ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1863 ความวุ่นวาย
ไม่นานหลังจากที่คนของสำนักคังเฉียงจากไป ก็มีอีกทีมเดินทางมาที่นั่น
เมื่อเห็นผู้หญิงที่ดูเย็นชา เจียงจั่วก็เดาตัวตนของอีกฝ่ายออกทันที เขารีบเข้าไปต้อนรับทันที “ ท่านลั่วชา ! “
“ ทีมคังเฉียงไปไหน ?” ลั่วชาถามขึ้นมาทันที
เจียงจั่วไม่กล้าจะปิดบังและชี้ไปทางที่คนสำนักคังเฉียงเดินทางออกไป จากนั้นลั่วชาก็เดินทางตามไปทันที
ที่ชายแดนของเขตสงคราม เจียงจั่วต้องอึ้ง “ นี่มันอะไรกัน ?”
เขตสงครามที่ 4 ไม่ได้มีทีมระดับราชาโผล่มานานแล้ว แต่ตอนนี้กลับมีถึงสองทีม มันแปลกจริงๆ
สิ่งที่น่าสงสัยที่สุดคือทีมคังเฉียงมีอะไรพิเศษถึงทำให้ลั่วชาสนใจเช่นนี้?
…..
จางหยูตรวจสอบสถานการณ์ของเขตสงครามมาตลอดทาง และพาทุกคนหลบหลีกฝ่ายเฝ้าระวังของเผ่าสวรรค์จนแอบเข้ามาในดินแดนสวรรค์ได้
ไม่นานจางหยูก็รับรู้ได้ถึงโกลาหลสวรรค์ โกลาหลแห่งนี้มีทหารเป็นจำนวนมาก ด้านนอกมีทหารคอยคุ้มกัน ด้านในเองก็มีทหารซ่อนตัวอยู่มาก จำนวนนั้นมันมากกว่าทหารที่บุกไปเขต 6 เสียอีก
หากเทียบกับกองทัพซื่อเซียวแล้ว กองทัพสวรรค์นั้นแกร่งกว่าอย่างมากทั้งด้านจำนวนและความแข็งแกร่งโดยรวม
“ การต่อสู้ขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว ” จางหยูบอกกับทุกคน “ นอกซะจากว่าจะเป็นคนระดับแม่ทัพ ไม่อย่างนั้นข้าจะไม่เข้าไปยุ่ง”
เขาไม่สามารถปกป้องทุกคนได้ตลอด ดังนั้นจึงปล่อยให้ศิษย์อาจารย์เรียนรู้และพึ่งพาตัวเอง
ทุกคนต่างแสดงสีหน้าจริงจังออกมาและพยักหน้าตอบรับ
ขณะที่เผ่าสวรรค์ยังไม่รับรู้ถึงการมาของสำนักคังเฉียง จางหยูที่รับรู้ถึงตัวตนของทหารสวรรค์ได้ล่วงหน้า จึงให้หยุดเดินทางไว้ก่อน ทหารพวกนั้นตื่นตัวน้อยเกินไป พวกมันเหมือนกับเครื่องประดับตกแต่งในบ้าน บางทีพวกนั้นอาจจะไม่คิดว่าจะเผ่าชีวิตจะกล้าบุกเข้ามาในถิ่นของตัวเอง
ไม่เคยมีใครเข้าโจมตีเผ่าสวรรค์เช่นนี้มาก่อน
“เดินทางต่ออีกไม่นาน พวกเจ้าจะรับรู้ได้ถึงเผ่าสวรรค์ พวกนั้นมีประมาณหมื่นคน ในหมู่พวกนั้นไม่ได้ขาดคนระดับผู้บัญชาการเลย” จางหยูพูดขึ้น “ ตอนนี้ก็ลงมือได้”
ทุกคนพากันมองหน้ากันก่อนจะปกปิดพลังของตัวเองเอาไว้และเดินทางไปตามทางที่จางหยูชี้
ประมาณ 30 นาทีต่อมา
ทุกคนก็มาถึงจุดที่จางหยูบอก ทหารหลายสิบคนยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็โดนคนของสำนักคังเฉียงจัดการ คนในโกลาหลสวรรค์ไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย
คนของสำนักคังเฉียงเริ่มแฝงตัวเข้าสังหารคนของเผ่าสวรรค์ ตอนนั้นเองที่พวกนั้นรู้ตัวแต่คนของสำนักคังเฉียงแข็งแกร่งเกินไป แม้ว่าจะมีจำนวนแค่ 1 ใน 5 ของเผ่าสวรรค์ แต่ทว่าแต่ละคนก็ทัดเทียมกับผู้บัญชาการ ระดับความแข็งแกร่งที่สูงเช่นนี้ และยังมีจำนวนมากจึงเป็นธรรมดาที่พวกสวรรค์จะรับมือไม่ทัน ส่วนมากมีแต่พวกมันที่โดนจัดการ ไม่นานพวกมันทั้งหมดก็โดนฆ่า
รวดเร็วจริงๆ !
