้าการจราจรไม่ติดขัด ดังนั้นเขาจึงออกเดินทางกับ จาง ซูซาน ในเวลาหกโมงเย็น
“เสี่ยวหลัว แกขับรถนะ เมื่อคืนนี้ฉันนอนไม่หลับเลยฉันจะงีบหลับในรถสักหน่อย” จาง ซูซาน ขว้างกุญแจรถไปที่เสี่ยวหลัว เขาหาวแล้วมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งที่นั่งผู้โดยสาร
“แกไม่กลัวว่าฉันจะขับรถของแกไปชนกับคนอื่นหรือไง” เสี่ยวหลัว พูดติดตลก
“ถ้าแกทำมันพัง แกก็ซื้ออันใหม่มาให้ฉันก็พอแล้ว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้แกก็ร่ำรวยแล้วหนิแกมีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1 ล้านหยวน และแกก็กำลังจะเป็นซีอีโอในไม่ช้า ฉันคิดว่าในเพื่อนร่วมชั้นของมหาวิทยาลัยเรา แกเป็นคนที่ดีที่สุดแล้ว หืมถ้า จ้าว เหมิ่งชี รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอจะต้องร้องไห้อย่างแน่นอน ที่เธอพลาดภูเขาลูกใหญ่แบบแกไป”
“เดี๋ยวก่อนนะ ฉันยังไม่ได้ตอบรับข้อเสนอว่าจะดูแล หลัวฝาง เลย ขอฉันคิดเกี่ยวกับมันก่อน” เสี่ยวหลัว กล่าว
จาง ซูซาน ไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในใจของเพื่อนซี้คนนี้ของเขาได้เลย ว่าในหัวของมันกำลังคิดอะไรอยู่ โอกาสนี้เห็นได้ชัดว่า ชิ้นพายมันตกลงมาจากท้องฟ้า หากไม่รับข้อเสนอนี้ มันจะรอให้คนอื่นมารับเสนอแทนหรือไง?
จาง ซูซาน ถอนหายใจ“เอาละ ฉันจะไม่พูดเกี่ยวกับมันอีกต่อไป อย่างไรก็ตามฉันได้ตัดสินใจแล้วว่า ไม่ว่าแกจะทำอะไร ฉันก็จะตามแกไป แกลองจินตนาการดูสิ! ในขณะที่เราสองคนทำงานร่วมกัน! หากเราสามารถได้รับการยอมรับจากผู้นำประเทศ นั่นมันจะทำให้บรรพบุรุษของเราภาคภูมิใจในตัวของเรา นั่นมันก็เพียงพอที่จะให้ฉันโอ้อวดไปได้ตลอดทั้งชีวิตแล้ว”
“จินตนากงจินตนาการอะไรเพ้อเจ้อ!” เสี่ยวหลัวพูดขณะที่เขาสตาร์ทรถและขับรถออกไปช้าๆ
[โรงพยาบาลประชาชนเขตกวงมิง]
ที่หน้าประตูโรงพยาบาล มีผู้ชายหนึ่งคนและหญิงสองคนกำลังยืนรออยู่
ผิวของผู้ชายนั้นขาวมาก ตัวของเขานั้นมีกลิ่นอายของทางวิชาการออกมา ใบหน้าของเขานั้นเด็กมากมันทำให้เขาดูเหมือนเด็กวัยรุ่นอายุ 17 หรือ 18 ปี แต่อายุที่แท้จริงของเขาคือ 24 ปี เข้าไปแล้ว และเขาก็เป็นน้องเขยของ เสี่ยวหลัว ชื่อของเขาก็คือ ถังเหริน
หญิงสาวที่ยืนถัดจาก ถังเหริน คือ เสี่ยวรุ่ยอิง เธอมีผมสั้นและสวมเสื้อยืดแขนยาวขนาดใหญ่และสวมกางเกงขายาวสีดำ เธอมีใบหน้าที่ละเอียดอ่อนและให้ความรู้สึกเหมือนกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ
เสี่ยวรุ่ยอิง กำลังพูดกับผู้หญิงที่สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีขาวอยู่: “ยู้ยู้ ฉันจะบอกอะไรให้นะ พี่ชายของฉันหล่อมาก เขาหล่อกว่าในรูปถ่ายเยอะมาก เมื่อเธอได้เห็นเขา เธอจะตกหลุมรักอย่างแน่นอน เขา….”
ผู้หญิงคนนั้นก้มศีรษะลงและยิ้มอย่างอายๆ พร้อมกับพูดอย่างต้อยต่ำว่า “พี่ชายของเธอจบปริญญาแล้ว ฉันกลัวว่าเขาจะดูถูกฉัน”
“การศึกษานั้นไม่สำคัญตราบใดที่พวกเธอรู้สึกจริงใจต่อกัน ฉันพูดถูกไหม ถังเหริน?” เสี่ยวรุ่ยอิง ถามพร้อมกับ จ้องมองไปที่ ถังเหริน
ถังเหริน ยิ้มและตอบกลับในทันทีว่า“ใช่ใช่ รุ่ยอิง พูดถูกต้องแล้ว!”
คำว่า “ใช่” ถังเหริน เขาพูดย้ำอยู่ถึงสองครั้ง!
เสี่ยวรุ่ยอิง เตะเขาแล้วพูดว่า“ชิ! คุณดูซิทคอมมากเกินไปแล้ว ไม่เพียงแต่คุณจะไม่ได้เรียนรู้อะไร แต่คุณกลับเรียนรู้ที่จะพูดเหมือนกับผู้หญิงแก่อีก!”
“คุณภรรยา มันไม่เป็นไรถ้าคุณจะทุบตีฉันที่บ้าน แต่เมื่อเราออกมาข้างนอก คุณช่วยเหลือหน้าและความภาคภูมิใจให้ฉันสักหน่อยจะได้ไหม” ถังเหริน พูดกับกระซิบที่ข้างหู