ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1749 ผู้อาวุโสซังแกร่งเกินไป
เพื่อไม่ให้ซังหนานเทียนตื่นกลัว จางหยูก็ใช้พลังที่น้อยกว่าตอนที่สู้กับซื่อซินเล็กน้อย เขาทำใช่ท่าการโจมตีทั้งหมดออกไป เพื่อทดสอบว่าซังหนานเทียนจะรับมือได้รึไม่
จางหยูได้ต่อยออกไปพร้อมกับเกิดเสียงดังสนั่นขึ้นก่อนจะมีพายุก่อตัวขึ้นมาและพุ่งเข้าใส่ซังหนานเทียน ในเวลาเดียวกันพลังจากหมัดก็เปลี่ยนเป็นสัตว์อสูรพุ่งเข้าใส่ซังหนานเทียน
เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังสร้างที่น่าทึ่ง ซังหนานเทียนก็สีหน้าจริงจังขึ้นมา “ ไม่แปลกเลยที่กล้าท้าทายข้า เจ้าพอมีทักษะอยู่บ้าง !”
ตัวของซังหนานเทียนสั่นไหวก่อนจะปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าสัตว์อสูร เขาต่อยออกไปก่อนจะมีเสียงระเบิดขึ้น จากนั้นตัวของสัตว์อสูรก็ระเบิดออก พลังการสร้างของทั้งสองได้ปะทะกันจนก่อให้เกิดพายุอันน่ากลัวกระจายออกไปโดยรอบ พายุอันน่ากลัวนี้ได้ซัดเข้ามาในจุดที่หงอีอยู่อย่างจัง
โชคดีที่นางยังอยู่ในเขตของโลกอยู่ นางไม่ได้อยู่ในโกลาหลภายนอก ดังนั้นหงอีจึงไม่ได้รับผลกระทบจากพายุพลังงานนี้
“ ความแข็งแกร่งของเขา….เหนือกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ เขาแกร่งจริงๆ !” หงอีมองจางหยูด้วยสีหน้าตกตะลึง แม้จะรู้ว่าความแข็งแกร่งของจางหยูนั้นโดดเด่นแค่ไหน แต่เมื่อเห็นจางหยูแสดงความแข็งแกร่งอันน่ากลัวออกมา หงอีก็อดไม่ได้ที่จะใจสั่น ในใจนางเต็มไปด้วยความสับสน
นี่สิวีรบุรุษที่แท้จริงที่นางใฝ่ฝันถึง !
ครั้งแรกที่นางได้พบกับจางหยู นางคิดว่าจางหยูเป็นแค่ผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ทั่วไป แต่หลังจากที่จางหยูได้กำจัดคำสาปให้กับนาง นางก็รู้ว่าจางหยูแข็งแกร่งกว่าที่นางคิดเอาไว้ แต่แกร่งแค่ไหนนั้นนางไม่อาจจะรู้ได้ จนกระทั่งข่าวที่จางหยูฆ่าโจวทงเผยแพร่ออกมา นางก็ตัดสินแล้วว่าจางหยูนั้นขึ้นไปถึงระดับพันเท่าแล้ว และเกรงว่าอาจจะอยู่ระดับแนวหน้าในหมู่พันเท่าด้วยซ้ำ
ตอนนั้นเองที่นางเพิ่งรู้ว่านางเริ่มสนใจชายหนุ่มที่นางมองข้ามไปมาตลอดคนนี้แล้ว
นางยอมรับว่าคนแบบนี้น่าทึ่งและยากที่นางจะคว้ามาครองได้
จางหยูผ่านเกณฑ์ที่นางตั้งไว้กว่าครึ่ง !
แม้ว่ามันจะไม่ได้ทำให้นางตกหลุมรักจางหยู แต่นางก็รู้สึกกับจางหยูดีขึ้นอย่างมาก นางถึงกับเพ้อฝันถึงวันเวลากับ จางหยูอยู่บ่อนครั้ง
ถ้าความแข็งแกร่งที่จางหยูแสดงออกมาด้วยการฆ่าโจวทงนั้นผ่านเกณฑ์สำหรับหงอีแล้ว งั้นความแข็งแกร่งที่จางหยูแสดงออกมาในตอนนี้ก็เหนือกว่าเกณฑ์ที่นางตั้งเอาไว้แล้ว นางถึงกับรู้สึกละอายใจ นี่เป็นครั้งแรกที่ขึ้นมาถึงขั้นที่ 9 แล้วนางรู้สึกเช่นนี้
แกร่งเกินไป !
