ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1790 ใครคือร่างแยก
บรรพชนกระดูกแผ่จิตผู้สร้างออกมาครอบคลุมตัวเขากับจางลู่เอาไว้
“ ไม่คิดเลยว่าสหายน้อยจางหยูจะเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล ข้ามองข้ามไป “ บรรพชนกระดูกมองไปที่จางลู่ “ ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีชื่อว่าอะไร ?”
“ เจ้าเรียกข้าว่า…จางลู่ก็ได้ ” จางลู่ยิ้มออกมา
บรรพชนกระดูกพยักหน้า “ ก่อนหน้านี้ข้าไม่คิดว่าจางหยูคือกึ่งจ้าวโกลาหล ต้องขออภัยด้วย”
จางลู่โบกมือ “ สบายใจได้ ร่างหลักของข้าไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย”
ใช่ จางหยูไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย เขาแค่เจ้าคิดเจ้าแค้นนิดหน่อย
“ ไม่รู้ว่าเจ้ามาทำอะไรที่นี่กัน ?” บรรพชนกระดูกถามขึ้นมา “ ไม่มีอะไร ข้าเพิ่งไปที่สุสานมา และข้าได้รู้บางอย่างจึงอยากจะตรวจสอบกับเจ้า” จางลู่พูดขึ้นพร้อมกับดูท่าทีของบรรพชนกระดูก “ ข้าหวังว่าเจ้าจะพูดความจริง”
บรรพชนกระดูกพูดขึ้น “ เจ้าจิตความตายนั่นคงพูดเรื่องแย่ๆเกี่ยวกับข้าสินะ ?”
จิตความตายที่ว่าคือจิตสวรรค์
จางลู่ไม่ได้ใส่ใจและพูดต่อ “ จิตสุสานสวรรค์พูดไว้มาก มันยากจะบอกได้ว่าเรื่องไหนจริงเรื่องไหนเท็จ ข้าจึงมาหาเจ้าเพื่อยืนยัน ยังไงซะข้าก็ไม่คิดจะฟังความข้างเดียว หากข้าเข้าข้างคนผิด งั้นมันก็ถือว่าเป็นความผิดสำหรับข้าเช่นกัน”
“ มันว่ายังไงบ้าง ?” บรรพชนกระดูกไม่ได้รีบร้อนอธิบายออกมาแต่กลับถามขึ้นมาด้วยท่าทีสนใจ
“ จิตสุสานสวรรค์บอกว่ามันคือร่างแยกของจ้าวโกลาหล มันได้สร้างลานแห่งวิวรณ์ขึ้นมาเพื่อชุบชีวิตจ้าวโกลาหล ” จางลู่ไม่ลังเลและพูดขึ้น บรรพชนกระดูกราวกับได้ยินเรื่องตลก เขาถามขึ้นมาทันที “ มันบอกว่ามันคือร่างแยกของจ้าวโกลาหล แล้วข้าล่ะ? มันให้ข้าเป็นอะไร ?”
นี่แทบจะบอกได้ว่าจิตสวรรค์น่ะโกหก
จางลู่ไม่ได้ปิดบัง “ มันบอกว่าเจ้าคือลูกน้องที่แข็งแกร่ง เมื่อจ้าวโกลาหลได้ตายไป เจ้าก็หักหลังเขาและพยายามดูดซับจิตของเขาเอาไว้ แต่ก็ล้มเหลว ดังนั้นเจ้าจึงสร้างโกลาหลแห่งใหม่ขึ้นเพื่อขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล”
“ ฮ่าฮ่า…” บรรพชนกระดูกอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ เจ้านั่นแต่งเรื่องได้เก่งจริงๆ”
“ งั้นแปลว่ามันโกหกสินะ ?” จางลู่ทำท่าแปลกใจออกมา
บรรพชนกระดูกมองไปที่จางลู่และพูดขึ้น “ ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะมองจุดนี้ไม่ออก”
จางลู่ไม่ได้ปฏิเสธและพูดขึ้น “ ข้าถามหน่อยว่าความจริงของเรื่องนี้เป็นยังไงกันแน่ ?” “ จ้าวโกลาหลได้สร้างร่างแยกขึ้นมาจริงๆแต่ร่างแยกนั้นไม่ใช่เจ้านั่น…แต่เป็นข้า ข้าไม่อยากเปิดเผยตัวตนเพราะมันอาจจะทำให้ข้าดูประหลาด เมื่อเจ้านั่นแสร้งเป็นข้า ข้าก็ไม่อาจจะอยู่เฉยได้”
แม้จะพอเดาออกว่าจิตสวรรค์นั้นโกหก แต่จางลู่ก็ไม่คิดว่าบรรพชนกระดูกจะบอกว่าตัวเองเป็นร่างแยกของจ้าวโกลาหล
จางลู่ยังไม่ทันได้พูดอะไร บรรพชนกระดูกก็พูดขึ้นต่อ “ เจ้าลองคิดดู ร่างแยกของจ้าวโกลาหลนั้นจะมีสภาพแบบเดียวกับผีแบบเจ้านั่นรึ ?”
