ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1630 : เสี่ยวหัวเดี่ยว
ตอนที่ 1630 : เสี่ยวหัวเดี่ยว
หลังจากที่ตัดสินใจแล้ว จางหยูก็ได้บอกกับเจียงอู่ซวีและคนอื่นๆ “เมื่อพี่เบเกิลกลับมา เจ้าบอกเขาว่าข้าจะไปที่โลกสวรรค์ทิ้งสักพัก หากเขามีธุระอะไร ให้เขาไปหาข้าที่นั้น”
“ข้าจะบอกนายท่านให้” เจียงอู่ซวีแสดงท่าที่จริงจังออกมา
“ได้เวลาแล้ว ข้าควรไปได้แล้ว” จางหยบอกกับคนของวังนิรันดร์และคนจากตระกูลลัว “ข้าขอตัวก่อน”
เจียงอู่ซวีพูดขึ้น “ช้าก่อน”
จางหยูชะงักไปและถามขึ้น “มีอะไรงั้นรึ ?”
เจียงอู่ซวีพูดขึ้น “นายท่าน เมื่อท่านไปที่โลกสวรรค์ทิ้งและเจอปัญหาอะไรเข้า ท่านสามารถไปที่ภูเขาธารใสเพื่อพบกับท่านจงหราน เจ้าของที่นั่น เขาเป็นสหายของนายท่าน ความแข็งแกร่งนั้นไม่ได้ด้อยกว่านายท่านเลย ท่านแค่ต้องบอกชื่อของนายท่าน เขาก็เต็มใจจะช่วยท่านแล้ว”
“จงหรานรี ?” จางหยูจําชื่อนี้เอาไว้ “ได้ ข้าจะจําไว้ ขอบคุณเจ้ามาก”
“ข้าหวังว่าท่านจะเดินทางอย่างปลอดภัย” เจียงอู่ซวีพูดขึ้น
จางหยูพยักหน้า เขาไม่พูดอะไรต่อและหายตัวไปทันที
ทุกคนพากันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า หลังจากนั้นสักพักพวกเขาก็ได้สติกลับมา
“สุดท้ายเขาก็ไปแล้วรี ?” อ่าวซึ่งถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกหลังจากที่กังวลมาโดยตลอด “ข้ารู้สึกว่าเขาก่าลังเล่นกับความคิดเราอยู่ตลอด…”
เหอก้วนพูดขึ้นมา “ข้าไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกแบบนั้นสินะ !”
คนจากวังนิรันดร์มองหน้ากันก่อนจะรู้สึกกลัวขึ้นมา พวกเขาพากันโล่งอกที่หลุดรอดจากเงื้อมมือของจางหยูมาได้ราวกับได้เกิดใหม่
“รีบกลับไปซื้อผลโกลาหลกันเถอะ เรื่องนี้คือภารกิจของเราตอนนี้” เจียงอู่ซวีพูดขึ้น “ทุกคนแยกกันลงมือไปหากองกําลังใหญ่ทั้งหมดและซื้อผลโกลาหลมาให้ได้มากที่สุด หลังจากที่รวบรวมครบแล้วข้าจะไปส่งให้ที่สํานักดังเฉียง”
นี่ไม่ใช่แสดงความสามารถของวังนิรันดร์แต่เป็นการแสดงเกียรติของวังนิรันดร์ด้วย
“นายท่าน” ตอนนั้นถั่วเทียนห่าวก็ได้พูดขึ้นมา “ตระกูลถั่วของเรามีผลโกลาหล 180 ผล เราพร้อมจะส่งให้พวกท่านฟรีๆ” ผลโกลาหลเหล่านี้เตรียมไว้ให้คนในตระกูลแต่เมื่อวังนิรันดร์ต้องการมัน งั้นพวกเขาก็ไม่รังเกียจที่จะยกให้พวกนั้นเพื่อชดเชยความผิดที่พวกเขาได้ก่อขึ้นมา
“ดี เราจะรับมันไว้แต่สําหรับหินแห่งการสร้างแล้ว เราจะยังจ่ายให้เจ้าอยู่” เจียงอู่ซวีพูดขึ้นมา “วังนิรันดร์ไม่ได้ขัดสนหินแห่งการสร้าง
ผลโกลาหลกว่าร้อยผลนั้นมีค่ามากกว่าล้านฟอสซิล สําหรับตระกูลถั่วแล้วมันไม่ได้มากมายอะไร สําหรับวังนิรันดร์แล้ว ยิ่งเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่คู่ควรให้พูดถึง
ที่บ้านของโจวทั่ว
เนี่ยอู่ช่วงมองไปที่เนี่ยเวิ่นแล้วพูดขึ้นมา “เจ้าคิดอะไรอีก !”
