ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1917 จับตัว
จางลู่และคนอื่นๆไม่ได้สนใจผลของการสร้างสมบัตินี้ว่าจะเป็นยังไง
ยังไงซะพวกเขาแค่ต้องทำตามที่จิงหยานบอกมาโดยไม่ต้องสนว่ามันจะสำเร็จรึไม่ อันที่จริงมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเขาเลย ภารกิจนี้แค่ให้ช่วยจินหยางสร้างสมบัติขึ้นมา หากมีองค์ประกอบภายนอกเข้ามาเกี่ยวจนทำให้การสร้างนี้ล้มเหลว งั้นพวกเขาก็ใช่ว่าจะได้ค่าจ้างน้อยลง แม้ว่าจินหยางจะกล้ากว่านี้เป็นร้อยเท่าแต่ก็ยังไม่กล้าจะทำเช่นนั้น
พวกเขาเป็นใครกัน ?
เดาว่าจินหยางคงไม่มีความกล้าพอ
ดังนั้นจางลู่และคนอื่นๆจึงไม่ได้สนใจกวนเหริน แต่กลับมองไปที่จินหยางแทนเรื่องนี้ จินหยางควรจะตัดสินใจ หาก จินหยางตัดสินใจยังไง พวกเขาก็จะทำตาม
“ ข้าหยุดไม่ได้ !” ท่าทีของจินหยางแน่วแน่อย่างมาก เขามองไปที่กวนเหรินแล้วพูดขึ้น “ ท่านกวนเหริน การสร้างสมบัติโกลาหลนี้ขึ้นมาไม่อาจจะหยุดได้ สำหรับสมบัติโกลาหลแล้ว วัสดุระดับต่ำนั้นแม้ว่าจะหยุดได้และไม่ได้ส่งผลอะไรมากแต่สมบัติที่เราสร้างครั้งนี้ไม่ใช่สมบัติธรรมดา แม้ว่ามันจะไม่ได้ทำให้หินโกลาหลพังลงแต่มันก็จะมีข้อเสียในตัวสมบัติซึ่งจะส่งผลต่อรูปแบบสุดท้ายของสมบัติอย่างมาก”
จินหยางแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา “ ข้าไม่ใช่คนที่ไล่ตามความสมบูรณ์แบบแต่ครั้งนี้คนที่ให้ข้าสร้างสมบัติชิ้นนี้ขึ้นมานั้นมีฐานะไม่ธรรมดา วัสดุเหล่านี้ล้วนแต่ได้มาจากเขา หากการสร้างผิดพลาดขึ้นมา งั้นก็จะทำให้วัสดุเสียเปล่า จากนั้นข้ากับท่านก็ไม่อาจจะรับผิดชอบได้ไหว”
กวนเหรินยักคิ้ว “ โอ้ พูดจาใหญ่โตไม่ใช่น้อย แล้วเจ้าพูดถึงใครกัน ใครกันที่จ้างให้เจ้าสร้างสมบัตินี้ขึ้นมา ?”
เขารู้ว่าจินหยางนั้นมีความสามารถและถูกให้ค่าโดยกองกำลังใหญ่ แม้แต่แม่ทัพของสามกองทัพและนายพลคนอื่นๆก็ยังเป็นมิตรด้วยแต่แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ ?
“ ข้าขอโทษด้วย ข้ารับปากกับเขาว่าจะปกปิดตัวตนของเขาเป็นความลับ” จินหยางส่ายหน้าและพูดขึ้น “แต่ข้าบอกท่านได้ว่าชายคนนั้น….ท่านไม่อาจจะรับมือได้แน่”
เรื่องเก่อเย่นั้นจินหยางต้องจริงจัง แม้ว่าเขาจะกลัวกวนเหริน แต่ก็พอรับมือได้ สิ่งที่ทำให้เขากลัวจริงๆนั้นคือเก่อเย่ต่างหาก
กวนเหรินหรี่ตาลงและพูดขึ้นมา “ เจ้ามั่นใจรึที่จะไม่ให้ความร่วมมือ ?”
แม้ว่าจะสงสัยเรื่องคนที่จินหยางพูดถึง แต่เมื่อจินหยางไม่บอก งั้นกวนเหรินก็ไม่อาจจะบังคับอีกฝ่ายได้ แต่กวนเหริน ไม่ได้สนใจคนระดับสูงที่จินหยางพูดถึงเลย มันจะมีใครใหญ่กว่าแม่ทัพของเขาได้อีก ? หากมองทั้งเขตซื่อเซียวแล้วนอกจาก จิงหงแล้วจะมีสักกี่คนกันที่กล้างัดข้อกับเก่อเย่ ?