สามารถเผชิญหน้ากับซังหนานเทียนได้โดยไม่มีท่าทีเหนื่อยล้า ความแข็งแกร่งแบบนี้เพียงพอที่นางจะสนใจ !
“ เด็กน้อย ข้าดูถูกเจ้าไป” ซังหนานเทียนแสดงสีหน้าหนักใจออกมา “ แค่หมัดนี้หากเป็นคนอื่นในโกลาหลคงไม่อาจจะรับไหว ความแข็งแกร่งของเจ้านั้นข้าเกรงว่าเกือบจะถึงระดับหมื่นเท่าแล้วสินะ ?”
จางหยูทำท่าตะลึง “ ผู้อาวุโสซัง…ก็แข็งแกร่งจริงๆ !”
พวกเขายังสู้กันต่อ
“หมัดนี้หากไม่เอาจริงเจ้าอาจจะจัดการข้าได้ ” ซังหนานเทียนมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าตะลึง ในใจเขารู้สึกยินดีขึ้นมา “ แต่เจ้าไม่ได้อ่อนแอ ความแข็งแกร่งด้วยวัยเช่นนี้น่ะข้าไม่เคยพบมาก่อน แม้แต่ราชาตะวันออกก็ยังด้อยกว่าเจ้า ”
จางหยูไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก ก่อนจะพูดออกมาว่า “ เลิกไร้สาระแล้วมาสู้กันเถอะ ! “
เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อพูดคุยกับซังหนานเทียน
เมื่อได้ยินที่จางหยูพูดมา ซังหนานเทียนก็พูดต่อ “ตอนแรกข้าไม่ได้สนใจจะเรียนรู้จากเจ้า แต่ตอนนี้ข้าสนใจขึ้นมาแล้ว มาสิไอ้หนู ให้ข้าได้รับรู้ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเจ้าที ข้าไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเช่นนี้ตั้งแต่ที่สู้กับราชาตะวันออก ข้าไม่ได้เอาจริงมาหลายปีแล้ว ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง” novel-lucky
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางหยูก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมราชาตะวันออก ปรากฏว่าราชาตะวันออกได้ท้าสู้กับยอดฝีมือมามากมาย ทั้งซื่อซิน, ซังหนานเทียนต่างก็เคยสู้กับเขา ไม่รู้เลยว่าราชาตะวันออกใช้วิธีใดถึงตามหาตัวยอดฝีมือที่หลบซ่อนแต่ละคนเจอ
“ เด็กน้อย เจ้าคิดอะไรอยู่ ?” เมื่อเห็นว่าจางหยูยืนนิ่ง ซังหนานเทียนก็เร่งขึ้นมา “ เจ้าอยากประมือกับข้าไม่ใช่รึ ? เมื่อเห็นพลังของข้าแล้วเจ้ากลัวขึ้นมารึ ?”
มุมปากของจางหยูกระตุกขึ้นมา
กลัว ? จะว่าไปเขาก็กลัวนิดๆ เขากลัวว่าหากเอาจริงขึ้นมาจะบังเอิญฆ่ารึทำให้ซังหนานเทียนบาดเจ็บ
“ ใจเย็นๆก่อน ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาเอาจริง ” จางหยูไม่อยากเผยความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมา จนทำให้ซังหนานเทียนกลัว
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆและควบคุมพลังเพื่อโจมตีซังหนานเทียนอีกรอบ
จิตผู้สร้างแผ่ออกมาก่อนจะทำการสร้างโลกจำลองขึ้น ในพริบตาจางหยูและซังหนานเทียนได้เข้าไปในโลกจำลอง ร่างของทั้งสองหายไปในโลก ซังหนานเทียนยังไม่ทันได้พูดอะไร จางหยูก็ได้ทำการโจมตีออกมา การโจมตีนี้ยังออมแรงเอาไว้ มันเป็นหมัดธรรมดาแต่ดูราวกับหมัดโลก !
“ ดี !” ความคึกของซังหนานเทียนถูกปลุกขึ้นมา เขาได้พุ่งออกมาเพื่อรับมือกับการโจมตีของจางหยู
พลังสร้างอันน่ากลัวทำให้โลกจำลองสั่นไหว แต่โลกจำลองก็สั่นไหวแค่ไม่กี่ครั้งก่อนจะหยุดลง พลังสร้างระดับนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นภัยต่อมัน
“ เจ้าลงมือได้ช้าเกินไป น่าเบื่อ ” ซังหนานเทียนไม่อาจจะทนรอหมัดของจางหยูได้ เขาได้พุ่งเข้าหาจางหยูโดยตรง ร่างของเขาหายไปในพริบตา ในวินาทีต่อมาเขาก็ได้ปรากฏตัวตรงหน้าจางหยู และต่อยเข้าใส่จางหยู
จางหยูพอใจอย่างมาก นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการอยู่แล้วรึ ?
