ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1713 เผชิญหน้ากับผู้ควบคุมขั้น 9
จ้านเทียนเกอและเบเกิลต่างก็เชื่อใจในตัวจางหยู ยังไงซะถึงพวกเขาจะไม่เชื่อจางหยู แต่พวกเขาจะเอาชนะจางหยูได้รึ?
ระหว่างที่เดินทางกลับนั้นจ้านเทียนเกอก็ได้พาหนะมิติออกมาใช้เพื่อที่จะเดินทางได้เร็วกว่าเดิม
ทุกคนพากันผ่อนคลายอย่างมากเพราะพวกเขาได้สมบัติของราชาตะวันออกมา ต่อไปก็คงเป็นเรื่องการแบ่งสมบัติกัน ตั้งแต่ต้นจนจบพวกเขาไม่ได้เสียคนไปแม้แต่คนเดียว มันถือว่าเป็นโชคดีอย่างมาก
ประมาณ 3 เดือนต่อมาพวกเขาก็มาถึงทางออกสุสาน
“ พวกเขายังไม่กลับมาอีกรึ ? ” จางหยูแปลกใจที่ไม่พบหลินเป่ยชานและคนอื่นๆที่ทางออก
จากความแข็งแกร่งของหลินเป่ยชานและคนอื่นๆแล้ว ตราบใดที่ไม่ได้สู้กับผู้นำ พวกนั้นก็ไม่น่าจะมีอันตราย
เบเกิลลังเลและพูดขึ้น “ เจ้าอยากจะรอที่นี่รึ ?”
เมื่อรู้ถึงความแข็งแกร่งที่จางหยูมี เบเกิลก็ไม่กล้าจะทำตัวปกติดังเดิม เขาพูดออกมาพร้อมกับก้มหน้า
“ รอไปก่อน ” จางหยูพยักหน้า “ เมื่อพวกเรามาที่นี่ด้วยกัน เราก็ต้องกลับไปด้วยกัน ยิ่งกว่านั้นเราก็ตกลงกันล่วงหน้าแล้วว่าจะรอกันที่นี่”
เบเกิลถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกที่จางหยูยังเป็นคนที่มีเหตุมีผลอยู่ ไม่งั้นแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง
พวกเขารอกันอยู่ที่ทางออกกว่าหลายเดือนก่อนที่จะมีบางคนออกมาจากสุสาน บางคนได้รับบาดเจ็บกลับมา บางคนเสียร่างกายไป บางคนมีปราณสุสานในตัวที่ยับยั้งมันไว้ได้แต่ไม่นานก็คงโดนครอบงำ บางคนมีปราณสุสานในตัวน้อยนิด พวกเขาคงใช้เวลาไม่นานก็จัดการกับปราณนี้ได้
หากเทียกับฉากก่อนที่จะเข้าไปในสุสานนี้แล้ว ภาพในตอนนี้ผิดกันอย่างมาก
จางหยูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เขตกลางแต่มันเห็นได้ว่าคนส่วนมากเพิ่งจะผ่านการต่อสู้มา บางคนบาดเจ็บ แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 8 ระดับสูงก็ใช่ว่าจะดูดี
ไม่นานหลังจากนั้นจางหยูก็เห็นหลินเป่ยชานและคนอื่นๆเดินทางออกมา
หลินเป่ยชาน, เกลดัน, ลู่ติง, หลี่เหลิ่ง, จงหราน, โจวโจว, หลิงหลงตามมาด้วยเสี่ยวเสีย นอกจากการป้องกันของตัวเองแล้ว การที่มีเสี่ยวเสียคอยช่วย ผู้ควบคุมที่ต่ำกว่าขั้นที่ 9 จึงไม่อาจจะทำอะไรพวกเขาได้ พวกเขาทั้งเจ็ดคนจึงปลอดภัยกลับมาแม้ว่าสีหน้าจะดูหม่นหมองก็ตาม
“ เจ้าสำนัก ” หลินเป่ยชานและเกลดันเดินทางมาข้างกายจางหยู
เสี่ยวเสียเองก็พุ่งมาเกาะไหล่ของจางหยู “ นายท่าน ”
คนที่เหลือเดินทางเข้ามาหาเบเกิล “ หัวหน้า ”
จางหยูยิ้มให้กับหลินเป่ยชานและคนอื่นๆ “ เป็นยังไง พวกเจ้าได้อะไรมาบ้าง ?”