“ มันบอกว่าการที่จ้าวโกลาหลตายไปทำให้มันมีสภาพนั้น” จางลู่บอกคำพูดของจิตสวรรค์
“ การตายของร่างหลักเกี่ยวข้องกับร่างแยกยังไง ?” บรรพชนกระดูกมองไปที่จางลู่ “ อย่าไปฟังคำพูดมัน หากจางหยูตายไป เจ้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีสภาพนั้นรึไม่ ?”
จางลู่ยักไหล่ “ ใครจะไปรู้ ?” “ ดูเหมือนว่าเจ้าจะสงสัยในตัวข้าอยู่” บรรพชนกระดูกไม่ได้โกรธ เขายังเผยรอยยิ้มออกมา “ แต่ยังไงซะเมื่อเจ้าได้พบกับมัน เจ้าก็อาจจะโดนหลอกจนยากที่จะเชื่อข้าได้ แต่ความจริงก็คือความจริง โกหกก็คือโกหก สุดท้ายใครที่เป็นร่างแยกของจ้าวโกลาหลนั้นก็มีแต่เวลาที่พิสูจน์ได้”
บรรพชนกระดูกนั้นตรงไปตรงมาราวกับมั่นใจในตัวเองอย่างมาก
“ หากเจ้าเป็นร่างแยกของจ้าวโกลาหล งั้นจิตสุสานสวรรค์ล่ะ ?” จางลู่ถามขึ้นมา
“ พูดตามตรงแล้วตัวตนของมันก็เกี่ยวข้องกับจ้าวโกลาหล “ บรรพชนกระดูกพูดขึ้นโดยไม่สนว่าจางลู่จะเชื่อรึไม่ “ เมื่อ สหายน้องจางหยูเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล เขาก็น่าจะรู้ว่าการสร้างโกลาหลขึ้นมานั้นจะให้กำเนิดตัวตนแปลกๆที่คล้ายกับจิตโกลาหล เพียงแต่สิ่งนั้นไม่ได้ปรากฏขึ้นภายใต้สถานการณ์ปกติ หลังจากที่จ้าวโกลาหลล่วงลับไป มันถึงปรากฏตัวขึ้น มันจะคอยกัดกินโกลาหล มันคือจิตพิเศษรึอาจจะเรียกได้ว่าเป็นร่างแห่งความตาย มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตแต่มีตัวตนเพื่อการทำลายล้างและความตาย นี่คือจิตความตาย”
“ มีตัวตนเพื่อความตายและการทำลายล้างรึ ?” จางลู่คิด
“ จิตความตายนั้นไม่มีอยู่จริง หรืออาจจะกล่าวได้ว่ามันไม่มีตัวตน เมื่อจ้าวโกลาหลได้ตายไปและโกลาหลได้เดินทางสู่การทำลายล้าง มันถึงปรากฏตัวออกมา เพราะมันแทนถึงความตายและการทำลายล้าง แม้ว่ามันจะเหมือนมีความคิดและสติเป็นของตัวเองรวมถึงดูเหมือนสิ่งมีชีวิตพิเศษ แต่อันที่จริงแล้วทุกอย่างเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด มันไม่ได้มีความคิดรึสติ มันไม่ได้มีชีวิต มันมีตัวตนเพื่อความตายและการทำลายล้าง”
เมื่อได้ยินที่บรรพชนกระดูกอธิบายมา จางลู่ก็เริ่มสับสนกว่าเก่า
มันยากที่จะเข้าใจได้ว่าจิตนั่นเป็นตัวตนแบบไหน การทำลายล้างและความตายรึ ?
