ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1705 สุสานขั้น 9
“ เรามี 6 คน หากนับรวมพวกนายแล้วก็มี 10 คน มันยังมียอดฝีมืออย่างจ้านเทียนเกออยู่ด้วย” เบเกิลหัวเราะออกมา “ ดูเหมือนว่าเราคงไม่ต้องมือเปล่ากลับมาในการเดินทางมายังสุสานขั้น 9 ครั้งนี้”
สุสานขั้น 9 นั้นมีสมบัติถูกฝังเอาไว้มากมายก็จริงแต่การแข่งขันก็สูงไปด้วย
ผู้ควบคุมขั้น 7 รวมถึงผู้ควบคุมขั้น 8 ระดับสูงรึแม้แต่ผู้นำก็มีเกือบหมื่นคน แต่สมบัตินั้นมีจำกัด มันไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้สมบัติติดตัวกลับไป
เบเกิลไม่ได้มั่นใจอะไรมากนักแต่เมื่อเขาทะลวงผ่านมาได้และกลายเป็นผู้นำ เขาก็มั่นใจมากขึ้นว่าจะได้สมบัติติดตัวกลับมา ตอนนี้เมื่อมีจางหยูและคนอื่นๆอยู่ด้วย ความมั่นใจก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก !
“ ข้ามากับเจ้าสำนัก ข้าทำตามที่เจ้าสำนักบอก ” จ้านเทียนเกอพูดขึ้น เบเกิลเพิ่งจะรู้ตัวว่าจ้านเทียนเกอเองก็เรียกจางหยูว่าเจ้าสำนักเช่นกัน
เขามองไปที่จางหยูด้วยความสงสัย “ น้องชาย เจ้ามีฐานะอะไรกันแน่ ?”
แม้แต่จ้านเทียนเกอก็ยังเคารพจางหยู เบเกิลเดาไม่ออกเลยว่าจางหยูจะมีฐานะสูงส่งแค่ไหนเพราะนอกจากผู้ควบคุมขั้น 9 แล้ว ใครบ้างที่จะทำให้ผู้นำขั้น 8 ในตำนานเคารพได้แบบนี้ ?
“ เจ้าคงไม่ใช่…ผู้ควบคุมขั้น 9 หรอกนะ ?” เบเกิลพูดหยอกเย้าออกมา
“ สุสานขั้น 9 ไม่อาจทนการผันผวนของจิตผู้สร้างและพลังการสร้างของผู้ควบคุมขั้น 9 ได้ไม่ใช่รึ ?” จางหยูถามกลับ
ด้วยการที่อยู่กับจ้านเทียนเกอ, หลินเป่ยชานและคนอื่นๆมานาน จางหยูจึงเข้าใจสุสานขั้น 9 มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นสุสานขั้น 9 ไม่อาจจะทนรับจิตและพลังสร้างของผู้ควบคุมขั้น 9 ได้ ดังนั้นในสุสานขั้น 9 จึงไม่มีผู้ควบคุมขั้น 9 มาเยือนนอกซะจากว่ามันจะเป็นสุสานขนาดใหญ่ หากเป็นเช่นนั้นก็อาจจะทำให้ผู้ควบคุมขั้น 9 สนใจได้
แต่ผู้ควบคุมขั้น 9 มักจะรักษาภาพลักษณ์ของตน แม้ว่าในใจจะต้องการมากแค่ไหนแต่ก็จะไม่แสดงมันออกมา พวกเขาคงจะใช้หินแห่งการสร้างขั้นเทพนำไปแลกเปลี่ยนสมบัติกันในที่อื่น
แน่นอนว่ามันพอจะมีผู้ควบคุมขั้น 9 เข้ามาหาสมบัติด้วยตัวเอง แต่มันก็หาได้ยาก สุสานขั้น 9 มักจะมีกลุ่มผู้ควบคุมขั้น 8 คอยแข่งขันกัน มันยากที่จะมีผู้ควบคุมขั้น 9 เข้ามาร่วมด้วย
เมื่อได้ยินที่จางหยูถามมา เบเกิลก็ยิ้มรับ “ ใช่ เจ้าจะเป็นผู้ควบคุมขั้น 9 ได้ยังไงกัน ?”
