ระบบอัพเกรดเทพชาย - ตอนที่ 10 ฉันหลิงเซียวเป็นคนที่ชอบธรรม!
เมื่อหลิงเซียวเห็นสิ่งนี้เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าพวกนั้นกำลังทำอะไร? แน่นอนว่าพวกเขานั้นจะต้องมารุมตื้บถังชิงอย่างแน่นอน!
เขาถอดชุดนักเรียนของโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สองออกทันที พร้อมกับโยนกระเป๋านักเรียนทิ้งไป
“ถังชิง! ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”
“ก่อนหน้านี้แกบ้านักไม่เหรอ!”
“ไสหัวออกมารับส้นตีนได้แล้ว!”
“มากสุดฉันก็ทำให้แกแค่พิการ!”
“…”
กลุ่มของนักเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สองเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าราวกับว่าพวกเขาต้องการจะถลกหนังของถังชิงทั้งเป็น
โดยไม่มีคำพูดใดๆ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวิ่งไปที่ห้องศิลปะการต่อสู้เพื่อตามหาครูสอนศิลปะการต่อสู้มาระงับเหตุการณ์
หลังจากนั้นไม่นานครูชายสองคนก็พาถังชิงมาที่หน้าประตูโรงเรียน
“พวกคุณเป็นนักเรียนของโรงเรียนหนานเฉิงที่สอง มีใครบอกเราได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?” ครูสอนศิลปะการต่อสู้ถาม
เมื่อเห็นว่าครูสอนศิลปะการต่อสู้มานักเรียนของโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สองก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรผลีผลาม
พวกเขาใส่สีตีไข่เติมเชื้อไฟลงไปว่า “ถังชิง” ได้กระทำการอะไรลงไปบ้างในทันที
แน่นอนว่าพวกเขาไม่รู้ว่าหลิงเซียวคือถังชิงที่พวกเขากำลังพูดถึงอยู่
ครูสอนศิลปะการต่อสู้ขมวดคิ้ว “ถังชิง มีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นด้วยหรือ?”
ใบหน้าของถังชิงขาวซีด เขาส่ายหัวทันทีเพื่อปฏิเสธ “อาจารย์ไม่ใช่ผมจริงๆ! ผมได้รับบาดเจ็บจากหลิงเซียวในตอนเที่ยง แล้วผมจะไปทำเรื่องแบบนั้นในโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สอง ในตอนบ่ายได้อย่างไร เพื่อนร่วมชั้นทุกคนสามารถเป็นพยานให้กับผมได้! “
“นักเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สอง พวกคุณได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดชัดเจนไหม “ครูสอนศิลปะการต่อสู้ กล่าวถาม
นักเรียนของโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สอง อดไม่ได้ที่จะโกรธเคืองเมื่อได้ยินคำพูดนี้
แต่เนื่องจากการดำรงอยู่ของครูสอนศิลปะการต่อสู้ของโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สาม พวกเขาจึงต้องระงับความโกรธของตนไว้
หลิงเซียวที่ยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มนักเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สอง ก็พลันตะโกนขึ้นมาทันที “ครูของโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สาม กำลังปกป้องถังชิง! ฉันไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด!”
หลิงเซียวพูดพร้อมกับขว้างก้อนหินที่อยู่ในมือของเขาออกไป
ก้อนหินบินออกไปกระแทกเข้ากับถังชิงอย่างจัง!
“ใคร?! ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!” ถังชิงตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เขาก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว เข้าไปหานักเรียนของโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สอง
แม้ว่าถังชิงจะมีอาการวู่วามเล็กน้อย แต่ด้วยการที่มีครูสอนศิลปะการต่อสู้อยู่สองคน นักเรียนที่ต้องการเข้ามารุมสกัมถังชิงจึงไม่อาจหาช่องโหว่ได้
ในความเป็นจริงนักเรียนของโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สอง ก็เป็นไปตามที่ถังชิงคาดไว้
อย่างไรก็ตามหลิงเซียวยังคงซ่อนตัวอยู่ที่ด้านหลังนักเรียนของโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สอง เขาได้ตะโกนออกมาอีกครั้ง “ตื้บมันเลยยย!”
