ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1744 ไมโล
ซื่อซินรู้สึกถอดใจ เมื่อเริ่มรู้ว่าจางหยูนั้นอันตราย แม้ว่าจางหยูจะยังไม่ได้เอาจริง แต่ก็ทำให้เขารับรู้ถึงอันตรายที่ถึงแก่ชีวิตได้ทุกเวลา
ด้วยความแข็งแกร่งของจางหยูแล้ว ไม่ว่าเขาจะอยู่ระดับหมื่นเท่ารึไม่แต่มันก็ไม่สำคัญ
ยังไงซะสำหรับซื่อซินแล้ว จางหยูและคนระดับหมื่นเท่าก็ไม่ได้ต่างกันเลย พวกนี้ปลิดชีวิตเขาได้ตลอดเวลา
ตอนที่ซื่อซินอยากจะจบการประมือนั้น จิตผู้สร้างของจางหยูก็ได้สลายไป มันได้สร้างโลกจำลองขึ้นก่อนจะดึงซื่อซินเข้าไปด้านใน
สีหน้าของซื่อซินเปลี่ยนไปเล็กน้อยและรีบพูดขึ้น “เจ้าสำนัก ข้ายอมรับความพ่ายแพ้..” จางหยูขมวดคิ้ว เขาไม่ได้เจอคนที่รับมือเขาได้ง่ายๆ การใช้พลังสร้างของเขาพัฒนาขึ้นมาอย่างมาก เขาจะหยุดได้ยังไง?
“ เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก นี่แค่เพิ่งเริ่มต้น เรายังอุ่นเครื่องไม่เสร็จเลย การยอมรับความพ่ายแพ้ในตอนนี้น่ะไม่เร็วไปหน่อยรึ ?” จางหยูพูดขึ้น “ เราจะจำกัดเวลาที่ 1 เดือน อีก 1 เดือนจากนี้ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบไหนแต่ข้าก็จะไม่กดดันเจ้า”
1 เดือน ! ?
ซื่อซินสลดไปทันที แค่ในเวลาสั้นๆเขาก็ตกอยู่ในอันตรายที่ถึงกับชีวิตมาหลายครั้ง หากต้องสู้กันอีก 1 เดือน เดาว่าเขาคงตายเป็นหมื่นรอบแล้ว !
“ เจ้าสบายใจได้ ทุกครั้งที่ข้าลงมือ ข้าจะไม่ทำอันตรายเจ้าถึงแก่ชีวิต” จางหยูมองไปที่ซื่อซินแล้วพูดขึ้น
คู่ซ้อมที่ดีแบบนี้เป็นธรรมดาที่จางหยูจะหวงแหน เขาน่ะกังวลเรื่องความปลอดภัยของซื่อซินมากกว่าเจ้าตัวเสียอีก ซื่อซินมองไปที่จางหยูด้วยความสงสัย เขาไม่เข้าใจ จางหยูแข็งแกร่งถึงขนาดนี้แต่ทำไมถึงอยากเรียนรู้จากเขา ? การประมือนี้จะมีประโยชน์อะไร ? มันไม่ใช่การรังแกฝ่ายเดียวรึไง ?
หากจางหยูรู้ความคิดของซื่อซิน เขาอาจจะปล่อยซื่อซินไปก็ได้
ซื่อซินยังไม่ทันได้พูดอะไร จางหยูก็เปิดฉากโจมตีอีกครั้ง ลำแสงจิตผู้สร้างรวมตัวเป็นสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่ซื่อซิน สัตว์อสูรแต่ละตัวมีความแข็งแกร่งทัดเทียมผู้ควบคุมขั้น 9 ทั้งระดับสิบเท่า,และร้อยเท่า และมีจำนวนหนึ่งที่อยู่ระดับพันเท่าด้วย มันกดดันซื่อซินอย่างมาก
แต่การโจมตีระดับนี้ไม่อาจทำอะไรซื่อซินได้
ลำแสงส่องประกายขึ้นมาในมือซื่อซิน ก่อนจะมีไม้เท้าปรากฏขึ้นมา เขายกมันขึ้นแล้วฟาดออกไปเบาๆก่อนที่ไม้เท้าจะระเบิดแสงออกมา แสงนี้มีพลังสร้างอันน่ากลัว ไม่ว่าแสงนั้นจะผ่านไปที่ไหนก็ขับไล่ความมืดมิดออกไปได้ สัตว์อสูรนับไม่ถ้วนถูกทำลายไปในทันที
มีไม่กี่คนที่ใช้ไม้เท้าเป็นอาวุธ จางหยูเคยเห็นมาแค่สองคน และซื่อซินก็เป็นคนที่สอง
“ เอาอีก” จางหยูพอใจกับความแข็งแกร่งของซื่อซิน เขารู้สึกได้ว่าการใช้พลังสร้างของตัวเองพัฒนาขึ้นทีละนิดๆ แม้ว่าความเร็วในการพัฒนาจะไม่เท่ากับตอนที่สู้กับจ้าวแห่งโลกพันเขต แต่ก็น่าประทับใจอย่างมาก หากเทียบกับการบ่มเพาะด้วยตัวเองแล้ว วิธีนี้มีประสิทธิภาพมากกว่าหลายเท่า
จางหยูโจมตีหลากหลายวิธี การโจมตีแต่ละอันต่างก็ยั้งพลังเอาไว้เพื่อไม่ทำอันตรายต่อซื่อซินรึทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหนัก
จางหยูแค่อยากทำความเข้าใจการใช้พลังสร้างเท่านั้น
…
การที่จางหยูและซื่อซินประมือกันนั้นทำให้ผูเคนมากมายสนใจ
แม้แต่แมนด้าและผู้ควบคุมขั้น 9 คนอื่นๆก็แห่กันมาที่นี่ แม้ว่าจะไม่ได้เห็นจางหยูและซื่อซิน แต่พลังอันน่ากลัวที่แผ่ออกมาก็ทำให้พวกเขาใจสั่นได้
“ แข็งแกร่งจริงๆ !”