ตอนที่เขาพบจางหยูครั้งแรก จางหยูน่ะโดดเด่นก็จริง ความโดดเด่นนี้อยู่ที่พลังสร้างในตัว แต่ตอนนั้นจางหยูยังเป็นมือใหม่อยู่ การใช้พลังสร้างยังคงติดขัด มันไม่เพียงพอให้ใครสนใจ เขาไม่คิดว่าในเวลาอันสั้นแบบนี้จางหยูจะขึ้นมาถึงขั้น 9 ได้ขนาดใหญ่ หากเป็นเช่นนั้นก็อาจจะทำให้ผู้ควบคุมขั้น 9 สนใจได้
แต่ผู้ควบคุมขั้น 9 มักจะรักษาภาพลักษณ์ของตน แม้ว่าในใจจะต้องการมากแค่ไหนแต่ก็จะไม่แสดงมันออกมา พวกเขาคงจะใช้หินแห่งการสร้างขั้นเทพนำไปแลกเปลี่ยนสมบัติกันในที่อื่น
แน่นอนว่ามันพอจะมีผู้ควบคุมขั้น 9 เข้ามาหาสมบัติด้วยตัวเอง แต่มันก็หาได้ยาก สุสานขั้น 9 มักจะมีกลุ่มผู้ควบคุมขั้น 8 คอยแข่งขันกัน มันยากที่จะมีผู้ควบคุมขั้น 9 เข้ามาร่วมด้วย
เมื่อได้ยินที่จางหยูถามมา เบเกิลก็ยิ้มรับ “ ใช่ เจ้าจะเป็นผู้ควบคุมขั้น 9 ได้ยังไงกัน ?”
ตอนที่เขาพบจางหยูครั้งแรก จางหยูน่ะโดดเด่นก็จริง ความโดดเด่นนี้อยู่ที่พลังสร้างในตัว แต่ตอนนั้นจางหยูยังเป็นมือใหม่อยู่ การใช้พลังสร้างยังคงติดขัด มันไม่เพียงพอให้ใครสนใจ เขาไม่คิดว่าในเวลาอันสั้นแบบนี้จางหยูจะขึ้นมาถึงขั้น 9 ได้ “ กึ่งผู้ควบคุมขั้น 9 ก็ไม่ใช่ผู้ควบคุมขั้น 9 ไม่ใช่รึ ?” จางหยูคิดกับตัวเองว่าเขาไม่ได้โกหก
แม้ว่าพลังสร้างในตัวจะทัดเทียมกับผู้ควบคุมขั้น 9 ได้รวมถึงการรับรู้ที่มากกว่าเดิมถึง 10 เท่า แต่ความแข็งแกร่งและจิตของเขาก็ยังอยู่ที่ระดับสูงสุดของขั้น 8 อยู่ เขาไม่ต่างจากจ้านเทียนเกอที่เป็นผู้นำในตำนานเลย
“ เมื่อเจ้าไม่ได้อยู่ขั้น 9 งั้นทำไมพวกเขา..” เบเกิลอดไม่ได้ที่จะสงสัย
จางหยูเดาว่าอีกฝ่ายอยากจะถามอะไร เขาโบกมือและพูดขึ้น “ ข้ารู้ว่าเจ้าอยากจะถามอะไร แต่บางเรื่องก็ไม่อาจจะอธิบายได้ในตอนนี้ ข้าได้ช่วยทุกคนเอาไว้ ดังนั้นทุกคนจึงเคารพข้า” เขาไม่ได้โกหก ยังไงซะเขาก็ไร้เทียมทานในโลกตันเถียนแต่ในความโกลาหลแล้วเขายังด้อยกว่าผู้ควบคุมขั้น 9 อยู่
“ งั้นรึ ?” เบเกิลมองไปที่จางหยู ก่อนจะมองไปที่จ้านเทียนเกอ, หลินเป่ยชานและเกลดัน เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ธรรมดา แต่ไม่อาจจะคิดหาคำตอบได้อยู่ดี
เมื่อไม่ได้คำตอบ เบเกิลก็ส่ายหน้าและพูดขึ้น “ ก่อนที่สุสานจะปรากฏขึ้น ข้าจะพูดอีกครั้ง ข้าได้ตรวจสอบข้อมูลต่างๆและไปยังเขตอื่นๆมาหลายที่และสุดท้ายก็ได้พบกับเบาะแส เจ้าของสุสานแห่งนี้ปรากฏตัวขึ้นเมื่อ 1.32 ล้านปีก่อน สำหรับชื่อที่แท้จริงของเขาแล้ว…ข้าไม่รู้ ข้ารู้ว่าเขามีฉายาว่าราชาตะวันออก ตอนนั้นเขาก็ถือว่าอยู่ระดับสูงในหมู่ผู้ควบคุมขั้น 9 ”
ผู้ควบคุมขั้น 9 ที่กล้าเรียกตัวเองว่าราชาตะวันออก มันแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน !
“ เรื่องราวชีวิตของราชาตะวันออกและการตายของเขานั้นไม่มีใครรู้ ” เบเกิลพูดต่อ “ แต่ที่มั่นใจได้คือราชาตะวันออก นั้นมีสมบัติมากมาย สมบัติบางชิ้นถึงกับทำให้ผู้ควบคุมขั้น 9 สนใจ ข้าไม่รู้ว่าสมบัติแบบนั้นมันอยู่ในสุสานนี้รึไม่ แต่ถ้ามีอยู่จริง เราก็ต้องร่วมมือกันเพื่อชิงมันมาแล้วค่อยแจกจ่ายตามผลงานของทุกคน”
เมื่อพูดจบ เบเกิลก็ได้มองไปรอบๆ “ พวกเจ้าคิดว่ายังไง ?”
