ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1753 การตัดสินใจของหงอ
ซังหนานเทียนไม่รู้ความคิดของจางหยู ไม่งั้นแล้วเขาคงรู้สึกผิดที่บอกจางหยูเรื่องตำนานของวิหารอวี๋ฮุ่น
“ เด็กน้อย เพื่อไว้หน้าหงอีแล้ว ข้าจะเตือนเจ้าอีกครั้งวิหารอวี๋ฮุ่นนั้นยังมีไพ่ลับที่เราไม่รู้อยู่ เจ้าท้าทายผู้หญิงคนนั้นได้ แต่อย่าสร้างปัญหามากเกินไป นี่คือคำแนะนำจากข้า ” ซังหนานเทียนพูดขึ้น
จางหยูไม่ได้มองข้ามและพูดขึ้น “ ขอบคุณผู้อาวุโสซังที่เตือน ”
ยิ่งไพ่ลับของวิหารอวี๋ฮุ่นแข็งแกร่งเท่าไหร่ จางหยูก็ยิ่งพอใจเท่านั้น
“ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะฟังข้ารึไม่ ” ซังหนานเทียนถอนหายใจออกมา “ หากเจ้าตายมาจริงๆ หงอีคงต้องเศร้า ”
คำพูดนี้จางหยูไม่รู้จะตอบกลับยังไง เขาเหมือนไม่อยากตอบกลับ เขาเลือกที่จะลบโลกจำลองแทน
ร่างของทั้งสองได้ปรากฏขึ้นในโกลาหลอีกครั้ง
“ จางหยู !” หงอีเห็นจางหยูยังปลอดภัยก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “ เจ้าไม่เป็นไร ”
ซังหนานเทียนพูดขึ้น “ สาวน้อย เจ้าควรเป็นห่วงข้ามากกว่า ไม่ใช่เจ้าเด็กนี่ ! ”
หงอีหน้าแดงขึ้นมาซึ่งทำให้นางดูน่าหลงใหลกว่าเก่า
“ เหล่าซัง พูดตลกไปแล้ว ท่านน่ะแข็งแกร่งจะเกิดอะไรกับท่านได้ยังไง?” หงอีพูดขึ้น
“ ดูเหมือนว่าข้าจะเดาถูก เจ้าชอบเขาจริงๆ ” ซังหนานเทียนอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า “ เจ้าชอบคนที่แข็งแกร่งและเด็กนี่ก็ยังหนุ่มยังแน่น อีกทั้งความแข็งแกร่งก็เหนือกว่าคนอื่น การที่เจ้าชอบเขานั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ” “ เหล่าซังพูดไร้สาระไปแล้ว จางหยูเป็นสหายของข้า ข้าเป็นห่วงเขาก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่รึ ?”
จางหยูกระแอมออกมาและพูดขึ้น “ผู้อาวุโสซัง อย่าพูดเช่นนั้นเลย สำนักคังเฉียงนั้นไม่ได้สนใจเรื่องความรัก พรสวรรค์ของหงอีนั้นสูง คนสูงส่งเช่นนี้ข้าไม่คู่ควรหรอก ”
ไม่ว่าหงอีสนใจเขารึไม่แต่เขาก็ต้องพูดเอาไว้ก่อนเพื่อไม่ให้มีปัญหาในอนาคต
หงอีสวยก็จริงและยากจะหาคนที่สวยกว่านางได้ นางมีบุคลิกที่พิเศษ นางเย็นชาและหยิ่งทะนงราวกับเทพธิดาแต่บางครั้งก็เผยให้เห็นด้านที่อ่อนโยน มันทำให้นางน่าหลงใหลยิ่งกว่าเก่า แต่ถึงอย่างนั้นจางหยูก็ไม่อยากแตะต้องผู้หญิงคนไหน เพราะผู้หญิงมักจะสร้างปัญหาให้กับเขา
เมื่อได้ยินคำพูดของจางหยู หงอีก็ใจสั่น สายตาของนางหม่นลงแต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมา “ จางหยู เจ้าถ่อมตัวเกินไปแล้ว ตราบใดที่เจ้าเต็มใจ ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่เจ้าไม่คู่ควร ข้าต่างหากที่นอกจากหน้าตาที่ดูดีแล้วก็ไม่มีอะไรที่คู่ควรกับเจ้าเลย “
“ อย่าเข้าใจข้าผิด ข้าไม่ได้หมายถึงเช่นนั้น ” แม้ว่าจางหยูจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับหงอี แต่เขาก็มองหงอีเป็นเพื่อน เป็นธรรมดาที่เขาไม่อยากให้หงอีคิดว่าเขาไม่ชอบนาง
ซังหนานเทียนพูดขึ้นมา “ เอาล่ะ เรื่องของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง หากไม่มีอะไรแล้วพวกเจ้าก็รีบไปกันได้แล้ว อย่ารบกวนการรักษาตัวของข้า “
หงอีเบิกตากว้าง “ เหล่าซัง ท่านบาดเจ็บรึ ”
สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความตะลึง มันจริงอย่างที่เสี่ยวเสียและเสี่ยวหลิงเอ๋อร์บอกมารึ ?
