ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1640 : ความมั่นใจของจาฮาน
ตอนที่ 1640 : ความมั่นใจของจาฮาน
จาฮานนั้นมั่นใจอย่างมาก นอกจากหลิงหลางแล้วเขามั่นใจว่าไม่ได้ด้อยกว่าใครเลย
ตอนที่เขาพ่ายแพ้ให้กับหลินหลางนั้นก็เกิดแผลในใจขึ้นมา ตลอดหลายปีมานี้เขาเอาแต่ฝึกฝนอย่างหนัก จนวันหนึ่งเขาก็รู้สึกว่าเขาแข็งแกร่งเพียงพอแล้ว และจะกลับไปท้าทายหลินหลางอีกครั้ง
ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาหากเทียบกับในอดีตแล้วพัฒนาขึ้นมามาก เขาอาจจะแกร่งกว่าหลินหลางในตอนนั้นด้วยซ้ำ
เขาเริ่มมีความคิดนี้ในใจ เขาได้แต่รอเวลาที่เหมาะสมก่อนจะไปท้าสู้กับหลินหลางเพื่อขึ้นเป็นอันดับที่หนึ่ง !
ตอนนี้เขารู้สึกว่าได้เวลาที่เหมาะแล้ว !
ตราบใดที่ได้สู้กับสือซวนเพื่อยืนยันความก้าวหน้าของตัวเอง เมื่อเข้าใจความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมาแล้วเขาก็จะไปท้าสู้กับหลินหลาง !
“เจ้าเฒ่า..” ไม่กี่อึดใจจาฮานก็ได้เดินทางขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อรอการมาของสือซวน
สำหรับผู้ควบคุมขั้น 7 แล้วท้องฟ้าคือเวทีของพวกเขา
ผู้ควบคุมขั้น 7 หลายคนเห็นแสงบนท้องฟ้าก็พากันกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ดังนั้นพวกเขาจึงรีบเดินทางขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที
จาฮานหัวเราะออกมาและมองไปที่ผู้ควบคุมขั้น 7 ทั้งสามคนที่เดินทางมา “ไม่ต้องกังวลนั่นสือซวน”
“สือซวนงั้นรึ?” หนึ่งนั้นยักคิ้ว “เขามาทำอะไรกัน ?”
“ไม่ใช่ว่าเขาแพ้ให้กับพี่จาฮานแล้วรึ ?”
“เขาคิดจะท้าพี่ต่ออีกรึ ?”
“หากเขากล้าท้าพี่จาฮานจริง ๆ เขาคงหลงตัวเองเกินไปแล้ว”
ทั้งสามต่างก็มั่นใจในตัวจาฮาน ชื่อเสียงของจาฮานนั่นโด่งดังไปทั่วโลก ผู้ควบคุมขั้น 7 จำนวนมากเคยสู้กับจาฮานมาก่อน แต่นอกจากหลินหลางแล้วก็ไม่มีใครเทียบจาฮานได้เลย สือซวนนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ควบคุมขั้น 7 ระดับสูงแต่เมื่อเทียบกับ จาฮานแล้วก็ยังมีช่องว่างอยู่ ที่สำคัญที่สุดคือจาฮานนั้นแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมอีก สือซวนคงไม่อาจจะเป็นคู่มือจาฮานได้
แม้ว่าจาฮานจะมั่นใจแต่เขาก็ไม่ได้พูดจาโอ้อวดอะไร “บางทีเขาอาจจะพบโชคและทำให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วรึ ?”
เรื่องแบบนี้แม้ว่าจะเกิดขึ้นได้ยากแต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
ในตอนที่คุยกันนั้นสือซวน, จางหยูและคนอื่น ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขา
“นั่นเขา !” ผู้ควบคุมขั้น 7 คนอื่น ๆ ต่างก็จ้องสือซวนตาเขม็ง
จาฮานเองก็มองไปที่สือซวน ก่อนจะยิ้มออกมา “คลื่นพลังของเจ้าพัฒนาขึ้นมา ดูเหมือนว่าเจ้าจะก้าวหน้าจากอดีตอย่างมาก…แต่เจ้าอาจจะไม่รู้ว่าข้าก้าวหน้าขึ้นยิ่งกว่าเจ้าอีก !”
