ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1613 : ผู้ยิ่งใหญ่
ตอนที่ 1613 : ผู้ยิ่งใหญ่
“ คนของสภาเพิ่งมาบอกข้าว่าค่าปรับนั้นสูงเกินจริง หัวหน้าฝ่ายที่ดินทําการโกง ตอนนี้พวกเขาจึงคืนค่าปรับให้กับข้าไม่ใช่แค่นั้นพวกเขายังให้ค่าชดเชยมาอีก 2,000 หินแห่งการสร้าง” ผู้เฒ่าเหอยิ้มกว้างออกมาอย่างพอใจ
เจียงเลี่ยเหลือเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ก่อนจะถามออกไปว่า “ผู้เฒ่าเหอ เจ้ายังไม่ได้สติอีกรึไง? เจ้าฝันกลางวันอยู่รึ ?”
เรื่องในสภานั้นเขาในฐานะทหารของสภาน่ะรู้ดี
“ข้ารู้ว่าเจ้าคงไม่เชื่อ” ผู้เฒ่าเหอยิ้มออกมาก่อนจะยื่นแหวนให้กับเจียงเลี่ย “เจ้าลองดูสิ นี่คือหินแห่งการสร้างที่เขาเพิ่งจะเอามาให้”
เจียงเลี่ยยังไม่เชื่อแต่เมื่อมองเข้าไปในแหวนเขาก็ต้องสะดุ้ง “หินแห่งการสร้าง 3,000 ก้อน!”
ผู้เฒ่าเหอโบกมือก่อนจะรีบเอาแหวนกลับมาและพูดด้วยรอยยิ้ม “เป็นยังไง เจ้าเชื่อรึยัง?”
เจียงเลี่ยยังไม่ได้สติกลับมา สัญชาตญาณบอกเขาว่าเรื่องมันคงไม่เรียบง่ายอย่างที่เห็น
เจียงเลี่ยเรียกสติกลับมา เขาสลัดความสงสัยที่มีและพูดขึ้น “ข้าได้ยินมาว่ามีทหารมาตรวจสอบเจ้า ข้าพักวันนี้พอดี ดังนั้นข้าจึงมาถามเจ้าว่าเกิดอะไรขึ้นกัน พวกนั้นตรวจสอบเจ้าไปทําไม?”
ผู้เฒ่าเหอถามขึ้นมา “เจ้าหมายความว่าคนของสภาตรวจสอบเรื่องของข้างั้นรึ ?”
“เจ้าไม่ได้ทําอะไรผิดใช่รึไม่ ?” เจียงเลี่ยถามขึ้นมาด้วยสีหน้ามืดครื้ม
“เจ้ากับข้าเป็นสหายกันมาหลายปี เจ้าไม่รู้จักข้ารึไง ? ข้ามีนิสัยแบบไหนเจ้าไม่รู้เลยรึ ? ข้าจะทําเรื่องแย่ๆได้ยังไง ?” ผู้เฒ่าเหออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “แม้ว่าข้าจะคิดเรื่องแย่ๆ พวกนั้นแต่ข้าก็ไม่กล้าพอที่จะทํามัน!”
เจียงเลี้ยพยักหน้า “ใช่ ถึงแม้ว่าเจ้าจะกล้า แต่ก็อาจจะมีความแข็งแกร่งไม่มากพอ”
ปากของผู้เฒ่าเหอพลันกระตุก
“ก่อนหน้านี้ข้าสงสัยมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าการที่สภาตรวจสอบเจ้านั้นคงเกี่ยวกับเรื่องค่าปรับก่อนหน้านี้ นี่คงเป็นเหตุผลเดียวที่พอจะอธิบายได้” แม้ว่าเจียงเลี่ยจะรู้สึกว่ามันผิดปกติแต่ก็ไม่คิดอะไรมาก “พูดไปแล้วข้าก็ยังไม่เข้าใจการทํางานของสภาในครั้งนี้ ข้าใช้เวลาหลายปีในสภา แต่ไม่เคยเห็นสภายอมจ่ายเงินให้ใครเลย…”
ผู้เฒ่าเหอคิ้วขมวด “ไม่น่าจะเป็นไปได้ เหอตงที่ถูกส่งมาหาข้า ด้วยสายตาของข้าแล้ว เขาไม่น่าจะใช่คนเจ้าเล่ห์ปลิ้นปล้อนนะ…” ทักษะอื่นๆของผู้เฒ่าเหอไม่ได้โดดเด่น แต่การมองคนของเขานั้นถือว่าสุดยอดเป็นอย่างมาก
“เหอตง?” เจียงเลี่ยชะงักทันที
“ใช่!” ผู้เฒ่าเหอพยักหน้า “ คนที่มาหาข้าตะกี้บอกว่าเป็นผู้พิทักษ์ของสภา เขาชื่อว่าเหอตง เจ้ารู้จักเขาร็ไม่?”
