ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1854 สีแดง
สิ่งที่เรียกว่าการทดสอบนั้นไม่ใช่การสู้กับคนและไม่ใช่การทดสอบด้วยคำถาม แต่เป็นการทดสอบผ่านหินที่รับรู้ได้ถึงพลังผันผวนในจิตได้
หินนี้ตั้งอยู่ในห้องปิดขนาดใหญ่ ผิวของหินสลักด้วยอักขระลึกลับและแผ่พลังโบราณออกมา
หินนี้จะแสดงสีตามการผันผวนของพลังจิต ยิ่งพลังจิตแกร่งเท่าไหร่ แสงก็ยิ่งสว่างเท่านั้น
ในสถานการณ์ปกติแล้วสีที่แสดงออกมานั้นจะเป็นสีดำ จ้าวโกลาหลทั่วไปจะทำให้มันแผ่แสงออกมาเป็นสีเขียวได้ สมาชิกของกองทัพเทียนลั่วจะทำให้มันแผ่แสงสีฟ้าออกมา ส่วนกวนที่เป็นหัวหน้าหน่วยจะทำให้แผ่แสงสีส้มออกมาได้ เหนือกว่านั้นคือสีแดง, ทองและขาว
ขีดจำกัดของหินนี้คือสีขาว การที่ทำให้หินแผ่แสงสีขาวออกมาได้นั้นมีแค่แม่ทัพเท่านั้น
ซีหยุนอธิบายกฎให้จางหยูและคนอื่นๆฟัง ก่อนจะพูดขึ้น “ ตราบใดที่เปลี่ยนแสงให้เป็นสีฟ้าได้ งั้นก็ผ่านเกณฑ์ แม้ว่า…จะเป็นสีเขียวหม่นแต่ก็ทำสัญญาว่าจ้างในนามของกองทัพเทียนลั่วได้ “
มันมีขอบเขตย่อยสำหรับสีต่างๆ เขียวหม่นนั้นอยู่ระหว่างสีฟ้าและเขียว หมายถึงพลังที่แกร่งกว่าจ้าวโกลาหลทั่วไป แต่ยังเทียบกับสมาชิกกองทัพเทียนลั่วไม่ได้
“ เกณฑ์สำหรับทหารรับจ้างต่ำขนาดนั้นเลยรึ ?” จางหยูแปลกใจ
“ ต่ำรึ ?” ซีหยุนไม่รู้ว่าจะหัวเราะรึร้องไห้ดี “ หากเจ้าทดสอบได้แสงสีฟ้าก็ผ่านเกณฑ์การเข้าร่วมกองทัพแล้ว แต่เจ้ามีคนมากมาย เกรงว่าคงไม่แข็งแกร่งมากนักแต่ก็ยังพอรับได้ การว่าจ้างแบบทีมมีเกณฑ์ที่ต่ำกว่าการว่าจ้างแบบบุคคล ยังไงซะข้อได้เปรียบของทีมก็คือจำนวนคน ซึ่งมันไม่อาจจะเอาคนคนเดียวมาเทียบได้”
จางหยูพยักหน้า คำพูดของซีหยุนนั้นเขาเห็นด้วย
“ ใครก่อน ?” ซีหยุนเหลือบมองคนของสำนักคังเฉียง
ทุกคนอยากที่จะทดสอบ แม้ว่าหินนี่จะไม่อาจจะบอกความแข็งแกร่งของพวกเขาได้แม่นยำแต่ก็ยังพอบอกอะไรได้บ้าง การผันผวนของพลังจิตนั้นไม่ได้บอกถึงความแข็งแกร่งโดยตรงแต่ก็ยังพออ้างอิงได้
ต้นไม้โกลาหลคิดและพูดขึ้นมา “ งั้นข้าก่อน”
ต้นไม้โกลาหลเดินไปที่หินและวางฝ่ามือลงไป จากนั้นแสงของหินก็ค่อยๆเปลี่ยนไป สุดท้ายมันก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวและกลายเป็นสีเขียวหม่น จากนั้นมันก็หยุดเปลี่ยนสี
ชัดแล้วว่าต้นไม้โกลาหลนั้นได้รับสืบทอดความแข็งแกร่งมาจากซุนกวน หากเทียบกับจ้าวโกลาหลทั่วไปแล้วเขาแกร่งกว่ามาก แต่ถ้าเทียบกับสมาชิกของกองทัพเทียนลั่วแล้ว เขาด้อยกว่าเล็กน้อย
“ เขียวหม่น” ซีหยุนพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ ดี !”
