ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1665 สร้างตำนาน
ตอนที่ 1665 สร้างตำนาน
ที่โลกวิหาร
แม้จะเป็นภารกิจขั้น 3 ระดับ 3 แต่จางหยูก็ยังไม่ลงมือเต็มที่ เขาลง
มือแค่ครั้งเดียวกินเวลาไม่กี่วินาทีก็ฆ่าผู้ควบคุมทั้งสามได้!
แค่เผชิญหน้ากันครั้งเดียวทั้งสามคนก็ถูกลบทิ้งไป
“ภารกิจพวกนี้ดูง่ายเกินไป…” จางหยูพูดขึ้น “ทุกครั้งจะมีผู้ควบคุม
แค่ 3 คน มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย”
ผู้ควบคุมทั้งสามคนนั้นจะมีความแข็งแกร่งตามขั้นของภารกิจ แต่ไม่
ว่าความแข็งแกร่งจะเปลี่ยนไปแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้เมื่อ
อยู่ต่อหน้าจางหยู
หลังจากที่กำจัดทั้งสามแล้ว จางหยูก็รู้สึกว่าพลังสร้างในตัวพวกนั้น
ที่กระจายไปโดยรอบคือพลังที่จะดึงตัวเขาออกจากที่นี่
พลังนี้เทียบเท่ากับพลังของผู้ควบคุมขั้น 8 หากจางหยูไม่อยากออก
จากที่นี่ เขาก็สามารถขัดขืนได้ง่าย ๆ แต่โลกจำลองนี้ก็ไม่อาจจะทน
พลังทั้งหมดของเขาได้ อีกอย่างเขามาเพื่อรับการทดสอบไม่ใช่มา
เพื่อก่อเรื่อง จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ทำลายโลกจำลองนี้ทิ้งไป
ต่อมาจางหยูก็ถูกส่งออกมาที่ลาน
จางหยูดึงบัตรหยกออกมาก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องโถง
ผู้คนที่เพิ่งเข้ามาต่างก็คิดว่าเขาเปลี่ยนใจไม่เข้ารับการทดสอบเพราะ
การทดสอบระดับ 3 นั้นยากจริง ๆ
ในห้องโถง
เมื่อเห็นจางหยูเดินกลับมา ทุกคนต่างก็พากันเงียบ
บัตรหยกในมือเขากลับดูโดดเด่นขึ้นมา
“ข้ากลับมาแล้ว” จางหยูส่งยิ้มให้กับชายแก่และส่งบัตรหยกให้กับ
อีกฝ่าย
ชายแก่แสดงสีหน้าซับซ้อนออกมา เขารับบัตรหยกมาก่อนจะสูด
หายใจเข้าลึก ๆ “ยินดีด้วยที่ผ่านภารกิจขั้น 3 ระดับ 3 ได้” เขาส่งตรา
ขั้น 3 ให้กับจางหยู ก่อนจะเอาตราขั้น 2 กลับมาแล้วถามขึ้น “เจ้า
อยากจะทดสอบต่อรึไม่ ?”
“แน่นอน” จางหยูพูดขึ้น “เป้าหมายของข้ายังไม่บรรลุ”
“งั้นก็ขอให้โชคดี” ชายแก่ยังทำแบบเดิมและส่งบัตรหยกให้กับจาง
หยู
ผู้คนในวิหารพากันฮือฮาขึ้นมา ด้วยการที่จางหยูผ่านภารกิจระดับ 3
มาได้จึงไม่มีใครกล้านินทาใด ๆ อีก
ทั้งห้องโถงตกอยู่ในความเงียบงันไปในทันที
ตอนนั้นเองจางหยูก็ได้กลับมาพร้อมบัตรหยกในมือซึ่งทำให้ทุกคน
อดตะลึงไม่ได้
ขั้น 4 !
ในพริบตาเดียวจางหยูก็ขึ้นมาอยู่ขั้น 4 แล้ว !
ทุกภารกิจที่เขารับไปอยู่ระดับ 3 นี่คือการทดสอบแบบคนเดียวที่ยาก
ที่สุด !
