ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1828 จ้าวโกลาหล
ผู้ควบคุมและกุยหยวนเหล่านี้มีค่าต่อทั้งจางหยูและไห่อู่เซิง พวกนี้คือทรัพยากรที่มีค่า บทบาทของพวกนี้ไม่อาจจะมองข้ามได้ แต่จางหยูและไห่อู่เซิงนั้นใช้คนละวิธีกัน
เป้าหมายของไห่อู่เซิงคือการกลืนกินพวกนี้เพื่อขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล เมื่อโกลาหลนภากลายเป็นโกลาหลแล้ว เขาก็จะได้ขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลจริงๆ วิธีนี้เรียบง่ายและใช้เวลาน้อยที่สุด
แต่วิธีของจางหยูนั้นซับซ้อนกว่า เขาจะใช้ผู้ควบคุมและกุยหยวนเหล่านี้เข้าไปในโลกตันเถียน เมื่อมีพวกนี้อยู่จะเป็นการเร่งการพัฒนาของโลกตันเถียนขึ้นจากเดิมหลายเท่า
ในทางกลับกันวิธีของไห่อู่เซิงนั้นอันตรายกว่าแต่ก็รวดเร็วกว่า แต่วิธีของจางหยูนั้นปลอดภัย แม้ว่าจะช้ากว่าเล็กน้อยก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอันตรายใดๆแอบแฝงอยู่งั้นก็ควรสร้างรากฐานให้มั่นคง
แต่ละคนต่างก็มองคนกลุ่มนี้ต่างกันออกไป
ไห่อู่เซิงมองคนเหล่านี้เป็นอาหารซึ่งพวกนี้ต้องตายหากไม่ร่วมมือกับไห่อู่เซิง ยังไงซะก็ไม่มีใครต้องการใช้ชีวิตตัวเองอย่างไร้ค่าแบบนั้น
…
แม้ว่าจางหยูจะคอยปกป้องสุสานและไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็ใช่ว่าเขาจะอยู่เฉยๆ ในทางกลับกันแล้วจางหยูได้แต่งเรื่องใหม่ขึ้นมาและทำการปรับเรื่องในหัวของเขาเพื่อสร้างโลกขึ้นมา ก่อนจะส่งหนังสือไปให้กับจางลู่เพื่อคอยเล่าเรื่องให้ศิษย์และอาจารย์ฟังทุกๆวันพร้อมกับโลกใหม่ที่กำเนิดขึ้นมา
เมื่อเวลาผ่านไปโลกในตันเถียนของจางหยูก็เพิ่มมากขึ้น จำนวนมันยังเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
ในพริบตาก็ผ่านไป 3 ปี จำนวนโลกที่เกิดใหม่นั้นมากเกินพันใบ เมื่อรวมกับโลกเดิมแล้ว โลกด้านในนั้นมีเกือบ 1,500 ใบ
จางลู่ได้ทำการเปิดช่องทางสู่โลกเหล่านั้นเพื่อที่พวกเขาจะเดินทางไปมาหากันได้ โลกที่อ่อนแอนั้นใช้เป็นทางผ่านเพื่อไปยังโลกระดับสูง โลกระดับสูงก็ต้องเดินทางไปยังโลกระดับต่ำก่อนเพื่อที่จะเดินทางไปยังโลกอื่น
สามปีก่อนการปรากฏตัวของไห่อู่เซิง ทำให้ความคิดฟุ้งซ่านของผู้คนในโกลาหลได้หยุดลง พวกเขารับรู้ได้ถึงอันตราย พวกที่เคยสงสัยว่าจางหยูร่วมมือกับวิหารอวี๋ฮุ่นต่างก็มารวมตัวกันที่โลกป่า
จางลู่จะคอยสร้างรูหนอนขึ้นเพื่อส่งพวกนั้นเข้าไปในโลกตันเถียน
ด้วยผู้คนที่แห่กันมานี้ โลกตันเถียนก็เติบโตขึ้นเร็วกว่าเดิมอีก
ไม่ใช่แค่โลกขั้น 6 โลกขั้น 7 และ 8 รวมถึงโลกขั้น 9 ก็ยังพัฒนาได้เร็วกว่าเดิม ผลสุดท้าย…ซุนเหยียน, เสี่ยวเสียและซุนวูก็แข็งแกร่งขึ้นด้วยความเร็วที่น่าตกใจ จางหยูนั่งอยู่ในสุสานถึง 5 ปี
ตอนนั้นโลกผังหลงก็ได้ยกระดับขึ้นเป็นโลกขั้นที่ 9 ได้สำเร็จ !
