ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1793 ซุนเหยียนกับไห่อู่เซิง
“ แซ่ซุนมีคนแข็งแกร่งอยู่รึ?” จางลู่คิดทบทวนแต่ก็ไม่ได้เบาะแสใดๆ
แซ่ซุนที่เขารู้จักคือซุนซิง,ซุนเมิ่งและซุนวู ซูนวูนั้นยังไม่ถึงระดับพันเท่าเลยด้วยซ้ำ ตัดออกไปได้เลย ส่วนซุนซิงและซุนเมิ่งต่างก็เป็นราชา พวกเขามีทักษะสร้างระดับสูงเป็นของตัวเอง ซึ่งมีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อย แต่ความแข็งแกร่งของทั้งสองนั้นไม่ได้เหนือกว่าราชาคนอื่นๆ โดยเฉพาะซุนเมิ่งที่แข็งแกร่งพอๆกับราชาคนอื่นๆ
สรุปคือซุนซิงและซุนเมิ่ง แม้ว่าจะเป็นไปได้แต่ก็แทบจะมองข้ามได้
“ เขาชื่ออะไร ?” จางลู่ถามขึ้นมา
แค่แซ่จางลู่ไม่อาจจะเดาตัวตนอีกฝ่ายออก
เนี่ยเวิ่นไม่ลังเลและพูดชื่อออกมาทันที “ ซุนเหยียน” “ ซุนเหยียนรึ ?” จางลู่ทวนชื่อเบาๆ ชื่อนี้มันฟังดูแปลก เขามั่นใจว่าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน “ โกลาหลนี้มีซุนเหยียนอยู่รึ ?” เขาขมวดคิ้วและถามขึ้นมา “ ซุนเหยียนแข็งแกร่งแค่ไหนกัน ?”
เนี่ยเวิ่นครุ่นคิดและพูดขึ้น “ ร่างแยกของนายท่านแข็งแกร่งกว่าข้า เขาอยู่ขอบเขตการสร้างไร้จำกัด เป็นรองแค่นายท่าน”
“ ในโกลาหลแห่งนี้มีคนอยู่ขอบเขตการสร้างไร้จำกัดด้วยรึ?” จางลู่แปลกใจ
เขาคิดว่าจิตมรณะและบรรพชนกระดูกคงหลอกเขา แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะมีขอบเขตนี้จริงๆ
เนี่ยเวิ่นพยักหน้า “ ขอบเขตการสร้างไร้จำกัดก็ยังเป็นราชา อาจจะถือได้ว่าเป็นราชาที่แกร่งที่สุด แต่โดยแก่นแท้แล้วก็ยังคงเป็นราชาอยู่ แค่มีพลังสร้างที่แข็งแกร่งกว่าและไร้ขีดจำกัด ดังนั้นจึงถูกเรียกว่าขอบเขตการสร้างไร้จำกัด”
“ แต่…ถ้าหากมันมีคนแบบนั้นอยู่ในโกลาหล มันจะไม่มีข่าวของเขาได้ยังไง ?” จางลู่สับสน
เขารู้จักยอดฝีมือสามคนที่ไปถึงขอบเขตนั้นได้ก็คือจิตมรณะ, บรรพชนกระดูกและต้นไม้โกลาหล
แน่นอนว่าจิตมรณะไม่ใช่ยอดฝีมือขอบเขตการสร้างไร้จำกัด แต่ก็มีความสามารถทัดเทียมกัน แต่ถึงยังไงก็ไม่อาจจะใช้เกณฑ์ทั่วไปมาตัดสินขอบเขตของมันได้
“ ข้าไม่รู้ ” เนี่ยเวิ่นส่ายหน้า “เท่าที่ข้ารู้คือร่างแยกของนายท่านน่ะแข็งแกร่งอย่างมาก แกร่งยิ่งกว่าข้าเสียอีก แต่หลังจากที่ข้ากลับมาเกิดใหม่ ข้าก็ไม่รู้สถานการณ์ของเขา…”
“ รึว่าเขาจะเปลี่ยนชื่อ ? “ จางลู่พึมพำออกมา “ จากที่เจ้าอธิบายมานั้น ข้าคิดว่าเขาคล้ายกับไห่อู่เซิง”
ไม่ต้องสงสัยเรื่องความแข็งแกร่งของบรรพชนกระดูก แม้แต่จิตสุสานก็ไม่อาจจะทำอะไรอีกฝ่ายได้ นอกจากนี้เขายังสร้างโกลาหลนภาขึ้นมาอีกด้วย
เนี่ยเวิ่นมั่นใจอย่างมาก “ เป็นไปไม่ได้ ชื่อของเขาน่ะนายท่านเป็นคนตั้งให้ ชื่อนี้เขาจะเปลี่ยนตามใจชอบได้ยังไง?…และแม้ว่าเขาจะเปลี่ยนชื่อ แต่ก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแซ่ได้ ท่านก็รู้ว่าการกระทำแบบนั้นน่ะเท่ากับเป็นการดูหมิ่นนายท่าน”
“ แปลก” จางลู่พูดขึ้นมา “ ในเมื่อเขาไม่ได้เปลี่ยนชื่อ แล้วเขาอยู่ไหนกัน ? ทำไมถึงไม่เคยได้ยินเรื่องของเขา ? นอกจากนี้แล้วเขาก็ไม่ใช่ไห่อู่เซิง แล้วไห่อู่เซิงเป็นใครกัน ?”
