ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1637 : การตัดสินใจ
ตอนที่ 1637 : การตัดสินใจ
ซางอี๋ว์หน้าซีดไป ตัวของนางสั่นไหว การรับรู้ทุกอย่างพลิกผันไปหมด
ต่อหน้าคำถามของอู๋ยงแล้ว นางไม่อาจจะยืนหยัดในความแค้นแบบเดิมได้
“ข้าขอโทษ ข้าขอโทษ…” ซางอี๋ว์ร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกผิดและโทษตัวเอง “ข้าไม่รู้ ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าคนในตระกูลทำร้ายท่านขนาดนี้…”
สิ่งที่นางคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่กลับสร้างแผลใจที่ลึกล้ำให้กับเขา
เพราะว่านางไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกยังไง
อย่างที่เขาว่ากันว่า “หากมิเคยสัมผัสถึงความทุกข์ยาก ก็อย่าโน้มน้าวให้คนอื่นมีเมตตา” เมื่อมองสิ่งเดียวกันจากมุมมองที่ต่างกัน ผลลัพธ์มันอาจจะออกมาไม่เหมือนกัน
เมื่อเห็นซางอี๋ว์ รู้สึกผิดและเสียใจ อู๋ยงก็ถอนหายใจออกมา “เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ เจ้ากับนายท่านไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายกับเรา คนที่ผิดคือคนในตระกูลเจ้าต่างหาก”
คนร้ายคือตระกูลซาง ต้นตอปัญหาทั้งหมดมาจากคนในตระกูลซาง ซางเหอและซางอี๋ว์นั้นเป็นแค่ผู้เคราะห์ร้ายเท่านั้น
อู๋ยงลังเลไปชั่วครู่แล้วพูดต่อ “อันที่จริง เรื่องที่จ้าวสิงวางแผนลับหลังหัวหน้าตระกูล ข้าก็รู้มาก่อนแต่ไม่รู้ถึงแผนการที่แน่ชัด ดังนั้น ข้าจึงไม่ได้หยุดเขา หลังจากที่นายท่านตายไป มันก็สายเกินกว่าจะหยุดแล้ว…ความคิดของคนอื่นนั้นข้าไม่อาจจะรู้ได้ แต่ข้าอู๋ยงไม่อยากล้างแค้นและไม่อยากเป็นคนเนรคุณ เมื่อจ้าวสิงต้องการจะฆ่าเจ้า ข้าก็แอบส่งคนไปแจ้งกับเจ้า ในขณะที่จ้าวสิงกำลังฆ่าคนอื่น ๆในตระกูลซาง”
เขามองซางเหอคือผู้มีพระคุณแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมองทั้งตระกูลซางเป็นผู้มีพระคุณด้วย
“นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่ข้าจะทำได้แล้ว” อู๋ยงใจเย็นลง “แน่นอนเมื่อข้าเข้าร่วมกับจ้าวสิง มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าข้าเป็นคนทรยศ”
อู๋ยงไม่คิดจะแก้ตัวในสิ่งที่ทำลงไป เขารู้ว่าเขาไม่ใช่คนดี เขาไม่เคยคิดว่าเขาเป็นตัวแทนของความยุติธรรม เขาแค่ทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกต้องเท่านั้น
“ข้าพูดจบแล้ว” อู๋ยงมองไปที่ซางอี๋ว์ “เจ้าจัดการกับข้าได้เลย”
ตอนที่เขาได้พบกับซางอี๋ว์ เขาก็รู้แล้วว่าเขาต้องตาย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้มีความกล้าแบบนี้ เมื่อเขาบอกทุกอย่างชัดเจนแล้วเขาก็พร้อมที่จะตาย
ซางอี๋ว์เหมือนจะไม่ได้ยินคำพูดของอู๋ยง นางตกอยู่ในความสับสนอยู่ ตอนนี้นางได้แต่สงสัยและนึกโทษตัวเอง
ความจริงที่อู๋ยงเปิดเผยมานั้นมันหนักหนาจนพลิกการรับรู้ทุกอย่างของนางหมด
แม้แต่จางหยูก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า ตระกูลซางตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้คงได้แต่โทษตัวเอง
คนพวกนี้เล่นบทเจ้านายและมองผู้ควบคุมเป็นคนรับใช้ มันไม่ใช่เรื่องผิดรึไง ?