คนที่มองจางหยูเป็นตัวตลกในตอนแรกพากันตัวสั่น ขั้น 4 แล้ว
ต่อไปไม่ใช่ขั้นที่ 5 รึ ?
“บางทีเขาอาจจะทำให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้จริง ๆ !” ทุกคนมองมาที่
จางหยูแบบไม่กระพริบตา
ไม่นาน จางหยูก็กลับมา เมื่อเทียบเวลาที่ใช้ไปแล้วมันแทบไม่ได้
เปลี่ยนไปเลยราวกับว่าไม่ว่าจะเป็นภารกิจขั้นไหนสำหรับเขาแล้ว
มันก็ไม่ต่างอะไรกัน ไม่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้แบบไหนก็โดนเขาฆ่าใน
เวลาไม่กี่วินาที
ทุกคนไม่อาจจะอยู่เฉยได้ พวกเขาพากันคาดหวังขึ้นมา
ทุกสายตาจับจ้องไปที่จางหยูโดยไม่มีท่าทีเยาะเย้ยอีกต่อไป มันถูก
แทนที่ด้วยความเคารพแทน !
ไม่ว่าจางหยูจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่แค่ฐานะผู้ควบคุมขั้น 5 ก็ถือว่า
เป็นระดับแนวหน้าในหมู่คนที่นี่ มีแค่ผู้ควบคุมขั้น 6 เท่านั้นที่
เอาชนะเขาได้ ที่สำคัญกว่านั้นคือเขาเพิ่งรับภารกิจขั้น 6 ระดับ 3 ไป
ตราบใดที่เขาผ่านภารกิจนี้ไปได้ มันก็เท่ากับว่าพวกที่ต่ำกว่าขั้น 7
น่ะเป็นรองของเขาทั้งหมด !
“จะผ่านได้รึไม่ ?” ทุกคนต่างก็พากันกังวลและคาดหวังกับผลลัพธ์
ไม่มีใครเคยเห็นปาฏิหาริย์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน
ไม่นานจางหยูก็กลับมาพร้อมบัตรหยกในมือ
ทุกคนพากันหายใจถี่ขึ้นมา
ขั้น 6 !
เขาผ่านการทดสอบขั้น 6 ระดับ 3 มาได้และขึ้นเป็นผู้ควบคุมขั้น 6
ได้สำเร็จ !
ไม่ว่าจางหยูจะผ่านการทดสอบขั้น 7 รึไม่นั้นแต่ฐานะของเขาใน
ตอนนี้ก็เพียงพอที่จะภูมิใจได้แล้ว ในความโกลาหลนี้เขาเป็นคนแรก
ที่ทำแบบนี้ได้ !
“พระเจ้า ชายคนนี้มาจากไหนกัน ?”
“บ่มเพาะมาถึงระดับนี้ได้แต่ไม่เคยเข้าทดสอบ เขาเข้ารับการทดสอบ
และผ่านไปถึงขั้น 6 ได้ นี่มันน่าทึ่งจริง ๆ !”
“ข้าว่าเขาคือผู้ถูกเลือกจากสวรรค์ !”
แม้ว่าโลกสวรรค์ร้างจะโด่งดังในเขตตะวันออกตอนเหนือและถือว่า
เป็นโลกระดับสูงแต่ในความโกลาหลนี้ก็ยังไม่ได้มีความหมายมาก
นักเพราะเขตตะวันออกตอนเหนือไม่ใช่ศูนย์กลางของความโกลาหล
จำนวนยอดฝีมือมีไม่มากนัก คนของเขตตะวันออกตอนเหนือรู้ว่า
โลกสวรรค์ร้างนั้นสูงส่ง แต่เมื่ออยู่นอกเขตตะวันออกตอนเหนือ
มันก็มีน้อยคนนักที่รู้จักโลกสวรรค์ร้าง
ตอนนี้ด้วยการกระทำของจางหยู มันจะทำให้เขาโด่งดังขึ้นมา แม้แต่
โลกสวรรค์ร้างก็จะเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย
จากผู้สร้างเป็นผู้ควบคุมขั้น 6 ในคราวเดียว เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิด
ขึ้นมาก่อน มันจะต้องทำให้คนนับไม่ถ้วนหันมาสนใจอย่างแน่นอน
แน่นอนว่าในสายตาของหลายคนเรื่องแบบนี้ไม่อาจจะพิสูจน์
พรสวรรค์ของจางหยูได้ พวกคนที่สูงส่งจริง ๆ จะไม่สนใจเรื่อง
แบบนี้และถึงกับคิดว่าการกระทำของจางหยูนั้น ก็แค่เป็นการกระทำ
ที่ทำให้ทุกคนตกใจแต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนทั่วไปก็ไม่อาจจะทำ
แบบนี้ได้เช่นกัน
การจะทำแบบนี้ก่อนอื่นต้องทนกับความโดดเดี่ยวในโลกนี้ให้ได้
ก่อน !