จางหยูที่นั่งแต่งเรื่องอยู่นั้นกลับรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในโลกตันเถียนรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของจิตผู้สร้าง เขาอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น
โลกผังหลงได้กลายเป็นโลกขั้น 9 แล้ว ด้านนอกโลกมีบรรพกาลก่อตัวขึ้นมา
จางหยูรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าจิตผู้สร้างเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก มันราวกับผู้ควบคุมขั้น 9 ขึ้นไปถึงระดับร้อยรึอาจจะมากกว่านั้น
ก่อนที่จางหยูจะปรับตัวกับพลังใหม่ได้ก็เกิดพลังปะทุขึ้นมาอีก จิตผู้สร้างของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า มันราวกับโลกตันเถียนได้ยกระดับตัวเองขึ้นมา แค่ไม่กี่อึดใจก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
“ นี่มัน…” แรงกดดันที่แผ่ออกมาจากตัวจางหยูแผ่ไปทั่วทุกทิศทาง ตอนนั้นทั้งสุสานเอ่อล้นไปด้วยพลังของจางหยู ราวกับเขาเป็นเทพสูงสุดของที่นี่
เสี่ยวเสียที่กำลังกินปราณสุสานอยู่นั้นรับรู้ได้ถึงแรงกดดันอันน่ากลัวนี้ ตัวของมันสั่นไหวด้วยความกลัว
ร่างของจางหยูค่อยๆลอยขึ้นไปยืนอยู่บนท้องฟ้าและแผ่แรงกดดันออกมาราวกับระลอกน้ำที่กระจายออกไปทั่ว ตัวของเขาทอแสงอันศักดิ์สิทธิ์ออกมา แรงกดดันนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กจ้อย
“ นี่คือจ้าวโกลาหลรึ ?” การทะลวงผ่านนี้ทำให้จิตของจางหยูแข็งแกร่งอย่างมาก มันราวกับป้อมปราการ แม้ว่าร่างกายและวิญญาณจะถูกกำจัดไป แม้ว่าจิตผู้สร้างจะพังลงไปแต่เขาจะยังเป็นอมตะอยู่
เสี่ยวเสียมองร่างบนท้องฟ้าที่แผ่แสงสว่างออกมาไม่สิ้นสุดด้วยความเคารพ
เสี่ยวเสียไม่กล้ามองไปที่จางหยูโดยตรงราวกับว่าการกระทำนั้นจะเป็นการดูหมิ่นเทพ แข็งแกร่งจริงๆ !
ภายใต้แรงกดดันนี้เสี่ยวเสียรู้สึกราวกับเป็นมด ต่อหน้าแรงกดดันนี้มันไม่อาจจะต้านทานได้เลย
นี่คือความแข็งแกร่งที่เหนือชั้นเพียงพอที่จะบดขยี้มันได้ !
….
