ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1650 เอาคืน
ตอนที่ 1650 เอาคืน
จุดแสงเล็ก ๆ นั้นเหมือนจะดับลงตอนไหนก็ได้ มันราวกับไม่มีตัวตน
มันค่อย ๆ ลอยเข้าไปหาจางหยู ราวกับว่าจะดับลงได้ทุกเมื่อแต่แม้ว่า
จะเป็นจุดแสงเล็ก ๆ แต่มันกลับทำให้จางหยูรู้สึกใจหล่นวูบได้
ไม่ว่าจุดแสงนั้นจะผ่านไปที่ไหน มิติโดยรอบก็เริ่มพังลง ราวกับว่ามี
ความโกลาหลปรากฏขึ้นมาที่นี่
ความเร็วของจุดแสงนั้นเหมือนจะช้าอย่างมากแต่ในพริบตามันก็
มาถึงตรงหน้าจางหยูแล้ว
จางหยูไม่คิดว่ามันจะเร็วได้ถึงขนาดนี้ มันราวกับว่าเวลาได้บิดเบี้ยว
ไป มันเหมือนจะช้าแต่ความจริงแล้วมีความเร็วที่น่าทึ่ง
ราชาดาบในตำนานนั้นไม่ใช่เล่น ๆ เลย !
แม้ว่าจางหยูจะไม่ได้อ่อนแอกว่าหลินเป่ยชาน แต่เขาก็ไม่อาจจะ
มองข้ามการโจมตีนี้ได้
จุดแสงนี้เร็วเกินไป จางหยูไม่อาจจะใช้พลังออกมาเพื่อรับมือมันได้
ทัน เขาได้แต่ต้องป้องกันเอาไว้
ในพริบตาจางหยูก็แผ่จิตผู้สร้างออกไปทั้งหมด เปลี่ยนมันเป็นโล่หนา
โล่ที่มีพลังสร้างเพื่อเอาไว้ป้องกันตัว
ตอนนั้นจางหยูได้ทำการป้องกันตัวเต็มกำลัง !
ตูม !
เมื่อจุดแสงสัมผัสกับโล่ มันก็ได้ระเบิดกลายเป็นดาบแสง
ดาบแสงเหล่านั้นได้ระเบิดออกแทบจะพร้อมกัน ตอนนี้มันได้
ปลดปล่อยพลังมหาศาลออกมา !
โล่ที่จางหยูสร้างสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ต่อมาก็ถูกดาบแสงทะลวง
ผ่าน แม้ว่าพลังของดาบแสงจะอ่อนแอลง แต่ก็ยังพุ่งเข้าใส่จางหยู
และผ่าจางหยูออกเป็นสองส่วน
โล่ที่พังนั้นได้สะท้อนดาบแสงส่วนหนึ่งกลับไปหาหลินเป่ ยชาน
ระหว่างทางที่ดาบแสงกระเด็นกลับมานั้นได้ตัดภูเขาออกเป็นสอง
ส่วน นี่ทำให้ทุกคนต่างตกตะลึง !
ตูม !
ดาบแสงได้พุ่งเข้าหาหลินเป่ยชาน พลังแห่งการสร้างอันน่ากลัวได้
ทะลวงร่างของหลินเป่ยชาน แม้ว่าจะไม่ได้ผ่าเขาออกเป็นสองส่วน
แต่ที่อกของเขาก็เกิดหลุมขึ้นมา มันแสดงให้เห็นแล้วว่าดาบแสงนี่
น่ากลัวแค่ไหน
การโจมตีของหลินเป่ยชาน แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อาจจะรับไหว !
ดาบแสงนั่นอ่อนแอลงเพราะโล่ พลังกว่าครึ่งของมันหายไปแล้ว !
เวลาเหมือนจะหยุดนิ่ง หลินหลาง, จาฮานและสือซวนต่างก็มองดู
ฉากนี้ด้วยความตะลึง สมองของพวกเขาเหมือนจะหยุดเคลื่อนไหว
นี่คือสันเขาเทียน !