“ ท่านกวนเหริน” จินหยางสูดหายใจเขาลึกๆแล้วพูดขึ้น “ หากท่านต้องการจะตรวจสอบเรื่องสายลับ ท่านถามมาได้โดยตรงก็ได้ ทำไมต้องทำให้มันยุ่งยากด้วย…”
ท่าทีของเขาถือว่าอ่อนลง ในมุมมองของเขาแล้วการสร้างสมบัติขึ้นมานั้นนี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เขาไม่อยากจะฉีกหน้ากวนเหริน เพราะมันไม่ได้เป็นผลดีกับใครเลย
“ สายลับเผ่าสวรรค์นั้นเจ้าเล่ห์ แค่ถามนั้นจะตรวจสอบได้รึ ?” กวนเหรินยังยืนยันคำเดิม เขาไม่มีท่าทีว่าจะใจอ่อนเลย “ คนของทีมคังเฉียงต้องไปกับข้าที่โถงกองทัพสังเกตการณ์เพื่อรับการตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบกับหินเสร็จแล้ว หากไม่มีปัญหาอะไรข้าจะให้พวกเขากลับมาสร้างสมบัติกับเจ้าต่อ”
สีหน้าของจินหยางบิดเบี้ยวไป “ ท่านกวนเหริน ท่านจำเป็นต้องทำเช่นนี้เลยรึ?”
กวนเหรินพูดขึ้นมา “ เจ้าพูดเกินไป เราก็แค่ทำตามกฎ”
“ ร้อยปี !” จินหยางพูดขึ้นมา “ ท่านกวนเหรินให้เวลาเราแค่ 100 ปี จากนั้นข้าจะไม่ขัดขวางท่านในการเอาตัวทีมคังเฉียงไป…ข้าหวังว่าท่านกวนเหรินจะเมตตา” เขาคำนวณแล้วว่าด้วยพลังของแม่ทัพแล้ว อย่างมากก็กินเวลาแค่ไม่กี่สิบปีรึน้อยกว่านั้น เขาอยากสร้างสมบัติในขั้นตอนนี้ให้เสร็จก่อน หากโดนขัดจังหวะตอนนี้แล้วจะส่งผลต่อสมบัติอย่างมาก
เหตุผลที่เขาตั้งเวลา 100 ปีก็เพื่อมีช่องว่างไว้ต่อรองกับกวนเหริน
กวนเหรินไม่ได้คิดต่อรองและพูดขึ้นมา “ ปีเดียวก็ไม่ได้ ! พวกเขาต้องไปกับข้าเดี๋ยวนี้ !”
“ 10 ปี !” จินหยานพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “ ท่านกวนเหริน ให้เวลาข้า 10 ปี ! หลังจากนั้นข้าจะให้ค่าตอบแทนกับท่าน…ลูกปัดสักล้านลูกเป็นยังไง ?”
กวนเหริน ยิ้มออกมาด้วยท่าทีดูถูก “ เจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร ? เจ้าคิดจะติดสินบนข้ารึ? ดูเหมือนว่าคนในทีมคังเฉียงจะมีปัญหาจริงๆ ! ข้าถึงกับสงสัยเจ้าว่ามีปัญหาไปด้วย ! ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ต้องไปกับเราด้วย !”
ไม่ว่าจินหยางจะพูดยังไง แต่กวนเหรินก็ไม่สนและได้สั่งการกับทหาร “ เอาตัวพวกเขากลับไปที่โถง ข้าจะตรวจสอบตัวตนพวกเขาด้วยตัวเอง !”
“ กวนเหริน!” จินหยางกังวลขึ้นมาจนตะโกนแต่ชื่อกวนเหริน “ เจ้ารู้รึไม่ว่ากำลังเล่นกับไฟอยู่ !”
ไม่ว่าจินหยางจะพูดอะไรแต่กวนเหรินก็ไม่คิดจะตอบกลับ เขาแค่โบกมือให้กับทหารสั่งให้พวกนั้นรีบลงมือ
จางลู่และคนอื่นๆไม่พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเขาไม่คิดจะออกตัวแทนจินหยาง ยังไงซะพวกเขาก็ได้ค่าตอบแทนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะทำงานแค่ไหนรึให้พวกเขาทำอะไรก็ไม่ได้เงินเพิ่มอยู่ดี
“ เราอยากจะไปที่โถงกองทัพสังเกตการณ์อยู่แล้ว เมื่อมีคนพาเราไปก็ช่วยลดปัญหาไปได้อย่างมาก” จางลู่มองไปที่ เจ้าสำนักและคนอื่นๆ “ ชายคนนี้เพื่อไว้หน้าซื่อเซียวแล้ว เราจะไม่ทำอะไรเขา”
พวกเขาไม่จำเป็นต้องจัดการคนของกองทัพสังเกตการณ์เพื่อมีเรื่องกับซื่อเซียว
แน่นอนว่าหากจินหยางเพิ่มเงินให้กับพวกเขา พวกเขาก็อาจจะช่วยแต่ดูจากท่าทีโกรธของจินหยางแล้ว ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเพิ่มเงินให้กับพวกเขา
ให้พวกเขาช่วยฟรีๆรึ ?
