ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1721 ระดับย่อยของขั้น 9
“ ระดับความแข็งแกร่งรึ ?” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้นมา “ พันเท่า ”
จางหยูถามขึ้นมา “ พันเท่ารึ ?”
ไม่ใช่ว่ามันมีแต่ขั้นต่ำ, กลางและสูงรึไง ?
พันเท่าหมายถึงอะไร ?
เมื่อเห็นท่าทีสับสนของจางหยู อีกฝ่ายก็ได้อธิบายออกมา “ ผู้ควบคุมขั้น 9 ไม่มีขั้นที่แน่นอนเพราะผู้ควบคุมขั้น 9 คือขั้นสุดท้ายของการบ่มเพาะ แต่เพื่อที่จะแยกแยะความแข็งแกร่งแล้ว ผู้ควบคุมขั้นที่ 9 เก่าแก่ก็ได้แบ่งระดับตามพลังสร้างในตัว”
“ ความเข้าใจของผู้นำขั้น 8 นับเป็น 1 เมื่อเข้าสู่ขั้นที่ 9 คือ 10 ดังนั้นจึงเรียกว่า 10 เท่า ผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ก็มีทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแอ เมื่อวัดตามช่องว่างของความเข้าใจในการสร้าง ก็จะแบ่งออกเป็น10เท่า, 100เท่า, 1,000 เท่า มากที่สุดคือหมื่นเท่า”
“เพราะไม่มีระดับในขั้นที่ 9 จึงไม่มีการแบ่งระดับกัน” ในสายตาของคนทั่วไปแล้วผู้นำขั้น 8 คือเทพในโกลาหล ผู้นำแต่ละคนสามารถดูแลเขตย่อยได้ พวกเขาอาจจะคุมหลายเขตย่อย แต่ในสายตาของผู้ควบคุมขั้นที่ 9 แล้ว ผู้นำน่ะไม่ได้ต่างอะไรกันเลย
จางหยูเปรียบเทียบตัวเองตอนนี้กับตอนที่เป็นผู้นำ ในด้านความเข้าใจการสร้างนั้น ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะอยู่ระดับหมื่นเท่า
ที่สำคัญที่สุดคืออย่ามองความเข้าใจของเขาที่อยู่ระดับหมื่นเท่าแต่อันที่จริงแล้วการทำความเข้าใจในส่วนหลังยิ่งยากขึ้นไปเรื่อยๆ เวลาที่ใช้ก็มากขึ้นไปด้วย เมื่อการทำความเข้าใจขึ้นถึงระดับ 9,999 เท่า มันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนกับทำความเข้าใจในตอนที่เป็นผู้นำ
“ พันเท่า” จางหยูเอ่ยชมออกมา “ ความแข็งแกร่งแบบนี้แม้แต่ในหมู่ผู้ควบคุมขั้นที่ 9 แล้ว มันน่าจะมีไม่กี่คนที่เทียบกับเจ้าได้”
จ้าวแห่งโลกพันเขตไม่ได้ใส่ใจและพูดขึ้น “ หากเทียบกับราชาตะวันออกแล้ว ข้าจะยินดีกับความสำเร็จนี้ได้ยังไง ?”
จางหยูถามขึ้นมาอีกครั้ง “ แล้วราชาตะวันออกอยู่ระดับไหนกัน ?”
“ หมื่นเท่า” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้นมา “ ราชาตะวันออกน่ะอยู่ในโกลาหลมาหลายปี เขาอยู่อันดับหนึ่ง ความแข็งแกร่งของเขาอยู่จุดสูงสุดของโกลาหล ไม่มีใครแข็งแกร่งกว่าราชาตะวันออกเลย ! ราชาตะวันออกตายไป 1.3 ล้านปีแล้ว ในโกลาหลมีผู้ควบคุมขั้นที่ 9 กำเนิดขึ้นมาหลายคนแต่ไม่มีใครเลยที่เทียบกับเขาได้”
เขามองว่าราชาตะวันออกนั้นยิ่งใหญ่ มันแสดงให้เห็นว่าเขาชื่นชมราชาตะวันออกมากแค่ไหน
“ ต่อหน้าเขา ข้าไม่รู้ว่าจะมีคนแข็งแกร่งปรากฏขึ้นมาอีกรึไม่แต่หลังจากที่เขาตายไปแล้ว ในโกลาหลก็ไม่เคยมีคนที่แข็งแกร่งแบบนั้นอีก” จ้าวแห่งโลกพันเขตแสดงสีหน้าจริงจังออกมา “ ราชาตะวันออกนั้นโดดเด่น ความแข็งแกร่งของเขาคือเพดานความแข็งแกร่ง !”