จากนั้นหลิงเซียวก็กางแขนออกและผลักคนที่อยู่ข้างหน้าให้ออกไป
นักเรียนของโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สอง ที่ถูกผลักเดินโซเซไปข้างหน้าโดยไม่สมัครใจและจากนั้นเขาก็พบว่าพวกเขาอยู่ห่างจากถังชิงไปเพียงไม่กี่ก้าว
นักเรียนที่โกรธเกรี้ยวสองสามคนของโรงมัธยมหนานเฉิงที่สอง รีบวิ่งไปข้างหน้าโดยไม่คิดอะไร
“นี่ไม่ดีแล้ว!” ครูสอนศิลปะการต่อสู้ทั้งสองลอบพูดในใจ แต่มันก็สายไปเสียแล้ว!
แม้ว่าครูสอนศิลปะการต่อสู้ทั้งสองจะมีพลังชีวิตอยู่ที่ 150 จุด แต่พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานฝูงชนจำนวนมากได้
ยิ่งไปกว่านั้นนักเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สอง ก็ไม่ได้โจมตีพวกเขา แต่เป็นถังชิง!
นักเรียนมัธยมหลายสิบคน เมื่อเห็นว่ามีใครบางคนเป็นผู้นำ พวกเขาจึงรีบตามไปสมทบทันที
พวกเขาเป็นราวกับเสือที่หิวโหยที่พุ่งเข้าไปตะครุบเเกะน้อยอย่างถังชิง
มีทั้งกำปั้น มีทั้งลูกเตะ
มีทั้งศอก มีทั้งฝ่ามือ
ครูสอนศิลปะการต่อสู้สองคนของโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สาม ยิ้มอย่างขมขื่นในใจ
ถึงกระนั้นการเคลื่อนไหวของมือของพวกเขาก็ไม่ได้เชื่องช้า
มือของพวกเขารวดเร็วราวกับสายฟ้า เข้าไปจับมุมเสื้อของนักเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สองคนหนึ่งแล้วโยนมันออกไป
ในไม่ช้าถังชิงซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มนักเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สองก็สามารถมองเห็นแสงอาทิตย์ได้อีกครั้ง
แต่ถึงกระนั้นใบหน้าของถังชิงในเวลานี้ก็ยังคงฟกช้ำดำเขียว
รูปลักษณ์นี้ … น่าอนาถสุดๆ
เหง่งหง่าง!
เสียงระฆังสิ้นสุดชั้นเรียนดังขึ้น ในเวลานี้เองนักเรียนของโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สาม และนักเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สอง ก็เริ่มตะโกนแข่งกันไปมา
นักเรียนของโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สาม ออกมาทีละคนและเมื่อพวกเขาเห็นฉากดังกล่าว พวกเขาก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างมาก
แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อมองไปที่รูปลักษณ์ที่น่าสังเวชของถังชิง และการแสดงออกที่น่ายินดีบนใบหน้าของนักเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สอง พวกเขาก็เดาได้ไม่มากก็น้อย
“อย่าหุนหันพลันแล่น! หยุดก่อน!” ครูสอนศิลปะการต่อสู้ทั้งสองเห็นบางอย่างผิดปกติจึงหยุดพวกเขาทันที
เมื่อได้ยินเช่นนั้น นักเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สามก็ยิ่งโกรธแค้นมากขึ้น
“ทำไม!”
“ใช่! จ้าวเล่ย จากโรงเรีบนมัธยมหนานเฉิงที่สอง มาขวางประตูเมื่อตอนเที่ยงยังไม่พออีกเหรอ ตอนนี้เขายังมีหน้ากลับมาในตอนบ่ายอีก!”
“คิดว่าโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สามจะสามารถรังแกได้ง่าย จริงๆหรือไง?”