ณ.โกลาหลนภา
ไห่อู่เซิงยังคงตั้งมั่นที่จะกลืนกินโกลาหลเพื่อขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล เขาหวังว่าสักวันจะได้ขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลเพื่อเอาชนะจางหยูและคนอื่นๆ เมื่อรับรู้ได้ถึงแรงกดดันนี้ไห่อู่เซิงก็ต้องตื่นขึ้นมา
“ เกิดอะไรขึ้น !” ไห่อู่เซิงแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา เพื่อตรวจสอบต้นตอของแรงกดดันนี้ไห่อู่เซิงก็แผ่การรับรู้ออกไปทั่วโกลาหลนภา เมื่อไม่พบต้นตอนี้เขาก็ได้ตรวจสอบสุสาน ต่อมาเขาก็ต้องลุกขึ้นยืนพร้อมสีหน้าตกตะลึงและเหลือเชื่อ “ จ้าวโกลาหล !เขาขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลได้ยังไง !”
กำเนิดจ้าวโกลาหล !
แต่ไห่อู่เซิงไม่คิดจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้
ถึงอย่างนั้นแสงที่ส่องประกายและพลังที่เกินขีดจำกัดของเขาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าชายหนุ่มคนนี้ได้ขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลจริงๆ !
ไห่อู่เซิงยังไม่ทันได้ตั้งตัว ที่สุสานสวรรค์นั้นจางหยูแค่ก้าวเท้าออกไปเบาๆ เศษเสี้ยวจิตผู้สร้างก็ได้แผ่ออกมาจากตัวและกวาดไปโดยรอบ ก่อนที่สุสานจะเริ่มพังทลายลงราวกับโลกโดนทำลาย ไม่กี่อึดใจสุสานก็พังลงหมด บอลเลือดเองก็ได้ละลายลงไปด้วย
สุสานสวรรค์และปราณสุสานได้หายไปอย่างสมบูรณ์
จุดเชื่อมต่อระหว่างโกลาหลและโกลาหลนภาที่ซ่อนอยู่ด้านในก็เปิดเผยออกมาด้วย
ร่างของต้นไม้โกลาหลสั่นไหวเล็กน้อย เมื่อรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังนี้ที่ต่างจากเจ้านายของมัน แต่กลับรู้สึกคุ้นเคย….นี่คือพลังของจ้าวโกลาหล !
“ จ้าวโกลาหล !” ต้นไม้โกลาหลแสดงท่าทียินดีและแปลกใจออกมา “ พ่อบุญธรรมขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลแล้ว !”
แรงกดดันอันน่ากลัวแผ่ออกมาจากเขตหวงห้ามไปทั่วโกลาหล ทุกโลกแม้แต่คนธรรมดาจนถึงผู้ควบคุมขั้น 9 ต่างก็พากันคุกเข่าลงเพื่อแสดงความเคารพราวกับเจอเทพที่แท้จริง
ที่โลกป่า
สีหน้าของจางเฮ่าหลันก็เปลี่ยนไปทันทีราวกับเจอศัตรู
ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็พากันหวาดกลัวขึ้นมา
ทุกคนคิดว่าไห่อู่เซิงขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลแล้ว
สุดท้ายจุดจบของโกลาหลก็มาถึง !
แต่ไม่นานจางลู่ก็ได้พูดขึ้นมา “ ไม่ต้องกังวล นี่คือคลื่นพลังของร่างหลัก ! “
…
ซุนเหยียน, ซุนเมิ่งและซุนวูรีบมายังโลกป่าด้วยความตะลึงและตื่นเต้น
อาจารย์และศิษย์ของสำนักต่างก็พากันตื่นเต้นและภาคภูมิใจ
…
ที่เขตหวงห้าม
จางหยูปรับตัวกับพลังใหม่ ผ่านไปสักพักพลังก็ถูกปกปิดเอาไว้ แม้ว่าจะผนึกพลังทั้งหมดไม่ได้แต่ก็ไม่ได้แผ่ออกจากตัวมากนัก
เขามองไปที่จุดเชื่อมต่อแล้วยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็หายตัวเข้าไปในจุดเชื่อมต่อนั้นทันที
ที่โกลาหลนภา
จางหยูได้ตามหาไห่อู่เซิง “ ข้าขอโทษด้วย…ที่ขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลก่อนเจ้าซะได้ ”