ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1919 เก่อเย
เมื่อเห็นท่าทีประจบของเก่อเย่ที่ทักทายจางลู่ และคนอื่นๆก่อน กวนเหรินก็แสดงท่าทีสับสนออกมา
ลั่วเซียงอ้าปากค้างด้วยความเหลือเชื่อ
แม้แต่จินหยางที่รู้ว่าจางลู่และคนอื่นๆแกร่งระดับแม่ทัพ แต่ก็ต้องสับสนกับท่าทีที่เก่อเย่แสดงออกมา เขาตกตะลึงอย่างมาก
“ ท่านแม่ทัพ ท่านเขาใจผิดไปแล้ว พวกเขาเป็นแค่สมาชิกของทีมคังเฉียง” กวนเหรินพูดขึ้นมา
เขาใจสั่นและเริ่มรู้สึกแย่ๆขึ้นมา
เขาไม่เข้าใจ แต่ชัดแล้วว่าเก่อเย่ได้สั่งการเขาให้ขัดขวางทีมคังเฉียง แต่ตอนนี้เก่อเย่กลับมาสุภาพกับพวกนี้แทน
เมื่อเห็นท่าทีประจบของเก่อเย่ กวนเหรินก็รู้สึกราวกับฝันอยู่
ชายตรงหน้าของเขาเป็นแม่ทัพที่ชั่วร้ายและเย่อหยิ่งจริงๆรึ ?
ไม่ใช่ว่ามีคนปลอมตัวมาเป็นเขาหรืออย่างไร ?
แต่ใครกันที่จะกล้าปลอมตัวเป็นแม่ทัพกัน ?
กวนเหรินสับสน “ ท่านแม่ทัพเปลี่ยนไปรึ”
เก่อเย่หันกลับมามองด้วยสีหน้าหม่นและสายตาเย็นชา “ เจ้าหุบปากไป !” เขากลัวว่ากวนเหรินจะพูดอะไรที่ทำให้เขาผิดไปด้วย
กวนเหรินยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมา เก่อเย่ก็กลับไปยิ้มประจบแบบเดิม “ ข้าขอโทษด้วย คนของเข้าทำเรื่องไม่เหมาะสมไปและสร้างปัญหาให้กับพวกท่าน ข้าขอให้ท่านยกโทษให้ด้วย”
นี่คือกลุ่มแม่ทัพ !
ถึงเก่อเย่จะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่กล้าหาเรื่องกลุ่มแม่ทัพ !
“ ไม่ต้องกังวลไป” จางลู่หัวเราะออกมาและพูดขึ้น “ นายพลกวนเหรินคนนี้แค่ทำตามกฎ เราเข้าใจ”
ปากของกวนเหรินกระตุกไปตาม ถึงเขาจะโง่แต่ก็มองออกว่าเขามีปัญหาแล้ว เขาไม่ควรไปหาเรื่องคนพวกนี้
แต่ปัญหาคือคำสั่งที่เก่อเย่สั่งมา เขาต้องทำตาม เขาทำไปโดยไม่รู้ว่าคนพวกนี้นั้นแข็งแกร่ง แม้แต่แม่ทัพก็ยังไม่กล้าหาเรื่องพวกนี้
แม้ว่าในใจจะหงุดหงิด แต่ก็ไม่อาจจะอธิบายอะไรออกมาได้ ต่อหน้าเก่อเย่แล้ว เขาไม่มีใครคอยหนุนหลังเลย
“ ข้าขอโทษด้วย” กวนเหรินก้มหน้า ไม่ว่าเขาจะหยิ่งทะนงแค่ไหนแต่ตอนนี้เขาต้องถ่อมตัวให้มากที่สุด “ ข้าได้ทำให้พวกท่านไม่พอใจ ขอให้ผู้อาวุโสทุกท่านยกโทษให้ด้วย !”
เก่อเย่พึมพำออกมา “ บัดซบ ! ต่อหน้าผู้อาวุโสแล้วเจ้ายังกล้าอ้อนวอนอีกรึ ?”
กวนเหรินถึงกับพูดอะไรไม่ออก “ เจ้าสร้างปัญหาให้กับผู้อาวุโสทั้ง 21 คน ทุกคนต่างก็เป็นแม่ทัพ” เก่อเย่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ ความผิดครั้งใหญ่เช่นนี้แค่ขอโทษจะพอรึ ? ถึงผู้อาวุโสจะตกลงแต่ข้าก็ไม่อาจจะยอมได้ !”
เมื่อพูดไปแล้ว เก่อเย่ก็พูดขึ้นต่อ “ กวนเหริน จากนี้ไปเจ้าโดนปลดจากตำแหน่ง เจ้าไปรอในห้องสอบสวน เมื่อข้าเสร็จธุระที่นี่แล้ว ข้าจะไปจัดการกับเจ้า”
“ ท่านแม่ทัพ ! ท่านเก่อเย่ !” กวนเหรินกังวลขึ้นมา “ ข้าน้อยแค่..”
เขาทำตามคำสั่งของแม่ทัพ แล้วแม่ทัพจะมาลงโทษเขาได้ยังไง ?
ตาของเก่อเย่กระตุกไปตาม เขารีบขัดขึ้นมา “ หุบปาก ! ไปที่ห้องสอบสวนซะ !”
“ แต่” กวนเหรินเหมือนจะไม่ยอม
“ เจ้าคิดจะก่อกบฏงั้นรึ ?” เก่อเย่แสดงสายตาเย็นชาออกมา “ หากเจ้าพูดอีกคำ ข้าจะฆ่าเจ้า !” กวนเหรินตัวสั่นและเงียบไปทันที
เมื่อเห็นท่าทีผิดปกติของเก่อเย่ กวนเหรินก็พอเดาออกว่าได้แต่ต้องก้มหน้ารับความผิด
ลั่วเซียง และจินหยางมองไปที่เก่อเย่ก่อนจะมองจางลู่ และคนอื่นๆด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ ในหัวเขามีคำพูดที่เก่อเย่ บอกมาเมื่อตะกี้ “ แม่ทัพ…แม่ทัพ…”
ทั้ง 21 คนนี้ต่างก็เป็นแม่ทัพงั้นหรือ !
หากไม่ใช่เก่อเย่ที่พูดมา งั้นมันอาจจะเป็นเรื่องตลกที่สุดในโลกไปแล้ว แม้ว่าเก่อเย่จะเป็นคนพูดมาแต่พวกเขาก็ยังไม่อาจจะทำใจเชื่อได้ ….
นี่คือแม่ทัพ !
แม่ทัพถึง 21 คน !
พวกเขาอยากเชื่อว่าเก่อเย่เข้าใจผิดไปจะดีกว่า
แต่ท่าทีของเก่อเย่ที่มีต่อจางลู่และคนอื่นๆแล้ว ความเป็นไปได้นั้นแทบจะเป็น 0 ! นอกจากแม่ทัพระดับเดียวกันแล้ว ใครกันอีกที่ทำให้เก่อเย่ต้องสุภาพแบบนี้ได้ ?
“ ทะ…ทั้งหมดเลย” จินหยางกลืนน้ำลาย เขารู้ว่าจางลู่และร่างแยกของเจ้าสำนักเป็นแม่ทัพ แต่เมื่อได้ยินความจริงเรื่องนี้ เขาก็ยังไม่อาจจะยอมรับได้ “ขะ ข้าสั่งให้แม่ทัพกว่า 21 คนสร้างสมบัติขึ้นมารึ ?”
เขารู้สึกราวกับฝันอยู่
“ เป็นยังไง เจ้าจะทดสอบเรารึไม่ ?” จางลู่หันไปมองเก่อเย่ด้วยท่าทีสนใจ “ หากจำเป็น เราจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”
ทดสอบ ?
ถึงเก่อเย่จะกล้ากว่านี้เป็นร้อยเท่าแต่เขาก็ไม่คิดจะทำแบบนั้น !
เขาไม่สงสัยว่าหากพวกนี้โกรธขึ้นมา พวกนี้คงไม่ลังเลที่จะจัดการกับเขา
แม้ว่าจะอยู่ต่อหน้าซื่อเซียว แต่พวกนี้ก็คงไม่กลัวที่จะลงมือ
คนพวกนี้มันกลุ่มคนบ้าชัดๆ ! เก่อเย่ยิ้มแห้งๆออกมา เสียงของเขาสั่นนิดๆ “ ไม่ ไม่จำเป็น เมื่อพวกท่านคือคนของทีมคังเฉียงงั้นพวกท่านคงไม่อาจจะเป็นคนของเผ่าสวรรค์ได้ กวนเหรินกล้าดียังไงถึงสงสัยในทีมคังเฉียงข้าจะลงโทษเขาให้หนัก”
เรื่องนี้เก่อเย่ไม่อาจจะยอมรับได้ว่าเป็นความผิดของตัวเอง เขาได้แต่ต้องโทษกวนเหรินเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น เก่อเย่ก็แค่อยากสร้างปัญหาให้กับทีมคังเฉียงเพื่อการระบายความแค้นที่มี แต่เขาไม่คิดเลยว่ากวนเหริน จะไปหาเรื่องคนกลุ่มนี้เข้า กลุ่มคนเหล่านี้เอาสมาชิกทั่วไปของทีมคังเฉียงมาเทียบได้รึ ?
