ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1924 ร่างแยกของฉิวหวัง
ฉิวหวังคิดว่าจักรพรรดิคังเฉียงนั้นไขความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลได้แล้วและไม่อาจจะอยู่เฉยได้
เขาหมายตากล่องกระบี่และตำแหน่งจ้าวแห่งทะเลโกลาหลมานานแล้ว และเขาเองก็ไม่คิดจะปล่อยให้ใครแย่งมันไป
เมื่อความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหล อาจจะตกเป็นของจักรพรรดิคังเฉียง ฉิวหวังจะใจเย็นอยู่ได้ยังไง ?
“ ตามที่ซื่อเซียวบอกมา เขาน่าจะเพิ่งขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ไม่นาน ความแข็งแกร่งไม่น่าจะเท่ากับข้า” ฉิวหวังพึมพำออกมา
เมื่อคิดแบบนั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะลงมือ เขาไม่อาจจะรอได้อีกต่อไป
หากรอต่อไปคงมีแค่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าจักรพรรดิคังเฉียงนั้นจะขึ้นเป็นจ้าวแห่งทะเลโกลาหลเมื่อไหร่กัน? เขาต้องพยายามเพื่อแย่งกล่องกระบี่มาให้ได้ รึอาจจะเป็นความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลแทนก็ได้ !
หัวหน้าแม่ทัพก้มหน้าด้วยความกังวล เขากลัวจนไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา เขากลัวว่าจะไปรบกวนความคิดของจักรพรรดิ
“ ทะเลโกลาหลมีจักรพรรดิได้แค่ 9 คนแต่หากเขาไขความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลได้ งั้นทุกอย่างก็ดูมีเหตุผล ข้าคิดว่าข้าเข้าใจทุกอย่างแล้ว”
เบาะแสทุกอย่างนำไปสู่คำตอบเดียว จักรพรรดิคังเฉียงน่าจะไขความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลได้สำเร็จแล้ว !
ตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกรีบร้อนขึ้นมาในทันที เขารู้ว่าเขาไม่อาจจะรอได้อีกต่อไปแล้ว เพราะไม่งั้นแล้วเขาจะเสียโอกาสที่จะได้ตำแหน่งจ้าวแห่งทะเลโกลาหลไปครอง
ฉิวหวังสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วมองไปยังเหล่าแม่ทัพรอบๆก่อนจะพูดขึ้น “ เรื่องนี้ข้าจะจัดการด้วยตัวเอง พวกเจ้ารอคำสั่งจากข้า” “ ขอรับ !” เหล่าแม่ทัพตอบกลับเป็นเสียงเดียวกัน
ต่อมาฉิวหวังก็ได้กลับไปที่วังก่อนจะสร้างร่างแยกขึ้นมาเพื่อมุ่งหน้าไปยังเขตซื่อเซียว
เขาไม่ได้ปกปิดคลื่นพลังของตัวเองแม้แต่น้อย เพราะเขารู้ว่าถึงจะเป็นแค่ร่างแยกแต่คลื่นพลังของเขาก็ยังแข็งแกร่งอย่างมาก ไม่อาจจะปิดบังมันจากซื่อเซียวได้ ภายใต้คลื่นพลังของเขา ทหารของเขตซื่อเซียวต่างก็พากันตัวสั่นและมองมายังชายหนุ่มลึกลับที่ผ่านพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นานร่างแยกของฉิวหวังก็ได้เข้าผ่านเขตที่สี่และเข้าไปยังดินแดนของซื่อเซียวได้
มันเป็นเพราะว่าเขารวดเร็วจนเหล่าทหารได้แต่รับรู้ถึงคลื่นพลังที่น่ากลัวของเขาเท่านั้น แต่ก็ไม่อาจจะรู้ตำแหน่งของเขาได้
“ พระเจ้า คลื่นพลังนี้มัน…”
“ แม่ทัพของเผ่าสวรรค์รึ ?” “ แม่ทัพของเผ่าสวรรค์บุกเข้ามาในเขตซื่อเซียว!”
“ อันตราย !”
ทหารนับไม่ถ้วนพากันลนลาน คลื่นพลังนี้ทำให้พวกเขากังวลกันอย่างมาก มันคือความกลัวตามสัญชาตญาณ
แม่ทัพของกองทัพซื่อเซียวเปลี่ยนสีหน้าไปทันที สายตาเขาดูหนักอึ้ง แม้แต่เขาก็ยังต้องกลัวเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูเช่นนี้
“ แม่ทัพ !” เสียงของแม่ทัพกองทัพซื่อเซียวดูหนักใจอย่างมาก “บางทีอาจจะเข้าไปถึงขั้นสูงสุดแล้ว !”
แม่ทัพขั้นสูงสุดคือแม่ทัพที่แข็งแกร่งที่สุด หากมองทั้งทะเลโกลาหลก็มีแค่ไม่กี่คนที่ไปถึงขั้นนี้ได้ ผู้บุกรุกนี้น่ากลัวกว่าคนที่อาจจะเป็นแม่ทัพขั้นสูงสุดเสียอีก มันราวกับเหนือกว่าระดับแม่ทัพไปแล้ว
แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นจักรพรรดิแต่เขาก็ไม่คิดสงสัย ร่างของแม่ทัพกองทัพซื่อเซียวหายไปอย่างกับภาพลวงตาและปรากฏตัวขึ้นในทะเลโกลาหล แต่อีกฝ่ายนั้นรก็วดเร็วเกินไป ตอนที่เขาเคลื่อนที่ อีกฝ่ายก็หายไปจากสายตาแล้ว เขาไม่อาจจะหยุดอีกฝ่ายได้
“ เร็วจริงๆ !” แม่ทัพกองทัพซื่อเซียวหรี่ตาลง ตอนนั้นเขารู้สึกอันตราย หากอีกฝ่ายคิดจะฆ่าเขาจริงๆ งั้นเขาอาจจะรับมือกับอีกฝ่ายได้ไม่ถึง 3 กระบวนท่า
น่ากลัว !
นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกได้ถึงความต่างระหว่างแม่ทัพ
ต้องรู้ก่อนว่าเขาคือคนที่แกร่งที่สุดในหมู่แม่ทัพ เขาเหนือว่าเสียเทียนที่เพิ่งขึ้นเป็นแม่ทัพ ความแข็งแกร่งของเขาเหนือกว่าทุกคน ในหมู่แม่ทัพในทะเลโกลาหลถึงจะไม่กล้าบอกว่าอยู่อันดับต้นๆแต่ก็อยู่อันดับกลางๆได้ ถึงอย่างนั้นการเผชิญหน้ากับแม่ทัพลึกลับจากเผ่าสวรรค์กลับทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายอย่างหนักหน่วง “ ไล่ตามดีรึไม่ ?” แม่ทัพกองทัพซื่อเซียวลังเลขึ้นมาก่อนจะสลัดความคิดนี้ออกไปจากหัว
อย่าพูดถึงความเร็วของเขาที่ไม่อาจจะไล่อีกตามได้ทันเลย แม้ว่าจะตามทันแต่ก็เท่ากับวิ่งหาความตาย มันไม่อาจจะมีความเป็นไปได้อื่นอีก
คลื่นพลังจากร่างแยกฉิวหวังแผ่ไปทั่วทุกด้าน ไม่ว่าจะไปที่ไหนต่างก็ทำให้ผู้คนรู้สึกขนลุกไปตาม
ในเวลาเดียวกันกลุ่มผึ้งที่เหมือนกับแมลงตัวน้อยในทะเลโกลาหลใกล้ๆที่รับรู้ได้ถึงคลื่นพลังนี้ก็ราวกับได้กลิ่นอาหารพวกมันรีบบินมายังต้นกำเนิดคลื่นพลังด้วยความเร็วอันน่ากลัว มันต่างจากความเร็วของร่างแยกของฉิวหวังไม่มากนัก
หากใครอยู่ที่นั่นก็จะรู้ทันทีว่า…ผึ้งเหล่านี้คือกุยหลิง !
มีแค่กลุ่มกุยหลิงเท่านั้นที่เคลื่อนที่ได้ผิดปกติเช่นนี้ พวกมันจะผ่านไปทุกที่ ตราบใดที่ไม่มีจักรพรรดิ พวกมันก็จะเก็บกวาดที่นั่น มีแค่พลังของจักรพรรดิเท่านั้นที่จะทำให้มันหนีแต่ครั้งนี้พวกมันไม่ได้กลัวอีกฝ่าย มันดูเหมือนสนใจแค่คลื่นพลังนี้ มันราวกับว่านี่คือเหยื่อของพวกมัน
ในตอนที่ร่างแยกของฉิวหวังมุ่งหน้าไปยังโกลาหลหิน ร่างแยกของซื่อเซียวก็เข้ามาขวางทางเอาไว้
“ ฉิวหวัง !” สีหน้าของซื่อเซียวบิดเบี้ยวไปเพราะความโกรธ “ เจ้าใหญ่โตมาจากไหนถึงได้บังอาจเข้ามาในอาณาเขตของข้า ?”
หากเข้ามาแค่ในอาณาเขตของเขา เขาคงไม่โกรธ แต่ฉิวหวังนั้นไม่ปกปิดคลื่นพลังแม้แต่น้อย เขาทำให้คนนับไม่ถ้วนต้องตกใจ ข่าวนี้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
ฉิวหวังไม่สนใจจะพูดคุยกับซื่อเซียวแม้แต่น้อย เขาได้พูดขึ้นมา “ ซื่อเซียวเจ้าปล่อยข้าไปซะ ข้าไม่ได้มาหาเจ้า ! เจ้าอย่ามาทำให้ข้าเสียเวลาเลย !”