“นี่…” เนี่ยเวิ่นได้สติกลับมาและพูดขึ้น “ท่านพ่อ ข้าไปที่โลกป่าได้รึไม่ ?”
“เจ้าจะไปทําอะไรที่นั่น ?” เนียซวงคิ้วขมวด
เนี่ยเวิ่นตอบกลับ “ฟังจากที่ผู้อาวุโสบอกแล้ว โลกป่าเหมือนจะยังไม่พัฒนา ข้าคิดว่าหากข้าไปดูแลที่นั่น บางทีข้าอาจจะได้ประโยชน์อย่างมาก ยังไงซะการพัฒนาโลกขั้น 9 และพลังของโลกขั้น 9 ก็เกี่ยวข้องกัน ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสนั้นไม่ใช่น้อย โลกป่าต้องโดดเด่นอย่างแน่นอนในอนาคต ไม่ช้าสิ่งที่เราทุ่มทุนลง ไปจะต้องส่งผลแน่” เนี่ยเวิ่นแสดงสีหน้าจริงจังออกมาและพูดต่อ “เท่าที่ข้ารู้มากองกําลังในโลกนิรันดร์นั้นมีอยู่ ตั้งแต่ที่โลกเกิดขึ้นมา ตอนนี้พวกเราได้โอกาสครั้งใหญ่ ข่าวนี้ยังไม่เผยแพร่ออกไป มีแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ มันคู่ควรที่จะลอง”
เนี่ยอู่ซวงมองไปที่ลูกชายด้วยความแปลกใจ ไม่คิดเลยว่าลูกเขาจะมีหัวคิดแบบนี้ได้
“เจ้าคิดแบบนั้นจริงๆ ? มันไม่ใช่ว่าลุงโจวสอนเจ้าสินะ ?” เขาถามขึ้นมา
โจวทั่วรีบโบกมือและพูดขึ้น “ข้าไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องของพวกเจ้าสองคน ข้าไม่อยากยุ่งเรื่องของโลกจิตวิญญาณด้วย”
เนี่ยเวิ่นพูดขึ้น “ท่านพ่อ ข้าคือคนที่ไม่ได้ความงั้นรีในสายตาของท่าน ?”
“เจ้ายังไม่รู้ตัวอีกร ?” เนี่ยอู่ซวงกรอกตาใส่ แม้ว่าเขาจะปากร้ายแต่เขาก็ยังยอมตกลง “แต่ข้าจะเชื่อเจ้าสักครั้ง เจ้าคิดถูก ตอนนี้โลกป่าคือที่ที่ดี มันเหมาะที่จะเข้าไปตอนนี้ หากเราไปที่โลกป่าตอนนี้และตั้งตัวที่นั่น บางทีโลกจิตวิญญาณอาจจะได้รับโอกาสและกลายเป็นเหมือนตระกูลถั่วได้ในอนาคต !”
เมื่อได้ยินแบบนั้นเนี่ยเวิ่นก็ยิ่งตื่นเต้น “ใช่ ข้าเองก็คิดเช่นนั้น” เขาเหมือนมั่นใจมากขึ้น “ครั้งนี้ข้าจะไปที่นั่นและพาคนของเราไป ข้ารับรองได้ว่าข้าจะประสบความสําเร็จ หากไม่ได้ดี ข้าจะไม่กลับบ้าน”
“ข้าสงสัยว่าเจ้าแค่ไม่อยากจะกลับบ้าน ข้าไม่รู้ว่าการที่เจ้าไปยังโลกป่านั้นเจ้าจะสร้างปัญหาอะไรรีไม่…”
เนี่ยเวิ่นหน้าแดงขึ้นมาและพูดขึ้น “ท่านพ่อ ท่านดูถูกข้างั้นรี ?”
