ระบบอัพเกรดเทพชาย - ตอนที่ 117 กฎต้องถูกกําหนดโดยฉัน!
ตอนที่ 117 กฎต้องถูกกําหนดโดยฉัน!
พลังจิตวิญญาณพุ่งมาอย่างรวดเร็วในมุมที่คาดไม่ถึง
แม้แต่หัวหน้าหน่วยหลินก็ไม่สามารถปกป้องหลิงเซียวได้
“ระวัง!” หัวหน้าหน่วยหลินตะโกน
เมื่อหันหน้ากลับไป เขาก็เห็นชายผู้น่าเกรงขามคนหนึ่ง เขาปรากฏตัวข้างกายหลิงเซียวตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
คนผู้นั้นโบกมืออย่างดูแคลน พลังจิตวิญญาณพลันสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ชายผู้นั้นสามารถเอาชนะนักรบจิตวิญญาณระดับแปดได้ในการลงมือเพียงครั้งเดียว อย่างน้อยคนผู้นี้ก็ต้องเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นเปลี่ยนวิญญาณ!
ในใจของทุกคนในที่นี้มีความคิดเช่นนี้ผุดขึ้นมา
จากนั้นพวกเขาก็มองไปยังหลิงเซียวด้วยความประหลาดใจ หลิงเซียวรู้จักกับผู้ฝึกยุทธขั้นเปลี่ยนวิญญาณ?เด็กกําพร้ารู้จักผู้แข็งแกร่งแบบนี้ได้อย่างไร?
“ตอนนี้ทุกคนไร้ยางอายกันมากถึงขนาดนั้นเลยงั้นหรือ? การกระทําของพวกเจ้า ทําให้ ตงหลิ่วชวนคนนี้ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว!” ตงหลิ่วชวนกล่าวออกมาเบาๆ
น้ําเสียงของ ตง หลิ่วชวน ไม่โกรธหรือยินดี ราวกับว่าไม่มีระลอกคลื่นใดๆ
แต่สิ่งที่เขากล่าวออกมากลับทําให้ทุกคนในที่นี้เบิกตากว้าง
เมื่อสักครูทุกคนต่างตกใจกับความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ ตอนนี้เมื่อมองดูดีๆแล้ว คนๆนี้ไม่ใช่ว่าคืออาจารย์ใหญ่ของสถาบันการต่อสู้ฉวนโจวหรอกหรือ
ตอนนี้ดวงตาของทุกคนแทบจะถลนออกมา ตง หลิ่วชวน เป็นผู้ฝึกยุทธระดับใด? เขาคือผู้แข็งแกร่งระดับหลุดพ้น
เมื่อเทียบกับผู้แข็งแกร่งระดับนักรบจิตวิญญาณแล้ว มันสูงกว่าสองขอบเขตใหญ่!
หากผู้ฝึกยุทธเช่นนี้ต้องการสังหารผู้ฝึกยุทธขั้นนักรบจิตวิญญาณ มันคงเป็นแค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส
ยอดฝีมือระดับหลุดพ้นมายืนอยู่ข้างๆหลิงเซียว และช่วยหลิงเซียวพูด นี่หมายความว่าเขาคือผู้หนุนหลังของหลิงเซียวใช่หรือไม่?
ดังนั้นคําถามคือ ทําไมฝึกยุทธขั้นหลุดพ้นถึงได้ปกป้องผู้ฝึกยุทธขั้นนักรบจิตวิญญาณ?
ไม่นานพวกเขาก็ได้คําตอบ นั่นคือพรสวรรค์อันน่าทึ่งของหลิงเซียว!
คนที่ ตง หลิ่วชวน ให้ความสําคัญกับเส้นทางวรยุทธ์ของเขาจะไปได้ไกลถึงไหนกัน?
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนก็เต็มไปด้วยความอิจฉา
ส่วนชายแซ่ฉิวและชายแซ่หยางตัวสั่นงันงก พวกเขาไม่อาจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขา!
แม้ว่าพวกเขาจะคิดจนหัวแตก แต่พวกเขาก็คิดไม่ออกว่าทําไม ตง หลิ่วชวน ถึงได้เป็นผู้หนุนหลังของหลังเซียว
“เจ้าหนู ท่าไมเจ้าถึงได้รับความโปรดปรานจากผู้แข็งแกร่งจากระดับหลุดพ้น!” ทั้งสองค่ารามในใจไม่หยุดเปลวเพลิงแห่งความอิจฉาริษยาแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง
ตง หลิ่วชวน เอ่ยปาก “ก่อนหน้านี้พวกเจ้าสองคนตะโกนว่าจะฆ่าไม่ใช่หรือ? ทําไมตอนนี้ถึงไม่พูดล่ะ?”
ทั้งสองคนเงียบไปครู่หนึ่งหลังจากนั้นไม่นานชายแซ่ฉิวก็กล่าวว่า”ในเมื่อท่านพูดแทนหลิงเซียวเช่นนั้นพวกเราก็ไม่มีอะไรจะพูดแต่หลิงเซียวทําร้ายลูกหลานของพวกเราจนบาดเจ็บสาหัสหากพวกเราจากไปเช่นนี้พวกเราไม่อาจยอมรับได้! ”
“ถูกต้อง! แต่เดิมเจ้าเด็กดื้อตระกูลข้ามีโอกาสเข้าสู่รอบสุดท้ายแต่ตอนนี้มันถูกทําลายโดยเขา!”ชายแซ่หยางกล่าวด้วยความเคียดแค้น
ตง หลิ่วชวน ขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “หรือว่าพวกเจ้าสองคนคิดที่จะรังแกเด็กที่ไร้ทางสู้งั้นหรือ?”
ทั้งสองมองหน้ากัน ชายแซ่หยางก็พูดทันทีว่า”ตราบใดที่หลิงเซียวรับการโจมตีจากพวกเราสองคนได้เรื่องนี้ก็ถือว่าจบกันไป!”
“จริงหรือ?” ตง หลิวชวน กล่าว
ทั้งสองตอบทันทีว่า “จริง”
ตง หลิ่วชวน มองไปยังหลิงเซียว และปล่อยให้หลิงเซียวตัดสินใจด้วยตัวเอง
ทุกคนในที่นี้ต่างตกตะลึง ตง หลิวชวน ให้ความสําคัญกับหลิงเซียวมากขนาดไหน ถึงได้ถามความเห็นหลังเซียวเกี่ยวกับเรื่องนี้?
เมื่อชายแซ่ฉิวและชายแซ่หยางเห็นดังนั้น ความโกรธและความอิจฉาก็ปะทุออกมาราวกับภูเขาไฟ
หลิงเซียวหัวเราะเบาๆและกล่าวว่า “ฉันตอบตกลงก็ได้ แต่กฏต้องถูกกําหนดโดยฉัน!”
ค่าตอบของหลิงเซียวทําให้ทุกคนตกใจ