เมื่อพูดถึงจุดนี้จ้าวแห่งโลกพันเขตก็ถอนหายใจออกมา “ ข้าด้อยกว่าเขาอย่างมาก ตอนที่ข้าเจอเขาครั้งแรก ความแข็งแกร่งของเขาด้อยกว่าข้า แต่หลังจากนั้นความแข็งแกร่งของเขาก็ขึ้นไปถึงหมื่นเท่า ส่วนข้าเพิ่งจะขึ้นมาอยู่ระดับ 100 เท่า ตอนนี้เขาตายมา 1.3 ล้านปีแล้ว แต่ข้ากลับอยู่ระดับพันเท่าเอง”
ราชาตะวันออกนั้นน่าทึ่งและแข็งแกร่ง เกรงว่าคงไม่มีใครลืมเขาได้
การได้อยู่ยุคเดียวกับราชาตะวันออกถือว่าเป็นโชคดีและโชคร้ายเช่นกัน
จางหยูชื่นชมราชาตะวันออกอย่างมากแต่โชคร้ายที่ทายาทราชาตะวันออกนั้นไม่ได้มีดีอะไรเลย เขาไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยวของราชาตะวันออกเลย
“ แล้วจ้าววิหารอวี๋ฮุ่นล่ะ ? เขาอยู่ระดับไหน ?” จางหยูถามขึ้นมา
“ เจ้าถามถึงจ้าววิหารอวี๋ฮุ่นตัวจริงรึว่าคนดูแลที่นั่น ?”
“ ไม่ใช่คนเดียวกันรึ ?”
“ คนที่ดูแล แม้ว่าจะเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 9 แต่ความแข็งแกร่งนั้นไม่ได้โดดเด่นอะไร เมื่อหลายสิบปีก่อนเขาอยู่ที่ระดับ 100 เท่า ” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้น
“ คนที่อยู่เบื้องหลังค่อนข้างแข็งแกร่ง เขาขึ้นระดับพันเท่ามานานแล้ว”
“ งั้นจะบอกว่ามีผู้ควบคุมขั้นที่ 9 สองคนในวิหารอวี๋ฮุ่นรึ? ”
“ มากกว่านั้น” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้น “ มันมีอย่างน้อย 5 คน สองคนน่ะแสดงตัว คนที่ดูแลวิหารนั้นอยู่ระดับ 100 เท่า อีกคนอยู่ระดับ 10 เท่า มันยังเหลืออีก 3 คน นอกจากจ้าววิหารที่แท้จริงแล้ว อีก 2 คนอยู่ระดับ 100 เท่า เพียงแต่พวกเขาไม่แสดงตัวต่อคนภายนอก ”
จางหยูใจสั่น ความแข็งแกร่งของวิหารอวี๋ฮุ่นสูงกว่าที่เขาคิดเอาไว้
ผู้ควบคุมขั้น 9 กว่า 5 คน 1,000 เท่า 1 คน 100 เท่า 3 คนและ10เท่า 1 คน
“ ระหว่างเจ้ากับจ้าววิหารตัวจริงใครเหนือกว่ากัน?” จางหยูถามขึ้นมา
“ หลายหมื่นปีก่อน ข้านะดีกว่าเล็กน้อยแต่ตอนนี้ข้าไม่อาจจะบอกได้ เขาเป็นชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์น่าทึ่ง เขามีประสบการณ์ที่โดดเด่นและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เวลาหลายหมื่นปีที่ผ่านมานี้มันก็เพียงพอที่เขาจะตามข้าทัน “ จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดออกมาตามตรง เขาคิดสักพักแล้วพูดต่อ “ หากคิดดูดีๆแล้วบางทีข้าอาจจะไม่ใช่คู่มือของเขา ”
จ้าวแห่งโลกพันเขตแสดงสีหน้าซับซ้อนออกมา เขาเหมือนไม่พอใจที่มีคนอื่นเหนือกว่าเขาไปได้
