ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1706 สุสานเปิด
“ ความแข็งแกร่งของข้าอยู่ระดับไหน เจ้าจะรู้ได้ในไม่ช้า ” จางหยูยิ้มออกมาแต่ไม่ได้อธิบายอะไรต่อ
ตอนนี้มันจะดีกว่าที่จะปิดเป็นความลับเพื่อไม่ให้ใครรู้มากนัก
แม้ว่าคนอื่นๆจะกังวลแต่บางคนที่รู้จักจางหยู, หลินเป่ยชานและคนอื่นๆก็ไม่ได้มองว่าพวกเขาเป็นคู่แข่งตัวฉกาจ
เซี่ยงอู่เซิงและอู๋ชิงโหรวต่างหากที่เป็นเป้าหมายที่ทุกคนสนใจ พวกเขาเปิดเผยตัวมาหลายปีแล้ว การกระทำของพวกเขาอาจจะมีความหมายทุกอย่าง พวกเขาจึงกลายเป็นคนที่ทุกคนต้องระวัง
ยังไงซะผู้นำขั้น 8 ก็ไม่อาจจะมองข้ามได้
…..
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆพร้อมกับทุกคนที่รอคอยอย่างเงียบงันรอบสุสานขั้น 9 คนส่วนมากมาจากเขตตะวันออกตอนบน, ตะวันออกตอนล่าง, ใต้ตอนบน, ใต้ตอนเหนือ, เหนือตอนบนและเหนือตอนล่าง เขตตะวันตกตอนบนและตะวันตกตอนล่างมีไม่กี่คนที่มาที่นี่
ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่จำนวนผู้ควบคุมขั้น 8 ก็ยังมากเกือบหมื่นคนอยู่ดี
ต้องบอกว่ามีผู้ควบคุมขั้น 8 มากกว่า 1 ใน 8 ของความโกลาหลที่มาที่นี่
สุสานของราชาตะวันออกนั้นโดดเด่นจริงๆ เมื่อเห็นผู้ควบคุมขั้น 8 โดยรอบ เบเกิลก็ต้องถอนหายใจออกมา สีหน้าเขาดูหนักใจอย่างมาก
อยู่ๆ จางหยูก็พูดขึ้น “ อีกคนแล้ว !”
“ อะไรกัน ?”
“ ผู้นำขั้น 8 อีกคน ” จางหยูชี้ไปด้านหลังเบเกิล “ ดูจากตราประทับแล้ว เขาน่าจะเป็นคนเขตเหนือตอนล่าง !”
ระยะห่างระหว่างเขตเหนือตอนล่างกับเขตตะวันออกตอนบนนั้นอยู่ไกลกันที่สุดเพราะใจกลางความโกลาหลนั้นคือพื้นที่ไร้ชีวิต ดังนั้นการจะเดินทางจากเขตเหนือตอนล่างมายังเขตตะวันออกตอนบนนั้นจะต้องผ่านเขตเหนือตอนบนแล้วค่อยอ้อมผ่านเขตไร้ชีวิต จากนั้นก็ผ่านเขตใต้ตอนบนก่อนที่จะมาถึงเขตตะวันออกตอนบนได้
ทุกคนต่างก็ตะลึง “ ผู้นำของเขตเหนือตอนล่างก็มาด้วย !”
พวกเขารู้ดีว่าสุสานขั้น 9 นี้โดดเด่นแค่ไหน แม้แต่ผู้นำของเขตเหนือตอนล่างก็ยังมาด้วย มันแสดงให้เห็นแล้วว่าที่นี่พิเศษแค่ไหน
“ ก่อนที่สุสานจะปรากฏขึ้น อย่างมากก็คงทำให้ผู้นำสนใจสัก 1-2 คน” เบเกิลคิ้วขมวด “ แต่ครั้งนี้กลับมีถึง 6 คน !”
หากนับรวมเขากับจ้านเทียนเกอแล้วก็มีถึง 8 คน !