เขาไม่ได้มั่นใจว่าจะเอาชนะสือซวนได้จนกระทั่งได้เห็นสือซวนในตอนนี้ เขามั่นใจอย่างมากว่าจะเอาชนะสือซวนได้
“จาฮาน” สือซวนหัวเราะออกมา “ไม่ได้เจอกับเจ้าซะนาน”
มันก็เหมือนกับคนของจาฮานที่สนใจแค่สือซวน จางหยูกับคนอื่น ๆก็สนใจแค่จาฮาน ไม่ได้สนใจผู้ควบคุมขั้น 7 โดยรอบ
จาฮานมองไปที่สือซวนแล้วพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดูหงุดหงิด “สือซวนเจ้ากล้ามายังทุ่งหญ้าโม่เป่ย”
สือซวนใจสั่นแต่เมื่อคิดได้ว่ามีจางหยูข้างกาย เขาก็กระแอมไอและพูดขึ้น “ทุ่งหญ้าโม่เป่ ยไม่ใช่ถ้ำเสือ ทำไมข้าจะไม่กล้ามา ?” จาฮานยังไม่ทันได้พูดอะไร สือซวนก็พูดขึ้นต่อ “ข้าจะไม่พูดไร้สาระ ข้ามาหาเจ้าครั้งนี้ก็เพราะอยากให้เจ้าช่วย”
“พูดได้ดี ข้ากับเจ้าไม่ได้สนิทอะไรกันแต่ในเมื่อเจ้าเป็นผู้ควบคุมขั้น7 ระดับสูงและเอ่ยปากขอ งั้นแน่นอนว่าข้าต้องไว้หน้าเจ้า” จาฮานรับปาก “แต่ก่อนอื่นเจ้าต้องตกลงกับข้าก่อน”
เขามองไปที่สือซวนและพูดขึ้น “ข้ารับรู้ได้ว่าคลื่นพลังเจ้าสูงกว่าเดิมข้าเองก็พยายามอย่างหนักในตลอดหลายปีมานี้ ข้าก้าวหน้าขึ้นมาบ้างข้าอยากให้เจ้าประมือกับข้าสักครั้งเพื่อยืนยันความก้าวหน้า เจ้าคิดยังไง ?”
สือซวนมองไปที่จาฮานด้วยสีหน้าแปลก ๆ “ประมือทำไมกัน ?”
“เจ้าไม่กล้ารึไง ?” จาฮานถามขึ้นมา
“สือซวนเองก็เป็นผู้ควบคุมขั้น 7 ระดับสูง เจ้ากลัวจะสู้กับพี่จาฮานงั้นรึ ?” ผู้ควบคุมขั้น 7 คนหนึ่งพูดขึ้นมา “เจ้าบอกว่าต้องการความช่วยเหลือ พี่จาฮานก็ตกลงทันที แต่แค่ให้เจ้าประมือกับเขา เจ้ากลับไม่ตกลงกับข้อเสนอของเขาเหรอ”
“ตราบใดที่เจ้ากล้าสู้กับพี่จาฮาน งั้นเราทั้งสามก็จะยอมช่วยด้วย”
ผู้ควบคุมขั้น 7 ทั้งสามคนพากันยุ
“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว” สือซวนกระแอมออกมาและพูดขึ้น “เจ้าอาจจะไม่เชื่อแต่ที่ข้ามาหาเจ้านั้นอันที่จริงแล้วก็เรื่องประมือนี่แหละ”
จาฮานตาเป็นประกายขึ้นมา “แล้วเจ้าจะรออะไร มาเริ่มกันเลย !”
เขาไม่อาจจะทนรอไหวอีกต่อไป
สือซวนส่ายหน้า “ที่ข้ามาหาเจ้าก็เพื่อการประมือก็จริงแต่เป็นคนอื่นไม่ใช่ข้าที่จะสู้”
“ไม่ใช่เจ้ารึ ? เจ้าหมายความว่ายังไง ?” จาฮานถามขึ้นมา
สือซวนชี้ไปที่จางหยูแล้วหัวเราะออกมา “คนที่จะประมือกับเจ้าคือน้องชายผู้นี้”
จาฮานคิ้วขมวด “เขาน่ะรึ ?”
“จาฮาน เจ้าอย่าดูถูกเขาไป” สือซวนแสดงสีหน้าจริงจังออกมา “ความแข็งแกร่งของเขาเหนือกว่าข้า ข้าได้สู้กับเขามาก่อนแล้วจนต้องมาที่นี่ โชคร้ายที่ข้าไม่อาจจะเป็นคู่มือของเขาได้ เจ้าหาคนประมือด้วยไม่ใช่รึ ? น้องชายผู้นี้คือคนที่เหมาะ ! เชื่อข้าเถอะ ความแข็งแกร่งของเขาน่ะจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง !”
เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของสือซวน จาฮานก็เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ “เด็กนี่เหนือกว่าเจ้าจริง ๆ รึ ?”