แต่เนื่องจากเผชิญหน้ากับเรื่องนี้มานาน เขาก็เหมือนกับชินไปแล้ว
“ นอกจากวิหารอวี๋ฮุ่นแล้ว มียอดฝีมือคนอื่นอีกไหม?” จางหยูถามขึ้น “ คนที่อยู่ระดับพันเท่า”
“ ก่อนหน้านี้มี 3 คนแต่หนึ่งในนั้นตายไปแล้ว มันจึงเหลือแค่ 2 คน “ จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้น “คนหนึ่งคือหัวหน้าเขตตะวันตกตอนบนและอีกคนคือหัวหน้าเขตเหนือตอนล่าง ”
“ คนที่ตายไปคือตงมู่หลิน ”
จางหยูยังไม่ทันได้พูดอะไร จ้าวแห่งโลกพันเขตก็พูดขึ้นต่อ “ ข้าบอกเท่าที่ข้ารู้มา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่จะมียอดฝีมือคนอื่นอยู่อีก ตอนนั้นราชาตะวันออกปกครองโกลาหล ไม่มีใครกล้าเผยตัวออกมา ผู้ควบคุมขั้นที่ 9 หลายคนไม่ยอมออกมาจากโลก รวมไปถึงคนที่แกร่งพันเท่าด้วย ก่อนที่ราชาตะวันออกจะโด่งดัง มันไม่ขาดคนที่อยู่ระดับพันเท่ารึร้อยเท่า ดังนั้นแม้ว่าจะมีคนที่อยู่ระดับพันเท่ากำเนิดขึ้นมาใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ”
จางหยูพยักหน้า ข้อมูลนี้สามารถใช้ไว้อ้างอิงได้แต่เขาไม่ได้เอามันมาใส่ใจ
ใครกันจะชมคนอื่นนอกจากเจ้านายตัวเอง ?
“ แล้วตอนนี้มีผู้ควบคุมขั้น 9 มากเท่าไหร่กัน ? พวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหน ? ” จางหยูถามคำถามที่เขาอยากรู้มากที่สุด เขาหวังว่าจะเข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริงของผู้ควบคุมขั้นที่ 9
จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้น “จำนวนผู้ควบคุมขั้น 9 มีทั้งหมด 60 คน มี 4 คนที่อยู่ระดับพันเท่า สิบคนระดับ 100 เท่า คนที่เหลือ 10 เท่า” โชคดีที่ถามกับผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ระดับสูง หากถามผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ทั่วไปอาจจะได้คำตอบที่ต่างจากนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคำตอบของจ้าวแห่งโลกพันเขตน่ะใกล้เคียงกับความจริงมากที่สุด
“ มากกว่าที่ข้าคิดเอาไว้เสียอีก ” จางหยูรู้ว่าจำนวนผู้ควบคุมขั้นที่ 9 นั้นอาจจะมีมากกว่านี้ ยังไงซะเขาก็เคยพบผู้ควบคุมขั้น 9 ไม่น้อยกว่า 4 คน ถึงไม่นับอัลเวอร์ ก็มีกว่า 3 คน มันเห็นได้ว่าผู้ควบคุมขั้น 9 นั้นมีมากกว่านี้ แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีมากถึง 60 คน
จางหยูส่ายหน้าและพูดขึ้น “ ข้าถามจบแล้ว ” เขามองไปที่จ้าวแห่งโลกพันเขตแล้วพูดขึ้น “ ข้าจะไปที่วิหารอวี๋ฮุ่น เจ้าจะไปด้วยรึไม่ ?”
