ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1763 โกลาหลสวรรค
โลกตันเถียนกำเนิดขึ้นมาในโกลาหลแต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับโกลาหล
อันที่จริงแม้แต่ตัวจางหยูเองก็ไม่รู้ว่าโลกตันเถียนนั้นอยู่ที่ไหน ภายนอกแล้วโลกนี้เหมือนจะอยู่ในตันเถียนของจางหยู แต่อันที่จริงแล้วมันอยู่อีกมิติหนึ่ง บางทีโลกตันเถียนและโกลาหลนั้นอาจจะมีสิ่งเดียวที่เกี่ยวโยงกันซึ่งก็คือจางหยู
ซุนเมิ่งพูดถูก โลกตันเถียนนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับโกลาหลโดยตรง ตราบใดที่จางหยูตั้งใจ โลกตันเถียนก็สามารถเป็นอิสระจากโกลาหลได้ โดยไม่ได้รับผลกระทบเลยแม้แต่น้อย
“ เจ้าได้บอกคนของวิหารรึไม่ ? ” จางหยูคิ้วขมวด เขาไม่ได้อยากให้โลกตันเถียนถูกเปิดเผยออกมา
แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งเหนือราชาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสบายใจกับทุกเรื่องได้นี่ไม่ต้องพูดถึงว่าอาจจะมีจ้าวโกลาหลอยู่รึไม่ นอกจากนี้หากกลุ่มราชาร่วมมือกันแล้วจางหยูก็ไม่มั่นใจว่าจะรับมือไหว
ราชาคนเดียวจางหยูอาจจะไม่ใส่ใจแต่หากมาเป็นกลุ่มแล้ว แม้แต่จางหยูก็ไม่กล้าจะประมาท
ซุนเมิ่งส่ายหน้าและพูดขึ้น “ อาจารย์ให้ความสำคัญกับมันและไม่เคยบอกเรื่องนี้กับโลกภายนอก แล้วข้าจะกล้าพูดได้ยังไง ?”
จางหยูโล่งอก “ งั้นก็ดี”
“ อาจารย์ ข้าถามอะไรได้รึไม่ ?” ซุนเมิ่งลังเล
“ เจ้าพูดมาสิ”
“ บรรพกาล…แค่คล้ายกับโกลาหล? หรือว่ามันคือโกลาหลอีกแห่ง ?” ซุนเมิ่งเดาว่าบรรพกาลที่ว่านั้นคือโกลาหลอีกแห่ง แต่นี่ก็แค่การคาดเดาของนาง ความจริงแล้วมีแค่จางหยูที่เป็นคนสร้างมันขึ้นมาเท่านั้นที่รู้
จางหยูพูดขึ้น “ เจ้าเดาถูกแล้ว บรรพกาลคือโกลาหลอีกแห่งแต่บรรพกาลยังอายุน้อยกว่าโกลาหลอย่างมาก มันกำลังเติบโต หากเติบโตได้ถึงระดับโกลาหลแล้วเดาว่าถึงตอนนั้นโกลาหลก็อาจจะตายไปแล้ว”
ซุนเมิ่งตื่นเต้นขึ้นมา
มันเป็นแบบที่นางคิด !
บรรพกาลนั้นคือโกลาหลอีกแห่ง !
สิ่งที่กลุ่มราชาไม่อาจจะทำได้แต่จางหยูทำได้ !
“ อาจารย์สนใจจะเข้าร่วมโครงการโกลาหลรึไม่ ?” ซุนเมิ่งถามขึ้นมา
จางหยูแสดงท่าทีสนใจออกมา “ โครงการโกลาหลรึ ?การสร้างโกลาหลขึ้นมาใหม่กับกลุ่มราชารึ ?”
จางหยูที่สร้างโลกตันเถียนขึ้นมานั้นไม่ได้สนใจกับการสร้างโกลาหลขึ้นมาใหม่ แต่เขาสนใจกลุ่มราชาต่างหาก เขาสนใจว่าพวกนั้นรู้อะไรเกี่ยวกับสุสานสวรรค์และความลับของสุสาน “ อาจารย์ได้สร้างบรรพกาลขึ้นมา บางทีท่านอาจจะไม่สนใจการสร้างโกลาหลแห่งใหม่ แต่อาจารย์คงสนใจจะพบกับบรรพชนทั้งเก้าของวิหารอวี๋ฮุ่นสินะ ?” ซุนเมิ่งพูดขึ้น “ แต่ละคนต่างก็เป็นราชาและอยู่กันมานานโดยเฉพาะบรรพชนของวิหาร ข้าเกรงว่าคงไม่มีใครอยู่มานานกว่าพวกนั้น”
มันผ่านมาแล้วกี่ยุคกันตั้งแต่ที่ก่อตั้งวิหารอวี๋ฮุ่นขึ้นมา?