โจวหัวก็พูดขึ้น “เนี่ยอู่ซวง การให้เขาออกไปก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี ตราบใดที่ไม่มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น งั้นก็ ถือว่าเป็นการหาประสบการณ์ที่ดี”
ยิ่งเห็นท่าทีของเนี่ยเวิ่นและโจวทั่ว เนี่ยอู่ซวงก็สงสัยว่าตัวเองคงคิดผิดไป เขาลังเลและพูดขึ้นมา “งั้นอย่า บอกว่าข้าไม่เชื่อเจ้า พ่อจะให้โอกาสเจ้าอีกสักครั้ง ข้าหวังว่าเจ้าจะไปยังโลกป่าและสร้างความสําเร็จขึ้นมาได้ ไม่งั้นแล้วเจ้าก็กลับมาที่โลกจิตวิญญาณ ยังไงซะในไม่ช้าโลกนี้ก็ต้องเป็นของเจ้า”
“ขอบคุณท่านพ่อ !” เนี่ยเวิ่นรีบตอบกลับด้วยความตื่นเต้น
เนี่ยอู่ซวงถอนหายใจออกมา “เจ้าคือตัวแทนของโลกเราและเพื่อตระกูลของเรา อย่าทําเหมือนที่โลกนิรันดร์อีก” เขาเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “แต่ก่อนที่เจ้าจะไปยังโลกป่า เราต้องตั้งกฎ 3 ข้อกันก่อน”
“กฏอย่างงั้นรี ?”
“อย่างแรกเมื่อเจ้าไปยังโลกป่า เจ้าห้ามท่าร้ายใครไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม”
เนี่ยอู่ซวงกลัวว่าจะทาให้คนแข็งแกร่งในโลกป่าไม่พอใจ เรื่องแบบนี้เนี่ยเวิ่นคงยากจะเข้าใจได้ เขาจึงต้องห้ามเอาไว้เพื่อไม่ให้ลูกทําผิดพลาดแบบเดิมอีก
“ไม่มีปัญหา
“อย่างที่สอง เจ้าไม่อาจจะทําลายอะไรในโลกป่าได้ ขาหมายถึงทุกอย่าง” ชัดแล้วว่าเขากลัวว่าจะเกิดเรื่องเหมือนที่ตระกูลลัวอีก
“ได้”
“สุดท้ายก่อนที่เจ้าจะทําอะไร เจ้าต้องถามความเห็นจากคนที่ไปกับเจ้าก่อนและทําตามที่ทุกคนตกลง พวกเขาคือสหายที่ติดตามข้ามาหลายปี พวกเขามีประสบการณ์มากกว่าเจ้าเป็นร้อยๆเท่า ประสบการณ์ของพวกเขาล้ําค่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลา” เนี่ยอู่ซวงพูดขึ้น
เนี่ยเวิ่นนิ่งไปชั่วครู่ “นี่…” เขาลังเลก่อนที่จะพยักหน้า “ได้”
“ถึงเจ้าจะตกลงไปก็ไม่มีประโยชน์อันใดเพราะข้าจะบอกพวกเขา หากเจ้าไม่ฟัง ข้าจะให้พวกเขาจัดการเจ้า”
ปากของเนี่ยเวิ่นถึงกับกระตุก
เขาคือลูกของเจ้าของโลกจิตวิญญาณแต่กลับจะโดนลงโทษ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อคิดว่าเขาจะได้ไปที่โลกป่า เขาก็ไม่คิดอะไรมาก
“โลกป่านั้นมันเกี่ยวข้องกับผู้อาวุโส ข้าจะไปตรวจสอบที่นั่น…” เนี่ยเวิ่นตื่นเต้นขึ้นมา “ข้าจะเจอกับอัจฉริยะแบบไหนกัน ? พวกนั้นไม่อาจจะซ่อนตัวต่อหน้าข้าได้”
การตั้งรกรากที่โลกป่าเป็นแค่ข้ออ้างของเขา ความจริงแล้วเขาต้องการตรวจสอบเรื่องนี้
นี่คือความคิดโง่ๆในหัวเนียเป็น