ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1739 ยอดฝีมือที่หลบซ่อน
เหมิงเกอนั้นโด่งดังก็เพราะมีผู้ควบคุมขั้นที่ 9 หลายคนที่ไม่ได้แสดงตัวออกมา ดังนั้นพวกต่ำกว่าขั้นที่ 9 หลายคนจึงรู้จักเขา
นอกจากจะสร้างความตะลึงให้กับคนที่รู้จักเขาแล้วเขตตะวันออกตอนบนนั้นไม่ได้วุ่นวายอะไรกับการตายของเหมิงเกอ กล่าวได้ว่าการที่จางหยูฆ่าเหมิงเกอมันแทบไม่ส่งผลอะไรเลย
แค่คนระดับ 10 เท่านั้นคือคนที่อยู่ระดับต่ำที่สุดของขั้น 9
จางหยูทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขายังคงเดินทางไปยังโลกต่างๆต่อพร้อมกับเสียวหลิงเอ๋อร์และเสี่ยวเสีย
โชคร้ายจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่พบกับยอดฝีมือที่ซ่อนตัวอยู่ ตั้งแต่ที่เขาเดินทางออกมาจากสำนักคังเฉียงจนถึงตอนนี้ นอกจากเหมิงเกอแล้วเขาก็ยังไม่พบผู้ควบคุมขั้น 9 คนที่สองเลย คนแบบเหมิงเกอเรียกว่าแข็งแกร่งไม่ได้ด้วยซ้ำ
ถึงอย่างนั้นตอนที่จางหยูเดินทางไปรอบๆเขาก็ต้องพบกับบางอย่างที่ทำให้เขาแปลกใจ
ผู้นำขั้น 8 !
หากดูจากเขตตะวันออกตอนบนในตอนนี้แล้วคนแบบนี้อาจจะไม่ได้น่าตกใจ แต่หากอยู่ในช่วงก่อนที่สำนักคังเฉียงจะพัฒนาและเขตตะวันออกตอนบนจะเติบโต คนแบบนี้ก็เพียงพอที่จะสร้างความฮือฮาขึ้นมาได้ ตอนนี้พวกนั้นกำลังแอบตามจางหยูอยู่
“เป็นแค่ผู้นำแต่คิดจะติดตามข้ารึ ?” จางหยูพูดขึ้น “ น่าสนใจดีนิ”
หากพวกเขาคิดจะตามมางั้นเป็นธรรมดาที่จางหยูจะไม่คิดอะไรมาก เมื่อพวกนี้ชื่นชมในตัวตนและความแข็งแกร่งของเขา การที่พวกเขาไม่ได้คิดจะปกปิดตัวตนก็เหมือนกับว่าพวกนี้อยากจะให้จางหยูรู้ตัวว่ามีคนตามอยู่ การกระทำแบบนี้ทำให้จางหยูสนใจขึ้นมา สองคนนี้คงไม่ได้มีเป้าหมายธรรมดา
แต่จางหยูไม่ได้กังวลว่าพวกนี้จะทำอะไร หากพวกเขาคิดจะตามมา งั้นเขาก็จะปล่อยให้พวกเขาตาม หากพวกนี้ไม่ทำอะไรเขา เขาก็จะปล่อยไป แต่หากพวกนี้หวังร้ายต่อเขา งั้นจางหยูก็จะสั่งสอนพวกเขา
ผ่านมาหลายวันผู้นำและผู้ควบคุมขั้น 8 ระดับสูงก็ยังตามจางหยูอยู่ห่างๆ
จางหยูไม่ได้คิดจะสลัดพวกนี้ ในทางกลับกันแล้วเขายังจงใจลดความเร็วลงเพื่อให้พวกนี้ตามทัน เขาสงสัยว่าสองคนนี้คิดจะทำอะไร ทั้งๆที่รู้ว่าเขาเป็นผู้ควบคุมขั้น 9 แต่ก็ยังเลือกที่จะตามเขาแบบนี้
จนวันที่เก้าจางหยูก็เดินทางไปถึงโลกที่ยังไม่ผ่านการเกิดใหม่ ตอนนั้นเองกลับมีเสียงหนึ่งดังกึกก้องขึ้นมา “จางหยู ออกมา !“
เสียงนี้แฝงไปด้วยความโกรธแค้นจนทำให้โลกสั่นไหวไปตาม
จางหยูแผ่การรับรู้ออกไปและพบตัวตนของอีกฝ่าย เขายิ้มออกมาทันที “ ไม่คิดเลยว่าจะจับปลาตัวโตได้ ! “
ระดับพันเท่า !
