ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1799 ยึดร่าง
“ เปลี่ยนแปลงยังไง?” จางลู่เป็นผู้ฟังที่ดี เขาถามขึ้นมา
ซุนเหยียนถอนหายใจออกมา “ เมื่อจ้าวโกลาหลได้ตายไป ร่างแยกของเขาเห็นโกลาหลย่ำแย่ลงและไม่อาจจะยอมรับได้ ดังนั้นเขาจึงพยายามจะช่วยโกลาหลเอาไว้ด้วยตัวเอง มันมีสองทางเท่านั้นที่จะช่วยโกลาหลได้ อย่างแรกคือการฟื้นคืนชีพร่างหลัก อย่างที่สองคือลบพลังที่ทำให้โกลาหลตกต่ำ”
ทางแรกชัดแล้วว่าไม่ได้ผล จ้าวโกลาหลได้ตายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ร่างแยกไม่อาจจะชุบชีวิตอีกฝ่ายได้
ถึงร่างแยกจะอยู่ระดับเดียวกับร่างหลักแต่ก็ไม่อาจจะทำได้
“ งั้นเจ้าก็เลือกใช้วิธีที่สองสินะ ?” จางลู่ถามขึ้น “ลบปราณสุสานรึ ?”
ซุนเหยียนพยักหน้า “ ปราณสุสานคือต้นเหตุของการทำลายล้างโกลาหล ตอนที่จ้าวโกลาหลยังมีชีวิตอยู่นั้นมันไม่ได้มีปราณสุสาน แต่หลังจากที่เขาได้ตายไป เมื่อไหร่ที่สิ่งมีชีวิตดับสูญก็จะก่อกำเนิดปราณสุสานขึ้นมา ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ปราณสุสานก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น จากนั้นปราณสุสานก็จะดูดกลืนพลังโกลาหล และทำลายสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในโกลาหล ทุกวินาทีที่ปราณสุสานดำรงอยู่ พลังโกลาหลก็จะลดน้อยลงทุกวินาทีเช่นกัน สักวันหนึ่งทั่วทั้งโกลาหลก็จะเต็มไปด้วยปราณสุสาน และนั่นก็คือวันที่โกลาหลจบสิ้น”
จางลู่ฟังอยู่เงียบๆ ชัดแล้วว่าต้องมีเบื้องหลังของการเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่งั้นแล้วซุนเหยียนคงไม่มีสภาพเช่นนี้ได้
“ ใช้เวลาไม่นานร่างแยกก็ค้นพบต้นตอของปราณสุสาน มันก็คือ…จิตผู้สร้างที่เหลืออยู่หลังจากที่จ้าวโกลาหลได้ตายไป ซึ่งจิตนั้นได้กลายเป็นปราณสุสาน มันได้กลืนกินพลังโกลาหลอย่างบ้าคลั่งและถึงกับพัฒนาตัวเองเป็นสุสานแห่งนี้ขึ้นมา” “ เพื่อที่จะหยุดการทำลายล้าง เราต้องหาที่มาของปราณสุสานและลบจิตที่ปนเปื้อนนี้ออกไป”
“ ร่างแยกคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งของตัวเองแล้วเขาจะลบจิตผู้สร้างนั้นได้ เขาแทบไม่ได้เตรียมตัวและเข้าสู้กับจิตปนเปื้อน”
“ แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือหลังจากที่จิตปนเปื้อนดูดซับพลังมานาน มันก็เริ่มมีสติปัญญาขึ้นมา นอกจากนี้มันยังสามารถควบคุมจิตผู้สร้างที่เหลือรวมไปถึงปราณสุสานนับไม่ถ้วนด้วย…เนื่องจากร่างแยกไม่ได้เตรียมการป้องกันเอาไว้ ดังนั้นภายใต้การโจมตีของจิตลึกลับนั้นเขาก็เกือบตายไปแล้ว”
พูดถึงตรงนี้ ซุนเหยียนก็แสดงท่าทีโกรธแค้นและรู้สึกผิดออกมา “ หลังจากที่โจมตีจนร่างแยกได้รับบาดเจ็บหนัก จิตนั่นก็ได้เข้ายึดร่างของเขาไป ! และมันก็ทำได้สำเร็จ !”
จางลู่ถามขึ้นมา “ ยึดร่างรึ ?”
คิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆ แต่ไม่คิดเลยว่าซุนเหยียนจะโดนยึดร่างไปจริงๆ “ ถึงแม้ว่าจิตลึกลับนั้นจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่ได้แกร่งไปกว่าเขา แต่เพราะเขาประมาทเกินไปถึงทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น “ เสียงของซุนเหยียนดูหนักใจ เขาหดหู่เป็นอย่างมาก “ ดีที่การรับรู้ของจ้าวโกลาหลยังอยู่ แม้ว่าจะโดนโจมตีและบาดเจ็บหนัก ทั้งยังโดนยึดร่างไป แต่จิตลึกลับก็ไม่อาจจะลบสติของเขาไปทั้งหมดได้…”
เมื่อไม่มีร่างกายและวิญญาณแล้วพลังของเขาก็ลดลงไปอย่างมาก ไม่อาจจะเทียบกับราชาได้ด้วยซ้ำ ในทางกลับกันแล้วจิตลึกลับในร่างแยกกลับแข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าไม่อาจจะทำลายร่างแยกที่แท้จริงได้ แต่ซุนเหยียนก็ไม่อาจจะทำอะไรมันได้เช่นกัน
“ งั้นจะบอกว่าไห่อู่เซิง…คือจิตสุสานที่แท้จริงรึ ?” จางลู่สูดหายใจเข้าลึกๆ
กลับเป็นว่าเขามองทุกอย่างผิดไป
ใครจะไปคิดว่าไห่อู่เซิงจะเป็นจิตสุสาน !
