ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1622 : ระวังตัว
ตอนที่ 1622 : ระวังตัว
ก่อนที่จะรู้ตัวก็ผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมงแล้ว
ที่ด้านนอกวังนิรันดร์ยังคงสงบดังเดิม แต่เจียงอู่ซวีและจางหยูยังไม่กลับมา
ตอนนั้นเองที่คนในวังนิรันดร์รู้สึกว่ามันผิดปกติ
โจวหั่วและเนี่ยอู่ซวงเองก็กังวลจนเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว
* ออกไปดูสิ” ชายวัยกลางคนของวังนิรันดร์พูดขึ้นมาก่อนที่เขาจะเดินทางออกมาจากเขตของวัง
เขาแผ่การรับรู้ออกไปเพื่อรับรู้โลกรอบตัวและรับรู้ถึงโลกแยกส่วนแต่โลกนั้นไม่ใช่โลกของเจียงอู่ชวีอีกต่อไปแล้ว มันถูกควบคุมโดยจางหยูแทน แม้ว่าเขาจะรับรู้ถึงโลกนี้ได้แต่เขาก็ไม่อาจะเข้าไปได้ เขาไม่อาจจะรับรู้สถานการณ์ด้านในได้เลย
“อะไรกัน ?” ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว แม้ว่าเขาจะอ่อนแอกว่าเจียงอู่ชวีเล็กน้อยแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเข้าไปในโลกของเจียงอู่ซวีไม่ได้ นี่ไม่ต้องนับการตรวจสอบสถานการณ์ด้านในเลย
โจวหั่วและเนี่ยอู่ซวงพากันกลัวจนกลั้นหายใจ
ชายวัยกลางคนนี้เป็นถึงผู้ควบคุมขั้นที่ 6!
สมกับเป็นวังนิรันดร์ มันมีผู้ควบคุมขั้น 6 มากกว่าหนึ่งคน !
“ ระวังตัวไว้ มันดูผิดปกติ” ชายวัยกลางคนส่งข้อความหาคนวังนิรันดร์
ตอนนั้นบรรยากาศในวังก็เปลี่ยนไป ทุกคนต่างก็สีหน้าเปลี่ยนไป
ไม่นานก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินทางออกมา
มันมีทั้งหมด 32 คนโดยมีผู้ควบคุมขั้น 4 สามคน, คนที่เหลือนอกจากผู้ควบคุมขั้น 6 แล้ว ก็เป็นผู้ควบคุมขั้น 5 กันหมด !
ผู้ควบคุมขั้น 5 จํานวน 28 คน, ผู้ควบคุมขั้น 4 สามคนและผู้ควบคุมขั้น 6 อีกคน นี่คือขุมกําลังที่แท้จริงของวังนิรันดร์ !
กองกําลังที่น่ากลัวแบบนี้ถึงไม่มีเบเกิล ก็เพียงพอจะจัดการกับทั้งเขตตะวันออกส่วนเหนือได้ เพราะที่นี่คนที่เหนือกว่าผู้ควบคุมขั้นที่ 6 นั้นมีเบเกิลแค่คนเดียว ดังนั้นจึงทําให้ฐานะของเบเกิลพิเศษขึ้นมาและถูกมองว่าเป็นตํานาน !
“ เจ้ารับรู้ได้รึไม่ ?” ชายวัยกลางคนถามขึ้นมา
ผู้ควบคุมขั้น 6 อีกคนพยักหน้า “ ข้ารับรู้ถึงโลกแยกส่วนได้แต่ไม่อาจจะแผ่การรับรู้เข้าไปได้
คนที่เหลือไม่อาจจะรับรู้ถึงโลกแยกส่วนได้ นี่ไม่ต้องนับการรู้สถานการณ์ด้านในเลย
ต่อหน้าโลกแยกส่วนเช่นนั้นแม้แต่ผู้ควบคุมขั้นที่ 6 ก็ไม่อาจจะทําอะไรได้ คนอื่นนั้นไม่จําเป็นต้องพูดถึงเลย
ชายวัยกลางคนมองไปที่โจวหั่วและเนี่ยอู่ซวงด้วยสีหน้าเย็นชา “ เด็กผู้ชายที่มากับพวกเจ้าเป็นใครกัน ?”