ตำนานได้บอกว่าตั้งแต่กำเนิดโลกสวรรค์ร้างขึ้นมา มันก็ยืนหยัด
มาถึงทุกวันนี้
นี่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของโลกสวรรค์ร้าง ในการต่อสู้ของจางหยู
และหลินเป่ยชาน มันกลับถูกผ่าเป็นสองส่วน !
จางหยูที่อยู่ไกลออกไปได้ฟื้นฟูร่างกายกลับมา ตัวของเขาชุ่มไปด้วย
เลือด สภาพน่าอนาถกว่าเดิม จิตผู้สร้างของเขาแทบจะหมดไปแล้ว
ตอนนี้เขาแทบไม่อาจจะควบคุมอะไรได้
อาการบาดเจ็บที่ร่างกายนั้นไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร แค่เพียงคิดเขา
ก็สามารถฟื้นฟูร่างกายขึ้นมาได้แล้วแต่การสูญเสียจิตผู้สร้างและ
ความรู้สึกที่ไม่อาจจะควบคุมอะไรได้นั้นย่ำแย่อย่างมาก มันพิสูจน์
แล้วว่าเขาโดนโจมตีอย่างหนัก การโจมตีของหลินเป่ยชานก่อนหน้า
นี้ไม่อาจจะทำแบบนี้ได้เลย
“มันแค่การเรียนรู้ ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย ?” จางหยูสบถออกมา
ถ้าไม่ใช่เพราะเขารับมือทัน งั้นเขาคงสภาพแย่ยิ่งกว่านี้ไปแล้ว
การโจมตีของหลินเป่ยชานแม้จะน่ากลัว แต่ด้วยความแข็งแกร่งของ
จางหยูตอนนี้มันไม่ใช่อันตรายต่อเขา
การบาดเจ็บนั้นไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ หลินเป่ ยชานไม่อาจจะเป็นภัย
ต่อชีวิตเขาได้
“นั่น…แค่ก…” หลินเป่ ยชานค่อย ๆ ปิดหลุมที่อกตัวเอง จากนั้นเขาก็
ไอออกมาอย่างรุนแรง มุมปากของเขามีเลือดไหลออกมา แม้แต่คลื่น
พลังของเขาก็ยังอ่อนแอลง
ในทางกลับกัน จางหยูดูผิดกันอย่างมาก จิตผู้สร้างของเขาหายไป
แทบหมดแล้วรวมกับการที่ไม่อาจจะควบคุมมันได้ ดังนั้นเขาจึงดู
อ่อนแอ แต่แปลกที่คลื่นพลังของเขาไม่ได้อ่อนแอลง มันกลับ
แข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่า ความแข็งแกร่งแบบนี้แม้แต่หลินเป่ ยชานก็ยัง
ต้องคิ้วขมวด
หลินเป่ ยชานมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “เป็นไปได้ยังไงกัน
เจ้าบาดเจ็บไม่ใช่รึไง ? แล้วคลื่นพลังของเจ้าแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมได้
ยังไง !”
หรือว่าจางหยูยังปกปิดพลังที่แท้จริงเอาไว้และยังไม่ได้เอาจริง?
หลินเป่ ยชานรู้สึกกดดันขึ้นมาและรู้สึกไร้พลัง
“คลื่นพลังแบบนี้…” หลินเป่ ยชานใจสั่น “มากกว่าเบเกิลซะอีก !”
หลินเป่ ยชานไม่สงสัยว่าหากจางหยูใช้ความแข็งแกร่งระดับนี้
ออกมาแต่แรกคงบดขยี้เขาได้อย่างง่ายดายโดยที่เขาไม่มีโอกาสได้
ใช้ดาบทั้งสาม!
“เป็นไปได้ยังไง…” หลินเป่ ยชานสับสน “ด้วยความแข็งแกร่งของ
เจ้าแล้ว เขตตะวันออกตอนเหนือนั้นไม่มีใครหยุดเจ้าได้ แต่ทำไมข้า
ถึงไม่เคยได้ยินชื่อเจ้ามาก่อน ?”