“… “
เหงื่อเย็นไหลออกมาจากหน้าผากของครูสอนศิลปะการต่อสู้ทั้งสอง หากนักเรียนจำนวนมากหัวร้อนและมีเรื่องกันขึ้นมาจริงๆ พวกเขาได้ตายหยั่งเขียดแน่ๆ
หากมีอะไรเกิดขึ้นกับนักเรียนทั้งสองกลุ่มที่ทะเลาะกัน ทั้งสองคนไม่สามารถยอมรับผลที่จะตามมาได้
ในเวลานี้หลิงเซียวซึ่งสวมชุดนักเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สามก็เดินเข้ามาจากทางด้านนอกโรงเรียน
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ชอบธรรม “อะไรกัน โรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สอง ต้องการกลั่นแกล้งผู้คนใช่ไหม เรื่องถึงขั้นกับต้องทุบตีเพื่อนร่วมชั้นในชั้นเรียนของฉันเลยหรือ ถ้ามีความสามารถก็มาหาฉันนี่มา! ฉันจะต่อสู้กับพวกคุณตัวคนเดียวเอง!”
หลิงเซียวพูดเสียงดัง ทันใดนั้นนักเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สามทุกคน พลันมองมาที่เขาแตกต่างไป
การแสดงออกในดวงตาของพวกเขาสามารถอ่านได้อย่างชัดเจน พวกเขาต่างก็พากันคิดว่า: หลิงเซียวน่ายกย่องมาก!
แม้แต่ถังชิงที่ถูกตื้บจนนอนอยู่บนพื้นก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน
“หลิงเซียวอย่าประมาท! เธอเอาชนะพวกเขาไม่ได้!” อาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้โน้มน้าวทันที
นักเรียนของโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สองนั้น รู้สึกว่าเสียงของหลิงเซียวนั้นคุ้นเคยแปลกๆราวกับว่าเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้คิดอะไร หลิงเซียว ก็ชิงพูดออกมาอย่างดูถูกสะก่อน “เป็นอะไรไป มันไม่ดีเลยน่ะ ที่คนหลายสิบคนจะเอาชนะคนแค่คนเดียวแบบนี้”
“เนื่องจากเเกกำลังแส่หาความตาย เราจะตอบสนองคำขอของแกอย่างยินดีเอง!” นักเรียนของโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สองกล่าว
หลิงเซียวพูดว่า “จะทำตัวสุภาพทำหอกอะไร! เนื่องจากแกกล้าที่จะเอาชนะเพื่อนร่วมชั้นของฉัน แกก็ต้องพร้อมที่จะถูกเฆี่ยนกลับด้วยเช่นกัน!”
ถังชิงที่ดูน่าสังเวชเมื่อเห็นหลิงเซียวเคลื่อนไหวเพราะเขา เขาก็น้ำตาก็ไหลพรากทันที “หลิงเซียว! อย่าไปสู้กับพวกนั้น! สำหรับฉันมันไม่คุ้มค่าที่คุณจะถูกพวกนั้นทุบตี!”
หลิงเซียวตอบ“ ฉันหลิงเซียวเป็นคนที่ชอบธรรม!”
“แม้ว่าเราจะมีความเข้าใจผิดกันมาก่อน แต่เราก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นกันไม่ใช่เหรอ นอกจากนี้โรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สามของเราเองก็จะเสียหน้าไม่ได้!”
ทันทีที่หลิงเซียวพูดเช่นนั้น นักเรียนของโรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สาม ต่างก็เต็มไปด้วยความรู้สึกชื่นชม
แม้แต่เด็กผู้หญิงหลายคนก็มีน้ำตาเอ่อล้น ร้องไห้ให้กับความกล้าหาญของหลิงเซียว
นี่เขายังเป็นคนธรรมดาอยู่เหรอ? ไม่ใช่! เขาคือนักบุญต่างหาก!
เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนขัดแย้งกันในตอนเที่ยง แต่ในเวลานี้หลิงเซียวสามารถระงับความไม่พอใจทั้งหมดและรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้
ดูเหมือนพวกเขาจะเห็นลำแสงส่องประกายบนศีรษะของหลิงเซียว ทำให้ร่างของหลิงเซียวเป็นราวกับพระพุทธองค์ที่ส่องแสง
ถังชิงหลั่งน้ำตามองไปที่ร่างสูงของหลิงเซียวและพูดว่า “หลิงเซียวเมื่อเทียบกับคุณแล้ว ฉันมันก็เป็นแค่ไออ่อนคนหนึ่ง!”