แม้ว่าสภาจะใหญ่โตและมีผู้คนมากมาย แต่เจียงเลี่ยก็ใช้เวลาหลายปีในสภา การที่เขาจะรู้จักกับเหอตงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“เจ้าจําได้ไม่ว่าเขาหน้าตายังไง ?” เจียงเลี่ยแสดงสีหน้าจริงจังออกมา
ผู้เฒ่าเหอพูดไปคงไม่ละเอียด เขาได้ส่งพลังออกมาเพื่อสร้างภาพเหมือนของเหอตงขึ้นมา
เจียงเลี่ยใจสั่นทันทีและอุทานออกมา “ผู้บัญชาการ!”
คําอุทานของเขาทําให้หลายคนในบ้านต้องตกใจไปตามๆกัน
“ผู้เฒ่าเหอ เจ้ารู้ไม่ว่าเขาคือใคร ?” เจียงเลี่ยจ้องไปที่ผู้เฒ่าเหอ เขาไม่รอคําตอบจากผู้เฒ่าเหอและพูดต่อ “ชายคนนี้คือผู้บัญชาการทหารของสภา…เหอตง ! เขาไม่ใช่แค่มีตําแหน่งที่สูงในสภาแต่ยังเป็นผู้สร้างที่แท้จริงด้วย ! ว่ากันว่าผู้บัญชาการเหอตงกําลังเตรียมตัวเข้าร่วมการประเมินผู้ควบคุม 1 ดาวอยู่หากผ่านภารกิจไปได้ ผู้บัญชาการเหอตงก็จะกลายเป็นยอดฝีมือคนที่สามของโลกจิตวิญญาณ และเป็นรองแคใต้เท้าซวงกับท่านรองเท่านั้น !”
ผู้เฒ่าเหอแทบตาถลนออกมา “เขาแกร่งขนาดนั้นเลยรี 2”
ท่าที่ที่เหอตงแสดงต่อเขานั้นสุภาพอย่างมากและยังดูเคารพอีกด้วย
เขาเป็นแค่กุยหยวนขั้นกลาง ดังนั้นเขาจึงไม่อาจจะมองระดับของอีกฝ่ายออกได้แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่ง !
หากมองจากทั้งโลกจิตวิญญาณแล้ว คนที่เข้าใกล้ใต้เท้าและอาจจะขึ้นเป็นผู้สร้างโลกนั้นแน่นอนว่าต้องเป็นยอดฝีมือ !
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหอตงจะแข็งแกร่งแต่ไหน
เจียงเลี่ยสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดขึ้น “แต่ข้าไม่รู้เลยว่าทําไมคนที่ยิ่งใหญ่แบบนั้นถึงได้มาจัดการเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ได้”
เขาคิดหาเหตุผลไม่ออก
“เมื่อคิดไม่ออกก็ไม่ต้องคิด” เจียงเลี่ยพูดขึ้นมา “เมื่อเขาเป็นคนมาที่นี่เอง งั้นเรื่องนี้คงไม่ใช่แผนการอะไร ยังไงซะเขาก็เป็นถึงผบ. เขาคงไม่ต้องใช้แผนการใดๆเพื่อจัดการเจ้าหรอก ไม่ใช่ว่าข้าดูถูกเจ้าแต่คนอย่างเจ้ากับข้านั้นไม่คู่ควรที่เขาจะใช้แผนจัดการกับเราหรอก ยิ่งกว่านั้นเขาก็เป็นคนมีหลักการ ปกติแล้วเขาจะเอาแต่บ่มเพาะและใช้ชีวิตเรียบง่าย คนแบบนั้นไม่จําเป็นต้องใช้แผนสกปรกอะไร”
4 ข้าโล่งอกที่ได้ยินเช่นนี้” ผู้เฒ่าเหอถอนหายใจออกมา “สําหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ดูเหมือนว่าเขาจะว่างพอดีอยากออกมาเดินเล่นเลยมาจัดการเรื่องนี้แทน”
จางหยูไม่ได้ขัดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ เขาฟังอยู่เงียบๆ เขารู้สึกว่าบทสนทนาของผู้เฒ่าเหอและเจียงเสี่ยนั้นน่าสนใจ
เขาไม่คิดจะบอกความจริงกับทั้งคู่ เมื่อคิดว่าเขาต้องอยู่ที่นี่ไปอีกครึ่งเดือน เขาก็ตัดสินใจไม่บอกความจริงกับพวกนี้ เพราะเขาไม่มั่นใจว่าหากบอกความจริงออกไปแล้ว ทุกคนจะทําตัวปกติได้ไม่