คนอื่นๆเองก็มองไปที่โจวหั่วและเนี่ยอู่ชวงด้วยสายตาไม่พอใจ
โจวหั่วใจสั่นและพูดขึ้นมา “ นั่นคือท่านจางหยู เราไม่ได้รู้อะไรมากเกี่ยวกับเขา เรารู้แค่ว่าท่านจางอาจจะเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 6”
ตอนนี้เขาสับสนและกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรออกมาต่อ
เมื่อบรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาเรื่อยๆ จิตผู้สร้างอันน่ากลัวก็แผ่ครอบคลุมคนของวังนิรันดร์ ก่อนที่พวกนั้นจะรู้ตัวก็โดนดึงเข้าไปในโลกแยกส่วนแล้ว
โจวหั่วและเนี่ยอู่ซวงได้แต่เบิกตากว้างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ?
ในพริบตาคนเหล่านั้นกลับหายไปต่อหน้าต่อตาพวกเขาได้ยังไง ?
เนี่ยอู่ซวงฉุกคิดได้และถามขึ้นมา “ ลุงโจว ท่านจางคงไม่เป็นอะไรหรอกนะ”
โจวหั่วแสดงสีหน้ากังวลออกมา “ ถึงเขาจะมีความแข็งแกร่งทัดเทียมกับผู้ควบคุมขั้นที่ 6 แต่ข้าก็กลัวว่ามันคงหนักมือเกินไปสําหรับท่านจาง”
ทั้งสองไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะมาถึงจุดนี้ได้
พวกเขาไม่ได้อาจจะเข้าไปช่วยจางหยูได้และได้แต่รออยู่ด้านนอก หากพวกเขามีโอกาสที่จะหนี้ งั้นพวกเขาก็คงไม่ลังเล
“ จริงสิ ในกลุ่มพวกนั้น คนที่ใส่ชุดสีเทาดูเหมือนว่าจะเป็นบรรพชนลั่ว” เนี่ยอู่ซวง พูดขึ้นมา
โจวหั่วยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ ตอนนี้เจ้ายังสนใจบรรพชนลั่วอยู่อีกรึ ?”
ในโลกแยกส่วน
คนของวังนิรันดร์ไม่ทันได้ตั้งตัวและถูกดึงเข้ามา
ทันทีที่พวกนั้นเข้ามาในโลกนี้ พวกนั้นก็ต้องสับสน
“ พี่พี่เจียง ?”
“ เกิดอะไรขึ้นที่นี่กัน ?”
พวกเขาพากันมองหาเจียงอู่ซวีกันทันที
ตอนนั้นพวกเขาก็พบว่าเจียงอู่ซวีอยู่ในสภาพน่าอดสู เสื้อผ้าของเขาขาดหลุดลุ่ย หน้าอกเต็มไปด้วยบาดแผล เลือดย้อมไปทั้งตัว แม้แต่ฟันก็ยังหายไปหลายซี่ มันดูตลกและน่าอนาถอย่างมาก
หากไม่ใช่เพราะคลื่นพลังและชุดที่ดูคุ้นตาแล้ว พวกเขาคงไม่คิดว่านี่คือเจียงอู่ซวี
พวกเขาไม่เคยเห็นเจียงอู่ซวีในสภาพนี้มาก่อน ในทางกลับกันแล้วพวกเขาคิดว่าเจียงอู่ซวีจะเป็นฝ่ายที่รังแกอีกฝ่าย
“ พวกเจ้าเข้ามาได้ยังไง !” เจียงอู่ซวีเห็นคนของตัวเองก็ลนลานขึ้นมา “ รีบหนีไป !” ตอนที่ พูดนั้นเขาก็กระอักเลือดออกมาด้วย
ตอนนี้ทุกคนเริ่มสังหรณ์ใจขึ้นมา ฉากนี้เพียงพอที่จะทําให้พวกเขารู้ถึงปัญหาได้
เพียงแต่ว่ามันสายเกินไปที่พวกเขาจะหนีออกไป
จางหยูยิ้มออกมาและมองไปที่พวกนั้นก่อนจะพูดขึ้น “ พวกเจ้าไม่ต้องกังวล ข้ากับเขาแค่ประมือกันฉันท์มิตร “
ประมือฉันท์มิตร ?
มิตรกะผีสิ !
เจียงอู่ซวีได้แต่ยิ้มแห้งๆออกมาและพูดขึ้น “ ท่าน แม้ว่าท่านจะสั่งสอนข้า แต่โปรดอย่าทําให้ข้าอับอายต่อหน้าทุกคนเลย ยังไงซะท่านก็บอกว่าท่านกับนายท่านเป็นสหายกัน ในฐานะสหายแล้ว ท่านไม่ควรรังแกคนของนายท่านไม่ใช่รึ ?”
ทุกคนคิดว่าตัวเองหูฝาดไป ภาพลักษณ์ที่สูงส่งของเจียงอู่ซวีในใจพวกเขาได้พังทลายไปในทันที
“ รังแกรึ ? ไม่ นี่เรียกว่ารังแกเจ้าได้ยังไง ?”