หากไม่ใช่เพราะมีซางเหอและซางอี๋ว์แล้วคนอื่น ๆ ในตระกูลจะมีความกล้ามาจากไหนกัน ?
พวกนั้นคิดว่าผู้ควบคุมขั้นที่ 6 เป็นแมวป่วยหรือไง?
เพราะการมีซางเหอคอยให้ท้าย คนในตระกูลถึงกล้าเหยียบย่ำศักด์ิศรีของผู้ควบคุมขั้นที่ 6 ซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
จางหยูไม่สงสัยเลยว่าถึงสำนักต้าหยู่จะไม่มีจ้าวสิง แต่ไม่นานก็ต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นี่คือผลลัพธ์ที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้
แน่นอนบทบาทของอู๋ยงในเรื่องนี้ก็ไม่ได้เรียบง่าย เขาบอกเองว่าไม่ว่าจะมีเหตุผลแค่ไหนรึมีข้อแก้ตัวยังไง แต่ทรยศก็คือทรยศ นี่คือความจริงที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้แต่หากเทียบกับตระกูลซางแล้ว อู๋ยงน่ะน่าสงสารกว่า เขาถูกเหยียบย่ำศักด์ิศรีและเกียรติยศมานานแล้ว
ถูกรึผิดนั้นไม่อาจจะตัดสินได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“ถูกผิดนั้นไม่เคยแน่นอน” จางหยูพูดขึ้นมา จากมุมมองของคนนอกแล้วเขามองรายละเอียดต่าง ๆ ได้ชัดกว่า “ซางอี๋ว์ เจ้าบอกข้ามาว่าเจ้าตัดสินใจยังไง อู๋ยงผู้นี้ เจ้าจะฆ่ารึไม่ ?”
ถึงจะเหมือนถามแต่นี่คือการทดสอบ
ไม่ว่าซางอี๋ว์จะตอบยังไงแต่เขาก็ไม่คิดจะฆ่าอู๋ยง
ยังไงซะ อู๋ยงก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตายของซางเหอ !
เขาแค่อยากรู้ความคิดของซางอี๋ว์ว่าบิดเบี้ยวรึไม่ หากบิดเบี้ยวไปแล้วคงไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้
หากซางอี๋ว์ให้เขาฆ่าอู๋ยง งั้นเขาก็จะยอมแพ้ในตัวซางอี๋ว์ ด้วยความแข็งแกร่งของเขาแล้ว การจะหาผู้ควบคุมขั้น 4 สักคนมารับใช้มันไม่ใช่เรื่องยาก แต่หากซางอี๋ว์เลิกคิดที่จะแก้แค้นอู๋ยง อย่างน้อยมันก็หมายความว่าเขาพอจะช่วยซางอี๋ว์ได้อยู่
ประสบการณ์อันเจ็บปวดสำหรับซางอี๋ว์แล้วอาจจะคือหายนะในชีวิตแต่มันก็คือประสบการณ์ที่จะพลิกชีวิตได้เช่นกัน
จางหยูไม่สนใจคนที่มีแต่ความโกรธแค้นและความชั่วร้าย เขาอยากเห็นด้านดีของมนุษย์ หากซางอี๋ว์ไม่รับรู้ถึงความผิดของตัวเองรึหนีความผิดของตัวเอง งั้นเขาคงได้แต่ต้องบอกว่าคนแบบนี้ไม่อาจจะเกี่ยวข้องกับสำนักคังเฉียงได้
ผ่านไปสักพัก
ซางอี๋ว์ราวกับเรี่ยวแรงหายไปจากตัวในพริบตา สายตาของนางว่างเปล่า นางได้พูดขึ้นมาว่า “ท่านไปเถอะ “
จางหยูแปลกใจนิด ๆ
ซือซวนมองซางอี๋ว์ด้วยความแปลกใจ
อู๋ยงสับสนและเหลือเชื่อ “เจ้า…เจ้าไม่ฆ่าข้ารึ ?”