ผลลัพธ์ของการทดสอบนี้แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ซีหยุนผิดหวัง
หากทุกคนในสำนักคังเฉียงผ่านเกณฑ์นี้ ไม่สิ แค่ 500 คนที่ผ่านเกณฑ์นี้ก็เพียงพอที่จะได้รับการว่างจ้างแบบทีมจากกองทัพเทียนลั่วแล้ว พวกเขาสามารถตั้งทีมเพื่อเป็นพันธมิตรกับกองทัพเทียนลั่วได้
ซีหยุนมองไปทางจางหยูและคนที่เหลือด้วยสายตาคาดหวัง “ คนแรกผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ เหลือคนอีกเยอะ แค่ 500 คนก็เพียงพอแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรสินะ ?”
“ ข้าอยากลองด้วย” เหล่าเหอมองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าทุกคนยังแสดงท่าทีเยือกเย็นอยู่ ก็ได้เดินออกมา
ทุกคนพากันมองไปที่เหล่าเหอด้วยสายตาคาดหวัง เหล่าเหอเข้าร่วมสำนักคังเฉียงได้ไม่นาน ระดับการบ่มเพาะเดิมทีของเขาก็ต่ำอยู่แล้ว แม้แต่ตอนนี้ในหมู่ทุกคนความแข็งแกร่งของเหล่าเหอก็อยู่อันดับต่ำ แม้ว่าจะไม่ได้อ่อนแอที่สุดแต่ก็แทบไม่ต่างอะไรกัน
พวกเขาอยากรู้ว่าเหล่าเหอจะทดสอบออกมาได้แบบไหนกัน
เหล่าเหอเดินตรงไปที่หินตรงหน้าก่อนจะวางมือลงบนหิน
เมื่อเขาวางมือลงบนหิน แสงของหินก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แสงของหินเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเขียวหม่น, สีฟ้าหม่น, สีส้มและสุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆ
“ แดงจางรึ ?” เหล่าเหอถามขึ้นมา “ มันอยู่ระดับไหนกัน ?”
ซีหยุนมองไปที่หินด้วยความเหลือเชื่อ “ แดงอ่อน !”
กวนเตรียมใจไว้อยู่แล้ว เมื่อเห็นแบบนั้นก็ยังดูค่อนข้างเยือกเย็น
“ ซีหยุน เจ้าไม่พอใจรึ ?” จางหยูถามขึ้นมาด้วยความสนใจ
ซีหยุนมองไปที่จางหยูและเหล่าเหอด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
เขาถึงกับสงสัยว่าหินนั้นผิดปกติ ยังไงซะแสงสีแดงอ่อนนี้ก็โดดเด่นอย่างมาก มันเทียบเท่าได้กับยอดฝีมือ คนแบบนี้แม้แต่ในกองทัพก็ยังมีตำแหน่งที่สูง เขามาอยู่กับคนกลุ่มนี้ได้ยังไง ?
“ ขอโทษด้วย บางทีหินนี่อาจจะมีอะไรผิดพลาด” ซีหยุนขอโทษจางหยู และคนอื่นๆ ก่อนจะบอกกับกวน “กวน เจ้าลองทดสอบดู”
กวนพูดขึ้น “ ผู้อาวุโสซีหยุน หินนี่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตามที่ข้าเข้าใจ คนพวกนี้ส่วนมากล้วนแต่ทัดเทียมกับท่านได้ ข้าได้ประมือกับสุนัขนั่นมาแล้ว ข้ารู้ถึงความแข็งแกร่งของมันได้ดี หากเทียบกับท่านแล้วไม่ได้แย่กว่ามาก”
ซีหยุนอึ้งและถามขึ้นมา “จริงรึ ?”