พวกเขาไม่ใช่พ่อพระ
ไม่นานจินหยางและทีมคังเฉียงก็หยุดทำการกลั่นหินโกลาหล พวกเขาโดนจับตัวไปตรวจสอบที่โถงกองทัพสังเกตการณ์ทันที
ระหว่างทางจินหยางดูร้อนใจอย่างมาก มันผิดกับภาพลักษณ์ปกติของเขา
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น จินหยางก็ไม่ได้พูดถึงเก่อเย่ ภารกิจล้มเหลวก็ถือว่าแย่แล้ว การที่เปิดเผยตัวตนของเก่อเย่นั้น งั้น เก่อเย่คงไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่
กวนเหรินพูดขึ้นมา “ หวังว่าเมื่อเข้าไปในโถงแล้วเจ้าจะหยิ่งทะนงแบบเดิมได้อีก”
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงโถงกองทัพสังเกตการณ์ ที่นี่มีตึกอาคารสีดำหลายสิบแห่ง มันดูเหมือนกับคุก เมื่อมองจากไกลๆแล้วก็ทำให้ผู้คนรู้สึกกดดันได้
“ เรามาถึงแล้ว เงียบก่อน” เพราะระหว่างทางได้ยินจินหยางบ่นอยู่ตลอด จางลู่จึงคิ้วขมวดและพูดขึ้นมา
เมื่อได้ยินแบบนั้น จินหยางก็ปิดปากเงียบทันที เขาไม่กล้าจะส่งเสียงออกมาแม้แต่น้อย
กวนเหรินแปลกใจ เขารู้ว่าจินหยางเป็นคนแบบไหน แม้ว่าจินหยางจะเป็นมิตรกับทุกคน แต่เขาก็เป็นคนเย่อหยิ่ง แม้แต่ต่อหน้านายพล จินหยางก็ยังกล้าด่าออกมา มันเห็นได้ว่าเขามีใครหนุนหลังอยู่ ไม่คิดเลยว่าจางลู่พูดแค่ประโยคเดียวก็ทำให้จินหยางหุบปากได้แล้ว
ทีมคังเฉียงแกร่งแค่ไหนกัน? “ ดูเหมือนว่าไม่มีใครจะพูดอะไรเลยสินะ” กวนเหรินมองไปที่จางลู่และพูดขึ้นมา
จางลู่แสดงสีหน้าเฉยเมยไม่ได้สนใจกวนเหรินแม้แต่น้อย แค่นายพลเขาไม่จำเป็นต้องสนใจ
กวนเหรินคิ้วขมวด แสดงสายตาไม่พอใจออกมาแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขากลับเร่งฝีเท้าเดินต่อ
“ ช้าก่อน ข้าอยากพบกับนายพลลั่วเซียง !” จินหยางพูดขึ้นมา
“ ลั่วเซียง รึ ?” กวนเหรินยักคิ้ว “ คนระดับสูงที่เจ้าพูดถึงนั้นเป็นลั่วเซียงรึ ?” ลั่วเซียงคือหนึ่งในสามยอดนายพล ฐานะนั้นทัดเทียมกับเขาได้ คนแบบนี้ในสายตาคนทั่วไปแล้วถือว่าเป็นคนระดับสูงจริงแต่มันไม่น่าจะเป็นคนระดับสูงสำหรับ จินหยางไม่ใช่รึ ?
คงมีแค่อู๋ห่าวที่ถือว่าเป็นคนระดับสูงได้
“ เรื่องการสร้างสมบัตินี้ ท่านลั่วเซียงเข้าใจดี” จินหยางพูดขึ้นมา “ เจ้าแค่ต้องรายงานเรื่องนี้ให้ท่านลั่วเซียงรับรู้ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก”
“ เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวลั่วเซียงงั้นรึ ?” กวนเหรินฮึดฮัดออกมา “ ก็ได้ข้าจะแจ้งเรื่องนี้กับลั่วเซียงให้มาจัดการเจ้า”
พวกเขาต่างก็เป็นยอดนายพล เขาจะกลัวทำไม ?
เขาให้คนไปแจ้งเรื่องนี้กับลั่วเซียง จากนั้นกวนเหรินก็ได้นำทางจินหยางและคนอื่นๆเดินเข้าไปต่อ
เขาเริ่มเพ้อฝัน ไม่รู้เลยว่าครั้งนี้เขาจะได้รับรางวัลแบบไหนกัน แม้ว่าแม่ทัพจะเป็นคนเจ้าเล่ห์แต่ก็ต้องยอมรับว่าแม่ทัพนั้นใจกว้าง นั่นเป็นเหตุผลที่กวนเหรินยอมทำงานหนัก
“ มันคงดีหากได้น้ำเทพมา” กวนเหรินเริ่มคิดถึงอนาคตที่สดใสของเขา