ผู้นำ 8 คนได้มารวมตัวกันที่นี่ มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ อย่างน้อยก็ในมุมมองของทุกคน เบเกิลกดดันขึ้นไปอีก คิ้วของเขาขมวดยิ่งกว่าเก่า “ มันมีอะไรเกี่ยวกับสุสานแห่งนี้ที่เรายังไม่รู้ ?ไ น่าเสียดายที่เขาไม่รู้เรื่องราชาตะวันออกมากนัก เขาจึงไม่อาจจะเดาได้ว่าผู้นำเหล่านี้มาที่นี่ทำไม
“ เหตุผลเพราะอะไรนั้นเมื่อสุสานเปิดออกแล้วมันจะเปิดเผยออกมาเอง ” จางหยูไม่ได้รีบร้อน “เราแค่ต้องตามพวกเขาไปถึงจะรู้ความจริง “ จางหยูไม่ได้สนใจสมบัติมากนัก เขาคิดจะเข้าไปที่นี่เพื่อหาเบาะแสของสุสานสวรรค์
แน่นอนว่าหากมีสมบัติจริงๆ งั้นเขาก็ไม่รังเกียจที่จะคว้ามันไว้
ผ่านไปอีก 2-3 ปี
ในขณะที่ทุกคนรอคอยกันอย่างอดทน เงาที่ปกคลุมรอบสุสานก็ระเบิดพลังอันน่ากลัวออกมา พลังที่เหมือนกับพลังสูงสุด พลังที่เป็นเอกลักษณ์แฝงไปด้วยแรงกดดันอันน่ากลัวจนทำให้ทุกคนใจสั่น
เมื่อคลื่นพลังนั้นปะทุออกมา สุสานก็ค่อยๆแข็งตัวขึ้นราวกับโลกจริง รอบตัวมันรายล้อมไปด้วยกำแพงโลกและเริ่มขยายตัวออกมาราวกับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ตูม !
เสียงระเบิดดังก้องขึ้นมา
ผู้ควบคุมขั้น 8 เกือบหมื่นคนตอนแรกที่กระจายตัวอยู่โดยรอบแต่ตอนนั้นเองพวกเขากลับพากันพุ่งเข้าไปในสุสาน
ตอนนั้นสุสานขั้น 9 กลับสั่นไหวราวกับได้รับผลกระทบจากพลังโกลาหล มิติรอบข้างสั่นไหวและเกิดการบิดเบี้ยวก่อนจะเกิดรูหนอนขึ้นมา รูหนอนนี้ยังคงหมุนวนและขยายตัวไปอย่างต่อเนื่อง
“ สุสานขั้น 9 กำลังจะเปิด !”
“ ไปได้ !”
ผู้ควบคุมขั้น 8 คนหนึ่งพุ่งเข้าไปที่รูหนอนนั้น
“ อู๋ชิงโหรวเข้าไปแล้ว !” หลายคนกังวลเรื่องเซี่ยงอู่เซิงและอู๋ชิงโหรว พวกเขาจับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของทั้งสองคน พวกเขาคิดว่าการสำรวจสุสานครั้งนี้มีผู้นำแค่ 2 คน ดังนั้นทั้งสองคนจึงได้รับความสนใจมากที่สุด
เบเกิลเองก็ร้อนใจไปด้วย “ ไปกันเถอะ !”