“ ใครกันที่สู้กับเจ้าสำนัก ?”
“ ชายแก่ตะกี้เป็นใครกัน ?”
“ มันมีคนแกร่งแบบนั้นในเขตตะวันตกด้วยรึ !”
“ ชายแก่คนนี้คือจ้าวแห่งเขตตะวันตก…ไมโลรึ ?”
ผู้ควบคุมขั้น 9 ที่ดูการต่อสู้อยู่ต่างก็พากันทึ่ง
“ ชายคนนี้คือซื่อซิน เขาคือคนเก่าแก่เมื่อสองล้านปีก่อน” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งพูดขึ้นมา “ เขาเคยต่อสู้กับราชาตะวันออกมาและได้รับการยอมรับจากราชาตะวันออก เขาคือคนที่มีแววว่าจะขึ้นไประดับสูงสุดของโกลาหลในเขตตะวันตกได้!”
แมนด้าและคนระดับสิบและร้อยมองไปที่ชายวัยกลางคน พวกเขาทั้งเชื่อและไม่เชื่อ “ เจ้ารู้ได้ยังไง ?”
“ เพราะข้าคือไมโล” ชายวัยกลางคนตอบกลับ
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนมองไปที่ไมโลด้วยความตะลึง จ้าวแห่งเขตตะวันตกในตำนานไมโลรึ ?
ทุกคนพากันมองหน้ากันก่อนจะทำความเคารพไมโล “คำนับท่านไมโล”
ใครกันจะกล้าดูหมิ่นตำนานแบบนี้ ?
“ ไม่ต้องมากพิธีไป” ไมโลเหมือนรับรู้ได้ถึงความตะลึงของทุกคน เขายังคงแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมา “ ข้าแข็งแกร่งก็จริงแต่ไม่ได้สูงส่งอะไร แม้ว่าข้าจะมีชื่อเสียงแต่หากเทียบกับยอดฝีมือที่แท้จริงแล้ว ข้าก็แตกต่างจากพวกเขาไม่ใช่น้อย นี่ไม่ต้องพูดถึงในพื้นที่อื่นๆเลย แค่ในเขตตะวันตกนั้น จิตที่บรรพชนผู้นี้แผ่ออกมาก็แข็งแกร่งกว่าข้าแล้ว ข้าไม่อาจจะเป็นคู่มือของเขาได้”
“ ท่านไมโลเคยสู้กับผู้อาวุโสผู้นี้รึ ?” คนระดับร้อยเท่าคนหนึ่งถามขึ้นมา
ไมโลมองไปที่พายุตรงหน้า เขาคิดถึงภาพในอดีตแล้วถอนหายใจออกมา “ ตอนที่ข้ายังบ้าบิ่นไม่กลัวใคร ข้าคิดว่าคนระดับพันเท่าได้ยืนอยู่จุดสูงสุดของโกลาหล จึงไม่เห็นใครอยู่ในสายตา เมื่อได้ยินจากเพื่อนเรื่องผู้อาวุโสท่านนี้ ข้าจึงมาท้าทายเขาถึงที่”
ไมโลยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ น่าตลก ข้ายังไม่ทันได้เจอกับผู้อาวุโส แต่แค่การโจมตีจากที่ไกลๆก็ทำให้ข้าไม่อาจจะสู้ได้ต่อ”
ลอบโจมตี ?