จางหยูพูดขึ้นมาด้วยท่าที่จริงจัง “ ข้าแค่ประมือกับเจ้าเพื่อยกระดับความเป็นมิตรกัน ในอีกด้านก็ช่วยพี่เบเกิล ตรวจสอบว่าเขามีคนแบบไหน พี่เบเกิลเคยให้คําแนะนํากับข้า ตอนนี้ข้ากำลังตอบแทนเขาอยู่ หากพี่เบเกิลรู้เข้า เขาคงต้องยินดีมากแน่ๆ”
ตอนนั้นเจียงอู่ซวีกลับรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา
คนอื่นๆเห็นสภาพของเจียงอู่ชวีก็ไม่อยากอยู่ในสภาพนั้น
จางหยูกวาดตามองไปรอบๆด้วยความตื่นเต้น “ ข้าขอประกาศเริ่มการประมืออย่างเป็นทางการ !”
ด้วยการสู้กับผู้ควบคุมขั้น 4, 5 และ 6 จางหยุมีลางสังหรณ์ว่าเขาจะได้เรียนรู้กับคนพวกนี้ และยกระดับขึ้นมาไม่ใช่น้อย บางทีเขาอาจจะขึ้นไปถึงขั้นที่ 8 ก็ได้
“ ไม่ !” เจียงอู่ชวีลนลาน “ ท่านแข็งแกร่งกว่าเรา ทําไมท่านถึงต้องมาสนใจเราด้วย ?”
เขารู้สึกว่าจางหยูแค่แกล้งพวกเขา !
ชายคนนี้เอาชนะเบเกิลไม่ได้จึงมาลงมือกับพวกเขาแทน !
รีว่าบางทีชายคนนี้คงไม่พอใจกับสิ่งที่เจียงอู่ชวีพูดตอนแรกจึงใช้เรื่องนี้เป็นข้อแก้ตัว
ว่าจะเป็นเหตุผลอะไรแต่เจียงอู่ชวีก็รู้แล้วว่าชายคนนี้น่ะใจแคบ
“ มา ไม่ต้องคิดมา” จางหยูกรอกตาใส่ “ อย่างมากพวกเจ้าก็แค่บาดเจ็บภายนอก มันไม่ได้ทําลายรากฐานอะไร อย่าแสร้งว่าพวกเจ้าจะตายเลย”
เจียงอู่ซวีอยากค้านออกมา “ ข้าไม่ใช่คนชอบเจ็บตัว เมื่อรู้ว่าสู้ไม่ได้ ทําไมต้องหาเรื่องให้โดนรังแกด้วย ?” แต่ยังไงซะ เขาก็ไม่กล้าพูดมันออกมา เขากลัวว่าหากพูดแบบนั้นไปจางหยูจะยิ่งโกรธ หากจางหูลงมือหนักกว่านี้ เขาคงเจ็บตัวไม่ใช่น้อย
“ พี่เจียง ท่านจะคิดอะไรมาก ?” ชายวัยกลางคนคิ้วขมวดและพูดขึ้นมา “ แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 7 แต่เราก็ไม่จําเป็นต้องขอความเมตตาไม่ใช่รึ ?”
ทุกคนต่างก็พากันมองเจียงอู่ซวีด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
เจียงอู่ชวียิ้มแห้งๆออกมา “ หากเขาเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 7 ทั่วไป เราอาจจะร่วมมือกันเอาชนะเขาได้ แต่ชายคนนี้น่ากลัวเกินไป เดาว่าพวกที่ต่ํากว่าขั้นที่ 8 คงยากจะเป็นคู่มือของเขาได้ ที่ข้าสู้กับเขาเมื่อตะกี้ก็ทําให้รู้สึกว่ามันไม่ต่างอะไรกับการเผชิญหน้ากับนายท่านเลย ”
เมื่อเห็นว่าทุกคนยังไม่เชื่อ เจียงอู่ชวีก็พูดขึ้นต่อ “ พวกเจ้าห้ามดูถูกชายผู้นี้ ความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้ด้อยกว่าข้า ชายคนนี้แปลกประหลาดอย่างมาก แม้ว่าเขาจะใช้พลังแห่งการสร้างที่ขั้น 7 แต่ความเข้าใจการสร้างของเขานั้นน่าจะอยู่ที่ขั้นที่ 8.”
ทุกคนยิ่งสงสัยกันกว่าเดิม ทําไมถึงได้มีคนแบบนี้โผล่มากัน ?