ซังหนานเทียนไม่มีทางเลือกอื่น “ เด็กนี่ชัดแล้วว่ามีความแข็งแกร่งระดับหมื่นเท่าแต่แสร้งทำเป็นอ่อนแอ หากไม่ใช่เพราะข้าแข็งแกร่ง ข้าคงตายไปแล้ว” “ ไม่ขนาดนั้น” เมื่อเห็นสายตาที่หงอีมองมา จางหยูก็รีบพูดขึ้น “ ข้าประเมินไว้แล้ว ด้วยความแข็งแกร่งของผู้อาวุโส มันไม่ได้มีอันตรายอะไร…อาการบาดเจ็บนี้ใช้เวลาไม่นานก็หายดี”
“ ข้าไม่อยากคุยกับเจ้า ไปได้แล้ว” ซังหนานเทียนกัดฟันแน่น เขาไม่ชอบให้ใครมารบกวน อีกทั้งเขายังบาดเจ็บด้วย มันไม่แปลกที่เขาจะหงุดหงิด novel-lucky
หากไม่ใช่เพราะจางหยูแกร่งกว่า ซังหนานเทียนอาจจะแสดงท่าทีไม่ดีออกมาแล้ว
“ แต่ท่านบาดเจ็บ มันไม่เป็นไรรึ ?” หงอีกังวล
“ ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ตายหรอก “ ซังหนานเทียนโบกมือ “ ตราบใดที่เจ้าพาเจ้าหนูนี่ออกไปและไม่รบกวนข้า ข้าก็จะหายดีเอง”
จางหยูได้แต่ยิ้มแห้งๆออกมา หากไม่ใช่เพราะไว้หน้าหงอี เขาก็อยากอัดซังหนานเทียนจริงๆ ซังหนานเทียนมักจะพูดกับคนอื่นแบบนี้รึ? “ ขอให้ท่านหายไวๆ” หงอีทำความเคารพซังหนานเทียน “ แล้วข้าจะมาเยี่ยมท่านอีก ”
“ ไปกันเถอะ”
….
ไม่นานหลังจากนั้นหงอีก็เดินทางออกมาพร้อมกับจางหยู ซังหนานเทียนก็ได้กลับไปที่ดาวแดง
“ หงอี” หลังจากที่เดินทางได้สักพัก จางหยูก็หยุดและพูดขึ้น “ ครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยเหลือ ข้าจะไปยังวิหารอวี๋ฮุ่นต่อ ข้าคงไม่รบกวนเจ้าแล้ว” เขาเงียบไปชั่วครู่แล้วพูดต่อ “ หากเจ้ามีปัญหาอะไรก็จงไปที่สำนักคังเฉียง ข้าสามารถช่วยได้ ”
ตอนนี้จางหยูมีสิทธิ์ที่จะพูดแบบนั้น
“ ท่านจะไปทำอะไรที่วิหารอวี๋ฮุ่น ?” หงอีไม่ได้รีบตอบกลับแต่ถามขึ้นมาแทน
“ ไปหาคนประมือด้วย ” จางหยูตอบกลับตามจริง “ ใครกัน ?”
“ ผู้หญิงคนหนึ่ง ” จางหยูแสดงสีหน้าจริงจังออกมาและพูดขึ้น “ ผู้หญิงคนนั้นอาจจะแกร่งกว่าผู้อาวุโสซัง”
เขาไม่มั่นใจว่านางแกร่งแค่ไหนแต่เขามั่นใจว่านางต้องไม่ได้อ่อนแอกว่าซังหนานเทียน
หงอีรู้สึกถึงอันตราย สัญชาตญาณของนางบอกว่าผู้หญิงที่จางหยูพูดถึงนั้นเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวที่สุดของนาง
เมื่อคิดได้แบบนั้นหงอีก็ถามขึ้นมา “ ข้าไปด้วยได้รึไม่ ?”