บรรพชนทั้งเก้าอยู่มามานานกว่าวิหารอวี๋ฮุ่นอีก !
บรรพชนที่กลับมาจากสุสานสวรรค์ต้องเป็นคนที่อายุมากที่สุดในโกลาหล เวลาที่เขาอยู่นั้นยาวนานจนแทบจะเฉยเมยกับทุกสิ่ง แต่สำหรับคนทั่วไปแล้ว นี่คือเวลาที่ยาวนานอย่างมาก
“ ข้าอยากพบพวกเขาหากมีโอกาส” จางหยูไม่ได้ปฏิเสธ “ สำหรับโครงการโกลาหลแล้ว ข้าไม่คิดจะเข้าร่วมแต่หากพวกเขาอยากให้ข้าเข้าร่วมจริงๆ ข้าก็ไม่รังเกียจ” ซุนเมิ่งตาเป็นประกายขึ้นมา “ อาจารย์ตกลงรึ ?”
“ ใช่” จางหยูพยักหน้าตอบรับ
“ ยอดเยี่ยม !” ซุนเมิ่งยินดีอย่างมาก “ เมื่อมีอาจารย์ช่วย เดาว่าโครงการนี้ต้องสำเร็จแน่ๆ !”
การที่มีจางหยูที่สามารถสร้างโลกตันเถียนขึ้นมาได้ด้วยตัวเองมาช่วยกลุ่มราชา การสร้างโกลาหลแห่งใหม่นั้นจะยากตรงไหน ?
แต่ตอนนั้นจางหยูก็ได้พูดขึ้น “ เจ้าอย่าเพิ่งดีใจไป ข้าได้สร้างบรพกาลขึ้นมาแต่มันก็มีเรื่องบังเอิญหลายอย่างเข้ามาเกี่ยว มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะทำแบบเดิม แม้ว่าจะให้ข้าทำแบบเดิมอีก ข้าก็ไม่มั่นใจว่าจะทำสำเร็จรึไม่ ข้าไม่มั่นใจว่าจะสร้างโกลาหลแห่งใหม่ขึ้นมาได้รึเปล่า”
ซุนเมิ่งสลดไป
“ มันมีเรื่องที่ข้าไม่อาจจะอธิบายได้ชัดเจน แต่ข้าบอกเจ้าได้ว่าบรรพกาลนั้นไม่อาจจะทำขึ้นมาอีกได้ แม้แต่ข้าก็ไม่อาจจะทำได้” จางหยูมองไปที่ซุนเมิ่งด้วยสีหน้าจริงจัง “ เจ้าไม่ควรคาดหวังมากเกินไป เจ้าคิดว่าข้าเป็นแค่ราชาทั่วไปจะดีกว่า ไม่งั้นแล้วหากคาดหวังมากไปก็มีแต่จะผิดหวัง”
ซุนเมิ่งหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น “ การสร้างโกลาหลขึ้นมานั้นยากขนาดนั้นเลยรึ ?”
“ เจ้าบอกเองไม่ใช่รึว่ากลุ่มราชาก็ยังไม่อาจจะทำได้ ?” จางหยูถามขึ้นมา
เพราะความยากนี้ทำให้จางหยูที่สร้างโลกตันเถียนขึ้นมาได้นั้นน่าทึ่งอย่างมาก
“ ข้าคิดว่ามันคงง่ายหากมีอาจารย์มาช่วย…” ซุนเมิ่งเชื่อในตัวจางหยูอย่างมาก
จางหยูส่ายหน้า “ อย่าคาดหวังกับข้ามากเกินไป ข้าไม่ได้เก่งกาจทุกอย่าง มีหลายเรื่องที่ข้าไม่อาจจะทำได้…ข้าแค่โชคดีที่แข็งแกร่งกว่าราชาคนอื่น “ พูดไปแล้วจางหยูก็ถอนหายใจออกมา “ หากมันมีจ้าวโกลาหลอยู่จริง ข้าก็มั่นใจว่าเขาต้องทำได้ ” จางหยูรู้ตัวดีว่าเขาแกร่งกว่าราชาทั่วไป แต่หากเทียบกับจ้าวโกลาหลแล้วมันมีช่องว่างไม่ใช่น้อย เขายังไม่ได้ขึ้นเป็นจ้าวบรรพกาลเลย
เขาไม่ให้ใครคิดว่าเขาสูงส่งจนฝากความหวังทุกอย่างไว้กับเขา
จางหยูส่ายหน้าสลัดความคิดออกจากหัวและมองไปที่ซุนเมิ่ง “ ข้าไม่ได้แข็งแกร่งแบบที่เจ้าคิด เจ้าผิดหวังรึไม่ ?”