เนื่องจากเผ่าสวรรค์ไม่ทันตั้งตัว คนจากสำนักคังเฉียงจึงใช้เวลาแค่ 15 นาทีในการจัดการพวกนั้นจนหมดและยึดพื้นที่มาได้
โชคร้ายที่แม้ว่ากองทัพนี้จะโดนทำลายไปแต่มันก็เท่ากับเปิดเผยตัวตนของสำนักคังเฉียง ข่าวนี้ได้เผยแพร่ไปยังกองทัพอื่นๆ ดังนั้นกองทัพอื่นๆจึงพากันโกรธแค้นและระวังตัวกันมากขึ้น การที่คนของทีมคังเฉียงทำแบบนี้ได้คงไม่ธรรมดา
ในขณะที่ทุกคนเดินหน้าต่อเพื่อหาเป้าหมายต่อไปนั้น กองทัพสวรรค์ก็เริ่มติดต่อกัน
“ บังอาจ ! เป็นแค่มดปลวกแต่กลับกล้าเข้ามาในดินแดนสวรรค์ของเรา !”
“ ฝ่ายสอดแนมบอกว่าพวกนั้นเป็นทีมระดับราชา….ทีมระดับราชาแค่ทีมเดียว ใครกันที่ให้ความกล้าพวกมัน เข้ามายังดินแดนสวรรค์แห่งนี้ !”
“ ส่งกองทัพ 7 และ 9 ไปสนับสนุน หากข้าลงมือแล้ว ! พวกนั้นคงไม่มีใครรอดกลับไปได้ !”
“ ให้กองทัพ 5 ออกค้นหาด้วย ค้นหาทุกสถานีเพื่อหาว่าพวกมันอยู่ที่ไหน เมื่อค้นหาพบก็ให้ฆ่าทันที…”
เหล่าผู้บัญชาการต่างก็พากันเกรี้ยวกราด ในหมู่พวกเขา ผู้บัญชาการใหญ่ได้สั่งการให้กำจัดคนเหล่านี้ หากไม่ใช่เพราะว่ากองทัพของพวกเขาได้ต่อสู้กับกองทัพซื่อเซียวเมื่อไม่นานมานี้ และตอนนี้ต้องทำการฟักฟื้น เขาคงอยากจะส่งทหารทั้งหมดออกไปจัดการกับพวกมดปลวกนี้ให้สิ้นซาก
เมื่อผู้บัญชาการใหญ่สั่งการออกมา กองทัพที่ 5, 7 และ 9 ก็เคลื่อนไหวทันที จากนั้นก็มีรายงานเข้ามาว่าสถานีที่ 8 และ 6 โดนโจมตีไปแล้ว ทั้งกองทัพถูกทำลาย
เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงกองทัพสวรรค์ก็สูญเสียคนไปกว่า 20,000 คน หากนับรวมกับกองทัพที่ 10 ที่บุกโจมตีในเขต 6 ก่อนหน้านี้แล้ว เผ่าสวรรค์ได้เสียคนไปกว่า 30,000 คน นี่คือตัวเลขที่ไม่อาจจะรับได้ นอกจากการเปิดสงครามเต็มกำลังกับกองทัพซื่อเซียวที่ชายแดนแล้ว เผ่าสวรรค์ก็ไม่เคยสูญเสียคนมากแบบนี้มาก่อน
วุ่นวาย !
ทั้งกองทัพสวรรค์ทั้งหมดต่างก็พากันวุ่นวาย!
เหล่าผู้บัญชาการและผู้บัญชาการใหญ่ของกองทัพสวรรค์ต่างก็พากันโมโหขึ้นมา
พวกเขาได้ส่งคนออกค้นหาร่องรอยคนจากสำนักคังเฉียง ทั้งกองทัพสวรรค์เริ่มเคลื่อนไหว กองทัพทั้ง 10 ได้ร่วมมือกัน พวกเขาต้องหาตัวศัตรูให้ได้และจะทำการล้อมศัตรูเอาไว้
ที่สถานีที่ 6
เมื่อจัดการกับกองทัพที่ 6 ได้หมด คนของสำนักคังเฉียงก็พากันเลือดร้อนยิ่งกว่าเก่า
“ นี่คือกองทัพสวรรค์งั้นรึ ?” นาจาพูดขึ้นมา “ ดูเหมือนไม่ได้แกร่งเท่าไหร่เลย ! เราจัดการพวกนั้นได้ง่ายๆ หากนับรวมกับก่อนหน้านี้แล้ว งั้นก็เท่ากับว่าเราจัดการไปกว่าสามหมื่นคนแล้ว !”