“ มันฟังดูเกินจริงแต่นี่น่ะคือความจริง” บรรพชนกระดูกพูดขึ้น “ จิตความตายนั้นไม่อาจจะทำลายได้ เพราะจ้าวโกลาหลได้ตายไปแล้ว การทำลายล้างของโกลาหลจึงไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ ไม่มีใครกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้นอกซะจากว่าจ้าวโกลาหลจะฟื้นคืนชีพขึ้นมา หากจ้าวโกลาหลฟื้นคืนชีพขึ้นมา งั้นมันก็ไม่จำเป็นต้องทำลายจิตความตาย เพราะมันจะหายไปเอง การทำลายล้างของโกลาหลก็จะหยุดลงไปด้วย”
จางลู่เริ่มเข้าใจมากขึ้นจากสิ่งที่บรรพชนกระดูกบอกมา
“ งั้นที่เจ้าสร้างโกลาหลใหม่ขึ้นมาก็เพื่อชุบชีวิตจ้าวโกลาหลงั้นรึ ?” จางลู่ถามขึ้นมา
“ ไม่” บรรพชนกระดูกส่ายหน้า
“ ไม่รึ ? ” จางลู่แปลกใจ
เขาคิดว่าหากบรรพชนกระดูกเป็นร่างแยกของจ้าวโกลาหลจริงๆ งั้นเขาก็คงต้องการชุบชีวิตจ้าวโกลาหลขึ้นมา
บรรพชนกระดูกถอนหายใจและพูดขึ้น “ สิ่งที่เรียกว่าชุบชีวิตเป็นคำโกหกของจิตความตาย มันคือแผนการ ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อคนตายไปแล้วก็คือตาย มันจะชุบชีวิตขึ้นมาตามใจได้ยังไง ? บางทีสำหรับจ้าวโกลาหลหรือผู้ที่แข็งแกร่ง พวกเขาอาจจะมีวิธีการพิเศษที่สามารถชุบชีวิตคนกลับมาได้ แต่ข้าไม่ได้มีความสามารถเช่นนั้น”
เขามองไปที่จางลู่และพูดขึ้น “ ร่างหลักตายไปแล้ว ร่างกาย วิญญาณหรือแม้แต่สติของเขาก็โดนกำจัดไปแล้ว มีแค่จิตเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย เจ้าคิดว่าจากสถานการณ์เช่นนี้จะชุบชีวิตเขากลับมาได้รึ ?”
สติคือพื้นฐานของชีวิต หากร่างกายถูกทำลายก็ยังกลับมาเกิดใหม่ได้ หากวิญญาณถูกกำจัดไปก็สามารถสร้างใหม่ด้วยจิตผู้สร้าง แม้ว่าจิตผู้สร้างจะโดนทำลายก็ยังกลับมาเกิดใหม่ได้ด้วย แต่ถ้าหากสติถูกลบไปทั้งหมด งั้นมันก็เท่ากับตายอย่างสมบูรณ์ แม้แต่โอกาสเกิดใหม่ก็ยังไม่มี
แน่นอนว่านั่นจำกัดแค่ระดับจ้าวโกลาหล หากคนที่แข็งแกร่งกว่านั้นอาจจะมีวิธีอื่นในการฟื้นคืนชีพขึ้นมา แต่ใครจะไปรู้ได้?
“ เมื่อเจ้าไม่สามารถฟื้นคืนชีพร่างหลักขึ้นมาได้ งั้นจะสร้างโกลาหลนภาไปทำไมกัน ?” จางลู่ถามขึ้นมา
ภายใต้สายตาสงสัยของจางลู่ บรรพชนกระดูกก็ยังตอบกลับตามตรง “ เพื่อสร้างโกลาหลใหม่ !”
“ ตามที่จิตความตายบอกมา ลานนี้ก็เหมือนกับลานแห่งวิวรณ์ มันต้องสละทั้งโกลาหลถึงจะสร้างโกลาหลใหม่ขึ้นมาได้?” จางลู่ถามขึ้นมา
“ แม้จิตความตายจะพูดความจริงไม่มาก แต่นี่คือความจริง” บรรพชนกระดูกพูดขึ้น “ เพื่อสร้างโกลาหลแห่งใหม่ขึ้นมา เราต้องสละโกลาหลแห่งเดิม…เพราะมีการสนับสนุนจากลานแห่งวิวรณ์ ไม่งั้นแล้วด้วยความแข็งแกร่งของข้า แม้ว่าจะมีราชาอีกหลายคนเพิ่มเข้ามาแต่ก็ไม่อาจจะสร้างโกลาหลแห่งใหม่ขึ้นมาได้”
“ แล้วสิ่งมีชีวิตในโกลาหลล่ะ ?” จางลู่ถามขึ้นมา
“ เท่าที่ข้าทำได้คือขนคนเข้ามายังโกลาหลนภาให้ได้มากที่สุดเท่าที่ข้าจะช่วยได้” บรรพชนกระดูกมองไปที่จางลู่ และพูดออกมาตามตรง “ บางทีข้าอาจจะช่วยคนได้ไม่ถึงหนึ่งในหมื่นรึหนึ่งในพันล้าน แต่นี่คือขีดจำกัดของข้าแล้ว”
จางลู่ถามขึ้นมา “ เจ้าไม่คิดส่งคนทั้งหมดเข้ามาในโกลาหลนภารึ ?”
“ มันมีปัญหาอยู่สองอย่าง” บรรพชนกระดูกพูดขึ้น “ อย่างแรกคือโกลาหลนภาไม่ได้ใหญ่พอที่จะรองรับผู้คนทั้งหมด อย่างที่สองคือโกลาหลจำเป็นต้องอาศัยพลังชีวิตของพวกเขาเพื่อดำรงอยู่ หากไม่มีผู้คนแล้ว โกลาหลจะโดนทำลายอย่างรวดเร็ว”