ไม่ ไมโลไม่คิดว่ามันเป็นการลอบโจมตีเพราะเขาไม่ได้เห็นแม้แต่การโจมตีด้วยซ้ำ เขพ่ายแพ้ไปในทันที
ทุกคนพากันแสดงสีหน้าตะลึงออกมาและมองไปที่ไมโล ซื่อซินน่ากลัวขนาดนั้นเลยรึ ?
แม้แต่ไมโลก็ยังไม่อาจจะเป็นคู่มือได้รึ ?
“ การบ่มเพาะของท่านซื่อซินนั้นใกล้เคียงกับระดับหมื่นเท่า” ไมโลพูดขึ้น “ ดูจากทั้งโกลาหลแล้วข้าเกรงว่ามีน้อยคนนักที่จะเทียบกับท่านซื่อซินได้…ข้าคิดว่าเจ้าสำนักที่ว่านี้อย่างมากก็แกร่งทัดเทียมกับข้า ถึงจะเหนือกว่าข้าแต่ก็คงไม่มากนัก แต่ตอนนี้เห็นได้แล้วว่าข้าประเมินเขาต่ำเกินไป”
การที่ทัดเทียมกับซื่อซินได้และถึงกับรับมือกันได้อย่างสูสีนี้เขาจะไปเทียบได้ยังไง ?
“มีคนบอกว่าแม้ว่าจำนวนคนในเขตตะวันออกตอนบนจะน้อยแต่พรสวรรค์นั้นเหนือกว่าเขตที่เหลือ กว่าล้านปีก่อนมีราชาตะวันออกกำเนิดขึ้นมา ผ่านมากว่าล้านปีก็มีอัจฉริยะอีกคนกำเนิดขึ้นมา” ไมโลถอนหายใจ “ ดูเหมือนว่าจะเป็นความจริง !”
บางคนไม่อาจจะยอมรับได้ “ พวกเขามีผู้ควบคุมขั้น 9 น้อยกว่าเราไม่ใช่รึ เราจะกลัวทำไม ?”
ไมโลมองไปที่อีกฝ่ายและพูดขึ้น “ คนของเราอาจจะอยู่ระดับสิบเท่า, ร้อยเท่ารึแม้แต่พันเท่า แต่คนอย่างราชาตะวันออกนั้นสามารถปกครองโกลาหลได้ !”
อีกฝ่ายพูดอะไรไม่ออกเมื่อความแข็งแกร่งขึ้นไปสูง สุดท้ายจำนวนก็ไร้ความหมาย
หากใช้จำนวนคนเพื่อจัดการกับราชาตะวันออก งั้นพวกเขาก็มีแต่จะเสียเปรียบ
“ ผ่านมาล้านปี เขตตะวันออกตอนบนกลับมีผู้ไร้เทียมทานกำเนิดขึ้นมาอีกรึ ?” ไมโลแสดงสีหน้าอับอายออกมา “ เจ้าสำนักของสำนักคังเฉียงผู้นี้หากเทียบกับราชาตะวันออกแล้วดูเหมือนว่าจะน่าทึ่งกว่า…ทำไมคนแบบนี้ถึงกำเนิดขึ้นมาในเขตตะวันออกตอนบนไม่ใช่เขตตะวันตกของเรากัน ?”
ทุกคนพากันหนักใจขึ้นมา
เขตตะวันออกตอนบนมีอะไรดีถึงทำให้คนที่ไร้เทียมทานแบบนี้กำเนิดขึ้นมาได้?
“ ท่านคิดว่าเจ้าสำนักและท่านซื่อซินใครจะเป็นฝ่ายชนะ ?” คนระดับสิบเท่าคนหนึ่งถามขึ้นมา
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นทุกคนต่างก็มองไปที่ไมโล พวกเขามองไม่ออก คงมีแต่ไมโลที่จะบอกพวกเขาได้
เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของทุกคน ไมโลก็ได้พูดขึ้น “ จากการสังเกตเมื่อตะกี้ พลังที่ท่านซื่อซินใช้ออกมานั้นข้ากลัวว่าคงจะเต็มที่แล้ว แต่เจ้าสำนักยังแสดงท่าทีสบายๆอยู่ เขาเหมือนจะเหลือพลังอยู่…” แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินคำพูดของจางหยูและซื่อซิน ทั้งยังมองพลังของทั้งสองไม่ออก แต่เขาก็พอตัดสินได้จากสถานการณ์ในการต่อสู้ “ ในความเห็นของข้าแล้ว นอกซะจากว่าท่านซื่อซินจะมีไพ่ลับ ไม่งั้นโอกาสที่เขาจะชนะก็น้อยอย่างมาก”
อันที่จริงพวกระดับสิบเท่าและร้อยเท่าก็พอรู้สึกได้ แต่พวกเขาหวังคำตอบที่ต่างจากในใจของพวกเขาจากปากไมโล แต่ผลลัพธ์กลับทำให้พวกเขาผิดหวัง