หงอคงพูดขึ้นมา “ เราแข็งแกร่งเกินกว่าที่พวกนี้จะเทียบได้ ข้ายังไม่ทันได้ออกแรงเลย “
หยวนเทียนจีส่ายหน้าและพูดขึ้น “ เราแค่ได้เปรียบเรื่องความแข็งแกร่งรายบุคคล เรามีจำนวนน้อยกว่าและเคลื่อนที่ได้เร็วกว่า การที่ทำแบบนี้ได้มันก็ไม่แปลก หากโดนพวกนั้นล้อมเอาไว้ ด้วยจำนวนศัตรูแล้ว ความได้เปรียบของเราก็จะหมดลง…จากนั้นเราคงได้แต่หนี”
“ ใช่ เราอย่าเพิ่งดีใจไป” เฉินกูพูดขึ้น “ เราไม่อาจจะปล่อยให้โดนล้อมได้ เมื่อเราพบกับกองทัพศัตรู เราต้องจัดการพวกนั้นโดยเร็วที่สุด และรีบย้ายไปยังตำแหน่งต่อไป”
คนส่วนมากยังคงใจเย็นกันอยู่ พวกเขาไม่ได้ดีใจกับผลงานที่ทำได้
พวกเขาต่างก็รู้ถึงข้อได้เปรียบของตัวเองดี พวกเขารู้ว่ามีจุดอ่อนตรงไหน พวกเขาเหมือนกับทีมทหารระดับสูง ที่ประกอบไปด้วยผู้บัญชาการใหญ่และผู้บัญชาการมากถึงสองพันคน มันเพียงพอที่จะคุกคามกองทัพสวรรค์ไม่ว่าจะกองทัพไหน พวกเขาคล้ายกับกองกำลังพิเศษ แต่ถ้าหากพวกเขาโดนล้อม งั้นต่อให้พวกเขาจะแข็งแกร่งแต่เมื่อต้องรับมือกับศัตรูรอบด้าน ผลลัพธ์คงมีแค่ความตายเท่านั้นที่รออยู่
ไม่นานพวกเขาก็ย้ายไปยังตำแหน่งต่อไปก่อนจะพบกับกองกำลังเสริมที่เผ่าสวรรค์ส่งมา
เมื่อพบคนของเผ่าสวรรค์ พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะลงมือ
สุดท้ายกองทัพสวรรค์ก็เริ่มกังวลขึ้นมา หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่กล้าส่งกองทัพแค่กองเดียวออกไป การค้นหาแต่ละครั้งจะมีกองทัพ 1-2 กองหรือไม่ก็มากกว่านั้นเดินทางไปด้วยกัน
ทีมคังเฉียงสร้างความวุ่นวายอย่างมาก แม้แต่แม่ทัพของกองทัพสวรรค์ก็ยังต้องตะลึง เขาได้ส่งผู้บัญชาการใหญ่นำทัพออกไปค้นหาร่องรอยของทีมคังเฉียง โดยมีผู้บัญชาการคนหนึ่งนั่งอยู่ในเมืองคอยสั่งการ
หลังจากที่ฆ่าคนจากเผ่าสวรรค์ไปมากกว่า 40,000 คน มันก็ราวกับว่าอยากให้ทีมคังเฉียงสร้างผลงานที่ใหญ่กว่าเดิม สุดท้ายพวกเขาก็พบกับของจริงเข้า
ครั้งนี้พวกเขาได้พบผู้บัญชาการใหญ่ที่นำทัพมาด้วยตัวเอง จำนวนนั้นมีแค่ 3,000 คน แต่ความแข็งแกร่งของทีมนี้น่ะเหนือกว่ากองทัพที่พวกเขาเคยเจอมา ผู้บัญชาการใหญ่ที่นำทัพมาในครั้งนี้ทำให้ทีมคังเฉียงต่างก็รู้สึกกดดัน
“ เจ้าพวกเผ่าชีวิต !” ผู้บัญชาการใหญ่จ้องมองทีมคังเฉียงด้วยสายตาเย็นชา “ ที่นี่คือที่ตายของพวกเจ้า !”