ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1883 หลักฐานที่แน่นหนา
เขตตงหยาง
จักรพรรดิตงหยางมักจะปลอมตัวเป็นจ้าวโกลาหลทั่วไปและเดินเล่นอยู่ในเมือง เขาชอบทำแบบนี้เสมอ
ร่างแยกของซื่อเซียวได้เข้ามาในเขตตงหยาง แต่ก็พบกับความว่างเปล่า
ขณะที่ซื่อเซียวกำลังสอบถามแม่ทัพของกองทัพลาดตระเวนตงหยาง เสี้ยวจิตที่ตงหยางทิ้งเอาไว้ ก็รับรู้ถึงการมาของซื่อเซียว จากนั้นตงหยางที่อยู่ในท้องถนนก็หายตัวไปทันที
ต่อมา ตงหยางก็ปรากฏตัวขึ้นด้านนอกเขตตงหยาง
“ ซื่อเซียว เจ้ามาที่นี่ทำไมกัน ?” ตงหยางถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ
ซื่อเซียวใจเย็นขึ้นมาแล้ว ไม่ได้โมโหจนหน้ามืดเหมือนก่อนหน้านี้ แต่เดิมเขาคิดจะมาชวนตงหยางไปสู้กับเผ่าสวรรค์ แต่ตอนนี้เขาได้สติกลับมาและมีเหตุผลดังเดิม เหตุผลเอาชนะอารมณ์ได้ เป็นธรรมดาที่จะไม่คิดก่อสงครามกับเผ่าสวรรค์
แต่การแสดงของฉิวหวังนั้นน่าสงสัยจริงๆ หรือว่าเผ่าสวรรค์คิดจะก่อสงครามขึ้นมาจริงๆ?
แม้ว่าความเป็นไปได้จะน้อยแต่ก็ต้องป้องกันเอาไว้
ซื่อเซียวแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา เขาบอกตงหยางเรื่องฉิวหวังและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ ข้าสงสัยว่าเผ่าสวรรค์ตั้งใจทำแบบนี้ มันอาจจะเป็นแผนการ ”
“ ไม่มีทาง” ตงหยางขมวดคิ้ว “หากเผ่าชีวิตกับเผ่าสวรรค์ทำสงครามกันขึ้นมา ก็มีแต่จะเสียหายทั้งสองฝ่าย เผ่าสวรรค์ไม่น่าจะโง่ ?”
แม้ว่าเผ่าชีวิตจะอ่อนแอกว่าเผ่าสวรรค์ แต่หากต้องสู้กันจริงๆ เผ่าสวรรค์ก็ใช่ว่าจะชนะได้ตามต้องการ การกระทำนี้จะทำให้เผ่าสวรรค์เสียคนไปจำนวนมาก
“ งั้นเจ้าว่าทำไมเขาถึงใส่ร้ายข้า ? ข้าสาบานได้เลยว่าเรื่องทั้งหมดที่เขาเล่ามานั้นไม่เป็นความจริง ข้าไม่ได้สนใจชีวิตของแม่ทัพหรือทหารของเขาเลย ” ซื่อเซียวถามขึ้นมา “ เจ้ากับข้าต่างก็รู้ดีว่าจำนวนจักรพรรดิมีแค่ 9 คน มันมีแต่จะน้อยลง ไม่มีเพิ่มขึ้น…ข้าไม่ได้ทำ ส่วนเจ้าก็อยู่ไกล มันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะลงมือ คำอธิบายเดียวคือฉิวหวังแค่อยากจะใส่ร้ายคนอื่น”
ตงหยางแสดงสีหน้าหนักใจออกมา เขาไม่ได้เห็นแย้งกับการวิเคราะห์ของซื่อเซียว แต่เขาก็ถามขึ้นมา “ เจ้ามั่นใจนะว่าเจ้าไม่ได้ทำ ?”
ซื่อเซียวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ ข้า ซื่อเซียว เป็นคนแบบไหนเจ้าก็รู้ เมื่อข้าบอกว่าไม่ได้ทำ ข้าก็ไม่ได้ทำ”
“ งั้นเกรงว่า…นี่อาจจะเป็นแผนการจริงๆ ” ตงหยางเห็นช่องโหว่ของเรื่องนี้ “ ก่อนหน้านี้ข้าโมโหจนบอกว่าจะเปิดสงครามกับเผ่าสวรรค์ มันก็แค่คำพูดตามอารมณ์ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะเป็นจริงขึ้นมา เพียงแต่ฝ่ายที่คิดจะทำสงครามไม่ใช่พวกเรา แต่เป็นเผ่าสวรรค์ ”
ตงหยางขมวดคิ้ว “ ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ”
เขาไม่รู้ว่าทำไมเผ่าสวรรค์ถึงได้ทำแบบนี้
จักรพรรดิเผ่าสวรรค์บ้าไปแล้วรึ ?
พวกนั้นไม่รู้รึไงว่าการทำสงครามนั้นมีแต่จะสร้างความเสียหาย แม้แต่คนของตัวเองก็ยังต้องตายด้วย ?
อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เผ่าสวรรค์ยอมเสี่ยงหาข้ออ้างเปิดสงครามกับเผ่าชีวิต ?
“ ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอะไร แต่เรื่องสำคัญในตอนนี้คือต้องแจ้งให้หว่านเกอกับอู่หมิงรู้ ” ตงหยางพูดขึ้นมาอย่างใจเย็น “ไม่ว่าเผ่าสวรรค์คิดจะเปิดสงครามรึไม่ แต่เราก็ต้องจัดการรับมือให้ดี” เมื่อพูดไปแล้วสายตาของเขาก็เย็นชาขึ้นมา “ หากพวกนั้นคิดจะเปิดสงครามจริงๆก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ทุกฝ่ายอาจจะต้องตายหมดไม่อาจจะเลี่ยงได้”
“ นี่แหละที่ข้าคิด ” ซื่อเซียวพยักหน้า
ทั้งสองได้เดินทางไปหาหว่านเกอ จากนั้นก็เดินทางไปหาอู่หมิงต่อ
สุดท้ายจักรพรรดิของเผ่าชีวิตทั้งสี่ก็ได้มารวมตัวกัน
หว่านเกอและอู่หมิงรู้เรื่องนี้ก็คิดแบบเดียวกับตงหยาง พวกเขาคิดว่าเรื่องนี้ไม่อาจจะเป็นไปได้
พวกเขาถึงกับให้ซื่อเซียวรับรองและสาบาน หว่านเกอกับอู่หมิงถึงจะยอมเชื่อ
มันมีจุดที่แปลกอยู่หลายจุด แต่ยังไงซะพวกเขาก็ไม่เชื่อว่าฉิวหวังจะกล้าพอจนเปิดสงครามขึ้นมากับเผ่าชีวิต
“ เป็นไปได้ไหมว่าเขาต้องการรีดไถ่พวกเรา? ” อู่หมิงหรี่ตาลงและพูดขึ้น
แม้แต่หว่านเกอก็ยังพูด “ มันอาจจะเป็นไปได้ ”
ซื่อเซียวและตงหยวนก็คล้อยตาม “ ต้องใช่แน่ๆ !”
ในความเห็นของพวกเขาแล้วคำตอบมีแค่อย่างเดียว
“ หากเป็นเช่นนั้นก็ไม่ต้องกลัวไป นอกซะจากว่าพวกนั้นมีหลักฐาน งั้นไม่ว่าพวกนั้นจะพูดอะไรเราก็แค่ปฏิเสธเอาไว้ ”ตงหยางพูดขึ้น “ หากต้องการเปิดสงครามจริงๆ ถึงเผ่าชีวิตไม่อาจจะสู้ได้ แต่เผ่าสวรรค์ก็ใช่ว่าจะสบาย ”
อู่หมิงพูดขึ้น “ ไปหาพวกนั้นเพื่อถามเป้าหมายของพวกนั้นดู บางทีถ้าเจอหน้ากันอาจจะพอรู้อะไรบ้าง ”
แน่นอนว่าพวกเขาส่งแค่ร่างแยกไป
สำหรับจักรพรรดิแล้วที่ที่ปลอดภัยที่สุดคือเขตของตนเอง
ตราบใดที่ร่างหลักอยู่ที่นี่ แม้ว่าเผ่าสวรรค์คิดจะโจมตีพวกเขาแต่พวกเขาก็ยังรอดอยู่ดี
หากพวกเขาสู้กันในทะเลโกลาหล พวกเขาจะเสียเปรียบ หรือบางทีอาจจะโดนเผ่าสวรรค์ลอบโจมตี
จักรพรรดิทั้งสี่ไม่ลังเลที่จะเดินทางในทะเลโกลาหล พวกเขามุ่งหน้าไปที่ดินแดนเผ่าสวรรค์ ทั้งสี่รวดเร็วอย่างมาก ในพริบตาก็เดินทางผ่านโกลาหลนับไม่ถ้วน พวกเขาไม่ได้ปกปิดพลังแม้แต่น้อย เพื่อที่จักรพรรดิเผ่าสวรรค์จะได้รู้ถึงการมาของพวกเขา
ไม่นานจักรพรรดิเผ่าสวรรค์ทั้งห้าก็ปรากฏตัว
ในหมู่พวกนั้นฉิวหวังได้แสดงสายตาที่เย็นชาออกมาและพูดขึ้น “ ข้าจะไปหาพวกเจ้าพอดี ! ข้าไม่คิดเลยว่าพวกเจ้าจะมาที่นี่เอง !”
“ ทำไม อยากฆ่าเราขนาดนั้นเชียว ?” อู่หมิงถามขึ้นมา “ แต่โชคร้ายหน่อยนะ นี่เป็นแค่ร่างแยก เราคงทำให้เจ้าผิดหวัง” “ เจ้ามีความกล้าแค่นี้รึไง ? ” ฉิวหวังฮึดฮัดออกมา
ตอนนั้นจักรพรรดิสวรรค์เทียนตู้ก็ได้พูดขึ้น “ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดสงคราม นั่นแค่คำพูดของฉิวหวัง พวกเจ้าอย่าคิดเอามาใส่ใจ”
จักรพรรดิเผ่าชีวิตทั้งสี่ไม่ได้แปลกใจ ยังไงซะพวกเขาก็รู้ดีว่าผลกระทบจากสงครามนั้นไม่ใช่แค่ฝั่งเผ่าชีวิตเท่านั้นที่รับไม่ไหว แต่เผ่าสวรรค์เองก็เช่นกัน
“ งั้นเจ้ามีเป้าหมายอะไร ? ” หว่านเกอยักคิ้วแล้วถามขึ้นมาด้วยเสียงที่เพราะพริ้ง “ เจ้าคิดจะป้ายความผิดให้กับเผ่าชีวิตรึ?”
“ ป้ายความผิดรึ ? ” เทียนตู้ส่ายหน้า “ เจ้าคิดว่าเรื่องนี้เป็นแผนการของเรา เพื่อที่จะเปิดสงครามรึ ?”
“ ไม่ใช่รึไง ?” ซื่อเซียวฮึดฮัดออกมา
“ นอกซะจากว่าเจ้าไม่ได้ทำ” เทียนตู้พูดขึ้น “ บางเรื่องอาจจะแต่งขึ้นมาได้ แต่บางเรื่องก็ไม่อาจจะปลอมขึ้นได้เช่นกัน ซื่อเซียว ในฐานะจักรพรรดิแล้ว หลังจากที่เจ้าทำอะไรลงไป เจ้าถึงกับลืมลบร่องรอย ข้าไม่รู้ว่าเจ้าทำอะไร แต่มันถูกบันทึกเอาไว้แล้ว”
ซื่อเซียวยังไม่ทันได้พูด เทียนตู้ก็บอกกับฉิวหวัง “ เอาภาพออกมาให้พวกเขาดู”
ฉิวหวังพยักหน้าก่อนจะเผยภาพของทีมคังเฉียงที่เข้าโจมตีทหารเผ่าสวรรค์ออกมา รวมถึงภาพที่จางหยูทำลายสมบัติระดับสมบูรณ์ทิ้ง และภาพที่แรนเดลโดนโจมตีจนบาดเจ็บหนักด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
จักรพรรดิเผ่าชีวิตทั้งสี่พากันขมวดคิ้ว พวกเขามองดูภาพนั้นและก็พากันเงียบไป
“ มันมีทีมระดับราชาที่โด่งดังในเขตซื่อเซียวอย่างทีมลั่วชาอยู่ด้วย ” ฉิวหวังปรายตามองจักรพรรดิเผ่าชีวิตทั้งสี่ “ พวกเจ้าคิดว่าใครกันที่จะสั่งการทีมลั่วชาได้ ? รึเจ้าคิดว่าข้าจะสามารถรวบรวมผู้บัญชาการเผ่าชีวิตที่แข็งแกร่งถึงสองพันคนได้”
ชัดแล้วว่าเขาไม่มีความสามารถมากพอหากเขาทำได้เขตซื่อเซียวคงโดนทำลายไปแล้ว
“ ซื่อเซียว หลักฐานชัดเจนแบบนี้ เจ้ามีอะไรจะอธิบายรึไม่ ?” ฉิวหวังถามขึ้นมา
เทียนตู้และจักรพรรดิสวรรค์คนอื่นๆต่างก็พากันมองไปที่ซื่อเซียวเป็นตาเดียว “ แม้ว่าคำพูดของฉิวหวังจะใส่อารมณ์ไปบ้าง แต่เขาก็ไม่ผิด เจ้าน่ะควรชดใช้ให้กับเขา เจ้าควรชดใช้ให้กับเผ่าสวรรค์ด้วยซ้ำ”
ซื่อเซียวสับสนไปสักพัก ตอนที่เห็นทีมคังเฉียงและชายหนุ่มทำลายสมบัติทิ้ง เขาก็ต้องตะลึง เขาไม่คิดเลยว่านอกจากจักรพรรดิทั้งเก้าคนแล้ว ยังมีคนที่ทำลายสมบัติระดับสมบูรณ์ได้อีก แต่ปัญหาคือชายคนนี้นั้นไม่ใช่เขา !
เขาอ้าปากแต่ไม่อาจจะอธิบายอะไรออกมาได้
เพราะไม่ว่าจะอธิบายยังไง เขาก็ไม่อาจอธิบายมันได้ชัดเจน อู่หมิงเริ่มใจสั่น “ เป็นเจ้าจริงๆรึ ?”
“ ซื่อเซียว เจ้าหลอกเรา !” ตงหยางแสดงสีหน้าซับซ้อนออกมา
หว่านเกอคิ้วขมวด “ เสียทีจริงๆที่รู้จักกันมาหลายปี! เจ้าลงมือจริง แต่กลับโดนจับได้ …”
นางไม่ได้โกรธเคืองซื่อเซียวที่ทำเรื่องนี้ ในทางกลับกันแล้วนางสนับสนุนซื่อเซียวมากกว่า นางถึงกับเคยคิดแบบนี้ แต่ซื่อเซียวกลับทิ้งร่องรอยเอาไว้จนทำให้เกิดปัญหาขึ้น
มีภาพที่โดนบันทึกเอาไว้ หลักฐานที่หนาแน่นแบบนี้ ถึงซื่อเซียวอยากจะอธิบายแต่ก็เป็นไปไม่ได้
“ พวกเจ้าไม่เชื่อข้ารึ ?” ซื่อเซียวพลันหดหู่ “ ข้าไม่ได้ทำจริงๆ !”
แต่ต่อหน้าหลักฐานที่ชัดเจนแบบนี้ ไม่มีใครเชื่อ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรออกมาก็ตาม
สุดท้ายซื่อเซียวก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยตัวเอง “ หรือข้าทำจริงๆ ? นี่ข้าลืมตัวไปรึ ?”