เขาเตรียมใจรับความตายเอาไว้แล้วแต่นางกลับไม่คิดฆ่าเขางั้นรึ?“ตระกูลซางทำร้ายท่าน คำขอโทษคงไม่เพียงพอที่จะชดใช้ได้แต่ตระกูลซางก็ได้ชดใช้ไปแล้ว” ซางอี๋ว์มองอู๋ยงด้วยสีหน้าซับซ้อน,โทษตัวเอง, รู้สึกผิด, เคียดแค้นและไม่พอใจ แต่อารมณ์ทุกอย่างนั้นกลับเปลี่ยนเป็นความเศร้าแทน “จากนี้ไปท่านกับข้าไม่มีความแค้นเคืองต่อกัน ท่านกับข้าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันอีก ตระกูลซางได้ทำร้ายท่านแต่พวกเขาก็ชดใช้ไปแล้ว”
ราคานี้คือชีวิตของพวกนั้น !
ราคาที่สูงเพียงพอจะชดใช้กับความผิดของพวกนั้น !
อู๋ยงเงียบไปชั่วครู่และพูดขึ้นว่า “เจ้าสำนักน้อย นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าจะเรียกเจ้าว่าเจ้าสำนักน้อย จากนี้ไปข้าหวังว่าเจ้าจะดูแลตัวเองให้ดี”
เขาโค้งให้ซางอี๋ว์ ก่อนจะหันหลังแล้วออกจากที่นั่นไป
“ช้าก่อน” จางหยูพูดขึ้น จนทำให้อู๋ยงใจหล่นวูบ เขายังไม่รอดพ้นจากความตายรึ ?
จางหยูมองไปที่อู๋ยงและพูดขึ้น “เจ้ายังไปไหนไม่ได้”
อู๋ยงสับสน ชายคนนี้จะฆ่าเขารึ ?
“คนอื่น ๆ นั้นข้าไม่สนใจ แต่จ้าวสิงกับลูกต้องตาย !”
แต่เดิมแล้วจางหยูไม่ได้สนใจจ้าวสิงมากนัก จนถึงตอนนี้เขาก็พึ่งรู้ถึงความน่ากลัวของจ้าวสิง แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 7 ก็ยังตายเพราะจ้าวสิง “ข้าไม่ใช่พวกกระหายเลือด แต่จ้าวสิงผู้นี้หากไม่ตายข้าก็คงไม่สบายใจ”
ยังไงซะ จ้าวสิงก็ไม่ใช่คนดี ถึงจางหยูฆ่าอีกฝ่ายไปแต่เขาก็ไม่รู้สึกผิด
คนอื่นจะคิดยังไงนั้นจางหยูไม่มั่นใจแต่ด้วยความฉลาดของจ้าวสิงแล้ว มันมีหลายทางเลือกที่จะควบคุมสำนักต้าหยู่ แต่จ้าวสิงก็ยังเลือกทำลายตระกูลซางและยืมมือซือซวน นี่แหละคือคนร้ายที่แท้จริง !
จากจดหมายนั้นจางหยูมั่นใจว่าซางเหอคงโดนหมายหัวเอาไว้แต่แรกแล้ว มันจะเป็นอย่างอื่นได้ยังไง ?
“เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เจ้าเปิดเผยเรื่องนี้ เจ้าควรอยู่ที่นี่ไปก่อน” จางหยูไม่ได้เชื่อใจอู๋ยง ทั้งสองไม่ได้รู้จักกัน เขาจะเชื่อใจอีกฝ่ายได้ยังไง “เมื่อข้าจัดการสองพ่อลูกนั้นได้แล้ว เจ้าก็จะเป็นอิสระ”