“ ข้าผิดหวังเล็กน้อย “ ซุนเมิ่งไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ยังยิ้มออกมา “ แต่ข้าดีใจ”
“ ดีใจรึ ?”
“ เพราะทำให้ท่านเหมือนคนทั่วไปมากขึ้น ” ซุนเมิ่งมองไปที่จางหยู “ อาจารย์คนเก่านั้นเหมือนกับดวงดาวที่ไม่อาจจะเอื้อมถึงและคาดเดาไม่ได้ แต่ตอนนี้ท่านเหมือนกับลงมาใกล้ข้ามากกว่าเดิม”
จางหยูไม่รู้ว่าจะหัวเราะรึร้องไห้ดี “ ในสายตาของเจ้าแล้วข้าเป็นคนเช่นนั้นรึ ?” ซุนเมิ่งพยักหน้า “ อาจารย์แต่ก่อนนั้นราวกับเป็นตัวตนที่สมบูรณ์แบบและไร้เทียมทาน…”
จางหยูโบกมือและพูดขึ้น “เข้าประเด็นกันดีกว่า พวกราชาอยู่ที่ไหน ?”
เขาสงสัยว่าในโกลาหลแห่งนี้กลุ่มราชาจะซ่อนตัวโดยที่ไม่มีใครรู้ได้เลยรึ ?
“ อาจารย์อยากเป็นส่วนหนึ่งของโครงการโกลาหลรึไม่ ? หากท่านตกลง ข้าจะพาท่านไปพบกับพวกเขา ” ซุนเมิ่งแสดงสีหน้าจริงจังออกมา นี่คือความพยายามของวิหารอวี๋ฮุ่นที่ใช้เวลาไปนับไม่ถ้วน มันคือความหวังของผู้คนนับไม่ถ้วน ดังนั้นนางจึงต้องจริงจังกับเรื่องนี้
“ การเข้าร่วมโครงการนี้จะไม่จำกัดอิสระของข้าใช่รึไม่ ? “ จางหยูพูดขึ้น “ มันไม่ได้หมายความว่าข้าได้เข้าร่วมกับวิหารใช่รึไม่ ? ”
ซุนเมิ่งส่ายหน้า “ โครงการก็ส่วนโครงการ มันไม่ได้เกี่ยวข้องกัน ” “ อย่างนี้นี่เอง ” จางหยูพูดขึ้น “ งั้นข้าก็เอาด้วย ”
เขาแทบอดใจรอไม่ไหว
“ ได้ “ ซุนเมิ่งพยักหน้าก่อนจะมองไปที่เสี่ยวเสียและเสี่ยวหลิงเอ๋อร์ ก่อนจะพูดขึ้น “ พวกเจ้ากลับเข้าไปรอในโลกอวี๋ฮุ่นก่อน ”
“ ให้พวกเขาตามข้ามาด้วย” จางหยูพูดขึ้น “ เสี่ยวเสียคือจิตปฐมบทโกลาหล ความสามารถไม่เหมือนกับยอดฝีมือทั่วไป บางทีมันอาจจะเป็นประโยชน์”
“ นี่…” ซุนเมิ่งลังเลขึ้นมาแล้วพูดขึ้น “ งั้นก็ไปด้วยกันทั้งหมด”
เมื่อพูดจบ ซุนเมิ่งก็พลิกฝ่ามือก่อนจะมีบัตรหยกปรากฏขึ้นมา มันคล้ายกับกุญแจของสุสาน ไม่สิ มันน่าจะบอกว่ามันทำขึ้นมาจากหยกเหมือนกัน หากไม่ใช่เพราะรูปร่างที่แตกต่างกัน จางหยูคงคิดว่ามันคือกุญแจสุสาน
ซุนเมิ่งเห็นท่าทีแปลกใจของจางหยูก็ได้อธิบายออกมา “ บัตรหยกนี่คือกุญแจสู่ค่ายกลสุสาน ด้านนั้นมีรูหนอนที่สามารถส่งเราไปยังโกลาหลนภาได้”
“ โกลาหลนภา?”
“ มันคือสถานที่ที่เหล่าราชาร่วมมือกันบุกเบิกขึ้นมา มันคือโกลาหลย่อส่วน ” ซุนเมิ่งพูดขึ้น “ โกลาหลนภาไม่ได้อยู่ในโกลาหลแต่ก็ยังอยู่ภายใต้การจำกัดของโกลาหล…..มีแค่การใช้ค่ายกลส่งผ่านของบัตรหยกเท่านั้นที่จะเข้าไปในโกลาหลนภาได้”