ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1708 ทายาทราชาตะวันออก
“ เจ้ารู้รึไม่ว่าทำไมผู้นำคนอื่นๆถึงไม่ได้ข้อมูล แต่พวกเจ้าสองคนกลับได้รับ? ” จิ่งชานมองไปที่เรสกูและทัลซา
เรสกูและทัลซาต่างก็ขมวดคิ้ว พวกเขารู้สึกแย่กันขึ้นมา
เรสกูพูดขึ้น “ เจ้าจงใจใช้ข่าวล่อเรามาที่นี่รึ ?”
ทัลซาสีหน้าเปลี่ยนไป “ เจ้ามีจุดประสงค์อะไรกัน ? ”
จิ่งชานไม่ได้โง่ ในเมื่อเขาไม่ได้โง่แล้วทำไมถึงเปิดเผยข้อมูลสมบัติราชาตะวันออกกับพวกนี้ ?
“ หากเจ้าอดทนฟังเรื่องราวจากข้า เจ้าอาจจะเข้าใจได้ว่าทำไมข้าถึงได้ทำแบบนี้” จิ่งชานพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ เจ้าลองพูดมาสิ” เรสกูพูดขึ้น
“ นานมาแล้ว เขตตะวันออกตอนบนได้ให้กำเนิดผู้มีพรสวรรค์คนหนึ่ง เขาน่าตะลึงยิ่งกว่าจ้านเทียนเกอในตำนานเสียอีก ชีวิตของเขาราวกับได้รับพรจากสวรรค์ ไม่ถึง 1 ยุคเขาก็ขึ้นเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ได้ หลังจากเอาชนะคนทั้งหมด สุดท้ายเขาก็ได้ฉายาที่ชื่อว่า ราชาตะวันออก”
“ ในยุคของเขา ความคิดของเขาคือที่สุด ไม่มีใครกล้าคัดค้านความคิดของเขา แม้แต่ทางวิหารเองก็ต้องไว้หน้าเขา..”
“ หากผู้นำคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ผู้ควบคุมขั้น 8 งั้นราชาตะวันออกก็เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ผู้นำขั้น 9…บางทีอาจจะไม่มีใครแกร่งไปกว่าเขาได้”
“ เขาแข็งแกร่งแต่ก็โดดเดี่ยว ไม่มีใครเป็นคู่มือของเขาได้ เขาตามหาคู่ต่อสู้มานาน เขาตามหาทั่วทั้งโกลาหลแต่ก็ไม่มีใครรับมือกับเขาได้ หลังจากที่โดดเดี่ยวมาหลายปี เขาก็ต้องผิดหวัง สุดท้ายเขาก็ได้เข้าไปยังที่ที่เรียกว่าดินแดนแห่งการ่วงหล่น”
เพราะไร้เทียมทานจนไม่มีใครเทียบได้ ชีวิตของราชาตะวันออกจึงถือว่าเป็นตำนาน
“ดินแดนแห่งการร่วงหล่นนั้นน่ากลัวเป็นอย่างมาก มันมีผู้ควบคุมขั้นที่ 9 มากมายที่ตายที่นั่น พวกนั้นไม่อาจจะเทียบกับราชาตะวันออกได้ด้วยซ้ำ ราชาตะวันออกได้ยินถึงที่นี่และได้กุญแจเปิดเข้าไปสู่ดินแดนแห่งการร่วงหล่น เมื่อไม่อาจจะหาคู่ปรับได้อีก สุดท้ายด้วยความผิดหวังเขาจึงเข้าไปที่นั่น บางทีคงมีแค่ที่นั่นที่จะมีตัวตนที่คู่ควรจะเป็นคู่มือของเขาได้”
“ ดินแดนแห่งการร่วงหล่นไม่ทำให้เขาผิดหวัง เขาได้เจอผู้นำมากมาย แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 9 ก็ยังมีจำนวนมาก”