“ ไม่ได้อะไรเลย ” หลินเป่ยชานส่ายหน้า “ ตอนที่เราไปที่นั่น มันก็สายเกินไปแล้ว สมบัติที่นั่นถูกเก็บไปแล้ว ยิ่งกว่านั้นหลายคนก็โดนปราณสุสานรุกล้ำ การต่อสู้ดุเดือดและวุ่นวายอย่างมาก มีคนล้มตายและบาดเจ็บจำนวนมาก สุดท้ายพวกเราก็ยอมแพ้ที่จะสู้แย่งชิงสมบัติมา”
เกลดันพยักหน้าและพูดขึ้น “ เราเสียเปรียบ มันไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะสู้กับพวกนั้น ”
จงหรานพูดขึ้น “ คนจำนวนมากพากันแย่งชิงหินระดับเทพ หากไม่ใช่เพราะข้าแลกเปลี่ยนหินขั้นสวรรค์กับเจ้าก่อนหน้านี้ ข้าคงคิดจะเข้าไปแย่งชิงมันด้วย ”
แม้ว่าการเดินทางนี้จะไม่ได้อะไรกลับมาและทำให้พวกเขาต้องพากันเศร้าใจแต่มันก็ใช่ว่าจะยอมรับไม่ได้
“ ทุกคนไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ” จางหยูหัวเราะออกมา
“ เจ้าสำนัก ท่าน.. ” หลินเป่ยชานมองไปที่จางหยูและอดไม่ได้ที่จะสงสัยขึ้นมา
จางหยูโบกมือและพูดขึ้น “ ที่นี่มีคนอยู่เยอะ เราควรออกจากที่นี่แล้วไปหาที่เงียบๆพูดคุยกัน ”
ทุกคนไม่ได้คัดค้านอะไร
พวกเขาเดินทางออกมาจากสุสานและมุ่งหน้าไปที่อื่น ผู้ควบคุมขั้น 8 ส่วนใหญ่เดินทางออกมาจากที่นั่น มีคนไม่มากที่มั่นใจในตัวเองและคอยอยู่จัดการกับคนที่เดินทางออกมาจากสุสาน บางคนออกไปตามหาสมบัติที่อื่นต่อ ยังไงซะสุสานราชาตะวันออกก็ใหญ่โต มันไม่ใช่แค่เขตกลางที่มีสมบัติ ที่อื่นอาจจะมีสมบัติอยู่อีก
เซี่ยงอู่เซิงและอู๋ชิงโหรวไม่ได้ปรากฏตัวให้เห็น
ตอนที่จางหยูและคนอื่นๆเดินทางผ่านรูหนอนกลับไปยังความโกลาหล พวกเขาก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันอันน่ากลัว
ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็พบกับผู้ควบคุมขั้นที่ 8 ที่ออกมาก่อนหน้านี้และอยู่ที่นั่นด้วย
ผู้ควบคุมขั้นที่ 8 เหล่านั้นแสดงท่าทีลนลานและมองไปยังชายวัยกลางคนในชุดสีเขียวตรงหน้า ชายวัยกลางคนมีผมสีทองโบกสะบัดไปมาเบาๆ เขานั่งอยู่บนสัตว์อสูรที่ดูแข็งแกร่งซึ่งแผ่คลื่นพลังที่ไม่ด้อยกว่าผู้ควบคุมขั้นที่ 8 ระดับสูงออกมา
ตอนที่จางหยูและกลุ่มของเขาปรากฏตัว ชายวัยกลางคนก็มองมาที่พวกเขาทันที
“ ผู้นำสามคนและจิตปฐมบทโกลาหลอีกหนึ่ง” ชายวัยกลางคนพูดขึ้น “ เจ้าฆ่าจิ่งชานและเอาสมบัติของราชาตะวันออกมารึ? ”
เบเกิลและคนอื่นๆเปลี่ยนสีหน้าไปทันที
จ้านเทียนเกอเองก็มีสีหน้าแข็งทื่อ
เสี่ยวเสียตัวสั่น นี่เป็นครั้งที่สองที่มันโดนพบตัว
“ โกลาหลอันตรายเกินไป ข้าอยากกลับสำนักคังเฉียงแล้ว ” เสี่ยวเสียอยากจะร้องไห้ออกมา
จางหยูมองไปที่ชายวัยกลางคนอย่างใจเย็น “ผู้ควบคุมขั้น 9 รึ ?”
