ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1644 : จางหยู V หลินหลาง
ตอนที่ 1644 : จางหยู V หลินหลาง
แน่นอนว่าหลินหลางน่ะไม่กลัว เขาขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งมานานแล้วนานจนเขารู้สึกโดดเดี่ยว
เขาตามหาคู่มือมานาน คู่มือที่ทำให้เขารู้สึกกดดัน !
ยิ่งเขากดดันเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกได้ถึงแรงกระตุ้นเพื่อจะพัฒนาตัวเองต่อมากขึ้นเท่านั้น !
ตอนนี้ในที่สุดเขาก็พบโอกาสที่รอคอย
แม้ว่าจางหยูจะสู้เขาไม่ได้แต่ด้วยการที่จางหยูเอาชนะจาฮานมาได้มันก็เพียงพอที่เขาจะยอมรับในความแข็งแกร่งของ จางหยูแล้ว
ความแข็งแกร่งของจาฮานนั้น หลินหลางรู้ดี แม้ว่าเขาจะสู้กับอีกฝ่ายแต่ก็ใช่ว่าจะเอาชนะอีกฝ่ายได้ง่าย ๆ การที่จางหยูเอาชนะจาฮานมาได้นั้นมันก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าจางหยูไม่ได้อ่อนแอ แม้ว่าจะไม่ได้ดีเท่ากับเขาแต่ก็ไม่ได้ด้อยกว่ามาก
เขามองไปที่จางหยูและพูดขึ้นด้วยท่าทีเย็นชา “เอาชนะจาฮานมาได้งั้นเจ้าก็มีสิทธ์ิเป็นคู่มือของข้า”
สือซวนรู้สึกเหมือนโดนดูหมิ่น ทำไมหลินหลางถึงได้พูดถึงแต่จาฮาน แต่กลับไม่พูดถึงเขา ?
เมื่อได้ยินแบบนั้นจาฮานก็มองไปที่สือซวนอย่างภูมิใจราวกับจะบอกว่า “ได้ยินรึไม่ ? แม้ว่าพวกเราจะอยู่ระดับเดียวกัน แต่ในสายตาของหลินหลางแล้ว มีแค่ข้าเท่านั้นที่อยู่ระดับเดียวกับเขา เจ้ายังด้อยกว่ามาก..”
สือซวนแทบอยากจะเข้าไปอัดจาฮานและหลินหลาง แต่เมื่อดูจากความแข็งแกร่งของทั้งสองคนแล้ว สือซวนก็ต้องยอมทิ้งความคิดนี้ไป
ทั้งสองคนไม่ใช่คนที่เขาจะรับมือไหว
ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็เพิ่งขุดหลุมดักจาฮานมาไป หากไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ระบายอารมณ์บ้าง ใครจะรู้ว่าจาฮานจะมาคิดบัญชีกับเขารึไม่ ?
“งั้นเจ้าก็รับปากว่าจะสู้กับข้าสินะ ?” จางหยูตาเป็นประกายขึ้นมา
จาฮานและสือซวนต่างก็โล่งอกและคาดหวังขึ้นมา ไม่รู้เลยว่าหลินหลางนั้นจะโดนอัดแบบไหน ?
ความแข็งแกร่งของหลินหลางนั้นพวกเขาไม่ได้สงสัยแต่พวกเขามั่นใจในตัวจางหยูมากกว่า ยังไงซะ จางหยูก็อัดพวกเขามาแล้วโดยเฉพาะจาฮาน เขารู้ตัวดีว่าถึงเขาจะไม่ใช่คู่มือของหลินหลาง แต่ก็ไม่ได้แพ้ขาดลอยเหมือนกับตอนที่สู้กับจางหยู แน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่หลินหลางจะทำได้
เพราะแบบนั้นเขาถึงได้มั่นใจในตัวจางหยู
หลินหลางไม่รู้ว่าสือซวนและจาฮานคิดอะไรอยู่ เขามองไปที่จางหยูและพูดขึ้น “ลงมือ”
จางหยูยังไม่ทันได้พูดอะไร จาฮานก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “หลินหลางเจ้าบ้าไปแล้วรึอย่างไร !”
สือซวนเองก็แปลกใจ “เจ้าพูดอะไรออกมา !”
“พวกเจ้าเป็นอะไรไป ?” จางหยูคิ้วขมวดและมองไปที่จาฮานและสือซวนด้วยความสับสน
“เจ้าจำที่ข้าบอกไปไม่ได้รึ ? ยอดเขาแห่งนี้มีพลังการสร้างอยู่หนาแน่นมาก หากทำการเคลื่อนไหวมากเกินไป มันจะทำให้การสร้างโดยรอบรุนแรงกว่าเดิม เจ้าไม่คิดถึงคนอื่นบ้างรึ แม้ว่าข้าจะเป็นผู้ควบคุมขั้น7 แต่ก็ยังตายได้”
สือซวนพูดขึ้นมา “หากจะสู้กันตรงนี้มีแต่จะหาที่ตาย !”
แม้ว่าด้วยความแข็งแกร่งที่พวกเขามีแล้ว พวกเขาก็ยังไม่กล้าสร้างปัญหาขึ้นมาที่นี่
“พวกเจ้าตกใจอะไรกันหนักหนา ?” หลินหลางฮึดฮัดออกมา “ข้าอยู่ที่นี่มานานกว่าพวกเจ้า ไม่ใช่ว่าข้าจะรู้ดีกว่าพวกเจ้ารึ ?”
นี่คือประโยคที่ยาวที่สุดที่เขาพูดมา
จาฮานพูดขึ้น “หลินหลาง เจ้าน่ะแข็งแกร่งแต่มันไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะมองข้ามอันตรายที่นี่ได้ ข้าแนะนำว่าอย่าสร้างปัญหาที่นี่จะดีกว่า !”
หลินหลางไม่ได้สนใจคำพูดของจาฮานและมองไปที่จางหยู “เจ้าว่ามา เจ้ากล้ารึไม่ ?”
“ทำไมจะไม่กล้า” จางหยูยิ้มออกมา เมื่อหลินหลางไม่กังวลแล้วเขาจะกังวลทำไม ?
เมื่อได้ยินคำพูดของทั้งสอง จาฮานก็ตากระตุกทันที “บ้า สองคนนี้เสียสติไปแล้ว !”
เขารีบถอยห่างออกมาและพูดขึ้น “ข้าไม่อยากอยู่กับคนเสียสติเช่นพวกเจ้า !”
สือซวนเองก็รีบตามจาฮานไป
ภายใต้สถานการณ์ปกติแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา ต่อให้จับตาดูการต่อสู้อยู่ใกล้ ๆ มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เมื่ออยู่บนยอดเขาแห่งนี้ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย เมื่อเกิดการต่อสู้ขึ้น มันจะทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่อาจจะคาดเดาได้ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 7 แต่ก็ไม่กล้าอยู่ใกล้
“พวกแมลงวันออกไปแล้ว” หลินหลางหันกลับมาหา จางหยู “เจ้ากับข้าจะได้สู้กันสักที”
จางหยูได้ยินคำพูดที่มั่นใจของหลินหลาง เขาก็พบว่าความมั่นใจของจาฮานกับสือซวนนั้นดูด้อยกว่าในทันที
จางหยูรู้สึกว่าหลินหลางผู้นี้จะช่วยเขาทะลวงผ่านขึ้นไปขั้นที่ 8 ได้จริง ๆ !
เขาเคยรู้สึกแบบนี้กับสือซวนและจาฮานมาก่อนแต่มันก็ไม่อาจจะทะลวงผ่านได้ !
แต่ตอนนี้ความรู้สึกนี้มันรุนแรงกว่าเดิม !
มันทำให้จางหยูเห็นเงาของเบเกิลในตัวหลินหลางขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก มันมีทั้งความภาคภูมิใจและมั่นใจ
“เจ้าไม่เหมือนกับผู้ควบคุมขั้น 7 คนอื่นที่ข้าเคยเจอมา” แม้ว่าจางหยูจะเคยเจอกับผู้ควบคุมขั้น 7 แค่ไม่กี่คน แต่หลินหลางคือคนที่เขารู้สึกว่าแข็งแกร่งที่สุดและแทบจะพิเศษที่สุด
หลินหลางไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาแค่กางนิ้วออกก่อนจะกำเข้าหากันอย่างช้า ๆ น้ำแข็งด้านล่างกลับระเบิดแสงสีฟ้าออกมา ต่อมาน้ำแข็งเหล่านั้นก็แตกออกกลายเป็นเศษน้ำแข็งนับไม่ถ้วนแล้วรวมตัวกันเป็นดาบน้ำแข็ง
ดาบน้ำแข็งนี้ส่องแสงสีฟ้าออกมา มันทำให้รู้สึกได้ถึงความสูงส่งและความเยือกเย็นของมัน
หลินหลางเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมสายตาที่มุ่งมั่น ตัวเขาราวกับถูกจุดไฟขึ้นมาพร้อมกับพลังการสร้างรอบ ๆ ที่ปั่นป่ วนมากกว่าเดิมตอนนี้อุณหภูมิของที่นี่ลดลงอย่างรวดเร็ว
ตอนนั้นจางหยูรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานาน เขารับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของหลินหลางอย่างชัดเจน แม้ว่าหากเทียบกับเขาแล้วจะไม่ได้ด้อยกว่ามากนัก แต่หากเทียบกับเขาตอนที่เพิ่งจะเข้ามายังโลกนี้นั้นก็แกร่งกว่ามาก ในอีกความหมายคือหากจางหยูมาสู้กับหลินหลางตั้งแต่แรก เดาว่าอีกฝ่ายคงเอาชนะเขาได้
“หือ ?” จางหยูพร้อมจะลงมือแต่กลับรู้สึกว่าเขาถูกมองอยู่
ความรู้สึกนี้หายไปในทันทีตอนที่เขารับรู้ถึงมันได้ เมื่อลองตรวจสอบดูอีกครั้งเขาก็ไม่พบอะไร
จางหยูไม่คิดว่าเขาคิดไปเอง
แต่การประมือกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว เขาไม่อาจจะคิดอะไรมากได้เรื่องสำคัญในตอนนี้คือเขาต้องเรียนรู้จากหลินหลางเพื่อยกระดับการใช้งานพลังสร้างของตัวเอง
จางหยูถอนหายใจออกมาพร้อมกับพลังดั้งเดิมที่รวมตัวกัน มือข้างหนึ่งไขว้หลังเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างถูกยกขึ้นมาก่อนที่จะมีเศษน้ำแข็งนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินและหมุนวนรอบตัวเขา น้ำแข็งแต่ละก้อนนั้นราวกับมีดน้ำแข็งที่โปร่งใส
ต่อมา จางหยูก็ผลักมือออกไปข้างหน้า มีดน้ำแข็งเหล่านั้นกลับระเบิดแสงสีเงินออกมาแล้วพุ่งตัดผ่านพลังการสร้างรอบ ๆ
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว….
เสียงทะลุสายลมดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สีหน้าของหลินหลางเปลี่ยนไปเล็กน้อย ยิ่งการต่อสู้รุนแรงเท่าไหร่เขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น
“ตอนนี้ข้าเชื่อจริง ๆ แล้วว่าเจ้าเอาชนะจาฮานมาได้” หลินหลางคลายมือที่จับดาบออกก่อนจะพลิกดาบไปอีกด้าน ขนาดของมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่กี่อึดใจมันก็กลายเป็นดาบขนาดใหญ่และระเบิดแสงสีฟ้าออกมา แสงนี้ราวกับดวงอาทิตย์ที่ให้แสงสว่างกับโลกทั้งหมด แม้แต่ที่ด้านนอกยอดเขาแห่งนี้ก็ยังเห็นแสงนี้ได้
ปัง ปัง ปัง ….
มีดน้ำแข็งนับไม่ถ้วนได้เข้าปะทะกันกับดาบน้ำแข็ง
พลังสร้างโดยรอบราวกับได้รับการจุดระเบิด เศษน้ำแข็งนับไม่ถ้วนระเบิดออก ท้องฟ้าได้ก่อตัวพายุน้ำแข็งขึ้น ไม่ว่าพายุจะผ่านไปที่ใดก็จะทำให้เกิดรอยร้าวของมิติขึ้นมาที่นั่น
“อ๊า !” หลินหลางตะโกนออกมาพร้อมกับใช้ดาบปักลงกับพื้นเพื่อรับมือการโจมตีเอาไว้
แต่ด้วยการโจมตีอันหนักหน่วงนี้ทำให้ดาบนั้นสั่นไหวและถอยไปทีละนิด ๆ จนทำให้เกิดหลุมลึกขึ้นมาบนพื้นดิน
หลินหลางเองก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังอันน่ากลัวนี้ หลินหลางที่มั่นใจในตัวเองกลับรู้สึกสังหรณ์ใจแย่ ๆ ขึ้นมา