“ ในหมู่ผู้ควบคุมขั้นที่ 9 มันแทบไม่ขัดสนคนที่เทียบกับเขาได้ เขาที่ยืนอยู่จุดสูงสุดมาโดยตลอด แม้ว่าด้วยความแข็งแกร่งที่เขามีแล้ว เขาก็ไม่อาจจะเอาชนะพวกนั้นได้ ในทางกลับกันแล้วที่นั่นกลับมีสภาพแวดล้อมที่พิเศษ เขาได้ใช้จิตผู้สร้างเป็นจำนวนมากจนโดนปราณสุสานรุกล้ำเข้ามาในร่างกาย…”
“ ราชาตะวันออกแข็งแกร่งเพียงใด แม้ว่าปราณสุสานจะเข้าไปในร่าง แต่ก็ไม่อาจจะทำให้เขาเสียสติได้ทันที มันไม่อาจจะครอบงำเขาได้ แต่ราชาตะวันออกรู้ว่าสุสานแห่งนี้น่ากลัว แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 9 ก็ยากจะต้านทานได้ หากเขายังอยู่ที่นั่นต่อ ไม่นานเขาก็จะโดนครอบงำ ดังนั้นเขาจึงถอยกลับมา ตลอดทั้งชีวิตนี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องถอย แต่ก็เป็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
“ ตอนที่ราชาตะวันออกคิดจะหนีออกมา เขาก็พบกับสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต ปราณสุสานนับไม่ถ้วนราวกับมีชีวิต มันได้รวมตัวกันเป็นลูกตาขนาดใหญ่ ปราณของมันเข้มข้นยิ่งกว่าปราณสุสานที่เขาได้เจอมาก่อนหน้านี้ เขามีลางสังหรณ์ว่าหากปราณเหล่านี้เข้ามาในตัว เขาจะโดนครอบงำทันที”
“ในช่วงวิกฤตนั้นก็มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ปราณสุสานที่ครอบงำตัวเขาก็โดนดึงออกไปส่วนหนึ่ง จนทำให้เขาได้สติกลับมาในเวลาชั่วครู่ แต่ในเวลาสั้นๆชายที่ปรากฎตัวขึ้นมาก็โดนฆ่า…”
“ ฉากนี้เขาไม่มีทางที่จะลืมเลือน คนที่แข็งแกร่งพอๆกับเขากลับโดนลบไปโดยลูกตานั่น นัยน์ตานั้นได้ยิงลำแสงออกมา ลำแสงที่อัดแน่นไปด้วยปราณสุสานซึ่งลบร่างกาย, วิญญาณและสติไปได้ ก่อนที่สุดท้ายชายคนนั้นจะตายไป”
“ ราชาตะวันออกหนีไปได้ แต่เมื่อหันกลับไปมอง มันก็กลายเป็นแผลที่ฝังลึกในใจเขา”
“ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเรื่องที่น่าตกใจเช่นนี้ ดินแดนแห่งการร่วงหล่นได้กลายเป็นแผลในใจเขา “
“ หลังจากที่ออกจากที่นั่นเขาก็ไม่กล้าพูดถึงที่นั่นอีกต่อไปเพราะกลัวว่าจะสร้างความวุ่นวายขึ้นมา เขากลัวว่าทั้งโกลาหลจะปั่นป่วน แม้ว่าเขาจะหนีออกมาจากที่นั่นได้แต่เพราะปราณสุสานในร่าง จึงทำให้เขาต้องใช้จิตผู้สร้างเป็นจำนวนมากในการสยบมันไว้ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็เริ่มแย่ลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ไม่อาจจะรับมือมันได้อีกต่อไป…”
“ เขาได้ฆ่าตัวตาย !”
“ ราชาตะวันออกที่ยิ่งใหญ่ที่ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็ยกย่องกลับฆ่าตัวตาย !”