เขาคิดว่าหากเขากำจัดทัลซาไป ข่าวจะไม่รั่วไหล แต่ดูเหมือนว่าตระกูลจิ่งจะรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
ชายวัยกลางคนพูดขึ้นมา “ เจ้าเรียกข้าว่า…จาเบ็ธก็ได้ ! ราชาของเขตตะวันออกตอนล่าง ! ”
จางหยูยืนยันตัวตนของอีกฝ่าย แม้จะไม่ได้กลัวอีกฝ่ายแต่เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเขาก็ได้แอบสร้างรูหนอนขึ้นมาและส่งข้อความบอกทุกคน “ รีบเข้ารูหนอนไป ”
ทันทีที่เขาพูดจบ เสี่ยวเสียก็หายตัวไปทันที
จ้านเทียนเกอคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้แล้ว เขาไม่ลังเลที่จะเดินทางผ่านรูหนอนแล้วหายตัวไปทันที
หลินเป่ยชาน, เกลดัน, เบเกิลและคนอื่นๆก็รีบเดินทางเข้าไปในรูหนอนและหายตัวไปจากโกลาหล
จาเบ็ธยังคงแสดงท่าทีเฉยเมย เมื่อเห็นการกระทำของจางหยูที่ทำให้ทุกคนหายตัวไปจนเหลือจางหยูคนเดียว จาเบ็ธก็ได้พูดขึ้น “ แม้ข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าใช้วิธีใด แต่เจ้าสร้างรูหนอนขึ้นมาเพื่อส่งพวกเขาไปที่โลกป่ารึ ? เจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีได้รึ ?”
จางหยูตั้งใจจะหนีแต่เมื่อได้ยินที่จาเบ็ธพูดมา เขาก็ต้องชะงัก “ เจ้าคิดจะขู่ข้ารึ ”
“ จางหยู เจ้าเพิ่งปรากฏตัวในเขตตะวันออกตอนบนเมื่อไม่กี่ปี แต่ชื่อเสียงของเจ้าน่ะดังไปถึงเขตตะวันออกตอนล่าง แม้แต่ข้าก็ยังเคยได้ยิน ” จาเบ็ธมองไปที่จางหยู “ ข้าคิดว่าอย่างมากเจ้าคงเป็นแค่ผู้ควบคุมขั้นที่ 8 ทั่วไป แต่ไม่คิดเลยว่าความแข็งแกร่งของเจ้าจะเทียบกับผู้นำได้ ”
“ ขอบคุณที่ชม ” จางหยูพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ ยอมแพ้แล้วส่งสมบัติของราชาตะวันออกมา และจงภักดีต่อข้าแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป ” จาเบ็ธพูดขึ้น
ด้านหลังจาเบ็ธนั้นเซี่ยงอู่เซิง,อู๋ชิงโหรวและชายแก่ก็ปรากฏตัวขึ้นมา ชายแก่ได้พึมพำออกมา “ จาเบ็ธ ท่านรับปากกับเราแล้วว่าจะช่วยกำจัดพวกมัน ท่านจะผิดคำพูดรึ ?”
“ เจ้าคิดจะสั่งข้ารึ ?” จาเบ็ธมองไปที่ชายแก่ ตอนนั้นเองชายแก่ราวกับโดนฟ้าผ่า เขาผงะถอยกลับไปพร้อมกับเลือดที่ไหลกลบปาก เขามองไปที่จาเบ็ธด้วยสีหน้าหวาดกลัว
จาเบ็ธหันกลับมามองจางหยูอีกครั้ง “ เจ้าคิดยังไงกับข้อเสนอของข้า ?”
จางหยูส่ายหน้าและพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “เจ้ายังไม่มีคุณสมบัตินั้น”
ในความโกลาหลแห่งนี้ ใครกันจะคู่ควรให้เขาจงรักภักดีได้?
“ ดี !” จาเบ็ธหัวเราะออกมา “ หากเป็นเช่นนั้นข้าก็ไม่จำเป็นต้องไว้ชีวิตเจ้า ส่งสมบัติของราชาตะวันออกมาแล้วข้าจะให้เจ้าเหลือร่างเอาไว้ ไม่งั้นแล้วไม่ใช่แค่เจ้า แม้แต่โลกป่ารวมถึงคนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าก็ต้องตายทั้งหมด ”
สีหน้าของจางหยูเย็นชาขึ้นมา “ งั้นรึ ? งั้นก็ลองดู ชีวิตข้า หากเจ้ามีความสามารถพอก็มาเอามันไป”
ผู้ควบคุมขั้น 8 โดยรอบพากันมองจางหยูด้วยสีหน้าตกตะลึง นี่คือผู้ควบคุมขั้น 9 แต่จางหยูกลับกล้าพูดแบบนั้นออกมารึ ?