หลักๆแล้วเขาถามคนในทีมของจางหยู ยังไงซะคนในทีมเขาก็ไม่ได้เข้าสำรวจสุสานกับเขาเป็นครั้งแรก เป็นธรรมดาจะรู้กฎนี้ดี
“ ไม่มีปัญหา มันยุติธรรมดีที่จะแบ่งตามผลงาน ” จางหยูพูดขึ้น
“ เห็นด้วย ” จ้านเทียนเกอและคนอื่นๆตอบกลับ
เบเกิลถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ชื่อเสียงของจ้านเทียนเกอนั้นโด่งดังและอาจจะแกร่งกว่าเขา หากจ้านเทียนเกอไม่ตกลง งั้นเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น โชคดีที่จ้านเทียนเกอตกลงด้วย มันจึงทำให้เขาไม่ต้องกดดันดังเดิม
“ ใช่สิ ครั้งนี้มีผู้ควบคุมขั้น 8 มากกว่าแต่ก่อน เดาว่าพวกเขาคงสนใจในตัวราชาตะวันออก การแข่งขันคงดุเดือดอย่างมาก มันถึงกับมีผู้นำมาด้วย ข้าจับตาดูมาหลายสิบปีแล้วและพบผู้นำสองคน คนหนึ่งมาจากเขตเหนือตอนบน เซี่ยงอู่เซิง อีกคนมาจากเขตใต้ตอนล่าง อู๋ชิงโหรว ทั้งสองต่างก็มีทีมของตัวเอง ดังนั้นอย่าประมาทไป” เบเกิลพูดขึ้น
ฉากอันคึกคักที่หน้าสุสานขั้น 9 นี้หาได้ยากอย่างมาก
“ งั้นทั้งสองก็เป็นคู่แข่งของเราสินะ ?” หลินเป่ยชานถามขึ้นมา
“ นั่นคือการมองภาพโดยรวม แน่นอนเท่าที่ข้าเห็นมา เราไม่อาจจะมองข้ามคนอื่นได้เช่นกัน ” เบเกิลตอบกลับ
ตอนนั้นจางหยูก็ได้พูดขึ้นมา “พีเบเกิลพูดถูก สุสานขั้น 9 นี้มีผู้นำที่เหนือกว่าสองคนนั่น ”
จ้านเทียนเกอและคนอื่นๆมองไปที่จางหยู
“ ข้าไม่รู้ว่าคนไหนคือเซี่ยงอู่เซิงและอู๋ชิงโหรว แต่ข้ารู้ว่ามีผู้นำทั้งหมด 5 คนหากไม่นับรวมพี่เบเกิลและจ้านเทียนเกอ !”จางหยูพูดขึ้นต่อ “ อีก 3 คนที่เหลือนั้น 2 คนเหมือนจะร่วมมือกัน อีกคนก็มีกองกำลังที่ไม่ด้อยกว่าเราเลย ”
แน่นอนว่าที่เขาบอกนั้นไม่ได้รวมตัวเขาเอง ไม่งั้นแล้วแม้ว่าผู้นำทั้งหมดจะร่วมมือกันแต่ก็อาจจะสู้กับเขาไม่ได้
เมื่อได้ยินที่จางหยูพูดมา จ้านเทียนเกอและคนอื่นๆก็พากันกดดันขึ้นมา
มันไม่ใช่ข่าวดีเลยที่มีผู้นำ 5 คนที่นี่โดยที่ 2 คนนั้นร่วมทีมกัน
“ มันคือความจริงรึ ?” เบเกิลสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาดูเคร่งเครียดกว่าที่เคย “ หากมีผู้นำ 5 คน งั้นเป้าหมายของเราอาจจะเปลี่ยนไป เราอาจจะต้องยอมแพ้ในบางอย่าง..”
แต่เดิมแล้วเขาคิดว่าการที่เขากับจ้านเทียนเกอร่วมมือกันรวมถึงจางหยู, หลินเป่ยชานและคนอื่นๆแล้ว มันเพียงพอที่จะรับมือกับสถานการณ์โดยรวมได้ พวกเขาจะได้เปรียบกันอย่างมาก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าแผนการนั้นจะไม่ได้ผล
จางหยูหัวเราะออกมา “ มันคือความจริงแต่ทำตามแผนเดิมเถอะ ผู้นำไม่กี่คนไม่น่าจะสร้างปัญหาอะไรได้ ”
คนอื่นๆต่างก็พากันแปลกใจแต่ไม่ใช่จ้านเทียนเกอและคนอื่นๆ ยังไงซะในสายตาพวกเขาเจ้าสำนักก็เป็นผู้ควบคุมขั้น 9 แม้ว่าจะเป็นร่างแยกแต่ก็ได้เข้าสู่ขั้น 9 ไปครึ่งก้าวแล้ว
เบเกิลสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง “ น้องชาย เจ้ามั่นใจรึว่าเจ้าไม่ใช่ผู้ควบคุมขั้น 9 ?”
ผู้ควบคุมขั้น 8 ระดับสูงจะกล้าพูดแบบนี้รึ ?