เขารู้ถึงความสัมพันธ์ของจางหยูและเบเกิล ดังนั้นจึงให้ความสำคัญ
กับจางหยู แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าจางหยูนั้นอาจจะเหนือกว่าเบเกิลไป
แล้ว !
เขาถึงกับรู้สึกว่าจางหยูอยู่ระดับสูงสุดของขั้นที่ 8 ไปแล้ว !
โดยเฉพาะการที่รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังอันน่ากลัวของจางหยูในตอนนี้
เขาสงสัยว่าความแข็งแกร่งของจางหยูได้สัมผัสกับขีดจำกัดของขั้น
ที่ 8 ไปแล้ว พวกต่ำกว่าขั้น 9 นั้นไม่มีใครแกร่งกว่าจางหยูได้ แม้ว่า
จะมองจากทั้งโกลาหลแล้ว ผลลัพธ์ก็ไม่เปลี่ยนไป !
จางหยูไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่เช็ดเลือดที่มุมปากก่อนจะใช้จิตผู้สร้าง
ซ่อมแซมร่างกายของตัวเอง ในพริบตาบาดแผลทั่วตัวของจางหยูก็
หายไป ชุดที่ขาดได้รับการซ่อมแซมราวกับว่าไม่ได้ผ่านการต่อสู้อัน
ดุเดือดมา
เขาแค่หน้าซีดเล็กน้อยแต่ก็ดูไม่ต่างอะไรจากตอนที่เพิ่งมาถึงสันเขา
เทียน
“ตาแก่ ได้รังแกข้าไปคงรู้สึกดีมากสินะ ?” จางหยูยิ้มออกมา
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ดูไร้พิษภัยของจางหยู หลินเป่ยชานก็ใจสั่น ความ
สับสนในหัวเขาหายไปและถูกแทนที่ด้วยความลนลานราวกับว่า
กำลังจะมีบางอย่างที่น่ากลัวเกิดขึ้น
หลินเป่ ยชานกลืนน้ำลายเพื่อรวบรวมสติ “เจ้าต้องการอะไรกัน ?”
“แน่นอนว่า…สู้กับเจ้า !” จางหยูยิ้มกว้างขึ้นไปอีก “เราเรียนรู้กันมา
ได้ครึ่งทางแล้ว ! ต่อไปข้าจะให้เจ้าเรียนรู้บ้างเพื่อให้เจ้าพอใจ !”
ขณะที่พูดประโยคนี้ น้ำเสียงของจางหยูก็ดูรุนแรงขึ้นและเน้นคำบาง
คำ
ตอนนี้เขาได้พัฒนาจนถึงขีดสุดแล้ว !
แม้แต่เบเกิลก็ไม่อาจจะเป็นคู่มือกับเขาได้ !
พวกต่ำกว่าขั้นที่ 9 นั้นเขาไม่กล้าบอกว่าเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด
แต่การเอาคืนหลินเป่ ยชานนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย !
“ไม่ ข้ายอมแพ้ !” หลินเป่ ยชานรีบพูดขึ้นมา “เราเรียนรู้กันมานาน
พอแล้ว ! ข้ายอมแพ้ !”
จางหยูส่ายหน้าและพูดขึ้น “นี่แค่เพิ่งเริ่มต้น เจ้าเป็นคนบอกเริ่มแต่
จะจบเมื่อไหร่นั้นข้าเป็นคนตัดสิน”
จางหยูบิดขี้เกียจไปมาพร้อมกับเสียงกระดูกลั่นดังกร๊อบ “ดูสภาพ
เจ้าแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าจะรับมือได้สักพัก…”
ทำให้เขาเจ็บตัวแล้วคิดจะหนีไปง่าย ๆ รึไง ?
มันมีเรื่องดีแบบนั้นที่ไหนในโลกบ้าง !