“ ก่อนที่จะฆ่าตัวตาย เขาได้ประทับประสบการณ์ในดินแดนแห่งการร่วงหล่นเอาไว้ในหยกเพื่อเตือนคนที่พบหยกนั่นว่าห้ามเข้าไปในดินแดนแห่งการร่วงหล่น …”
“ เขาได้ผนึกสมบัติของตัวเองเองไว้ในจิตผู้สร้าง ตอนที่เขาตายนั้นมันจะผนึกสุสานเอาไว้ เขาไม่ได้สร้างกุญแจเพื่อเปิดสุสาน เขาไม่ได้ทิ้งสมบัติอะไรไว้ให้กับคนในอนาคต และสุสานแห่งนี้ก็ถูกซ่อนเอาไว้เพราะสมบัติของเขาปนเปื้อนปราณสุสาน มีแค่เวลาที่ผ่านไปเท่านั้นที่ปราณพวกนั้นจะสลายไป จากนั้นคนอื่นๆถึงจะใช้มันได้…”
“ ทายาทราชาตะวันออกได้ทำตามความต้องการของราชาตะวันออก เขาได้ออกจากเขตตะวันออกตอนบน และเฝ้ารออย่างเงียบๆ เมื่อวันหนึ่งสุสานของราชาตะวันออกเปิดออก เขาก็จะมาทวงคืนสมบัติของบรรพชน“
เมื่อพูดถึงจุดนั้นจิ่งชานก็มองไปที่เรสกูและทัลซา “ข้าขอแนะนำตัวเองอีกรอบ ข้า ทายาทของราชาตะวันออก จิ่งชาน ”
เรสกูและทัลซาต่างก็พากันแปลกใจ ไม่มีใครคิดว่าจิ่งชานจะมีตัวตนเช่นนี้
ทายาทของราชาตะวันออก !
ไม่แปลกเลยที่เขาจะรู้เรื่องสุสานมากเช่นนี้ ไม่แปลกเลยที่เขาจะรู้เรื่องราชาตะวันออก
แต่พวกเขาก็ยังสงสัยเรื่องดินแดนแห่งการร่วงหล่นที่จิ่งชานพูดถึง ในความโกลาหลแห่งนี้ทำไมถึงมีที่แบบนั้นอยู่ ที่ที่ทำให้ราชาตะวันออกถึงกับฆ่าตัวตาย ?
“ แล้วทำไมเจ้าถึงเปิดเผยข้อมูลให้พวกเรารู้ ?” เรสกูยักคิ้ว “ หรือเจ้าคิดว่าด้วยฐานะทายาทราชาตะวันออก พวกเราจะยอมรามือจากสมบัติ? หากเจ้าคิดเช่นนั้นจริงๆ ข้าคงบอกว่าเจ้าน่ะใสซื่อเกินไป ”
จิ่งชานส่ายหน้า “ ราชาตะวันออก มีคนรับใช้มากมาย มันถึงกับมีผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ด้วย ”
คนรับใช้ที่เป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 9 แค่คิดก็น่าเหลือเชื่อแล้ว
มันอาจจะมีเหตุผลพิเศษบางอย่างแต่มันก็พิสูจน์ได้ว่าความแข็งแกร่งและนิสัยของราชาตะวันออกนั้นโดดเด่นเพียงใด
“ ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้มีหลายตระกูลและผู้คนมากมายที่เคารพราชาตะวันออก พวกเขาอยู่เพื่อตระกูลของเรา” จิ่งชานยิ้มออกมา “หลังจากที่ราชาตะวันออกตายไป บางตระกูลและบางคนก็ได้แยกตัวออกไป แต่พวกที่ทำสัญญาทาสก็ยังอยู่กับเรา บรรพชนของเยว่จ้งก็เป็นหนึ่งในนั้น ”
เขามองไปที่เรสกูและทัลซา ก่อนจะพูดต่อ “ เซี่ยงอู่เซิงกับอู๋ชิงโหรวเองก็เช่นกัน ”
เรสกูคิ้วขมวด
“ ตั้งแต่บรรพชนของพวกเขา พวกเขาก็เคารพตระกูลจิ่ง ตั้งแต่เกิดมาพวกเขาก็ได้ทำสัญญาทาสกับตระกูลจิ่ง..” จิ่งชานยิ้มกว้างขึ้นมายิ่งกว่าเก่า “ ไม่ว่าจะเป็นเยว่จ้ง, เซี่ยงอู่เซิงรึอู๋ชิงโหรวต่างก็เป็นทาสของตระกูลจิ่ง ชีวิตของพวกเขาอยู่ในกำมือเรา ”
“ แต่นอกจากพวกนั้นแล้ว ก็ยังมีส่วนหนึ่งที่ได้ทำสัญญาทาสกับเรา พวกนั้นคอยรับใช้เราแบบลับๆแต่พวกนั้นแค่ไม่รู้ตัว..” จิ่งชานมองไปที่เรสกูและทัลซา “พวกเจ้าสองคนทำได้ดีมาก !”
เรสกูและทัลซาต่างก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา