ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1868 ถอย
ทันทีที่เห็นแรนเดล ลั่วชาก็พลันเงียบขรึม
นางรู้สึกไร้พลังขึ้นมาทันที รวมถึง…สิ้นหวังอีกด้วย
ความแข็งแกร่งของแม่ทัพนั้นราวกับนางเป็นแค่หยดน้ำที่กำลังเผชิญหน้ากับมหาสมุทร นางไม่คิดเลยว่าจะต้านทานได้
แม้แต่ซือหมิงที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บหนัก นางก็ไม่แน่ใจว่าจะเอาชนะเขาได้ แล้วนับประสาอะไรกับแม่ทัพ?
แม้ว่าแรนเดลจะเป็นแม่ทัพที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาแม่ทัพคนอื่นๆ แต่ก็ไม่ใช่คนที่นางจะต้านทานได้
สีหน้าของลั่วชาบิดเบี้ยวและถึงกับรู้สึกผิดขึ้นมา หากนางรู้ว่าจะมีเรื่องกับแม่ทัพ งั้นนางคงไม่มีทางเข้ามาในอาณาเขตของเผ่าสวรรค์เป็นแน่
” บัดซบ !” ลั่วชาขมวดคิ้ว นางทั้งรู้สึกสิ้นหวังและไร้พลังอย่างมาก ” ก่อนหน้านี้มีคนตั้งมากมายรับภารกิจนี้ แม้ว่าพวกเขาจะเข้ามาที่นี่ แต่ไม่เคยมีใครได้พบกับแม่ทัพ แล้วทำไมเราถึงได้เจอ….”
ทีมคังเฉียงเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมา
” แม่ทัพออกมาแล้ว ทำไมเจ้าสำนักถึงยังไม่ปรากฏตัวอีก ?” ทีมคังเฉียงพากันสับสน
หยวนเทียนจีมองไปที่ลั่วชา ก่อนจะถามขึ้นมาด้วยความลังเล ” ยังไงต่อ ? ”
ลั่วชาสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วตะโกนขึ้น ” หนี ! จะรอดรึไม่ก็ขึ้นอยู่กับโชค ! ”
นางเหมือนเตรียมใจที่จะตายที่นี่แล้ว ยังไงซะนางกับแม่ทัพก็ต่างชั้นกันอย่างมาก
สมาชิกทั้งสองทีมไม่อาจจะรับมือกับการโจมตีของท่านแม่ทัพได้ ผลก็คือทั้งสองทีมอาจจะโดนฆ่าตายยกทั้งทีมก็ได้
แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ไม่อาจจะทอดทิ้งพวกนี้เอาไว้ได้ แม้ต้องตาย นางก็จะลากเผ่าสวรรค์ไปด้วย นางต้องให้พวกนี้ได้สูญเสียบ้าง !
ตอนนั้นอารมณ์ของทั้งสองทีมต่างก็อึมครึม
พวกทหารเผ่าสวรรค์รวมถึงผู้บัญชาการใหญ่ต่างก็พร้อมที่จะลงมือ พวกนั้นรอแค่แรนเดลสั่งการ จากนั้นก็จะลงมือทันทีเพื่อปลิดชีวิตทั้งสองทีม
” ฮ่าฮ่า ! พวกเจ้าจบสิ้นแล้ว ! ” ผู้บัญชาการใหญ่แสดงสีหน้าตื่นเต้นขึ้นมา
ทหารหลายหมื่นคนไม่ได้โง่ พวกนั้นต่างก็แผ่พลังของตนออกมา
สนามรบตกอยู่ในความเงียบงัน มันราวกับความเงียบก่อนที่จะเกิดพายุ
ตอนนี้บรรยากาศอึมครึมอย่างมาก
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ แรนเดลก็พูดขึ้นมา ” ถอย ”
ซือหมิงที่กำลังจะพุ่งเข้าใส่ลั่วชาก็พลันชะงักและหันไปมองแรนเดลด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ ก่อนจะถามออกมาว่า ” ท่านว่ายังไงนะ ?”
เขาได้ยินผิดไปรึ ?
ไม่ เขาต้องหูฝาดไปแน่ๆ !
เหล่าทหารต่างก็นิ่งไป พวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง
ทีมคังเฉียงและทีมลั่วชาพากันมองหน้ากัน เรื่องนี้มันดูประหลาดขึ้นเรื่อยๆ
ลั่วชาที่เตรียมใจจะตายแล้วแต่เมื่อได้ยินคำสั่งของแรนเดล นางก็ต้องสับสน นางแทบจะเผลอปล่อยดาบในมือไป
” ข้าบอกว่าถอย !” แรนเดลพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าหม่นหมอง ” พวกเจ้าไม่เข้าใจรึไง? ”
” ผู้อาวุโส ! ” ผู้บัญชาการใหญ่รู้ตัวแล้วว่าไม่ได้หูฝาดไป เขาแค่ไม่อาจจะทำใจเชื่อและไม่อาจจะยอมรับได้ ” คนเหล่านี้แอบเข้ามาในอาณาเขตของเรา เข่นฆ่าทหารของเราไปนับไม่ถ้วน ตอนนี้เรามีโอกาสที่จะจัดการกับคนพวกนี้ แล้วทำไมท่านกลับสั่งให้เราถอย…”
เขาไม่ยอม !
เพื่อที่จะสังหารทีมคังเฉียงแล้วเขาถึงกับบาดเจ็บหนัก แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เขาก็ยังไม่อาจจะฆ่าพวกนี้ได้สักคน มันคือความอัปยศ มันเป็นตราบาปที่ทั้งชีวิตก็ไม่อาจจะเลือนลางได้ แล้วเขาจะยอมได้ยังไง ?
” ข้ารู้ว่าเราเสียคนไปจำนวนมาก แนวป้องกันนี้ใกล้จะพังแล้วแต่พวกนั้นก็ได้รับบาดเจ็บเพราะเจ้า ซึ่งหนึ่งในนั้นก็บาดเจ็บหนัก แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ” แรนเดลไม่อาจจะบอกสิ่งที่คิดออกมาได้ ” ปล่อยพวกนี้ไป ”
ผู้บัญชาการใหญ่เบิกตากว้างด้วยความเหลือเชื่อ เขาไม่คิดว่าคำพูดนี้จะออกมาจากปากของแม่ทัพ
มัน….น่าตลกสิ้นดี ! เหล่าทหารต่างก็แสดงสีหน้าสับสน ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ
แม้แต่ลั่วชาเองก็ยังมีความคิดแปลกๆในหัว ” แรนเดล คงไม่ใช่สายลับของโกลาหลซื่อเซียวหรอกนะ ?”
หากคนที่ไม่รู้คงคิดว่า แรนเดลนั้นเป็นสายให้กับฝั่งเผ่าชีวิตอย่างแน่นอน !
” ผู้อาวุโส ! ” ซือหมิงคลุ้มคลั่งขึ้นมา เขาคุกเข่าให้กับแรนเดลก่อนจะพูดขึ้นว่า “พี่น้องของพวกเราโดนพวกนี้ฆ่าไปตั้งเท่าไหร่? ตอนนี้ชัดแล้วว่าเรามีโอกาสที่จะฆ่าพวกนี้ทิ้ง แต่ท่านกลับสั่งให้ถอย เราจะทวงหนี้แค้นให้พี่น้องของเราได้ยังไง ? ข้ายืนกรานว่าท่านต้องกำจัดพวกนี้ทิ้ง ! ”
สุดท้ายเสียงของเขาก็แหบแห้งไป ดวงตาเขาแดงก่ำไปด้วยเลือด
” แม่ทัพโปรดปลิดชีวิตพวกนี้ด้วย ! ” เหล่าทหารพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
แรนเดลเริ่มมีสีหน้าเคร่งเคลียด ” พวกเจ้าคิดจะก่อกบฏรึ ? ”
ซือหมิงพูดขึ้นมา ” พวกเรามิกล้า ! ”
” หึ ! มิกล้า ? แล้วที่ข้าเห็นมันคืออะไร! ” แรนเดลฮึดฮัดออกมาอย่างเย็นชา เขาอยากจะใช้อำนาจของแม่ทัพ แต่เมื่อพิจารณาถึงสภาพที่อ่อนแอในตอนนี้ บวกกับว่าทีมคังเฉียงมีหัวหน้าทีมลึกลับคอยหนุนหลังแล้ว เขาก็ได้แต่ต้องปล่อยพวกนี้ไป ” ข้าให้เวลาพวกเจ้า 10 อึดใจ หากใน 10 อึดใจนี้ใครยังไม่ถอย ข้าจะถือว่าเป็นกบฏ ”
” ท่านแม่ทัพ ! ” ซือหมิงตะโกนอออกมา
แรนเดลมองไปที่อีกฝ่ายด้วยท่าทีเฉยเมยและพูดขึ้น ” 1, 2, 3….”