เก่อเย่รู้สึกผิดอย่างมาก หากเขารู้ว่าจะพบกับคนกลุ่มนี้ เขาคงไม่มีทางบอกให้กองทัพสังเกตการณ์ไปหาเรื่องทีมคังเฉียง
เขายอมเก็บความแค้นไว้ในใจดีกว่า
“ ไม่จำเป็นหรอก” จางลู่ไม่ได้ใส่ใจกวนเหริน “ เราร่วมมือกับการตรวจสอบอยู่แล้ว นี่คือหน้าที่ของเรา เราไม่ได้ถือสาอะไร แค่ว่า…”
เมื่อได้ยินแบบนั้นเก่อเย่ก็ตัวสั่น “ แค่อะไรรึ ?”
จางลู่มองไปที่จินหยาง แล้วพูดขึ้นด้วยท่าทีเสียดาย “ น่าเสียดาย เรารับผิดชอบในการช่วยสร้างสมบัติ แต่เรายังไม่ทันได้สร้างมันก็โดนนำตัวมาที่นี่ ฟังจากที่จินหยางบอกมาแล้ว ผลของหินโกลหลจะลดลงอย่างมาก…เดาว่าคงไม่อาจจะสร้างเกราะระดับสูงสุดขึ้นมาได้ นี่อาจจะส่งผลเสียต่อจินหยางอย่างมาก”
เก่อเย่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่หลั่งเลือดในใจ
หินโกลาหลทั้งสี่ก้อนนั้นคือสิ่งที่เขาให้กับจินหยางไป แม้ว่าจะไม่ได้พังแต่มันก็ไม่ได้ต่างจากหินทั่วไปเลยในตอนนี้
สิ่งที่ทำให้เขาแทบกระอักเลือดคือเขาเองที่ส่งคนไปสร้างปัญหา !
“ ข้ารึ…” เก่อเย่อยากจะตบหน้าตัวเอง “ข้าสร้างปัญหาให้ตัวเองแท้ๆ ! ข้าถึงกับพังเกราะระดับสูงทิ้งด้วยมือตัวเอง !”
หลังจากที่รู้ว่าจางลู่และคนอื่นๆรับภารกิจนี้ไป เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดกว่าเก่า
กลุ่มแม่ทัพร่วมมือกันในการสร้างเกราะให้กับเขา แค่คิดก็มองออกว่าเกราะนั้นจะทรงพลังแค่ไหน เมื่อเกราะถูกสร้างขึ้นมาเสร็จ มันต้องเป็นของระดับสูงที่สุดในโกลาหล มันคงเป็นรองแค่สมบัติระดับสมบูรณ์เท่านั้น
แต่ตอนนี้เขากลับทำมันพังด้วยตัวเอง !
“ ไม่มีทางอื่นเลยจริงๆรึ ?” เก่อเย่มองไปที่จินหยาง
จินหยางเงียบไปก่อนจะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ หินโกลาหลมีข้อบกพร่องแล้ว แม้ว่าจะสร้างเกราะขึ้นมาแต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างเกราะที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาได้….เดาว่ามันพลังของมันจะลดลงถึง 3 ใน 10 รึมากกว่านั้น”
เก่อเย่ผงะพร้อมปากที่กระตุก ใจเขาหลั่งเลือดออกมาแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเขาก็ไม่กล้าแสดงมันออกมา เขากลัวว่า จางลู่และคนอื่นๆจะมองออกว่านี่คือแผนของเขา
เก่อเย่ไม่สายใจอย่างมากแต่ไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้ เขาได้แต่ต้องเก็บความเสียดายเอาไว้ในใจ
“ ทีมคังเฉียง…นี่มันพิษร้ายชัดๆ” เก่อเย่ไม่เคยตกอับแบบนี้มาก่อนในชีวิต
เขาเคยเจ็บใจแค่สองครั้งในชีวิตแต่ทั้งสองครั้งล้วนแต่มาจากทีมคังเฉียง อีกฝ่ายเหมือนดาวนำโชคร้ายมาหาเขาจริงๆ