ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1796 สำรวจสุสานสวรรค์อีกครั้ง

　　“ ข้าได้ยินคนบอกว่าปราณสุสานนั้นทำได้แค่เข้าครอบงำ แต่ไม่ได้มีพลังทำลายล้าง ” จางลู่ถามขึ้นมา “ เจ้ามั่นใจรึว่าจะฆ่าราชาได้ ?”
　　“ ใครบอกว่าปราณสุสานไม่มีพลังทำลายล้าง ?”
　　“ ไม่จริงรึ ?” จางลู่คิ้วขมวด
　　“ แน่นอนว่าไม่ ” เสี่ยวเสียกระโดดลงจากไหล่ของจางลู่ ร่างหมอกของมันได้สร้างมือขึ้นมาก่อนที่จะทำการแตะมิติตรงหน้า ต่อมามิติกลับแตกออกและมีพลังโกลาหลแผ่ออกมา
　　กลับเป็นว่าปราณสุสานนั้นไม่ใช่แค่มีพลังทำลายล้าง แต่ยังน่ากลัวกว่าพลังสร้างอีกต่างหาก พลังของมันแทบไม่ต่างอะไรกันเลย
　　ยิ่งกว่านั้นปราณสุสานของเสี่ยวเสียก็ไม่ได้มาจากการตายของผู้ควบคุม แต่มันมาจากการเปลี่ยนแปลงของพลังโกลาหล มันน่ากลัวกว่าปราณสุสานทั่วไปอย่างมาก มันราวกับปราณสุสานที่พัฒนาขึ้นมาแล้ว พลังของมันน่ากลัวกว่าหลายเท่า
　　จางลู่หรี่ตาลง “ไห่อู่เซิงผู้นี้พูดความจริงไม่กี่อย่าง”
　　ไห่อู่เซิงบอกเขาว่าปราณสุสานไม่มีพลังทำลายล้างและเกือบจะหลอกเขาได้
　　ศิษย์และอาจารย์ทุกคนต่างก็อึ้งกับความแข็งแกร่งที่เสี่ยวเสียมี แค่คลื่นพลังที่แผ่ออกมาก็แทบทำให้ทุกคนไม่อาจจะหายใจได้
　　แข็งแกร่งจริงๆ !
　　หากเสี่ยวเสียลงมือกับพวกเขาแล้ว พวกเขากลัวว่าทุกคนที่นี่หรือแม้แต่จางลู่ก็ไม่อาจจะรับมือได้
　　คนจากโลกสาขาอย่างยูไลต่างก็พากันเหงื่อตกและรู้สึกหวั่นใจขึ้นมา
　　“ การสร้างไร้จำกัด…” ทุกคนพากันกลืนน้ำลายและแสดงสีหน้าเหลือเชื่อออกมา
　　ไม่คิดเลยว่าเสี่ยวเสียจะเติบโตได้รวดเร็วเช่นนี้ อาจารย์และศิษย์เพิ่งจะขึ้นมาที่ขั้น 9 ได้ไม่นาน หยวนเทียนจี, เย่ฟาน และศิษย์คนอื่นๆเพิ่งจะขึ้นมาถึงระดับร้อยเท่า แต่เสี่ยวเสียกลับก้าวขึ้นเป็นราชาและยังแข็งแกร่งกว่าราชาทั่วไปอีก
　　เย่ฟาน, อู่โม่, เซียวเหยียนและคนอื่นๆเข้ามาแสดงความยินดี “ ยินดีด้วยเสี่ยวเสีย ”
　　คนที่เหลือต่างก็เข้ามาแสดงความยินดี ยังไงซะการที่สำนักคังเฉียงมีคนแข็งแกร่งเพิ่มเข้ามาก็ถือว่าเป็นเรื่องดี
　　มีแค่ไม่กี่คนอย่างยูไลเท่านั้นที่แสดงสีหน้าผิดปกติ แม้ว่าพวกเขาจะเข้ามาแสดงความยินดีแต่พวกเขาก็แค่พูดออกมาเบาๆเพราะกลัวว่าเสี่ยวเสียจะหันมาสนใจพวกเขา
　　“ ฮ่าฮ่า ขอบคุณ !” เสี่ยวเสียอารมณ์ดีอย่างมาก การที่มันไม่ต้องรู้สึกต่ำต้อยแบบเดิมนั้นทำให้มันตื่นเต้นเป็นอย่างมาก　　จางลู่มองไปรอบๆแล้วโบกมือ “ แยกย้ายกันได้ ข้าจะพูดคุยกับเสี่ยวเสีย”
　　ทุกคนทำความเคารพและแยกย้ายด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกันไป
　　หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว จางลู่ก็ได้ถามกับเสี่ยวเสียว่า “ หากเจ้ากับจิตสุสานสวรรค์สู้กัน เจ้ามั่นใจรึไม่ว่าจะชนะ”
　　“ ท่านดูถูกข้าเกินไปแล้ว ! ไม่ใช่ว่าแค่จิตสุสานสวรรค์รึไง ? ข้าตบมันแค่ทีเดียวมันก็ตายแล้ว !” เสี่ยวเสียตอบกลับทันที
　　จางลู่สีหน้าหม่นลง “ คิดให้ดีๆแล้วตอบมา !”
　　เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของจางลู่ เสี่ยวเสียก็รีบสำรวมท่าทีทันที
　　มันคิดสักพักแล้วพูดขึ้น “ นี่…ข้าไม่อาจจะบอกได้จนกว่าจะได้ลงมือ แต่แม้ว่าข้าจะจัดการกับมันไม่ได้ แต่มันก็ไม่อาจจะจัดการข้าได้เช่นกัน” มันมองไปที่จางลู่แล้วถามขึ้นมา “ นายท่านคิดจะจัดการกับจิตสุสานสวรรค์รึ ?”