หงอีหน้าแดงขึ้นมาและรีบอธิบาย “ ข้าแค่สงสัย ข้าอยากตามไปดูความแข็งแกร่งของวิหาร….หากท่านไม่เต็มใจ ข้า…” นางพูดไปได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
จางหยูหมดหนทางและพูดขึ้น “ เมื่อเจ้าสงสัย งั้นก็ไปกับข้า ตราบใดที่เจ้าไม่สร้างปัญหาก็เพียงพอแล้ว” “ ขอบคุณ ” หงอีถอนหายใจออกมาและพูดขึ้น “ ท่านไม่ต้องเรียกข้าว่าหงอีก็ได้ ท่านเรียกข้าว่าหงเฉยๆก็ได้ เหล่าซังและเพื่อนข้ามักจะเรียกข้าแบบนั้น”
“ ก็ได้ ” จางหยูไม่ได้คิดอะไรมาก เขาไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เขาแค่ควบคุมพาหนะมิติให้เดินทางไปยังเขตใต้ตอนล่างมุ่งหน้าไปที่วิหารอวี๋ฮุ่น
หงอีทำท่าทำความเข้าใจการสร้าง แต่นางยังคงคอยชำเลืองมองจางหยูอยู่ตลอด นางไม่มั่นใจว่านางชอบจางหยูจริงรึไม่ หรือเพราะจางหยูแข็งแกร่งจึงทำให้นางสนใจขึ้นมา จริงๆแล้วหงอีก็รู้สึกดีกับจางหยู แต่ความรู้สึกดีแบบนี้นางกลัวว่าจะมาจากความแข็งแกร่งของจางหยู หากจางหยูเป็นแค่ผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ทั่วไป นางจะชอบเขาแบบนี้อยู่รึไม่ ?
หงอีได้ทบทวนความรู้สึกของตัวเอง นางมั่นใจอย่างมากว่าไม่ได้ชอบที่นิสัยของจางหยู แต่กลับเป็นความแข็งแกร่งของเขา ! แต่ถึงคิดได้แบบนั้นแต่นางก็ยังชอบเขาอยู่ดี !
ผู้ชายมักจะชอบผู้หญิงสวย ผู้หญิงก็ชอบผู้ชายที่แข็งแกร่งเช่นกัน!
“ ข้าจะให้เขาสนใจข้าได้ยังไง ?” หงอีแอบมองไปที่จางหยู นิสัยของจางหยูไม่ใช่แบบที่นางต้องการแต่ความแข็งแกร่งและความมั่นใจที่จางหยูมีนั้นทำให้นางสนใจ “ แม้ว่าจะต้องตายข้าก็ต้องคว้าเขามาให้ได้ ” ในใจนางได้ตะโกนออกมา “ ข้าหงอีจะเป็นผู้หญิงของเขาให้ได้ !”
ตอนนั้นเองจางหยูรับรู้ได้ถึงสายตาของหงอี เขาหันกลับไปมองนางแล้วถามขึ้น “ เจ้าตื่นแล้วรึ ?”
หงอีรีบหันหน้าหนีและตอบกลับอย่างลนลาน “ อ่ะ ใช่ ใช่”
“ นายท่าน นางแอบมองท่านมานานแล้ว ” เสี่ยวเสียพูดขึ้น “ ข้าพนันว่านางคงสนใจท่าน นายท่าน ท่านต้องระวังตัวไว้อย่าให้นางทำสำเร็จ” “ เฮ้อ เจ้าไม่ได้โดนอัดมานานสินะ ดูเหมือนว่าเจ้าจะอยากเจ็บตัว” จางหยูกำหมัดและมองไปที่เสี่ยวเสีย
เสี่ยวเสียขนลุกทันที มันขดตัวเป็นลูกบอลและตะโกนออกมา “ อย่า นายท่าน ! ข้าสาบานว่าข้าพูดความจริง ! นางแอบมองท่านจริงๆ มากกว่าหนึ่งครั้งด้วย !”