เขามองไปที่เนี่ยเวิ่นแล้วถามขึ้นมา “ นอกจากเจ้า ร่างแยกรวมถึงจิตสุสานแล้ว ไม่มีขอบเขตการสร้างไร้จำกัดอีกรึ ?”
เนี่ยเวิ่นพูดขึ้นมา “ เท่าที่ข้าจำได้ ในโกลาหลนั้นนอกจากข้ากับซุนเหยียนแล้ว มันก็ไม่มีขอบเขตการสร้างไร้จำกัดคนอื่นอีก ซุนเหยียนขึ้นไปที่ขอบเขตนี้ได้ก็เพราะเกี่ยวโยงกับนายท่าน หากคนอื่นต้องการขึ้นมายังขอบเขตนี้นั้น…ยากอย่างมาก” เนี่ยเวิ่นเงียบไปชั่วครู่แล้วพูดต่อ “ หากจิตสุสานคือตัวแทนแห่งการทำลายล้าง บางทีมันอาจจะถือว่าเป็นขอบเขตการสร้างไร้จำกัด แต่ไห่อู่เซิงนั่น..ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงขึ้นมาถึงขอบเขตนี้ได้” เขาถึงกับสงสัยว่าจางลู่เข้าใจผิดไปเอง “ ท่านโดนเขาหลอกมารึไม่ บางทีเขาอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งเช่นนั้น ?”
โกหกรึ ?
จางลู่สามารถตัดสินออก
ความแข็งแกร่งของบรรพชนกระดูกน่ะของจริง แม้แต่จิตสุสานสวรรค์ก็ไม่ใช่คู่มือของเขา
“ มันเป็นไปได้รึไม่ที่จิตสุสานและไห่อู่เซิงเป็นคนเดียวกัน ? ” เนี่ยเวิ่นถามขึ้นมา “ บางทีพวกเขาอาจจะเป็นคนคนเดียวกันรึสิ่งเดียวกัน สิ่งที่พวกเขาบอกและทำเป็นแค่การแสดงเพื่อทำให้ท่านไขว้เขว?”
จางลู่เริ่มเชื่อว่ามันเป็นไปได้
หากจิตสุสานกับบรรพชนกระดูกเป็นคนคนเดียวกันแล้ว งั้นมันก็อธิบายหลายๆอย่างได้ แต่ไม่นานจางลู่ก็ส่ายหน้า “ไม่ พวกเขาไม่ใช่คนเดียวกัน”
เขาขมวดคิ้วแล้วพูดต่อ “ แม้ข้าจะไม่รู้ว่าจิตสุสานสวรรค์คืออะไรกันแน่ แต่แน่นอนว่าไห่อู่เซิงเป็นสิ่งมีชีวิตปกติ เขาเป็นมนุษย์ที่มีสติและชีวิต แม้ว่าข้าจะมองระดับของเขาไม่ออกแต่ข้าก็ยังรับรู้มันได้อย่างแม่นยำ ข้าไม่อาจจะรับรองเรื่องอื่น แต่มั่นใจได้ว่าร่างกายของเขาเป็นของมนุษย์ที่มีพลังชีวิตที่สูง หากมีอะไรผิดปกติกับไห่อู่เซิง งั้นข้าก็คงรับรู้ได้”
เนี่ยเวิ่นเกาหัว “งั้นข้าก็ไม่รู้แล้ว”
“ แม้แต่เจ้าก็ยังไม่รู้ ข้ากลัวว่าคงไม่มีใครรู้….” จางลู่ผิดหวังนิดๆ
เขาอยากรู้ความจริงจากต้นไม้โกลาหลแต่ผลลัพธ์มีแต่ทำให้เขาสับสนกว่าเก่า
“ ไห่อู่เซิงเป็นใครกันแน่ ?” จางลู่คิ้วขมวดและคิดถึงความเป็นไปได้ทั้งหมด