“ เมื่อข้ารับปากว่าจะรับใช้เจ้า 100 ปี เป็นธรรมดาที่ข้าจะตามไปด้วย ” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้น “ หากเจ้าไม่อยากให้ข้าไปด้วย ข้าก็จะไม่ไป”
จางหยูหัวเราะออกมา “ ในเมื่อเจ้าเต็มใจจะตามไป ข้าจะปฏิเสธได้ยังไง ?”
จ้าวแห่งโลกพันเขตพยักหน้าก่อนจะมองไปที่เสี่ยวเสียที่เกาะอยู่บนไหล่จางหยู “ เจ้านี่ เจ้าจะจัดการรึไม่ ?” บางทีมันอาจจะเป็นสัญชาตญาณที่อยากกำจัดจิตปฐมบทโกลาหล โดยเฉพาะการที่เสี่ยวเสียเข้ามาในโลกของเขา
“ ข้าขอแนะนำ นี่สัตว์เลี้ยงของข้า เสี่ยวเสีย ” จางหยูรู้สึกว่าไหล่ของเขาสั่นไหว เสี่ยวเสียขดตัวเป็นลูกบอลพลางตัวสั่น เขามองไปที่จ้าวแห่งโลกพันเขตแล้วพูดขึ้น “ เสี่ยวเสียภักดีกับข้า ไม่ต้องกังวล ”
ในสายตาผู้ควบคุมขั้นที่ 9 เสี่ยวเสียไม่ต่างอะไรจากสิ่งมีชีวิตทั่วไปเลย ตราบใดที่พวกเขาต้องการ แค่เพียงคิดก็กำจัดมันได้แล้ว
ผ่านไปสักพักทั้งสามคนก็ขึ้นไปยังพาหนะมิติเพื่อเดินทางไปยังโลกอวี๋ฮุ่น
ด้วยการที่มีจ้าวแห่งโลกพันเขตมาด้วย การเดินทางไปยังวิหารอวี๋ฮุ่นก็ทำให้จางหยูมั่นใจยิ่งกว่าเดิม เขาหวังว่าจ้าววิหารจะไว้หน้าเขาบ้าง
“ นี่คือพาหนะมิติของราชาตะวันออก” จ้าวแห่งโลกพันเขตเดินไปที่พาหนะด้วยสายตาหม่นลง แม้ว่าพาหนะจะไม่มีคลื่นพลังของราชาตะวันออกแล้ว แต่จ้าวแห่งโลกพันเขตก็เคยขึ้นเรือนี่มานับครั้งไม่ถ้วน เขารู้จักมันดี เขาจำมันได้ทันทีที่เห็น “ ในอดีตราชาตะวันออกได้พึ่งพาหนะมิตินี้หนีเอาตัวรอดมาได้หลายครั้ง หากไม่มีพาหนะนี่ ราชาตะวันออกคงไม่ประสบความสำเร็จแบบนี้ ”
ชัดแล้วว่าพาหนะนี่คือสิ่งที่สำคัญต่อราชาตะวันออกอย่างมาก
จ้าวแห่งโลกพันเขตยืนเงียบไปราวกับนึกถึงอดีต
เสี่ยวเสียที่อยู่บนไหล่จางหยูพยายามบ่มเพาะหนักกว่าที่เคย
ตอนนี้เสี่ยวเสียรู้สึกว่ามันตกอยู่ในอันตราย มันไม่ได้อ่อนแอกว่าศิษย์และอาจารย์ในสำนักเลย ตอนนี้มันเทียบได้กับผู้ควบคุมขั้น 8 !
ทั่วทั้งโกลาหลนั้นไม่มีจิตปฐมบทโกลาหลไหนที่จะแข็งแกร่งแบบนี้ได้ แต่โชคร้ายหากเทียบกับผู้ควบคุมขั้นที่ 9 แล้ว ความแข็งแกร่งของมันยังไม่เพียงพอ นี่ไม่ต้องนับยอดฝีมือที่อยู่ระดับ 1,000 เท่าเลย
“ บังอาจนัก ! “ เสี่ยวเสียโมโหยิ่งกว่าเก่า มันกัดฟันแน่น “ ข้าเสี่ยวเสียไม่อยากสั่นกลัวต่อหน้าผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ! ”