ซื่อเซียวโกรธจัด “ เข้าในดินแดนของข้าและทำให้คนของข้าลนลาน เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปรึ ? เจ้าไม่เห็นหัวข้าเลยรึ !”
ความโกรธของจักรพรรดินั้นสามารถฆ่าแม่ทัพได้
ฉิวหวังคิ้วขมวด “ ข้ารู้ว่าครั้งนี้เป็นความผิดของข้า แต่ข้ามีเหตุผลที่ทำเช่นนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ข้าจะคืนลูกปัดจิตให้กับเจ้าทั้งหมด หากว่าเจ้าปล่อยข้าเข้าไป” ลูกปัดจิตนั้นมีค่าอย่างมากแต่เมื่อเทียบกับความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลแล้ว มันไม่มีค่าให้พูดถึงด้วยซ้ำ พลังของจักรพรรดิไม่อาจจะเทียบกับจ้าวแห่งทะเลโกลาหลได้
คำพูดของฉิวหวังทำให้ความโกรธของซื่อเซียวสลายไปทันที
“ จริงรึ?” ซื่อเซียวปวดใจในเรื่องนี้มาโดยตลอด เมื่อจะได้ลูกปัดจิตกลับคืนมาเขาก็ไม่รังเกียจที่จะยกโทษให้กับฉิวหวัง
ฉิวหวังพูดขึ้นมา “ ลูกปัดจิตอยู่ในร่างของข้า เจ้าไปที่ดินแดนของข้าได้เลย ร่างของข้าจะคืนลูกปัดจิตให้กับเจ้าเอง” ซื่อเซียวอดไม่ได้ที่จะสงสัยขึ้นมา “ เจ้าไม่ใช่คนใจกว้าง ทำไมครั้งนี้เจ้าถึงใจดีเช่นนี้ได้ ? เจ้าจะไปที่ไหนกันแน่ ?”
เมื่อเห็นว่าไม่อาจจะไล่ซื่อเซียวกลับไปได้ ฉิวหวังก็แต่งเรื่องโกหกเพื่อหลอกซื่อเซียว เขาได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ คนของข้าได้ยืนยันแล้ว จักรพรรดิคังเฉียงนั้นไม่ใช่คนที่เจ้าแต่งขึ้นมา คนที่สร้างปัญหาในดินแดนของข้าเป็นจักรพรรดิคังเฉียงจริงๆ เมื่อข้ารู้ความจริงแล้ว ข้าไม่มีทางปล่อยเขาไป !เกียรติของจักรพรรดิฉิวหวัง ยอมให้ใครดูถูกได้ยังไงกัน ?”
สุดท้ายเขาก็แสดงสีหน้าโกรธออกมา เขาราวกับจะไปล้างแค้นกับจักรพรรดิคังเฉียง
“ นี่ก็เพื่อความยุติธรรม เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของเจ้า ดังนั้นข้าจะคืนลูกปัดจิตให้กับเจ้า” ฉิวหวังมองไปทางโกลาหลหินและพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “ แต่จักรพรรดิคังเฉียงนี้ หากไม่ให้ค่าชดเชยให้กับข้าแล้ว ข้าไม่ยอมแน่ !” มันราวกับว่าเขาแค้นเคืองจักรพรรดิคังเฉียงอย่างมาก
ซื่อเซียวเป็นคนระวังตัวอยู่แล้ว เขาคิดว่าเขาคิดรอบคอบพอแล้ว เขาเห็นว่าฉิวหวังคิดจะแก้แค้นจริงๆเพราะซื่อเซียวไม่ได้ระวังตัวมากนักในครั้งนี้และตัดสินจากการที่ว่า ฉิวหวัง ไม่ชอบเสแสร้ง ดังนั้นเขาจึงมองช่องโหว่เรื่องนี้ไม่ออก เขาคิดว่ามันไม่ได้มีปัญหาอะไร
ตามที่ฉิวหวังบอกมาแล้ว ฉิวหวังไม่มีทางปล่อยจักรพรรดิคังเฉียงไปแน่
เขาเคยลองแล้ว แต่ไม่มีทางที่จะจัดการกับจักรพรรดิคังเฉียงได้เลย
“ เจ้าจะไปจัดการจักรพรรดิคังเฉียงรึ ?” ซื่อเซียวคิดสักพักแล้วพูดขึ้น “ ข้าจะบอกความจริง ข้าเคยไปหาเขามาแล้วแต่ข้าก็ล้มเหลว ข้าหวังว่าเจ้าจะทำได้สำเร็จ ปลิดชีวิตเขาให้ข้าด้วย”
ยังไงซะฉิวหวังก็รับปากแล้วว่าจะคืนลูกปัดจิตให้กับเข้า เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้มีอะไรคัดค้าน งั้นเขาก็น่าจะสงบศึกกับอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเอาเปรียบเขาได้