ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1649 ดาบสาม
ตอนที่ 1649 ดาบสาม
ดาบได้สะท้อนแสงอาทิตย์ออกมา ดาบน้ำแข็งทั้งหมดลอยอยู่ในอากาศ
พลังของดาบแต่ละเล่มทำให้ผู้คนขนลุกได้
หลินเป่ ยชานจับดาบน้ำแข็งไว้ในมือก่อนจะทำการฟันออกไป
ดาบน้ำแข็งเล่มอื่น ๆ ได้พุ่งออกไปด้วย แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นมาจาก
น้ำแข็งแต่มันก็ราวกับมีชีวิต มันระเบิดแสงสว่างจ้าออกมา ก่อนจะ
พุ่งเข้าใส่จางหยู
ดาบแต่ละเล่มมีพลังที่ว่าไม่ว่าจะผ่านไปที่ไหนก็ทำให้มิติพังลง
ดาบพวกนี้ตัดมิติออกเป็นชิ้น ๆ ฉากนี้ไม่ใช่ฉากที่ผู้คนเคยเห็นมาก่อน
นี่คือการโจมตีที่สองของหลินเป่ยชาน มันยากที่จะคิดได้ว่าการโจมตี
ที่สามจะน่ากลัวแค่ไหน !
ทุกคนพากันมองไปที่จางหยู “เขาจะรับมือได้รึไม่ ?”
ตอนนี้พวกเขาไม่ได้สนใจความแข็งแกร่งของจางหยูแล้ว ยังไงซะ
การโจมตีของหลินเป่ ยชานก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ควบคุมขั้นที่ 8
ทั่วไปจะรับมือได้ แต่จางหยูกลับรับมือได้ทุกครั้ง แม้ว่าจะดูกระอัก
กระอ่วนแต่ก็ยังรับมือได้สำเร็จ
แต่ครั้งนี้พลังของมันน่ากลัวกว่าเดิมอย่างมาก !
ทุกคนแทบไม่เชื่อว่าการโจมตีแบบนี้มาจากผู้ควบคุมขั้น 8
ผู้ควบคุมขั้น 8 กลับมีพลังแข็งแกร่งระดับนี้ได้ …
หลินเป่ ยชานนั้นแข็งแกร่งขนาดนี้ แล้วเบเกิลที่เคยเอาชนะหลินเป่ ย
ชานมาได้จะแข็งแกร่งขนาดไหน?
บอกได้ว่าการต่อสู้นี้ได้พลิกมุมมองของจาฮานและสือซวนในความ
เข้าใจผู้ควบคุมขั้นที่ 8 ไป นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเข้าใจถึงพลังของ
ผู้ควบคุมขั้นที่ 8 ว่าเป็นแบบไหน
ต่อหน้าการโจมตีนี้ จางหยูกลับหัวเราะออกมา “ไม่ได้ผลหรอก”
ใช่ พลังในการโจมตีนี้ทรงพลังกว่าเดิมก็จริงแต่มันก็แค่ดูน่าตกใจกว่า
เท่านั้น จริง ๆ แล้วมันไม่ได้เป็นอันตรายกว่าการโจมตีแรกเลย มัน
เพิ่มพลังมาแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น
พูดตามตรงแล้วพลัง 1 ใน 3 ที่เพิ่มขึ้นมานี้ก็ไม่ใช่น้อย ๆ แต่ว่าความ
แข็งแกร่งของจางหยูกลับเพิ่มขึ้นมามากกว่านั้น !
พลังในการโจมตีของหลินเป่ ยชาน ไม่อาจจะตามทันการพัฒนาของ
จางหยูได้ !
ตูม !
เมื่อหลินเป่ยชานโจมตีออกมา จางหยูก็โจมตีออกไปเช่นกัน
ครั้งนี้เขาได้ใช้ทักษะแบบเดียวกับหลินเป่ ยชาน !
ดาบน้ำแข็งนับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้นมาข้างกายเขา ดาบแต่ละเล่มแผ่พลัง
ทำลายล้างออกมา พลังสร้างอันรุนแรงทำให้พื้นดินสั่นไหว ขนาด
ของมันไม่ได้ใหญ่นักแต่กลับมีพลังมากกว่าการโจมตีครั้งไหน ๆ
ของจางหยู หากเทียบกับการโจมตีของหลินเป่ยชานแล้ว มันไม่ได้
ต่างกันมาก
จางหยูแค่สะบัดดาบออกไปเบา ๆ
ดาบน้ำแข็งนับไม่ถ้วนได้พุ่งเข้าไปเผชิญหน้าการโจมตีของหลินเป่ ย
ชาน
ตอนนั้นท้องฟ้าเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว มิติถูกตัดออกเป็นชิ้น ๆ
ถึงจะอยู่ไกลก็มองเห็นได้ว่าท้องฟ้าเต็มไปด้วยฝนดาบโดยมีจางหยู
และหลินเป่ ยชานเป็นศูนย์กลาง ฝนดาบนั้นเข้าปะทะกัน ราวกับการ
ชนกันของอุกกาบาตที่ระเบิดพลังอันน่ากลัวออกมาทุกทิศทาง
ท้องฟ้าได้พังตัวลง พื้นดินยุบตัว ทั้งโลกราวกับพบกับจุดจบ
ตูม ตูม ตูม..
ฝนดาบแบ่งออกเป็นหลายชุด แต่ละชุดนั้นทำให้พื้นดินยุบตัวลง เมื่อ
ฝนดาบปะทะกันหมด พื้นดินก็ทรุดลงไปหลายสิบฟุต มิติโดยรอบ
กลายเป็นความว่างเปล่า
สันเขาเทียนได้เปิดเผยตัวต่อความโกลาหลภายนอกราวกับเสาขนาด
ใหญ่
จาฮาน, สือซวนและหลินหลางที่อยู่ด้านล่างพากันแสดงสีหน้าตก
ตะลึงออกมา
สิ่งที่ทำให้พวกเขาตะลึงยิ่งกว่านั้นคือจางหยูยังยืนหยัดอยู่ได้โดยไม่
มีแผลใหม่เพิ่มขึ้นมาเลย ราวกับว่าการโจมตีตะกี้นั้นไม่ได้ส่งผลอะไร
ต่อเขามากนัก ในทางกลับกันแล้ว หลินเป่ ยชานที่แต่เดิมเยือกเย็นนั้น
เสื้อผ้ากลับขาดวิ่นและที่ไหล่ยังมีแผลเล็ก ๆ อยู่ด้วย
แผลนี้ไม่ได้ใหญ่รึลึกนัก มันไม่ได้มีเลือดออกด้วยซ้ำ มันก็แค่ช้ำ แต่
สภาพนี้ต่างหากที่ทำให้ทุกคนตะลึง !
“ข้าบาดเจ็บ ! ในที่สุดเจ้าก็แสดงพลังที่แท้จริงออกมา !” หลินเป่ย
ชานเหมือนไม่ได้แปลกใจ เขามองไปที่จางหยู “ทำไม เจ้ามีพลังที่
แข็งแกร่งถึงเพียงนี้แต่กลับออมมือเอาไว้และยอมเจ็บตัวถึงขนาดนี้
…”
จางหยูยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เขาออมมืองั้นเหรอ ? เปล่า เขาสู้ไม่ได้
จริง ๆ !
คนอื่น ๆ ไม่รู้และคิดว่าจางหยูน่ะเป็นพวกชอบเจ็บตัว !
หากเขาแข็งแกร่งจริง ๆ คงไม่รอให้หลินเป่ยชานอัดจนเกือบตาย
หรอก!
แต่หลังจากที่เจ็บตัวมานาน สุดท้ายความพยายามของเขาก็ได้รับการ
ตอบแทนโดยเฉพาะหลังจากรับการโจมตีครั้งที่สองจากหลินเป่ ย
ชาน การใช้พลังสร้างของจางหยูก็เพิ่มไปอีกระดับ !
แม้ว่าจะยังไม่ลงมือแต่จางหยูก็สังหรณ์ใจว่าตอนนี้เขาไม่ได้อ่อนแอ
กว่าหลินเป่ยชานเลย !
แต่เขาไม่รู้ว่าหลินเป่ยชานจะหยุดการโจมตีเขาได้รึไม่ เขารู้แค่ว่าการ
โจมตีของหลินเป่ยชาน ไม่ได้เป็นภัยต่อเขาอีก !
แม้ว่าการโจมตีครั้งที่สามของหลินเป่ ยชานจะมีพลังเพิ่มขึ้นมาแต่เขา
ก็ไม่กลัวเพราะความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมาของเขานั้นเหนือกว่าพลัง
ที่เพิ่มขึ้นมาในการโจมตีของหลินเป่ ยชานไปแล้ว !
“เจ้ารับมือการโจมตีที่สองของข้าได้ ดูเหมือนว่าในเขตตะวันออก
ตอนเหนือจะมีคนแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น เจ้าเป็นผู้ควบคุมขั้น 8 ระดับสูง”
หลินเป่ยชานมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างมาก แม้ว่าจะ
พ่ายแพ้ให้กับเบเกิล แต่ในเขตตะวันออกตอนเหนือแล้ว เขาก็ยังเป็น
คนระดับสูงอยู่ดี การที่จางหยูสู้กับเขาได้ขนาดนี้เป็นธรรมดาที่อีก
ฝ่ายจะต้องเป็นคนระดับสูงเช่นกัน คนแบบนี้ในเขตตะวันออกตอน
เหนือนั้นหาได้ยากอย่างมาก
นี่คือความภาคภูมิใจของราชาดาบ !
“งั้นรึ ?” จางหยูโดนอัดมานาน เขาแสดงท่าทีถ่อมตัวมาโดยตลอด
แต่ตอนนี้เขากลับกล้าเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย “แต่ข้าคิดว่ามันไม่ได้มี
ค่าอะไรเลย”
หลินเป่ยชานคิ้วขมวด
จางหยูเงยหน้าขึ้นมองหลินเป่ ยชาน “เจ้าอยากทดสอบความแข็งแกร่ง
ที่แท้จริงของข้าไม่ใช่รึ ? ได้ตามที่เจ้าต้องการ ต่อไปข้าจะให้เจ้ารับรู้
ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของข้า ! หวังว่า…เจ้าจะไม่รู้สึกเสียใจ!”
หลินเป่ ยชานสงสัยขึ้นมา “เจ้ายังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดอีกรึ ?”
หลินเป่ยชานตะลึงงัน จางหยูเพิ่งแสดงพลังที่ไม่ด้อยกว่าเขามากนัก
ออกมา แต่นี่ยังไม่ใช่พลังทั้งหมดของจางหยูอีกรึ ?
“ตามเหตุผลแล้ว เจ้าจะบอกแบบนั้นก็ได้” จางหยูค่อนข้างรู้สึกดี
แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บและสับสนในเรื่องการใช้งานพลังแห่งการสร้าง
อยู่ แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นในระดับที่น่าเหลือเชื่อ นี่คือ
การพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เขารู้สึกได้ถึงช่องว่างที่ชัดเจนระหว่าง
เขาตอนนี้กับในอดีต ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาขอบคุณหลินเป่ ยชานไปด้วย
“งั้นเจ้าจงรับดาบสุดท้ายของข้า !” หลินเป่ ยชานยังมั่นใจในตัวเอง
“การโจมตีนี้ข้าพ่ายแพ้ให้กับเบเกิล หลังจากที่ฝึกฝนมาหลายปีและ
ทำความเข้าใจการสร้าง สุดท้ายข้าก็เข้าใจวิถีดาบ แม้แต่เบเกิลก็อาจจะ
รับมือกับการโจมตีนี้ไม่ได้ !”
พูดว่าแข็งแกร่งใครก็ทำได้
แต่จางหยูจะแข็งแกร่งแค่ไหนนั้น หลังจากการโจมตีนี้ไปก็จะรู้เอง
หลินเป่ ยชานสูดหายใจเข้าลึก ๆ และจับดาบเอาไว้แน่น เขาแผ่จิต
ผู้สร้างออกมา คลื่นพลังอันรุนแรงได้รวมตัวกัน ตัวเขาราวกับกลาย
เป็นมนุษย์ทั่วไป แม้แต่ดาบน้ำแข็งก็ยังเหมือนกลับเป็นดาบน้ำแข็ง
ธรรมดา แสงของมันได้สลายหายไป
ตอนนั้นหลินเป่ ยชานเหมือนไม่ใช่ผู้ควบคุม
เขาหลับตาลงอย่างช้า ๆ ราวกับว่าทั้งโลกเหมือนจะหยุดนิ่งไป
ในหัวเขามีแต่ความเงียบงัน ตอนนั้นเสียงของลม, อุณหภูมิของน้ำแข็ง,
ความหนาของพื้นดิน,ความพยายามตลอดหลายปีและทุกสิ่งเหมือน
จะชัดเจนยิ่งกว่าเดิมราวกับว่าทุกอย่างได้ปรากฏขึ้นในใจเขา
ต่อมาเขาก็ได้ทำการยกดาบขึ้นมาช้า ๆ ก่อนจะฟันออกไปอย่างนิ่ม
นวล
ดาบนี้ไม่ได้ส่งเสียงตัดสายลม มันเหมือนกับการฟันดาบธรรมดา
ดาบถูกฟันออกมาแต่ไม่มีพลังทิ้งไว้ด้านหลังราวกับว่าเป็นการฟัน
ธรรมดาที่ไม่ได้ทำให้เกิดการสั่นไหวของมิติแต่ที่ปลายดาบกลับมี
จุดแสงเล็ก ๆ จุดแสงที่อ่อนแอราวกับดาวหางที่จะดับลงตอนไหนก็
ได้ มันช่างดูอ่อนโยนและงดงามเหลือเกิน
จุดแสงเหล่านั้นพุ่งออกมาราวกับดวงดาว
เมื่อเผชิญหน้ากับจุดแสงนั้น จางหยูก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา
ราวกับว่านี่คือพลังสูงสุดของโลกขั้น 9 ที่เผาผลาญทุกชีวิตในพริบตา
แล้วปลดปล่อยพลังทำลายล้างของมันออกมา !