ระดับการบ่มเพาะที่เท่ากับจ้าวแห่งโลกพันเขตรึแกร่งกว่าเล็กน้อย
จางหยูลอยตัวขึ้นไปผ่านกำแพงโลกและปรากฏตัวตรงหน้าชายแก่
“ เจ้าคือจางหยูรึ ?” ชายแก่มองไปที่จางหยูด้วยท่าทีเฉยเมย “ เจ้าฆ่าเหมิงเกอรึ?”
“ ใช่” จางหยูพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย แม้จะอธิบายไปแต่ชายแก่ก็คงไม่ฟัง “ เจ้าคิดจะแก้แค้นให้เขารึ ?”
เดาไม่ออกเลยว่าชายแก่ผู้นี้เป็นญาติรึผู้อาวุโสของเหมิงเกอ
หาเรื่องเด็กแต่กลับมีผู้ใหญ่มาเอาเรื่องเลยรึ ?
“ ทันทีที่ขึ้นมาขั้นที่ 9 เจ้าก็ฆ่าเหมิงเกอ จางหยู เจ้าเป็นคนชั่วสินะ “ ชายแก่มองไปที่จางหยู “ แต่เมื่อเหมิงเกอตายไปแล้ว เจ้าก็ต้องตายตามเขาไปด้วย”
จางหยูยังไม่ทันได้เปิดปากพูด ชายแก่ก็พูดขึ้นต่อ “ จำไว้ว่าคนที่เจ้าฆ่าคือโจวทง เหมิงเกอเป็นศิษย์ของข้า !”
ต่อมาจิตผู้สร้างของโจวทงก็แผ่ออกมา มันดูยิ่งใหญ่ ไม่นานมันก็ทำให้เกิดวังวนอันน่ากลัวขึ้นมา
วังวนนี้ราวกับหลุมดำที่กลืนกินทุกอย่าง มันหมุนวนด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
ตอนที่มันหมุนได้ความเร็วระดับหนึ่งก็มีลำแสงถูกยิงออกมา
พลังของมันอัดแน่นและบริสุทธิ์ มันทำให้ลำแสงนี้น่ากลัวยิ่งกว่าเดิม !
“ เสี่ยวหลิงเอ๋อร์ไปหลบอยู่ด้านหลังข้า” ต่อหน้าการโจมตีนี้ จางหยูก็บอกเสี่ยวหลิงเอ๋อร์ทันที ตอนที่ลำแสงถูกยิงออกมา จางหยูก็ได้ยิ้มออกมา เขาไม่คิดที่จะหลบ เขาแค่สะบัดนิ้วออกไปเบาๆเพื่อรับมือกับลำแสง
ตอนนั้นเองก็มีแสงสว่างจ้าระเบิดออกมาลำแสงนั้นได้ปลดปล่อยพลังสร้างอันรุนแรงออกมา
พายุพลังงานก่อตัวขึ้นในจุดที่ลำแสงสัมผัสกับปลายนิ้วของจางหยู ก่อนที่จะสลายไป
จางหยูไม่ได้ขยับ เขายังยืนนิ่งราวกับว่าไม่ได้รับผลกระทบจากลำแสงนี้ นอกจากโล่พลังที่สั่นไหวเล็กน้อยแล้วเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรเลย เขายังยืนอยู่ใจกลางพายุพลังงาน จิตผู้สร้างแผ่ออกมา เท้าของเขาราวกับตอกตะปูไว้ที่นั่นไม่อาจจะขยับไปไหนได้
“ พันเท่า !” สีหน้าของโจวทงเปลี่ยนไป เขาแสดงสีหน้าเหลือเชื่อออกมา “ เจ้าเพิ่งขึ้นมาขั้นที่ 9 ไม่ใช่รึ ?”
คนที่เพิ่งขึ้นมาขั้นที่ 9 กลับอยู่ระดับพันเท่า นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน !
จางหยูไม่ได้รีบร้อน เขาจัดเสื้อผ้าตัวเองที่ยับและเงยหน้าขึ้นก่อนจะยิ้มออกมา “ ใครบอกเจ้าว่าคนที่เพิ่งขึ้นมาขั้นที่ 9 จะต้องอยู่ระดับ 10 เท่า?” การจะเอาเขาไปเทียบกับคนทั่วไปชัดแล้วว่าเป็นเรื่องที่ผิด
โจวทงยังไม่ทันได้พูดอะไร จางหยูก็พูดขึ้น “ เจ้าไปเถอะ ครั้งนี้ข้าจะไม่ถือสา หากมีอีกครั้งหน้า…” เขาพูดขึ้นอย่างช้าๆ “ ข้าจะส่งเจ้าไปหาเหมิงเกอ”
“ ระวังปากเจ้าด้วย” โจวทงกลัวจางหยูอย่างมาก แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาคิดที่จะหนี “ ในโกลาหลแห่งนี้คนที่แกร่งกว่าข้าอาจจะมีอยู่ แต่นั่นไม่ใช่เจ้า ! เจ้าสารเลว วันนี้หากฆ่าเจ้าไม่ได้ ข้าจะไม่ยอมไปไหน !”
เขาแผ่พลังพันเท่าออกมา พลังที่แม้แต่จ้าวแห่งโลกพันเขตก็ไม่อาจจะเอาชนะเขาได้
เมื่อได้ยินคำด่าของโจวทง จางหยูก็สีหน้าหม่นลง “ ดีมาก ในเมื่อเจ้าอยากตาย งั้นข้าก็จะทำให้สมปรารถนา !”
ครั้งนี้เขาไม่ได้ยั้งมืออีกต่อไป เขาแผ่จิตอันแข็งแกร่งออกมาเพื่อก่อตัวเป็นคุกขังโจวทงเอาไว้ คุกนี้ไม่ได้ใหญ่นักแต่มันแข็งแกร่งกว่าโลกจำลองเป็นหมื่นเท่า แม้แต่โจวทงที่อยู่ระดับพันเท่าก็ไม่อาจจะทลายคุกนี้ออกมาได้
เมื่อรับรู้พลังของคุกนี้ โจวทงก็สีหน้าเปลี่ยนไป “ เป็นไปได้ยังไงกัน !”
ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรคุกนี้ได้ ราวกับว่าเขาเป็นแค่ผู้นำแต่ต้องเผชิญกับผู้ควบคุมขั้น 9 ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจจะทลายมันออกไปได้
“ ตายซะ” จางหยูควบคุมให้คุกหดตัวลงเพื่อที่จะบดขยี้โจวทงทั้งเป็น
เมื่อเห็นว่าไม่อาจจะสลัดตัวออกไปได้ โจวทงก็เริ่มลนลาน ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาเริ่มอ้อนวอนขอความเมตตา “ ปล่อยข้าไปเถอะ ! นายท่าน ข้าผิดไปแล้ว ข้าขอโทษ ยกโทษให้ข้าด้วย !”
นิสัยของชายคนนี้ไม่อาจจะรับได้จริงๆ
“ เจ้าบอกว่ามีไม่กี่คนที่แกร่งกว่าเจ้าในโกลาหลแห่งนี้…” จางหยูหยุดการหดตัวของคุกและถามขึ้นมา “ เจ้าบอกได้รึไม่ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนและพวกเขาเป็นใครแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป ไม่งั้นแล้วเจ้าก็ต้องตามเหมิงเกอไป”
“ ขะ ข้าไม่มั่นใจ” โจวทงรับรู้ถึงอันตรายที่ถึงแก่ความตาย เสียงของเขาเริ่มสั่น
“ ไม่บอกรึ ?” จางหยูหรี่ตาลง
“ ไม่ ข้าบอกแล้ว” โจวทงรีบพูดขึ้นมา “ ข้ารู้แค่ว่ามันมียอดฝีมือที่หลบซ่อนในเขตตะวันตกตอนบน ความแข็งแกร่งนั้นเหนือกว่าข้ามาก ข้าพ่ายแพ้ชายคนนั้นมาแต่ชายคนนั้นลึกลับเกินไป ข้าไม่รู้ตัวตนของเขา นอกจากนี้ก็ยังมียอดฝีมือที่หลบซ่อนอีกคน นางเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งของนางน่ะแม้แต่ในเขตตะวันออกตอนบนก็ยังถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้า”
“นางอยู่ไหนกัน ?”
“ ข้าไม่รู้”
“ หากเจ้าไม่รู้ก็ตายไปซะ” จางหยูกำมือก่อนที่คุกจะหดตัวลง ในพริบตาร่างของโจวทงก็ระเบิดออกพร้อมกับจิตที่หายไป