　　“ หากเจ้าทำได้ ข้าก็อยากให้เจ้าจัดการกับปัญหานี้” จางลู่ไม่ได้ปฏิเสธ “มันจะได้เป็นการช่วยราชาพวกนั้นด้วย”
　　เขายังจำหุ่นเชิดหลายพันคนในสุสานได้ ถ้าช่วยพวกนั้นออกมาได้ สำนักคังเฉียงก็จะกล้าเผชิญหน้ากับโกลาหลนภาจริงๆ แม้ว่าจะไม่มีจางหยูร่วมด้วย แต่เมื่อมีเสี่ยวเสียและราชาเหล่านั้น มันก็สามารถทัดเทียมกับโกลาหลนภาได้จริงๆ
　　แม้จะยังไม่รู้ว่าไห่อู่เซิงเป็นใคร แต่จางลู่ก็คิดว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรู สัญชาตญาณบอกเขาว่าสำนักคังเฉียงและโกลาหลนภาไม่นานต้องเกิดสงครามกันแน่
　　เหตุผลว่าทำไมเขายังไม่ฉีกหน้าไห่อู่เซิงในตอนนี้ก็เพราะสำนักคังเฉียงยังอ่อนแอเกินไป พวกเขาอาจจะรับมือกับโกลาหลนภาไม่ได้ สำหรับไห่อู่เซิงแล้ว อีกฝ่ายอาจจะมีความคิดคล้ายกัน จนกว่าจะมีพลังกำจัดจางหยูได้ งั้นอีกฝ่ายก็ไม่คิดจะฉีกหน้าจางหยู เขายังไม่คิดจะสร้างศัตรูในตอนนี้ เมื่อจางหยูขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลขึ้นมาจริงๆ อย่างน้อยเขาก็จะมีทางรับมือ
　　“ เจ้าคิดจะไปกับข้ารึไม่ !” จางลู่มองไปที่เสี่ยวเสีย
　　เสี่ยวเสียอยากจะทดสอบฝีมือ มันอยากจะสู้มาตลอดแต่เพราะจางหยูกดดัน มันจึงไม่กล้าลงมือกับใคร เมื่อจางลู่เปิดปากชวน แน่นอนว่ามันก็ไม่ปฏิเสธ
　　“ ข้าเก็บตัวมานานและกระหายการต่อสู้ ดี ดี! จิตสุสานงั้นรึ ? จัดการมัน !”
　　มันมองไปที่จางลู่ด้วยท่าทีคาดหวัง ยังไงซะมันก็โดนกดดันมานาน เมื่อได้สู้แน่นอนว่ามันไม่มีทางปฏิเสธ
　　จางลู่ได้บอกแผนนี้กับจางหยู หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากจางหยูแล้ว เขาก็เริ่มลงมือทันที
　　ก่อนที่จะออกเดินทาง จางลู่ก็ได้บอกให้เนี่ยเวิ่นดูแลสำนักคังเฉียง หากไห่อู่เซิงเข้ามาสร้างปัญหา เขาก็จะให้เนี่ยเวิ่นคอยยื้อเวลาเอาไว้ รอจนกว่าจางลู่จะกลับมา
　　ครั้งนี้จางลู่พาเสี่ยวเสียไปเพียงคนเดียวเท่านั้น เขาไม่ได้พาเสี่ยวหลิงเอ๋อร์ไปด้วยเพราะสุสานสวรรค์อันตรายเกินไป เขาไม่มั่นใจว่าจะปกป้องเสี่ยวหลิงเอ๋อร์ได้รึไม่
　　ไม่นานจางลู่และเสี่ยวเสียก็ได้มุ่งหน้าไปยังสุสานสวรรค์ผ่านรูหนอนที่ใกล้ที่สุด เขาได้เอาบัตรหยกออกมาก่อนจะเปิดการทำงานของมัน มิติเกิดการบิดเบี้ยวก่อนที่จะมีวังวนปรากฏขึ้นมาตรงหน้า จากนั้นจางลู่และเสี่ยวเสียก็ไม่ลังเลที่จะเดินทางเข้าไปในวังวนนั้นก่อนจะปรากฏตัวขึ้นในสุสาน
　　“ ปราณสุสานเยอะจริงๆ !” เสี่ยวเสียสูดหายใจเข้าลึกๆ มันราวกับปลาที่ได้กลับมาในน้ำ มันรู้สึกสบายอย่างมาก “นี่คือสุสานสวรรค์รึ ?”
　　จางลู่คอยระวังตัวจากจิตสุสานและพึมพำออกมา “ ระวังตัวไว้ ความแข็งแกร่งของจิตสุสานนี้ไม่ได้ด้อยกว่าเจ้าเลย” 　　หลังจากที่พูดจบ จางลู่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าปราณสุสานพุ่งเข้ามาที่เขาอย่างบ้าคลั่ง มันได้พุ่งเข้ามาในตัวเสี่ยวเสีย แต่แค่ไม่กี่อึดใจปราณสุสานโดยรอบก็หายไปราวกับไม่เคยมีอยู่
　　เสี่ยวเสียกลืนปราณสุสานเข้าไปก่อนจะเดาะลิ้นอย่างพอใจ “ อร่อยจริงๆ ! หากเทียบกับจิตปฐมบทโกลาหลแล้ว ปราณสุสานนี่อร่อยกว่าเป็นสิบเท่ารึร้อยเท่า ! ความแข็งแกร่งของข้าถึงกับเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย”
　　สำหรับเสี่ยวเสียแล้ว สุสานแห่งนี้เหมือนกับถูกสร้างขึ้นมาเพื่อมันโดยเฉพาะ