ซือหมิงกำหมัดแน่น เขาได้แต่กดความแค้นเอาไว้ ในใจยังคงไม่ยอม
แต่เมื่อแรนเดลนับถึง 5 เขาก็ต้องวางดาบลงและถอยออกมาจากลั่วชากับคนอื่นๆ จากนั้นเขาก็หันหลังแล้วเดินทางไปยังอาณาเขตของเผ่าสวรรค์เพียงลำพัง ทุกคนต่างก็รู้ว่าเขาไม่พอใจแค่ไหนแต่ต้องกดมันเอาไว้
แน่นอนว่าเขาไม่เต็มใจที่จะถอยกลับแต่มันคือคำสั่งของท่านแม่ทัพ แม้ว่าเขาจะโกรธแค้นแค่ไหนแต่ก็ได้แต่ต้องเชื่อฟัง
นี่คือคำสั่งของท่านแม่ทัพ แม้แต่ผู้บัญชาการใหญ่ก็ไม่อาจจะขัดได้
ต่อให้เขาอ้อนวอนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ด้วยการจากไปของซือหมิง ทหารเผ่าสวรรค์โดยรอบถึงจะไม่พอใจ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมกลับไปด้วยความเจ็บปวด
” พวกเจ้ารู้รึไม่ว่าข้ากำลังช่วยพวกเจ้าอยู่ ! ” แรนเดลพึมพำออกมา เขาไม่อยากยอมรับว่าเขาทำเพื่อเอาตัวรอด ” หากพวกเจ้ากล้าลงมือกับทีมคังเฉียงแล้ว งั้นที่นี่คงเป็นที่ตายของพวกเจ้า ! ”
ทีมคังเฉียงและทีมลั่วชาต่างก็รู้สึกราวกับฝัน
กองทัพเผ่าสวรรค์และผู้บัญชาการใหญ่ยอมถอยงั้นรึ ?
พวกเขาพากันมองแรนเดล ไม่ใช่ว่าชายคนนี้ต้องลงมือฆ่าพวกเขารึ ?
ลั่วชาแอบมองไปที่แรนเดลด้วยท่าทีระแวง นางไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะปล่อยพวกนางไปง่ายๆ
ความสูญเสียของเผ่าสวรรค์ในครั้งนี้มากมายมหาศาลนัก แม้ว่าแรนเดลจะเป็นถึงแม่ทัพ แต่ถ้าหากปล่อยพวกเขาไป คาดว่าจักรพรรดิของเผ่าสวรรค์คงไม่ปล่อยแรนเดลไปง่ายๆ นางไม่คิดว่าแรนเดลจะไม่นึกถึงผลลัพธ์เรื่องนี้เอาไว้
” พวกเจ้าไปได้แล้ว ” แรนเดลถอนหายใจออกมาพร้อมกับโบกมือไล่ทีมคังเฉียงและทีมลั่วชา ” รีบออกจากอาณาเขตของเผ่าสวรรค์ซะ ไม่งั้นแล้วข้าไม่อาจจะรับรองความปลอดภัยของพวกเจ้าได้…”
” เขาปล่อยพวกเราไปจริงๆรึ ? แต่ทำไมกัน ? ” ลั่วชาคิดหาเหตุผลไม่ออก ว่าทำไมแรนเดลถึงได้ทำเช่นนี้
” พวกเจ้าไม่ไปรึ ? ” แรนเดลคิ้วขมวด ” หากยังอยู่ที่นี่ต่อ พวกเจ้าอาจจะไม่รอด…”
ลั่วชามองไปที่แรนเดล ก่อนจะบอกกับทีมของนาง ” ไปกันเถอะ ! ”
สมาชิกทีมลั่วชาพากันมองไปที่แรนเดล ก่อนจะพากันออกจากที่นั่นไป
ทีมคังเฉียงมองหน้ากันก่อนจะตามทีมลั่วชาไป แม้จะไม่รู้ว่าทำไมแรนเดลถึงได้ทำเช่นนี้ แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะอยู่ต่อได้
สักแห่งในทะเลโกลาหล จางหยูมองดูฉากนั้นและเผยรอยยิ้มพอใจออกมา ” แรนเดลผู้นี้น่าสนใจจริงๆ ”
ที่ไม่ได้ฆ่าแรนเดล ไม่ใช่ว่าเขาฆ่าอีกฝ่ายไม่ได้ เขาแค่ไม่อยากจะสร้างความตกใจให้กับจักรพรรดิทั้งเก้าในตอนนี้ เขาไม่อยากเด่นในตอนนี้ เพราะเขาไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะพวกนั้นได้
” จักรพรรดิทั้งเก้าน่าจะแข็งแกร่งกว่าข้า ” จางหยูเดา ” อย่างน้อยข้าก็ต้องปกปิดตัวตนเอาไว้ ด้วยความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้แล้ว ข้าไม่อาจจะเผยตัวได้..”
มันเสี่ยงเกินไป หากเขาฆ่าแรนเดล เดาว่าจักรพรรดิของเผ่าสวรรค์คงไม่อยู่เฉยแน่ และจักรพรรดิของเผ่าชีวิตก็คงตกใจกับเรื่องนี้
จางหยูส่ายหน้าเรียกสติกลับมา ก่อนจะตามหลังทีมคังเฉียงไป