“เจ้าจะรู้เอง”
ต้องรู้ก่อนว่าสือซวนนั้นไม่ได้อ่อนแอ แม้แต่ตัวเขาเองก็ต้องทุ่มสุดตัวเพื่อเอาชนะสือซวน
“ท่านจาฮานสินะ ?” จางหยูหัวเราะออกมาและพูดขึ้น “ข้าคือ จางหยูข้าเพิ่งมายังโลกสวรรค์ร้างเป็นครั้งแรก ข้าได้ยินว่าเจ้าน่ะแข็งแกร่งดังนั้นจึงมาท้าทายเจ้า ไม่รู้ว่าเจ้ารังเกียจที่จะสั่งสอนข้ารึไม่”
สือซวนพูดขึ้น “จาฮาน น้องชายคนนี้แกร่งอย่างมาก หากเจ้าแพ้ก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”
“ไร้สาระ” ผู้ควบคุมขั้น 7 โดยรอบพากันบ่นออกมา “พี่จาฮานน่ะแข็งแกร่งไร้เทียมทาน มีใครบ้างจะเอาชนะเขาได้ ?”
จาฮานโบกมือและมองไปที่จางหยู “ข้าหวังว่าเจ้าจะแข็งแกร่งอย่างที่สือซวนบอกมา ไม่งั้นแล้วข้าอาจจะบังเอิญฆ่าเจ้าได้ คนอื่นที่รู้จักข้าดีจะรู้ว่าเมื่อข้าลงมือแล้ว ข้าไม่เคยออมมือให้ใคร”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางหยูก็หัวเราะออกมา “กลับเป็นว่าข้าเองก็อยากให้เป็นแบบนั้นเช่นกัน”
ตอนนั้นซางอี๋ว์และอู๋ยงก็พากันแสดงสีหน้าสับสนออกมา พวกเขาไม่คิดเลยว่าการประมือของสือซวนและจางหยูนั้นสือซวนจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ พวกเขานึกว่าจางหยูจะแพ้
“ท่านจาง…แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึ ?” ซางอี๋ว์แปลกใจและยินดีอย่างมาก
“จ้าวสิงคิดจะยืมมือสือซวนเพื่อฆ่ายอดฝีมือที่แข็งแกร่งขนาดนี้” อู๋ยงหมดคำพูด
จ้าวสิงคงไม่คิดไม่ฝันว่าชายหนุ่มที่เขาคิดจะฆ่านั้นแกร่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก
จาฮานมองไปที่จางหยูแล้วพูดขึ้น “หากเป็นเช่นนั้นก็มา !”
แม้ว่าจะไม่รู้ระดับของจางหยู แต่จาฮานก็ยังมั่นใจตัวเองอย่างมากในโลกนี้นอกจากหลินหลางแล้วไม่มีใครเทียบเขาได้ เป้าหมายของ
เขาคือเอาชนะหลินหลาง และขึ้นเป็นอันดับหนึ่งที่เป็นรองแค่ผู้ควบคุมขั้น 8
จางหยูไม่รู้ความคิดของอีกฝ่าย เขารู้แค่ว่าความแข็งแกร่งของจาฮานนั้นเหนือกว่าสือซวน การเรียนรู้จากจาฮานจะทำให้เขาก้าวหน้าอย่างมาก
ยิ่งจาฮานแข็งแกร่งเท่าไหร่ เขายิ่งพอใจเท่านั้นเพราะมันจะทำให้เขาแกร่งขึ้นไปด้วยและอาจจะทำให้เขาทะลวงผ่านกำแพงขั้น 7 ขึ้นไปขั้น 8 ได้ !
จางหยูยิ้มออกมาด้วยท่าทีเยือกเย็นก่อนจะพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้ายืนอยู่ตรงกันข้ามกับจาฮาน
ทุกคนด้านล่างพากันมองจางหยูและจาฮาน ทุกคนต่างก็สงสัยว่าการต่อสู้ครั้งนี้ผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง มีแค่สือซวนเท่านั้นที่เหมือนจะไม่กังวลกับผลลัพธ์เลย เขาเหมือนจะคาดเดาผลลัพธ์ได้แล้ว
“หวังว่าเขาคงจะไม่หดหู่หลังจากที่สู้จบนะ” สือซวนมองจาฮานด้วยสีหน้าสงสาร เขาคิดว่าเมื่อจาฮานแพ้จะมีสภาพแบบไหน ยิ่งคิดแบบนั้นก็ทำให้สือซวนอารมณ์ดีขึ้นมา