แต่ภายนอกเขาก็ยังทำท่าตกใจและรีบรับมือกับหมัดของซังหนานเทียนเอาไว้
เมื่อหมัดโดนกันเอาไว้ได้ ซังหนานเทียนก็เปลี่ยนตำแหน่งอีกครั้งก่อนจะต่อยเข้าใส่จางหยู
ในพริบตาทั้งสองก็ปะทะกันนับครั้งไม่ถ้วน การปะทะกันในแต่ละครั้งทำให้โลกจำลองเกิดการสั่นไหวขึ้นมา มันระเบิดพลังงานอันน่ากลัวออกมา มันน่ากลัวจนทำให้ผู้คนใจสั่นไปด้วย จางหยูพอใจอย่างมาก การปะทะกันแต่ละครั้งนั้นเขาทำท่าเกือบรับมือไม่ไหว หลังจากนั้นเขาก็ทำท่าบาดเจ็บ แต่ก็ทำให้ซังหนานเทียนไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้ทนสู้ได้นานแบบนี้ จางหยูยังรับมือได้ทุกครั้ง อาการบาดเจ็บเล็กน้อยเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลต่อการต่อสู้ราวกับการโจมตีต่างๆที่จางหยูใช้ออกมานั้นไม่ได้รับผลกระทบกับบาดแผลเลย
“ แปลกจริงๆ ” ซังหนานเทียนรู้สึกแปลกๆแต่เขายังมองไม่ออกว่าต้นเหตุมันเพราะอะไร หากจะโทษก็คงต้องโทษจางหยูที่แสดงสมบทบาทเกินไป
จางหยูแอบชมซังหนานเทียนอยู่ในใจ ความแข็งแกร่งของซังหนานเทียนหากเทียบกับซื่อซินแล้วแกร่งกว่าอย่างมาก ประมือกันไม่นานก็ทำให้จางหยูรู้สึกได้ถึงการพัฒนาได้อย่างชัดเจน การใช้พลังสร้างของเขาพัฒนาอย่างรวดเร็ว เดาว่าหากปะทะกันอีกสัก 2-3 รอบการใช้พลังสร้างของเขาแม้ว่าจะเทียบกับซังหนานเทียนไม่ได้ แต่คงไม่ด้อยกว่ากันมากนัก
“ เจ้าคือคนที่อึดที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมา ! ” ซังหนานเทียนมองไปที่เลือดที่ไหลจากมุมปากของจางหยูและพูดขึ้น “ แม้จะบาดเจ็บแต่ก็ยังรับมือกับข้าได้ มันไม่ได้ส่งผลต่อการต่อสู้เลย ในเรื่องนี้เจ้าแกร่งกว่าข้าซะอีก !”
สำหรับคนอื่นแล้วตราบใดที่บาดเจ็บจะส่งผลต่อความสามารถในการต่อสู้ ยิ่งบาดเจ็บหนักเท่าไหร่ พลังในการต่อสู้ก็ยิ่งลดลงเท่านั้น แต่จางหยูกลับไม่ได้รับผลกระทบจากบาดแผลเลย ราวกับว่าเขาไม่ได้บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ไม่แปลกที่ซังหนานเทียนจะรู้สึกแปลกๆ
ซังหนานเทียนจะรู้ได้ยังไงว่าจางหยูแสร้งบาดเจ็บเพื่อปกปิดความแข็งแกร่งที่แท้จริง เพื่อไม่ให้ซังหนานเทียนหวาดกลัว เขาน่ะไม่ได้บาดเจ็บ เขาแค่เสแสร้ง เขาจะได้รับผลกระทบจากบาดแผลได้ยังไง ?
จางหยูยังไม่ทันได้ตอบอะไรกลับ ซังหนานเทียนก็ลงมืออีกครั้ง ในเวลาเดียวกันเขาก็พูดขึ้น “ ข้าอยากเห็นขีดจำกัดของเจ้าว่าเจ้าจะอดทนได้นานแค่ไหน …ข้าต้องยอมรับว่าการได้รังแกเจ้านี่รู้สึกดีจิงๆ” แม้แต่ซังหนานเทียนก็ยังอดไม่ได้ที่จะติดใจกับความรู้สึกนี้