“ ข้าจะกล้าหลอกท่านได้ยังไง ?” กวนพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง “ หากท่านไม่เชื่อ ท่านลองประมือกับพวกเขาดูก็ได้ ผลลัพธ์คงชัดเจน “
ซีหยุนมองไปที่กวน ก่อนจะมองไปทางคนของสำนักคังเฉียง สายตาเฉยชาในตอนแรกกลับเป็นประกายขึ้นมา หากกวนไม่ได้โกหก งั้นคนกลุ่มนี้ก็เหนือกว่าหัวหน้าหน่วยไม่ใช่รึ ?
หัวหน้าหน่วยกว่า 2,000 คน?
ในประวัติศาสตร์ของโกลาหลซื่อเซียวไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ !
ซีหยุนไม่กล้าดีใจ ยังไงซะใครจะไปรู้ว่าคนอื่นๆในสำนักคังเฉียงจะแข็งแกร่งแค่ไหน ?
“ หินมีปัญหาอะไรรึไม่ ?” เหล่าเหอสับสน “ ทำไมข้าถึงไม่รู้สึกผิดปกติอะไรเลย”
ซีหยุนยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ หินไม่มีปัญหาอะไรหรอก ปัญหาคือตัวข้าเอง ข้าดูถูกพวกท่านเกินไป” แต่เดิมแล้วเขาสุภาพกับจางหยูแค่คนเดียว แต่ตอนนี้เขาต้องสุภาพกับคนของสำนักคังเฉียงทุกคน “ พูดโดยทั่วไปแล้วมีแค่สมาชิกระดับผู้บัญชาการของสามกองทัพเท่านั้นที่จะเปลี่ยนหินนี่เป็นสีแดงได้ ไม่คิดเลยว่าพวกท่านจะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนั้น ”
แดงอ่อนก็ยังเป็นสีแดง !
นี่คือเกณฑ์ที่หัวหน้าหน่วยส่วนมากไม่อาจจะทำได้
บอกได้ว่าความแข็งแกร่งของเหล่าเหอนั้นน่าจะอยู่ระหว่างหัวหน้าหน่วยย่อยกับผู้บัญชาการ
ซีหยุนจ้องมองเหล่าเหอ “ ไม่ทราบว่าท่านมีนามว่าอะไร ?”
เหล่าเหอส่ายหน้า “ ท่านสุภาพไปแล้ว ข้าเป็นแค่สมาชิกของสำนักคังเฉียง ข้าด้อยที่สุดในหมู่พวกเขา หากเทียบกับพวกนั้นแล้วข้ายังห่างไกล”
เหล่าเหอรู้ตัวดี ถึงเขาจะดูโดดเด่นแต่เมื่อคนอื่นทดสอบ เขาก็ต้องดูด้อยกว่า
ซีหยุนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เขาทั้งคาดหวังและกังวลอย่างบอกไม่ถูก “ งั้นก็มาทดสอบกันต่อ ”
“ ข้าเอง ” ซุนหงอคงเดินออกมาและวางมือลงบนหิน
ต่อมาแสงของหินก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็กลายเป็นสีแดงเข้ม
ซีหยุนพูดออกมาด้วยสีหน้าอึ้ง “ แดงเข้ม !”
ต้องรู้ก่อนว่าแม้แต่เขาเองก็ยังเป็นแค่สีแดงแต่ลิงนี่กลับเป็นสีแดงเข้ม !
แดงเข้มเหมือนเลือด !
นี่คือตัวตนระดับสูง เทียบได้กับผู้บัญชาการใหญ่
ตอนแรกเขายังมั่นใจในตัวเองอยู่ และเตรียมใจเอาไว้บ้างแล้วแต่ครั้งนี้เกียรติที่เขามีกลับพังทลายไป
ซีหยุนถึงกับขนลุกเพราะความตื่นเต้น