“ข้าอยู่กับวิหารมาหลายปีและเห็นอัจฉริยะมามากมาย ไม่คิดเลยว่า
ครั้งนี้ข้าจะได้พบคนแบบเจ้า” ชายแก่ถอนหายใจออกมา “อันดับ
หนึ่งในวิหารแห่งนี้คือคนที่ได้ตราขั้น 4 ไป ข้าคิดว่าเขาสูงส่งมาก
พอแล้ว ตอนนี้คนนั้นได้กลายเป็นคนที่โด่งดัง พวกต่ำกว่าขั้น 9 นั้น
ไม่อาจจะทัดเทียมกับเขาได้” ชายแก่คิด “สถิตินี้ไม่อาจจะมีใคร
ทำลายได้ ยังไงซะก็ไม่ใช่ทุกคนที่มีความอดทนมากแบบนั้นได้…”
เมื่อพูดถึงจุดนี้ชายแก่ก็ส่ายหน้า “ตอนนี้สถิติถูกทำลายไปโดยไอ้
หนุ่มนี่ ไม่ใช่แค่นั้นแต่เขายังไปถึงขั้น 6 ได้…เดาว่าคงอีกนานกว่า
สถิตินี้จะถูกทำลาย”
เขาไม่กล้าบอกว่าจะไม่มีใครทำได้
“ยินดีกับน้องชายด้วย” ท่าทีของขายแก่เปลี่ยนไป มันดูเป็นกันเอง
มากขึ้น “คงอีกไม่นานชื่อเสียงของเจ้าจะโด่งดังไปทั่วทั้งความ
โกลาหล ทุกขุมกำลังจะรู้จักเจ้า บอกได้ว่า..นี่คือการก้าวสู่สวรรค์”
เมื่อกลายเป็นคนมีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว ก็เป็นธรรมดาที่ผู้คนจะต้อง
รู้จักไม่ใช่หรือ?
น่าเสียดายที่จางหยูไม่ได้สนใจเรื่องแบบนี้ ในทางกลับกันแล้วหาก
เขาทำได้ เขาก็ไม่อยากที่จะโด่งดังเพราะเขารู้ดีว่ายิ่งโด่งดังก็ยิ่งมี
ปัญหาตามมา ข้อดีข้อเสียของมันก็มีให้เห็นได้ชัด แต่จางหยูไม่อยาก
ได้ข้อดีใด ๆ จากมันเพื่อเลี่ยงไม่ให้เจอกับข้อเสีย
ฉินเฟยมองไปที่จางหยูด้วยสายตาอิจฉา
ทำลายสถิติเก่าและสร้างสถิติใหม่ขึ้นมา !
นี่คือสิ่งที่ฉินเฟยฝันถึง !
ตอนนี้เขาได้เห็นการกำเนิดของตำนานแล้วแต่ตัวละครหลักนั้น
ไม่ใช่เขา เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกซับซ้อนในใจ
“ไว้ค่อยพูดคุยกันทีหลัง” จางหยูยื่นมือออกมา “บัตรหยกสำหรับ
ภารกิจขั้น 7 ระดับ 3 ล่ะ ?”
ทุกคนพากันเงียบ นี่เขายังจะทดสอบต่ออีกรึ ?
เขามองว่าขั้น 7 คือเป้าหมายเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขาจริง ๆ รึ ?
ตอนนี้ไม่มีใครสงสัยในความแข็งแกร่งของจางหยู ในทางกลับกัน
แล้วทุกคนพากันมั่นใจในตัวจางหยู ภารกิจระดับ 3 หกอันแรกนั้น
จางหยูก็ยังผ่านมาได้ง่าย ๆ มันไม่มีเหตุผลที่เขาจะหยุด ที่สำคัญที่สุด
คือจางหยูยังดูเยือกเย็นดังเดิม มันทำให้พวกเขามั่นใจในตัวจางหยู
ยิ่งขึ้น
“นี่บัตรหยกสำหรับภารกิจขั้น 7” ชายแก่แสดงสีหน้าจริงจังออกมา
เมื่อจางหยูรับบัตรหยกไป ชายแก่ก็ได้พูดขึ้น “ช้าก่อน”
จางหยูชะงักและถามขึ้นมา “มีอะไรรึ ?”
“ภารกิจขั้น 7 ส่งผลต่อโลกจำลองอย่างมาก ข้าต้องไปด้วยตัวเองเพื่อ
รักษาโลกจำลองเอาไว้เพื่อให้มั่นใจว่าโลกจำลองไม่มีปัญหา” ชาย
แก่ลุกขึ้นยืน ร่างกายเขาราวกับมีพลังงานขึ้นมา เขาราวกับเปลี่ยนไป
เป็นคนละคน มันทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันน่าทึ่ง “ข้าขอ
แนะนำตัว ข้า ผู้เฒ่าหนานท่าไห่ ผู้ดูแลวิหารของโลกสวรรค์ร้าง”
ฝ่ามือของเขาตบไปที่ตราบนอก ในพริบตาตราขั้น 4 ก็เปลี่ยนเป็น
ตราขั้น 8 ทันที !
ทุกคนในห้องโถงพากันมองไปที่หนานท่าไห่ด้วยสีหน้าตกตะลึง
ชายแก่คนนี้คือผู้ควบคุมขั้น 8 ในตำนาน !
ฉินเฟยแสดงสีหน้าสับสนออกมา “ขั้น 8 …รึ ?”
บอกได้ว่าการเปิดตัวของหนานท่าไห่นั้นทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก
อู๋ยงเหงื่อตก “ข้า…พูดเช่นนั้นกับผู้ควบคุมขั้น 8 รึ ?”
“ข้าคิดอยู่แล้วว่าเจ้าต้องปกปิดตัวตน” จางหยูยิ้มออกมา
“เจ้ารู้มานานแล้วรึ ?” หนานท่าไห่แปลกใจ
“คลื่นพลังของผู้ควบคุมขั้น 8 แต่แสร้งกลับเป็นผู้ควบคุมขั้นต่ำ
แม้ว่าเจ้าจะปกปิดมันไว้อย่างดีแต่ข้าก็ยังรับรู้ได้ “จางหยูยิ้มออกมา
“แต่หากเทียบกับพี่จงหรานและพี่หลินเป่ยชานแล้ว เจ้าดูเหมือนด้อย
กว่านิด ๆ”
“ท่านจงหรานกับท่านหลินเป่ยชานรึ ?” หนานท่าไห่ชะงักไป
“ใช่ พวกนั้นนั่นแหละ”
“น้องชาย สองคนนั้นคือผู้ควบคุมขั้น 8 ระดับสูง หากมองทั้งเขต
ตะวันออกตอนเหนือแล้วพวกเขาก็ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะ
ราชาดาบ หลินเป่ยชาน เขาแทบจะเทียบกับท่านเบเกิลได้ น้องชาย
เรียกสองคนเช่นนั้น มันจะไม่เป็นการดูหมิ่นรึ ?” หนานท่าไห่ถาม
ขึ้นมา
จางหยูไม่ได้ตอบกลับ “รีบไปทำภารกิจกันเถอะ”
เมื่อได้ยินที่จางหยูพูดมา ทุกคนต่างก็พากันเงียบไป