“ แต่ร่างแยกของจ้าวโกลาหลก็ไม่ยอมแพ้ แม้จะมีสภาพคล้ายกับจิตปฐมบทโกลาหลก็ตาม ดังนั้นจึงหาทางรวบรวมราชามากมายในโลกเข้าโจมตีไห่อู่เซิง แต่ใครจะไปเชื่อคำพูดของตัวประหลาดที่คล้ายกับจิตปฐมบทโกลาหลกัน ?” น้ำเสียงของซุนเหยียนฟังดูเสียดสี ไม่รู้ว่าเขาโทษตัวเองรึโทษพวกราชาที่ไม่เชื่อคำพูดของเขา
“ พวกนั้นไม่ใช่แค่ไม่ช่วยแต่กลับร่วมมือกับมันทำลายเขา”
เมื่อพูดจบ ซุนเหยียนก็แสดงท่าทีโศกเศร้าออกมา
เขาคือร่างแยกของจ้าวโกลาหล !
“ สุดท้ายเขาก็ได้แต่ต้องยอมแพ้ในการจัดการกับมันแต่เขาก็ไม่ปล่อยให้จบแค่นั้น…” ซุนเหยียนเริ่มแสดงท่าทีหงุดหงิดออกมา “ เขาได้ตัดสินใจ เป็นการตัดสินใจที่ทำให้เขารู้สึกผิดมาโดยตลอด การตัดสินใจนี้คือ….เข้าไปในร่างจิตลึกลับ !”
จางลู่แสดงสายตาสงสัยออกมา เขาไม่เข้าใจว่าซุนเหยียนจะบอกอะไร “ อันที่แล้วจริงจิตลึกลับนั้น ก็คือจิตผู้สร้างที่ปนเปื้อนหลังจากที่จ้าวโกลาหลได้ตายไปแล้ว หากต้องการที่จะแย่งร่างกลับคืนมา เป็นธรรมดาที่เขาจะต้องใช้ร่างของอีกฝ่ายในอดีต…” ซุนเหยียนสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดขึ้น “ เขาหมดหนทางและสุดท้ายก็ได้แต่เข้าไปในร่างจิตลึกลับ ด้วยวิธีนี้อาจจะพึ่งร่างนั้นในการรับมือกับจิตลึกลับได้”
หลังจากที่เข้าไปในร่างจิตปนเปื้อนแล้ว เขาก็ได้แทนที่จิตลึกลับและก็ได้รับสืบทอดทุกอย่างรวมไปถึงสุสานสวรรค์และลานต่างๆ อีกทั้งความสามารถในการควบคุมปราณสุสาน
จางลู่อึ้ง !
ดูเหมือนว่าคนที่หน้าตาเหมือนกับร่างแยกนั้นจะเป็นจิตลึกลับ
ส่วนฝั่งที่เหมือนจะเป็นจิตสุสานกลับเป็นร่างแยกตัวจริง
การแลกเปลี่ยนตัวตนของทั้งคู่นั้นทำให้ทั้งคู่สลับบทบาทของตัวเอง “ เขาคิดว่าหลังจากที่เข้าไปในร่างจิตปนเปื้อนแล้ว เขาจะทัดเทียมกับอีกฝ่ายได้แต่เขาคิดไม่ถึงว่าถึงแม้จะควบคุมปราณสุสานได้ แม้ว่าจะมีจิตผู้สร้างปนเปื้อนที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุน แต่ก็ไม่อาจจะเป็นคู่มือของมันได้เพราะอีกฝ่ายก็เข้าใจปราณสุสานเป็นอย่างดี มันเข้าใจจิตผู้สร้างปนเปื้อนเป็นอย่างดี บวกกับจิตลึกลับเองก็แข็งแกร่งอย่างมากด้วย….”
“ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาล้มเหลว !”
“ มันคือการพ่ายแพ้หมดรูป !”
“ หลังจากนั้นจิตลึกลับก็ได้เข้ามาในสุสานสวรรค์และสร้างบาเรียขึ้นมาเพื่อขังร่างแยกเอาไว้ จากนั้นภายใต้ข้ออ้างด้วยความยุติธรรมแล้ว มันก็ได้สร้างโกลาหลนภาขึ้นมา”
จิตลึกลับรึไห่อู่เซิง ไม่อาจจะกำจัดซุนเหยียนได้ ดังนั้นจึงได้แต่ขังเขาเอาไว้
“ เขาแทบสิ้นหวัง เขาไม่มีความสามารถที่จะทำลายบาเรียที่จิตลึกลับสร้างเอาไว้ เขาได้แต่มองดูตัวเองโดนขังไว้ที่นี่ จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อได้เห็นว่าสามารถควบคุมเหล่าหุ่นเชิดได้ เขาก็รู้สึกได้ว่าความแข็งแกร่งของตัวเองเพิ่มขึ้นมาทีละนิดๆ…”