สมบัตินั้นมีจำกัด มาก่อนได้ก่อน หากช้าอาจจะเสียโอกาสไป
จางหยูพูดขึ้นมา “ ไม่ต้องรีบร้อน ผู้นำคนอื่นๆยังไม่ได้เข้าไป เมื่อพวกเขาเข้าไปแล้ว เราถึงจะเข้าไปตาม ที่บ้านเกิดข้าเรียกว่าหัวเราะทีหลังดังกว่า พี่เบเกิลคงเคยได้ยินประโยคนี้ ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นเบเกิลก็ใจเย็นลง “ งั้นเอาตามที่เจ้าบอกก็แล้วกัน ”
สักพักหลังจากที่ชายวัยกลางคนเข้าไปในรูหนอน จางหยูก็ได้พูดขึ้นมา “ ตามชายคนนั้นไป “ สัญชาตญาณบอกเขาว่าคงมีผู้นำคนอื่นๆตามเขาไป
พวกเขาคอยกันมานานแล้ว เมื่อได้ยินที่จางหยูบอกมา พวกเขาก็ลงมือทันที พวกเขารีบตามไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โชคดีที่ผู้นำคนนั้นก็มีทีมของตัวเอง เขาไม่ได้เดินทางเพียงลำพัง ไม่งั้นแล้วด้วยความเร็วของผู้นำ หลินเป่ยชาน, เกลดัน, จงหราน , ลู่ติงและคนอื่นๆคงไม่อาจตามทัน
ไม่นาน จางหยูและทีมก็เดินทางผ่านรูหนอนไป
เมื่อเข้ามาก็พบกับโลกอันกว้างใหญ่ มันต่างจากสุสานขั้น 9 อื่นๆ แม้ว่าที่นี่จะมีปราณสุสานแต่ระดับปราณนั้นไม่ได้เป็นภัยต่อผู้ควบคุมขั้น 8 นี่ไม่ต้องพูดถึงผู้นำเลย แค่ผู้ควบคุมขั้น 8 ทั่วไปก็รับมือมันได้อย่างง่ายดาย
“ ทางนี้” จางหยูล็อคเป้าไปที่ชายวัยกลางคน
เบเกิลและคนอื่นๆตามไปติดๆ ปรากฏว่าในใจพวกเขายอมรับการตัดสินใจของจางหยูไปแล้ว จากการกระทำของชายวัยกลางคนนั้น มันแสดงให้เห็นถึงความต้องการ ดูเหมือนว่าก่อนจะเข้าสุสานแห่งนี้ ชายคนนี้ก็มีเป้าหมายชัดเจนอยู่แล้ว
หากตามชายคนนี้ไปก็อาจจะได้อะไรกลับมา
บางทีอาจจะจับปลาตัวโตได้ !
จางหยูไม่ได้พูดอะไร อันที่จริงไม่ใช่แค่ชายวัยกลางคนแต่ผู้ควบคุมขั้น 8 คนอื่นก็ยังมุ่งหน้ามาทางนี้ด้วย แต่เซี่ยงอู่เซิงและอู๋ชิงโหรวกลับวนอยู่รอบนอกสุสานราวกับสับสน พวกเขาทำให้คนอื่นเข้าใจผิด
สุสานของราชาตะวันออกนี้กว้างใหญ่ มันมีคนกว่าหมื่นคนที่เข้ามาที่นี่ ผู้นำขั้น 8 กว่า 8 คนไม่อาจจะส่งผลกระทบต่อที่นี่ได้เลย
หากปล่อยให้เป้าหมายหายจากสายตาไป งั้นแม้แต่ผู้นำก็ยากจะหาเป้าหมายได้เจอ
“ ทางนี้…” หลังจากตามชายวัยกลางคนได้ 2-3 เดือน เบเกิลก็สงสัยขึ้นมา “ พูดโดยทั่วไปแล้วเขตกลางของสุสานคือพื้นที่หลัก มันจะต้องมีสมบัติมากที่สุดแต่ทางนี้น่ะเบี่ยงจากเขตหลักมามาก..”
เขากลัวว่าจะไปผิดทางซึ่งอาจจะทำให้พวกเขาต้องกลับบ้านมือเปล่า
“บางทีเขตหลักของสุสานอาจจะใช้เพื่อหลอกผู้คน สมบัติจริงๆไม่ได้อยู่ที่นั่น ยังไงซะเจ้าก็บอกแล้วไม่ใช่รึว่า ราชาตะวันออกไม่ใช่ผู้ควบคุมขั้น 9 ทั่วไป เจ้าไม่อาจจะมองเขาแบบคนทั่วไปได้ ” จางหยูพูดขึ้น “ ยังไงซะก็ต้องมีอะไรสำคัญที่นี่…”
มันผ่านมา 2-3 เดือนแล้ว ชัดแล้วว่ามันสายเกินไปที่จะยอมแพ้
บางทีเขตหลักอาจจะมีผู้ควบคุมขั้น 8 อยู่ที่นั่นจำนวนมากแล้วและได้สมบัติไปแล้ว
ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตามไปต่อ
“ หวังว่าเราจะคิดถูก ” เบเกิลถอนหายใจออกมา