เมื่อลงมือแล้วก็เตรียมตัวโดนเอาคืน
หลินเป่ ยชานยังไม่ทันได้เปิดปากพูด จางหยูก็กระดิกนิ้ว ต่อมาก็มีจุด
แสงก่อตัวขึ้น
หลินเป่ ยชานใจหล่นวูบ เขารู้สึกได้ว่าการโจมตีของจางหยูในครั้งนี้
แทบจะเหมือนกับการโจมตีของเขา จุดแสงทั้งหมดต่างก็มีพลังอัน
น่ากลัว !
ต่อมาจุดแสงเหล่านั้นก็ได้บินเข้าไปหาหลินเป่ ยชาน
หลินเป่ ยชานรีบใช้ดาบน้ำแข็งเป็นโล่ เขาปลดปล่อยจิตผู้สร้างทั้งหมด
ออกมาเพื่อป้องกันตัว เพราะเขารู้ว่าพลังจุดแสงเหล่านี้น่ากลัวแค่ไหน
หากไม่อาจกันมันได้ มันก็มีแต่ความตายที่รออยู่ !
ตูม ตูม ตูม….
จุดแสงนั้นครอบคลุมไปทั่วยอดเขา ดาบแสงแต่ละเล่มส่องประกาย
ออกมาและตัดภูเขาออกจากกัน เมื่อดาบแสงนั้นหายไป ท้องฟ้าก็
กลายเป็นความว่างเปล่า พื้นดินยุบลงไปหลายสิบฟุต ภูเขานั้นหายไป
ราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน
ดาบน้ำแข็งได้แตกออกเป็นชิ้น ๆ ก่อนจะพุ่งลงไปที่พื้นดินราวกับ
อุกกาบาต มันทำให้เกิดหลุมลึกขึ้นมามากมาย
ร่างของหลินเป่ ยชานกลายเป็นผุยผง มีแค่จิตผู้สร้างที่ยังคงอยู่
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ จางหยูที่ยืนอยู่บนท้องฟ้าก็ได้พูดขึ้นมา “มา
ต่อ อย่าเสแสร้งไป”
การโจมตีของเขาดูน่ากลัวก็จริง แต่จริง ๆ แล้วมันมีพลังแค่ทั่วไป
ความเสียหายไม่ได้มากไม่ได้น้อย พลังของมันเทียบกับการโจมตี
ของหลินเป่ ยชานไม่ได้ การโจมตีแบบนี้อาจจะโดนหลินเป่ ยชาน
แต่มันไม่เพียงพอที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิตของหลินเป่ยชาน
จางหยูพูดจบ หลินเป่ ยชานก็สร้างร่างขึ้นมาใหม่ แต่สีหน้าของเขา
เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย
หลินหลาง, จาฮานและสือซวนพากันตกตะลึง ราชาดาบในตำนานที่
ถือว่าแกร่งที่สุดในโลกนี้ ภาพลักษณ์ที่สูงส่งของเขากลับถูกทำลาย !
ทุกสายตาจับจ้องไปที่จางหยูด้วยความตะลึง ในเวลาเดียวกันพวกเขา
ก็พากันขนลุกขึ้นมา
“เอาอีก ! “จางหยูรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังของหลินเป่ยชานที่อ่อนแอลง
อย่างมาก อย่างมากคงรับการโจมตีได้แค่ครั้งเดียว แต่เขาไม่คิดจะ
หยุด เขาต้องให้หลินเป่ยชานรับรู้ถึงประสบการณ์อันโหดร้ายที่กล้า
รังแกเขาแบบนี้ เขาต้องเอาคืน
จากนั้นก็มีจุดแสงพุ่งเข้าไปโจมตีหลินเป่ ยชานอีก ทำให้ร่างของเขา
หายไปอีกครั้ง ราชาดาบไม่อาจจะต้านทานอะไรได้เลย
หลินหลาง, จาฮานและสือซวนรู้สึกขนลุกจนไม่กล้าจะมองฉาก
ตรงหน้า