หลังจากที่คิดสักพักแล้ว จางลู่ก็คิดถึงคนเดียวกันแล้ว งั้นมันก็อธิบายหลายๆอย่างได้ แต่ไม่นานจางลู่ก็ส่ายหน้า “ไม่ พวกเขาไม่ใช่คนเดียวกัน”
เขาขมวดคิ้วแล้วพูดต่อ “ แม้ข้าจะไม่รู้ว่าจิตสุสานสวรรค์คืออะไรกันแน่ แต่แน่นอนว่าไห่อู่เซิงเป็นสิ่งมีชีวิตปกติ เขาเป็นมนุษย์ที่มีสติและชีวิต แม้ว่าข้าจะมองระดับของเขาไม่ออกแต่ข้าก็ยังรับรู้มันได้อย่างแม่นยำ ข้าไม่อาจจะรับรองเรื่องอื่น แต่มั่นใจได้ว่าร่างกายของเขาเป็นของมนุษย์ที่มีพลังชีวิตที่สูง หากมีอะไรผิดปกติกับไห่อู่เซิง งั้นข้าก็คงรับรู้ได้”
เนี่ยเวิ่นเกาหัว “งั้นข้าก็ไม่รู้แล้ว”
“ แม้แต่เจ้าก็ยังไม่รู้ ข้ากลัวว่าคงไม่มีใครรู้….” จางลู่ผิดหวังนิดๆ
เขาอยากรู้ความจริงจากต้นไม้โกลาหลแต่ผลลัพธ์มีแต่ทำให้เขาสับสนกว่าเก่า
“ ไห่อู่เซิงเป็นใครกันแน่ ?” จางลู่คิ้วขมวดและคิดถึงความเป็นไปได้ทั้งหมด
หลังจากที่คิดสักพักแล้ว จางลู่ก็คิดถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง
“ รึว่า…เขาคือร่างแยกของจ้าวโกลาหลแต่กลับโดนครอบงำ ?” จางลู่ถามขึ้นมา
เนี่ยเวิ่นไม่ได้ปฏิเสธทันที เขาคิดถึงความเป็นไปได้นี้ก่อนจะส่ายหน้า “ ไม่น่าจะเป็นไปได้ ร่างแยกของนายท่านแกร่งที่สุดทั้งในด้านวิญญาณและสติ มันแบ่งมาจากนายท่าน มันมีสติและวิญญาณของนายท่าน แม้ว่าจะมีคนที่ครอบงำเขาได้แต่ก็ไม่มีทางควบคุมเขาได้จริงๆ นอกซะจากว่าอีกฝ่ายจะแกร่งกว่านายท่าน”
นั่นก็ไม่ใช่ นี่ก็ไม่ใช่ จางลู่แทบจะพบกับทางตัน
เขาลำดับความคิดใหม่แต่ก็ยังไม่มีความคิดไหนที่เข้าท่าเลย
มันดูไม่มีเหตุผล
“ บรรพชนกระดูกลึกลับจริงๆ” จางลู่เริ่มสงสัยเรื่องตัวตนของบรรพชนกระดูกยิ่งกว่าเก่า ไม่ใช่ว่าชายคนนี้อยู่แต่ในมุมมืดรึ ?” เมื่อคิดแบบนั้นจางลู่ก็ถามขึ้นมา “ เจ้าช่วยส่งภาพของซุนเหยียนให้ข้าที”
เขายังหมดหนทาง แม้ว่าจะตัดความเป็นไปได้ที่ไห่อู่เซิงจะเป็นร่างแยกออก แต่ก็ต้องยืนยันก่อน
ถ้าหากเขาคิดผิดล่ะ ?
“ ได้ ” เนี่ยเวิ่นไม่ลังเลและได้ทำการวาดภาพของซุนเหยียน ส่งให้กับจางลู่ทันที
จางลู่ต้องแปลกใจหลังจากที่ได้รับภาพมา “นี่ไม่ใช่บรรพชนกระดูกหรอกรึ ?” เขาหน้าตาเหมือนกับซุนเหยียน “ นอกจากบุคลิกภายนอกและน้ำเสียงที่ดูต่างกันเล็กน้อยแล้ว ที่เหลือมันแทบไม่มีอะไรต่างกันเลย !”